Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Case Study PP 150501-attachment นศพต.พิชญาภรณ์ ลำคำ เลขที่ 45 - Coggle…
Case Study PP นศพต.พิชญาภรณ์ ลำคำ เลขที่ 45
ข้อมูลส่วนตัว⚡️
✨หญิงไทยหลังคลอด อายุ 20 ปี G1P0
คลอด Normal Labor 38+3 Wks by date
ทารกเพศชาย น้ำหนัก 2830 กรัม
รับใหม่ PP วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563
รับไว้ในความดูแล วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563
-
✨ANC ที่โรงพยาบาลตำรวจ 10 ครั้ง
เจ็บครรภ์ เวลา 22.00 น.
ของวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563
จึงมาโรงพยาบาล
ตรวจภายในพบปากมดลูกเปิด 7 เซนติเมตร
จึง Admit LR
✨Term Pregnancy
Active Phase ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 50 นาที
Fully Dilate เวลา 03.20 น.
คลอด เวลา 03.40 น.
Blood loss ที่ LR 100 ml.
-
13 B💡
- Background :star:
- G1P0 GA 38+3 Wks. คลอด Normal Labor ทารกเพศชาย น้ำหนัก 2830 กรัม
- ประวิติการผ่าตัด ผ่าตัดไส้ติ่ง เมื่อปี พ.ศ. 2562
- ปฏิเสธประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว
- ปฏิเสธการแพ้ยา แพ้อาหาร การสูบบุหรี่และดื่มสุรา
- พักอาศัยที่ หอพักพนักงานโรงพยาบาลตำรวจ ชั้นที่ 7 ไม่มีปัญหาเศรษฐกิจ
2.Body Condition :star:
- Day 0 : ไม่มีซีด อ่อนเพลียเล็กน้อย พยาบาลช่วยเหลือกิจกรรมบนเตียงบางส่วน
- Day 1 : มารดาสีหน้าแจ่มใสมากขึ้น สามารถช่วยเหลือตนเองได้ สามารถให้ Breast Feeding ได้
- Day 2 : มารดามีสีหน้าแจ่มใส ช่วยเหลือตนเองได้ ลุกเดินปัสสาวะอุจจาระเองได้
-
4.Braest & Lactation :star:
หัวนมไม่สั้น ไม่บอด ลานนมนุ่ม เต้านมคัดตึงเล็กน้อย น้ำนมเริ่มไหล 1+ เป็นน้ำนมชนิด Colostrum มารดาสามารถนำลูกเข้าเต้าได้เป็นเวลา ประมาณ 30 นาที
5.Belly & Fundus :star:
- มีแผลเป็นจากการผ่าตัดไส้ติ่ง บริเวณหน้าท้องด้านขวาล่าง
- หน้าท้องมี Striae garvidarum สีเงิน และLinea ligra เริ่มจางลง
- ระดับยอดมดลูก
(10/11/2563) 4 นิ้ว เหนือกระดูกหัวหน่าว มดลูกหดรัดตัวดี คลึงแล้วกลมแข็ง
(11/11/2563) 3.5 นิ้ว เหนือกระดูกหัวหน่าว มดลูกหดรัดตัวดี คลึงแล้วกลมแข็ง
(12/11/2563) 3.0 นิ้ว เหนือกระดูกหัวหน่าว มดลูกหดรัดตัวดี คลึงแล้วกลมแข็ง
-
7.Bledding & Lochia :star:
- Day 0 : Bleeding per vagina 100 ml in 12 hrs. น้ำคาวปลาสีแดงเข้ม ไม่มีกลิ่นเหม็น
- Day 1 : Bleeding per vagina 30 ml น้ำคาวปลาสีแดงจางๆ ไม่มีกลิ่นเหม็น
- Day 2 : Bleeding per vagina 20 ml น้ำคาวปลาสีแดงจางๆ ไม่มีกลิ่นเหม็น
8.Bottom :star:
- ตัดแผลฝีเย็บแบบ Right Mediolateral Episiotomy แผล 2 degree tear
- ประเมินแผลฝีเย็บตามแบบ REEDA : :red_cross: ไม่แดง :red_cross: ไม่บวม :red_cross: ไม่มีช้ำ :red_cross: ไม่มีจ้ำเลือด :red_cross: ไม่มีDischargeซึม
- แผลชิดติดกันดี :check:
9.Bowel movement :star:
- Day 0 : ยังไม่ถ่ายอุจจาระ มีท้องอืดเล็กน้อย
- Day 1 : ยังไม่ถ่ายอุจจาระ มีท้องอืดเล็กน้อย
- Day 2 : ถ่ายอุจจาระ 1 ครั้ง สีเหลือง
10.Blue :star:
- Day 0 : มารดาไม่มีอ่อนเพลีย ไม่ค่อยสนใจรอบข้างและสิ่งแวดล้อม
- Day 1 : มารดาสนใจบุตรมากขึ้น เป็นห่วงบุตร สนใจและตั้งใจในการให้ Breast Feeding กับบุตร
- Day 2 : มารดานำบุตรมานอนไว้ข้างกาย ให้ความสนใจบุตร ครอบครัว และสิ่งแวดล้อมโดยรอบ
