Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เตียง 5 Dx.Hypoglycemia with ESRD - Coggle Diagram
เตียง 5
Dx.Hypoglycemia with ESRD
ข้อมูลส่วนบุคคล
ที่อยู่ปัจจุบัน บ้าน3ชั้น พักอยู่ชั้น2
เพศหญิง อายุ68 ปี อาชีพ เเม่ค้า
เคยผ่าตัดมดลูก (~40ปี)
ผ่าคอพอก (~40ปี)
ผ่าตัดนิ้วล็อก
ใส่ perm cath
การวินิจฉัยโรคปัจจุบัน
Hypoglycemia with ESRD
การวินิจฉัยโรคเเรกรับ
Hypoglycemia with ESRD
ข้อมูลทั่วไป
อาการสำคัญที่มาโรงพยาบาล
ซึมลง 1วันก่อนมาโรงพยาบาล
ประวัติการเจ็บป่วยปัจจุบัน
1สัปดาห์ ก่อนมาโรงพยาบาล ญาติให้ประวัติว่า ผู้ป่วยเหนื่อยเวลาทำกิจกรรม
3วัน ก่อนมาโรงพยาบาล เหนื่อยมากขึ้น นอนราบไม่ได้
1วัน ก่อนมาโรงพยาบาล ผู้ป่วยไปฟอกไตตามนัดที่โรงพยาบาลหัวเฉียว ระหว่างฟอกไต มีเหนื่อยหอบมากขึ้น ซึมลง เจาะDTX =32mg% (Hypoglycemia) O2 saturation Room air=88% RR=28/min BP=137/80 mmHg. ซึมลง แพทย์จึงใส่ ET tube No.7.5 mark20 หลังจากนั้นหายใจดีขึ้น จึงoff ET tube มา on O2 mask with bag 10 LPM ขอreferมารพ.ตำรวจตามสิทธิ30บาท
ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต
DM ~10ปี รักษาที่โรงบาลตำรวจ ทานยาต่อเนื่อง
DLP ~1ปี รักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ทานยาต่อเนื่อง
HT ~10ปี รักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ทานยาต่อเนื่อง
ESRD ~3ปี on perm cath คอขวา
On HD อังคารกับศุกร์ที่รพ.ตำรวจ
2เดือนที่เเล้ว Atmitที่รพ.ตำรวจ ด้วย ติดเชื้อCAPD
ประวัติการแพ้ยา
ปฏิเสธการเเพ้ยา เเพ้อาหาร
ประวัติการใช้ยาเสพติด
ปฏิเสธการใช้ยาเสพติด สารเคมี
ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว
ปฏิเสธโรคถ่ายทอดทางพันธุกรรม
ลักษณะทั่วไป
ผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 68ปี เตียง 5 ตึก มภร.10/2 E4 M6 V5 รู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง ผมหยิกฟู สีน้ำตาลส้ม ใบหน้ากลม เปลือกตาทั้งสองข้างไม่บวม หูมีขนาดเท่ากัน จมูกปกติ ไม่บิดไม่เบี้ยว หายใจ room air ช่องปากฟันหน้าสุดหัก มีคราบหินปูนเกาะ รับประทานอาหารอ่อน DM,LS,Low K,Low Po4 จำกัดน้ำ น้อยกว่า800Ml/day. คอไม่โต ผิวขาว เเห้ง ช่วยเหลือตัวเองได้ แขนทั้ง2ข้าง motor power = 5 คะเเนน ขาทั้ง2ข้าง motor power=5คะเเนน ปัสสาวะ อุจจาระได้เองบนเตียง
ปัญหาที่พบ
พยาธิสภาพของโรคกับผู้ป่วย
ภาวะแทรกซ้อนทางไตในโรคเบาหวานเป็นผลจากการที่น้ำตาลในเลือดสูงกว่าระดับปกติ
เมื่อนำตาลในเลือดสูง เส้นประสาทในร่างกายจะถูกทำลาย ส่งผลให้ในการสั่งงานระหว่างสมองและ
