Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การกำหนดระดับคะแนน และการรายงานผลการเรียนรู้ - Coggle Diagram
การกำหนดระดับคะแนน และการรายงานผลการเรียนรู้
ความหมายของคะแนน
ปริมาณตัวเลขที่เราให้ในการตรวจข้อสอบเป็นราย ๆ นั้น เรียกว่า คะแนนดิบ (raw score)
เปลี่ยนหน่วยคะแนนดิบเดิมเสียใหม่ให้ไปเป็นคะแนน ชนิดหนึ่ง คะแนนชนิดนั้นเรียกว่า คะแนนมาตรฐาน
คะแนนมาตรฐาน
คะแนนที (T-score)
คะแนนซี (z-score)
การแปลงตามแนวเส้นตรง
การแปลงตามแนวพื้นที่
หาคะแนนความถี่สะสมลบด้วยครึ่งหนึ่งของความถี่ cf - (f/2)
หาตำแหน่งเปอร์เซ็นไทล์ (PR)
หาความถี่สะสม cf
หาตาแหน่งคะแนนมาตรฐานจากตารางการแจกแจงปกติแปล เป็น T
แจกแจงคะแนนความถี่ f
หาตำแหน่งเปอร์เซ็นไทล์ (PR)
การตัดเกรดแบบอิงกลุ่ม
ข้อดี
ใช้ง่าย สะดวก
เกิดการแข่งขันเพื่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนแต่ละคน
ข้อจำกัด
เกรดขึ้นอยู่กับความสามารถของเพื่อนร่วมชั้น
เกิดการแข่งขัน มากกว่า การสร้างความร่วมมือ
ข้อพิจารณาในการเลือกใช้การตัดเกรดแบบอิงกลุ่ม
หากเน้นส่งเสริมการทางานร่วมกันเป็นกลุ่ม ก็ไม่เหมาะที่ จะตัดเกรดแบบอิงกลุ่ม
หากห้องเรียนมีขนาดเล็กกว่า 40 คนมักไม่เหมาะ
การตัดเกรดแบบอิงเกณฑ์
ข้อดี
เกรดของผู้เรียนไม่ขึ้นอยู่กับความสามารถของเพื่อนร่วมชั้น
ไม่เกิดความรู้สึกต้องต่อสู้แข่งขันกับเพื่อนคนอื่นๆ
ข้อจำกัด
ยากในการตั้งเกณฑ์การให้คะแนนที่มีความสมเหตุสมผล
ข้อควรพิจารณา
พิจารณาเทียบกับผลการเรียนของผู้เรียนที่เคยสอนในปีผ่านๆ มา
การตัดเกรดแบบอิงกลุ่ม
การให้เกรดโดยกำหนดสัดส่วนไว้ล่วงหน้า
มีการนำคะแนนของทั้งกลุ่มมา จัดเรียงตามลำดับคะแนนตามความมากน้อย และให้เกรดผู้เรียนแต่ ละคนตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
ตัวอย่างเช่น: จานวน % ของผู้ได้เกรด A: B: C: D: F = 10%: 20%: 40%:
การใช้พิสัย (range)
เริ่มจากการคำนวณค่าพิสัยของ คะแนน (คะแนนสูงสุด – คะแนนต่ำสุด) จากนั้นจึงนำค่าพิสัย มาหารด้วยจำนวนเกรดที่ต้องการให้ผู้เรียน คะแนนที่ได้จะใช้เป็น ช่วงคะแนนห่างระหว่างเกรดแต่ละเกรด
การใช้ค่าเฉลี่ยกับส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
กำหนดจำนวนเกรดที่จะตัดสินผล และจำนวนช่วงห่างของ
ค่าเฉลี่ยของเกรดแต่ละระดับ
คำนวณคะแนนตามช่วงเกรดที่กำหนดไว้
คำนวณหาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ใช้ตารางกำหนดช่วงห่างของคะแนน
เป็นวิธีการให้เกรดแบบ 5 เกรด
จัดกลุ่ม ความสามารถของผู้เรียนเป็น 7 ระดับ
พิจารณาได้จาก การคำนวณค่าเฉลี่ยเลขคณิตของเกรดเฉลี่ยสะสม (GPA) จากผลการ เรียนที่ผ่านมาของผู้เรียนทั้งกลุ่ม
แล้วอาศัยค่ามัธยฐาน (Median) และส่วนเบี่ยงเบนมาตร ฐาน ( SD ) ของค ะแน น
โดยกำหนดขีด จำกัด ล่างของเกรด A ด้วยค่าในตาราง และกำหนดขีดจำกัดล่างของเกรด ถัดลงไป (B, C, D และ F) โดยการลดคะแนนลงเกรดละ 1 SD
การให้เกรดโดยแปลงคะแนนดิบเป็นคะแนนทีปกติ
และกำหนดเกรด
คำนวณค่าพิสัยของคะแนนมาตรฐานทีปกติชุดนั้น (Tสูงสุด - Tต่ำสุด)
กำหนดเกรดสูงสุดและเกรดต่ำสุดที่จะให้
ควรแปลงคะแนนดิบเป็นคะแนนมาตรฐานทีปกติ
จากนั้นให้นำจำนวนระดับของเกรดที่ต้องการให้ไปหารค่าพิสัย ของคะแนนมาตรฐานทีปกติ เพื่อกำหนดช่วงของคะแนน มาตรฐานทีปกติของแต่ละเกรด
การตัดเกรดแบบอิงเกณฑ์
1 . การให้เกรดโดยกำหนดเกณฑ์ จุดตัดจากระเบียบหรือประสบการณ์
การให้เกรดโดยกำหนดเกณฑ์พฤติกรรมการเรียนรู้
การให้เกรดโดยกำหนดเกณฑ์จากผลการ ศึกษาวิจัย
การตัดเกรดแบบอิงพัฒนาการ
เกณฑ์การแปลความหมายคะแนนพัฒนาการ