Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การติดเชื้อในระบบสืบพันธ์, การอักเสบของต่อม Bartolin - Coggle Diagram
การติดเชื้อในระบบสืบพันธ์
การอักเสบติดเชื้อในระบบสตรีก่อให้เกิดพยาธิสภาพต่ออวัยวะต่างๆในระบบสืบพันธุ์ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง
อาการที่บ่งชี้ต่อมบาร์โธลินอักเสบ
คลำพบก้อนเนื้อบริเวณช่องคลอด
กรณีที่ต่อมบาร์โธลินอักเสบรุนแรงนั้น จะมีอาการบวม แดง รู้สึกแสบร้อน ปวดอย่างรุนแรงที่ปากช่องคลอด และมีหนอง ร่วมด้วยอาการไข้ขึ้น หนาวสั่นกรณีที่ต่อมบาร์โธลินอักเสบรุนแรงนั้น จะมีอาการบวม แดง รู้สึกแสบร้อน ปวดอย่างรุนแรงที่ปากช่องคลอด และมีหนอง ร่วมด้วยอาการไข้ขึ้น หนาวสั่น
ตกขาว (Leukorrhea หรือ Vaginal Discharge) คือ อาการที่มีเมือกเหลวไหลออกมาจากช่องคลอดของผู้หญิงโดยไม่ใช่เลือดประจำเดือน เมือกนี้ถูกขับออกจากปากมดลูกมายังช่องคลอด เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้บริเวณช่องคลอดและช่วยป้องกันการติดเชื้อภายในช่องคลอด โดยตกขาวปกติจะมีสีขาวหรือใส และไม่มีกลิ่นเหม็น ส่วนตกขาวที่มีสีเทา สีเขียว สีเหลือง สีชมพู หรือมีเลือดปน และส่งกลิ่นเหม็นคล้ายเนื้อเน่า จะเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นภายใน
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Disease: STDs)
ซิฟิลิส(Syphilis)
โรคซิฟิลิสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า ทริปโปนีมา พัลลิดุม (Treponema Pallidum) จากการสัมผัสถูกเชื้อโดยตรงจากแผลของผู้ป่วย โดยเฉพาะในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ที่มักสุ่มเสี่ยงกับการติดเชื้อได้มากที่สุด จึงมักถูกจัดเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้การใช้เข็มฉีดยารวมกับผู้อื่น การรับเลือดจากผู้อื่น รวมไปถึงหญิงตั้งครรภ์ที่มีเชื้อสามารถส่งผ่านเชื้อไปยังทารกในครรภ์ได้เช่นกัน
หนองใน(Gonorrhea)
เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย การติดเชื้อหนองในแท้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่อวัยวะเพศ ทวารหนัก ลำคอ และมักติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อหรือการสัมผัสของเหลวจากร่างกาย รวมทั้งสามารถติดต่อจากหญิงตั้งครรภ์ไปสู่ทารกในช่วงระหว่างคลอดได้
เริม(Herpes simplex)
เริม เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex หรือ HSV ซึ่งเป็นไวรัสต่างชนิดกับงูสวัด และอีสุกอีใส ถึงแม้จะก่อให้เกิดตุ่มน้ำบนผิวหนังได้คล้ายๆกัน เชื้อไวรัส HSV มีอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน คือ
HSV-1 มักเกิดบริเวณอวัยวะเพศ พบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก
HSV-2 ทำให้เกิดแผล (cold sore) บริเวณริมฝีปาก พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
ช่องคลอดอักเสบ (vaginitis)
ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อพยาธิสภาพ (Trichomonas Vaginitis)
ช่องคลอดอักเสบจากเชื่อรา(Cadida Vaginitis)
ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อเเบคทีเรีย
ช่องคลอดอักเสบจากเนื้องอกหรือมะเร็ง
ช่องคลอดอักเสบจากวัยชรา(senile or atrophic vaginitis)
การอักเสบติดเชื้อของอวัยวะในอุ้งเชิงกราน
โรคพีไอดี (PID, Pelvic inflammatory disease) คือ การอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อที่อวัยวะสืบพันธุ์สตรีส่วนบน คือ ตั้งแต่ภายในโพรงมดลูก ท่อนำไข่ รังไข่ รวมถึงอาจทำให้เกิดถุงหนองที่ปีกมดลูก (รังไข่ ท่อนำไข่ และเนื้อเยื่อโดยรอบ) ได้ ส่วนใหญ่สาเหตุของการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคหนองในแท้ (N.gonorrhea) และโรคหนองในเทียม (C.trachomatis) อย่างไรก็ตาม เชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดเองอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานได้เช่นกัน โดยเชื้อกลุ่มดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นเชื้อชนิดที่ไม่ใช้ออกซิเจนการติดเชื้อดังกล่าวส่วนใหญ่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยเชื้อจะเคลื่อนที่จากช่องคลอดขึ้นไปที่ปากมดลูก และในที่สุดทำให้เกิดการติดเชื้อที่อวัยวะสืบพันธุ์ส่วนบน ซึ่งใช้เวลา 2 - 3 วัน หรือเป็นเดือนกว่าจะแสดงอาการของการติดเชื้อ
ปัญหาการพยาบาลบุคคลที่มีการติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์
ปัญหาที่ 1 ปฎิบัติตัวไม่ถูกต้องเนื่องจากขาดความรูู้ความเข้าใจในการป้องกันการติดเชื้อและผลกระทบจากการติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์
ปัญหาที่ 2 เสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระเเสเลือดเนื่องจากการอักเสบติดเชื้อที่อุ้งเชิงกราน
ปัญหาที่ 3 ปวดท้องเนื่องจากติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
การพาบาล ปัญหาที่ 1
1.ให้ความรู้แก่สตรีเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยระบบสืบพันธุ์
2.ให้คำแนะนำวิธีทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์อย่างถูกต้อง
3.แนะนำให้สตรีสังเกตอาการติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ เช่น ตกขาวมาก มีแผลหรือหูด
4.สตรีที่เป็นช่องคลอดอักเสบควรรีบพบแพทย์ด่วน
5.สตรีที่เป็นเริมหรือหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศควรตรวจหามะเร็งปีละครั้ง
การพยาบาลปัญหาที่ 2
1.วัดสัญญาณชีพและสังเกตภววะติดเชื้อในกระเเสเลือดทุก 4 ชั่วโมง
2.แนะนำให้ผู้ป่วยกลั้นปัสสาวะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
3.ดูแลทำความสะอาดอวัยวะเพศให้สะอาดอยู่เสมอ
4.พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน
5.รับประทานอาหารที่มีปรโยชน์
การพยาบาล ปัญหาที่ 3
1.กรณีปวดท้องให้นอนในท่า fowler หรือวางกระเป๋าน้ำร้อน เพื่อช่วยให้การไหลเวียนดีขึ้น
2.ดูแลให้ยาแก้ปวดตามระดับความปวดของของผู้ป่วย
3.ดูแลความสุขสบายทั้วไป เช่น ทำความสะอาดร่างการทั่วไป ปาก ฟัน และอวัยวะเพศ
การอักเสบของต่อม Bartolin