11.Baby :star:
ทารกไม่มีแผลบริเวณศีรษะและใบหน้า มีผื่นบริเวณใบหน้าเล็กน้อย หายใจปกติ ไม่มี retraction สีผิวแดงดี ไม่มีซีด ร้องเสียงดังดี สะดือสด ไม่มีDischarge อัณฑะลงถุงทั้ง 2 ข้าง ปลายเปิดรูปัสสาวะปกติ ทวารหนักปกติ
-
13.Belief :star:
มารดารับประทานอาหารครบทั้ง 5 หมู่ และเลี้ยงบุตรด้วยน้ำนมมารดา และจะไม่อยู่ไฟหลังคลอด
การคุมกำเนิด💊
:red_flag:มารดาหลังคลอดที่เลี้ยงลูกด้วยนมบุตร ควรคุมกำเนิดโดยวิธีการคุมกำเนิดแบบไม่มีฮอร์โมนหรือคุมกำเนิดแบบที่มีฮอร์โมนเดี่ยว เนื่องจากฮอร์โมนEstrogen อาจทำให้ปริมาณน้ำนมลดลงได้
- การคุมกำเนิดที่ไม่มีฮอร์โมน
- ถุงยางอนามัย เป็นวีธีคุมกำเนิดที่สามารถหาซื้อได้ง่ายและช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย
- ห่วงคุมกำเนิดที่มีทองแดง เป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง คุมกำเนิดได้ 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของห่วง ไม่มีผลข้างเคียงจากฮอร์โมน ประจำเดือนจึงมาสม่ำเสมอ แต่ในช่วง 3- 6 เดือนแรกหลังใส่ห่วง อาจมีประจำเดือนมากขึ้น และปวดมดลูกมากขึ้น
- การทำหมันหญิง เป็นการคุมกำเนิดถาวร จึงเหมาะสำหรับสตรีที่มีบุตรเพียงพอแล้ว สามารถทำหมันได้ขณะผ่าตัดคลอดบุตรหรือหลังคลอดบุตรทางช่องคลอด 24-48 ชั่วโมง
- การคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมน ควรเป็นชนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสโตเจนชนิดเดียว เนื่องจากไม่มีผลต่อ ปริมาณหรือคุณภาพของน้ำนม ไม่มีผลต่อการเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของทารก สามารถเริ่ม ใช้ได้ตั้งแต่ 6 สัปดาห์หลังคลอด
- ยาฝังคุมกำเนิด มีประสิทธิภาพคุมกำเนิดสูง สามารถคุมกำเนิดได้นาน 3-5 ปี แพทย์เป็นผู้ฝังยาให้ที่ใต้ผิวหนังบริเวณต้นแขนด้านใน หลังเอายาออก สามารถกลับมาตกไข่ได้เร็วกว่ายาฉีดคุมกำเนิด
- ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสโตเจนชนิดเดียว เป็นยาที่สามารถหาซื้อได้ง่าย การ กินยาชนิดนี้ควรกินให้ตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ ถ้าลืมกินยามีโอกาสตั้งครรภ์ได้ง่าย เนื่องจากฮอร์โมนมีขนาดต่ำ
- ยาฉีดคุมกำเนิด สามารถเริ่มได้ 6 สัปดาห์หลังคลอด หรือ 7 วันหลังมีประจำเดือน อาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอย
- การคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมที่มีทั้งฮอร์โมนEstrogen และ Progesterone เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม แผ่นแปะคุมกำเนิด และวงแหวนคุมกำเนิด ควรเริ่มใช้หลัง คลอดบุตร 6 เดือนขึ้นไป เนื่องจาก ฮอร์โมนเอสโตรเจนอาจทำให้ปริมาณน้ำนมลดลง
คำแนะนำหลังกลับบ้าน🏠
มดลูก🍎
ควรคลึงมดลูกให้กลมแข็ง และมดลูกควรลดขนาดลงวันละ0.5 - 1 นิ้ว เมื่อครบ 2 สัปดาห์จะไม่สามารถคลำพบก้อนที่บริเวณหน้าท้องได้ ถ้ายังคลำพบอยู่แสดงว่า มดลูกยังไม่เข้าอู่ ควรรีบมาพบแพทย์
แผลฝีเย็บ🍎
ควรทำความสะอาดทุกครั้งหลังปัสสาวะหรืออุจจาระ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด ทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลัง ไม่ย้อนกลับ และซับให้แห้ง และควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 2-3 ชั่วโมง ห้ามใช้ผ้าอนามัยแบบสอด
การรับประทานอาหาร🍎
ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเน้นโปรตีน เช่น เนื้อ นม ไข่ เพื่อช่วยเสริมสร้างร่างกายให้มีสารอาหารเพียงพอที่จะสร้างน้ำนมให้ลูก นอกจากนี้การรับประทานผลไม้ ยังสามารถช่วยป้องกันท้องผูกได้อีกด้วย ในมารดาที่ให้นมบุตรควรรับประทานอาหารให้ครบถ้วน และดื่มน้ำให้มากๆวันละ 7-8 แก้ว
:warning:อาหารที่เสริมสร้างน้ำนมให้แก่ทารก
เช่น หัวปลี ใบกะเพรา น้ำขิง ใบแมงลัก มะละกอ
:warning:อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
คืออาหารประเภทหมักดองอาหารรสจัดชาหาแฟยาดองเหล้าและอาหารที่มีแอลกอฮอล์เนื่องจากสารเหล่านี้ถูกขับออกทางน้ำนมได้ซึ่งลำไส้ของทารกยังทำงานไม่สมบูรณ์ส่งผลให้ทารกอาจเกิดภาวะลำไส้อักเสบได้
การนอนหลับพักผ่อน🍎
หลังคลอด มารดาจะอ่อนเพลียจากการสูญเสียพลังงานในระยะคลอด ดังนั้นควรได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ วันละ 8-10 ชั่วโมง โดยเฉพาะช่วง 2 สัปดาห์แรก
การทำความสะอาดร่างกาย🍎
มารดาอาบน้ำได้ตามปกติ แต่ไม่ควรแช่น้ำในอ่างหรือว่ายน้ำ เนื่องจากปากมดลูกยังปิดไม่สนิท อาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ทางช่องคลอดเกิดการติดเชื้อได้
กิจวัตรประจำวัน🍎
ระยะหลังคลอด 6 สัปดาห์แรก ควรทำกิจกรรมที่ต้องไม่ออกแรงมาก เช่น ทำอาหาร กวาดบ้าน ไม่ควรยกของหนัก หรือกิจกรรมที่ต้องใช้กล้ามเนื้อหน้าท้อง
น้ำคาวปลา🍎
- 1-3 วันแรกหลังคลอด น้ำคาวปลามีแดงคล้ำและข้น ประกอบด้วยเลือดเป็นส่วนใหญ่
- 4-9 วันหลังคลอด น้ำคาวปลาสีแดงชมพูหรือสีเหลือง ยืดได้ จากการมีเม็ดเลือดขาวและน้ำเหลือง
- 10 วันหลังคลอด น้ำคาวปลาสีเหลืองครีมๆจนถึงสีขาว และปริมาณลดลง จนไม่มีน้ำคาวปลา
:warning:น้ำคาวปลาที่ผิดปกติ
จะมีสีเขียว กลิ่นเหม็นมาก หรือมีสีแดงสด มีกลิ่นและปริมาณมาก ควรรีบมาพบแพทย์
ประจำเดือน🍎
มารดาที่เลี้ยงบุตรด้วยนมแม่ จะไม่มีประจำเดือน แต่ถ้ามีประจำเดือนระหว่างให้นมบุตร ไม่ถือว่าผิดปกติ โดยการให้นมแม่ ไม่ใช่เป็นการคุมกำเนิด หากเกิน 3 เดือนไปแล้ว สามารถตกไข่เมื่อใดก็ได้ ถ้าไม่มีการคุมกำเนิดประเภทอื่น ก็อาจตั้งครรภ์ได้
น้ำนม🍎
ควรกระตุ้นให้ทารกดูดนมทุก 2-3 ชั่วโมง หรือเมื่อทารกร้องหิวนม และควรอมลึกถึงลานนม ดูดให้เกลี้ยงเต้า และดูแลให้ทารกได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียว จนถึง 6 เดือน เมื่อครบ 6 เดือน เริ่มให้ทารกได้รับอาหารเสริม เช่น ฟักทองบด เป็นต้น
การดูแลเต้านม🍎
- วันที่ 2-3 วันแรกหลังคลอด มารดาจะมีน้ำนมสีเหลืองๆ (Cloustrum) หลั่งออกมา โดยในน้ำนมตัวนี้ประกอบด้วยวิตามิน แร่ธาตุ สารอาหารที่ครบถ้วน รวมถึงภูมิคุ้มกันที่เสริมสร้างร่างกายให้แก่บุตร มารดาควรให้บุตรได้รับนม
- วันที่ 3 หลังการคลอด คุณแม่จะรู้สึกคัดตึงเต้านม และอาจมีไข้ได้จากการคัดตึงเต้านม (Milk fever)
การมีเพศสัมพันธ์🍎
ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ภายใน 6 สัปดาห์หลังคลอด เนื่องจากในระยะหลังคลอดมีน้ำคาวปลา และปากมดลูกยังปิดไม่สนิท และอวัยวะอื่นๆภายในยังไม่กลับสู่สภาวะปกติ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
การบริหารร่างกายหลังคลอด🍎
แนะนำให้มารดาทำ Kegel exercise หรือการขมิบช่องคลอด ซึ่งช่วยให้กล้ามเนื้อช่องคลอดกลับมาสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้น และสามารถออกกำลังกายที่ไม่ใช่แรงเยอะ เช่น การทำงานบ้าน การทำอาหาร เป็นต้น
-