อวัยวะที่ควบคุมมีประสิทธิภาพในการทำงานลดน้อยลงโดยเฉพาะ "กระเพาะปัสสาวะ" ดังนั้น เมื่อ มีน้ำปัสสาวะเต็ม กระเพาะปัสสาวะจะไม่รู้สึกเจ็บปวดความสามารถในการบีบตัวลดลง เกิดความดันและการคั่งในทางเดินปัสสาวะ จนทำให้ไตถูกทำลายในที่สุดทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของการไหลเวียนเลือดที่ไต น้ำตาลที่สะสมในผนังหลอดเลือดมาเป็นระยะเวลานานจนตีบและอุดตัน ส่งผลให้ไตมีประสิทธิภาพในการกรองของเสียออกจากร่างกายลดลง ทำให้มีการคั่งของปัสสาวะเป็นเวลานานๆ อาจทำลายเนื้อไตจึงพบการรั่วของโปรตีนที่ปนออกมาจากปัสสาวะด้วย หากไตเสียหน้าที่เพิ่ม ปริมาณโปรตีนมากขึ้น ไตบางส่วนเริ่มเสียหน้าที่การกรองทำให้เกิดการคั่งของๆเสียมากๆจนเป็น ไตวายระยะสุดท้าย [end-stage renal disease,ESRD] ผู้ป่วยที่เป็น ESRD จำเป็นต้องล้างไต หรือเปลี่ยนไต
ซึ่งผู้ป่วยมีประวัติเป็นโรคเบาหวาน10 ปี เป็นความดันโลหิตสูง 10ปี LDL-Cholesterol สูง
และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดี จึงทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทางไต
เมื่อผู้ป่วยเป็น ESRD ทำให้ยาถูกขับออกมาน้อยลง ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
CBC
06/11/2563
Hb 8.1 ต่ำกว่าเกณฑ์ มีภาวะซีด
Hct 25.7 ต่ำกว่าเกณฑ์ มีภาวะซีด
RBC 2.96 ต่ำกว่าเกณฑ์ มีภาวะซีด
Lymphocyte 18.6 ต่ำกว่าเกณฑ์
Eosinophil 13.2 สูงกว่าเกณฑ์
CBC
5/11/63
Hb 7.8 ต่ำกว่าเกณฑ์ มีภาวะซีด
Hct 24.9 ต่ำกว่าเกณฑ์ มีภาวะซีด
MCHC 32.2 ต่ำกว่าเกณฑ์
Lymphocyte 16.0 ต่ำกว่าเกณฑ์
Eosinophil 12.4 สูงกว่าเกณฑ์
4/11/2563
CBC
RBC 3.06 ต่ำกว่าเกณฑ์ มีภาวะซีด
Neutrophil 71.3 สูงกว่าเกณฑ์
Hct 26.3 ต่ำกว่าเกณฑ์ มีภาวะซีด
Lymphocyte 11.2 ต่ำกว่าเกณฑ์
Hb 8.3 ต่ำกว่าเกณฑ์ มีภาวะซีด
Eosinophil 8.6 สูงกว่าเกณฑ์
4/11/63
Coagulation
APTT 22.1 ต่ำกว่าเกณฑ์
เคมีคลินิก
6/11/63
Bun 19.2 สูงกว่าเกณฑ์
eGFR 11.41 ต่ำกว่าเกณฑ์
Creatinine 3.84 สูงกว่าเกณฑ์
Calcium 8.1 ต่ำกว่าเกณฑ์
Albumin 3.3 ต่ำกว่าเกณฑ์
5/11/63
เคมีคลินิก
Bun 27.8 สูงกว่าเกณฑ์
eGFR 7.85 ต่ำกว่าเกณฑ์
Creatinine 5.23 สูงกว่าเกณฑ์
Phosphorus 5.3 สูงกว่าเกณฑ์
Albumin 3.2 ต่ำกว่าเกณฑ์
4/11/63
ภูมิคุ้มกันวิทยา
Ferritin 1083.64 สูงกว่าเกณฑ์
Vitamin D total 20,20 ต่ำกว่าเกณฑ์
ยาที่ได้รับ
Chlovas-40 TAB
Atorvastatin 40MG.TAB
รับประทานครั้งละ1เม็ด วันละ1ครั้ง ก่อนนอน
Caltab-1.25 TAB
Calcium carbonate 1250Mg.TAB
รับประทานครั้งละ1เม็ด วันละ3ครั้ง
ก่อนอาหาร เช้า กลางวันเย็น
Hepalac syrup 100 ml.
Latulose 66.7% SYP.100ml.
รับประทานครั้งละ2ช้อนโต๊ะ (30cc)วันละ1ครั้ง
ก่อนนอน เวลาไม่ถ่าย
Lorazep 0.5 MG.TAB
Lorazepam 0.5 MG.TAB
รับประทานครั้งละ1เม็ด วัละ1ครั้ง ก่อนนอน
OMEPRAZOLE capsules 20MG.TAB
Omeprazole 20MG.CAP
รับประทานครั้งละ1เม็ด วันละ1ครั้ง ก่อนอาหารเช้า
Sodium bicarbonate 300mg.TAB
รับประทานครั้ลงะ1เม็ด วันละ3ครั้ง หลังอาหาร
เช้า กลางวัน เย็น
Madiplot 20MG.TAB
manidipine 20MG.TAB
รับประทานครั้งละ ครึ่งเม็ด วันละ1ครั้ง
หลังอาหาร เช้า
*เว้นวันทำHD
Multivitamin TAB.
รับประทานครั้งละ1เม็ด วันละ2ครั้ง
หลังอาหาร เช้าเย็น
Calciferol CAP.
vitamin d2 20000iu cap.
รับประทาน2เม็ดต่อสัปดาห์ ทุกวันจันทร์
Cardeloc 100MG.Tab
metroprolol tartrate100mg.Tab
รับประทานครั้งละ 1/4 เม็ด วันละ1ครั้ง หลังอาหารเช้า
Folic Acid 5MG.TAB
รับประทานครั้งละ1เม็ด วังะ1ครั้ง หลังอาหาร เช้า
Ferrous fumarate 200MG.Tab
รับประทานครั้งละ1เม็ด วันละ2ครั้ง หลังอาหาร เช้า เย็น
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
มีภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากมีของเสียคั่งในร่างกายจากไตสูญเสียหน้าที่
ข้อสนับสนุน
ค่าeGFR=11.41 mg/min/1.73m2
(CKD Stage 5) (6/11/63)
BUN = 19.2 mg/dL
(6/11/63)
Cr = 3.84mg/dL (ค่าสูงกว่าปกติ) (6/11/63)
Albumin = 3.3 g/dL (ค่าต่ำกว่าปกติ)
(6/11/63)
วัตถุประสงค์
ของเสียในร่างกายลดลง ไม่เกิดอันตรายจากของเสียคัง
เกณฑ์การประเมินผล
ไม่มีอาการของเสียครั่งในร่างกาย (disequilibrium syndrome) เช่น ปัสสาวะน้อย อ่อนเพลีย ความดันโลหิตสู ง
BUN อยู่ระหว่าง 7-18.7mg/dL
Creatinine 0.55-1.02mg/dL
albumin 3.5-5.2 mg/dL
eGFR >90
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง สังเกตและบันทึกอาการแสดงของภาวะของเสียคลั่งในกระแสเลือด คือ ภาวะ disequilibrium syndrome ได้แก่ อาการกระสับกระส่าย สับสน ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ระดับความรู้สึกตัวลดลง ความดันโลหิตสูง ชีพจรช้าลง กล้ามเนื้อกระตุก ชัก และหมดสติ
ดูแลให้การพยาบาลผู้ป่วยในการไปทำ hemodialysis ทุกวันอังคาร ศุกร์ตามแผนการรักษาของแพทย์ เพื่อลดการคั่งของเสียในร่างกาย
2.1 ดูแลให้การพยาบาลก่อนไปทำhemodialysis
2.1.1 ประเมินสัญญาณชีพของผู้ป่วย รวมถึงกำหนดปริมาณน้ำเกินที่ต้องกำจัดออก
2.1.2 สังเกตดูแลอาการผิดปกติต่างๆก่อนการฟอกเลือด เช่น เจ็บแน่นหน้าอกหรือมีเลือดออกผิดปกติ มีอาการหายใจลาบาก อาการบวม ความวิตกกังวล คลื่นไส้อาเจียน การนอนหลับพักผ่อน อาการคัน และสติสัมปชัญญะ
2.1.3 ดูแลให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารให้เรียบร้อยก่อนการฟอกเลือด
2.1.4 ดูแลให้งดยา Madiplot (ยาลดความดันโลหิต) ตามคสั่งการรักษาของแพทย์ก่อนไปล้างไต
2.1.5 การดูแลและประเมินผู้ป่วยที่ใส่ permanent catheter บริเวณคอ
3.จำกัดน้ำผู้ป่วยโดยให้ผู้ป่วยจิบน้ำมีการจำกัดน้ำของผู้ป่วย 800 mL/day
4.บันทึกปริมาณน้ำเข้า-ออก ทุก 8 ชั่วโมง
ดูแลให้ทาโลชั่นในการรักษาความชุ่มชื่นให้แก่ผิวหนัง
ดูแลให้ได้รับยารักษาภาวะความเป็นกรดคือ Sodium Bicarbonate 300 Mg.(DPF) 1x3 oral pc เช้า กลางวัน เย็น ตามแผนการรักษาของแพทย์และสังเกตอาการข้างเคียงจากการได้รับยาเช่น ระดับโซเดียมในกระแสเลือดต่ำ ภาวะเลือดเป็นด่างจากการลดลงของคลอไรด์ในกระแสเลือด ระดับโพแทสเซียมในกระแสเลือดต่ำปวดศีรษะ ง่วงซึม ความดันโลหิตต่ำปากแห้ง คอแห้ง กระหายน้ำ อ่อนเพลีย ภาวะขาดน้ำ