Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สรุปประวัติการศึกษาไทย - Coggle Diagram
สรุปประวัติการศึกษาไทย
การศึกษาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
หลังจากที่พระองค์ได้ครองราชย์แล้ว ก็ได้ทรงปรับปรุงประเทศให้เจริญรุ่งเรืองในทุกๆ ด้าน ทั้งในด้านการปกครอง การศาล การคมนาคมและสาธารณสุข เป็นต้น โดยเฉพาะด้านการศึกษานั้นพระองค์ได้ทรงตระหนัก เพื่อปรับปรุงคนในประเทศให้มีความรู้ความสามารถจะช่วยให้ ประเทศชาติมีความเจริญก้าวหน้าในทุกๆ ด้าน
การที่พระองค์ทรงเห็นความสำคัญของการศึกษา จึงได้มีการจัดการศึกษาอย่างมีระเบียบแบบแผน (Formal education) มีโครงการศึกษาชาติ มีโรงเรียนเกิดขึ้นในวังและในวัด มีการกำหนดวิชาทีเรียน มีการเรียนการสอบไล่ และมีทุนเล่าเรียนหลวงให้ไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ ซึ่งปัจจัยที่มีผลในการปฏิรูปการศึกษาในครั้งนี้มีหลายปัจจัย
Timeline การปฏิรูปการศึกษาไทยในสมัยราชกาลที่ 5
พ.ศ. 2414 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจาริยางกูร) เรียบเรียงแบบเรียนหลวงขึ้น 1 เล่ม ชุดมูลบรรพกิจ เพื่อใช้เป็นบทหลักสูตรวิชาชั้นต้นปี เริ่มมีการจัดแบบเรียนหลักสูตรและการสอบไล่ จัดตั้งโรงเรียนหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวัง เพื่อฝึกคนให้เข้ารับราชการ
พ.ศ. 2423 จัดตั้งโรงเรียนสุนันทาลัยในพระบรมมหาราชวังเป็นโรงเรียนสตรี
พ.ศ. 2424 ปรับปรุงโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบให้เป็นโรงเรียนนายทหารมหาดเล็ก ต่อมาได้กลายเป็นโรงเรียนข้าราชการพลเรือน
พ.ศ. 2427 กำหนดหลักสูตรชั้นประโยคหนึ่ง โดยอนุโลมตามแบบเรียนหลวงหกเล่ม นับเป็นปีแรกที่จัดให้มีการสอบไล่วิชาสามัญ และมีการกำหนดหลักสูตรชั้นประโยคสอง ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เกี่ยวกับวิชาสามัญศึกษา หมายถึง ความรู้ต่าง ๆ ที่ต้องการใช้สำหรับเสมียนในราชการพลเรือนตามกระทรวงต่าง ๆ จัดตั้งโรงเรียนหลวงสำหรับราษฎรขึ้นตามวัดในกรุงเทพมหานครหลายแห่ง และแห่งแรก คือ
โรงเรียนมหรรณพาราม
พ.ศ. 2430 ทรงโปรดเกล้า ฯ ให้ตั้งกรมศึกษาธิการโดนโอนโรงเรียนที่สังกัดกรมทหารมหาดเล็กมาทั้งหมด ให้กรมหมื่นดำรงราชานุภาพเป็นผู้บัญชาการอีกตำแหน่งหนึ่ง
พ.ศ. 2432 รวมกรมศึกษาธิการเข้าไปอยู่ในบังคับบัญชาของกรมธรรมการ ตั้งโรงเรียนแพทย์ขึ้น เรียกว่า โรงเรียนแพทยากร ตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำหน้าโรงพยาบาลศิริราช ใช้เป็นที่สอนวิชาแพทย์แผนปัจจุบัน
พ.ศ. 2435 ประกาศตั้งกระทรวงธรรมการ มีเจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค) เป็นเสนาบดี มีหน้าที่ในการจัดการศึกษา การพยาบาล พิพิธภัณฑ์และศาสนา จัดตั้งโรงเรียนมูลศึกษาขึ้นในวัดทั่วไปทั้งในกรุงเทพมหานครและหัวเมือง โดยประสงค์จะขยายการศึกษาเล่าเรียนหนังสือไทยให้แพร่หลายเป็นแบบแผนยิ่งขึ้น และตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูเป็นแห่งแรกที่ตำบลโรงเลี้ยงเด็ก ต่อมาย้ายไปอยู่ที่วัดเทพศิรินทราวาส
พ.ศ.2459 จัดตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ประวัติศาสตร์การศึกษาไทยก่อนการประกาศใช้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
วิวัฒนาการในการจัดการศึกษาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีดังนี้
พ.ศ. 2453 ประกาศตั้งโรงเรียนข้าราชการพลเรือน
พ.ศ. 2459 ประกาศยกฐานะโรงเรียนข้าราชการพลเรือนขึ้นเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
พ.ศ. 2454 ตั้งกองลูกเสือรือเสือป่าขึ้น
พ.ศ. 2456 และฉบับแก้ไข พ.ศ. 2458 มุ่งให้ประชาชนมีความรู้ทางด้านการทำมาหาเลี้ยงชีพตาม
อัตภาพของตน
พ.ศ. 2459 จัดตั้งกองลูกเสือหญิงเรียกว่า เนตรนารี
และอนุกาชาดโรงเรียนสตรีวังหลัง
พ.ศ. 2461 มีการปรับปรุงและขยายฝึกหัดครูขึ้นโดยโอนกลับมาขึ้นกับกระทรวงศึกษาธิการ
พ.ศ. 2464 ปรับปรุงโครงการศึกษาชาติ โดยวางโครงการการศึกษาขึ้นใหม่ทํามาหาเลี้ยงชีพ
วิวัฒนาการในการจัดการศึกษาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีดังนี้
พ.ศ. 2469 เปลี่ยนชื่อกระทรวงธรรมการ
พ.ศ. 2473 ยกเลิกการเก็บเงินศึกษาพลีคนละ
1-3บาท จากผู้ชายทุกคนที่มีอายุระหว่าง 16-60ปี
พ.ศ. 2474 ปรับปรุงกระทรวงธรรมการเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ําของประเทศ
โดยยุบกรมสามัญศึกษาในตอนนั้น
ยกเลิกระเบียบว่าด้วยการควบคุมแบบเรียน
การศึกษาสมัยการปกครองระบอบรัฐธรรมนูญ(พ.ศ.2475ปัจจุบัน)
ประกาศคณธราษฎรฉบับที่ 1 กําหนดหลักการของผู้บริหารชุดใหม่ไว้ 6 ประการ คือ เอกราช ความปลอดภภัย เศรษฐกิจ เสมอภาค เสรีภาพ และการจะต้องให้การศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร เป้าหมายของการศึกษาในสมัยคณธราษฎรคือการผลิตพลเมือง ให้รู้ถึงสิทธิและทําหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ
การศึกษายุคพิบูลสงคราม 2 พ.ศ. 2494 กําหนดให้จัดการศึกษาเป็นสี่ส่วนให้สมดุลกัน คือ จริยศึกษา พลศึกษา พุทธิศึกษา และหัตถศึกษา และยังกําหนดแนวการจัดการศึกษาที่เปรียบเสมือนแนวนโยบายแห่งรัฐ สําหรับการศึกษา
พระราชบัญญัติประถมศึกษา พ.ศ. 2464 กําหนดเด็กทั่วประเทศต้องเข้าโรงเรียน รัชกาลที่ 6 พยายาม ผลักดัน “พระราชบัญญัติประถมศึกษา” เพื่อขยายการศึกษาให้ทั้งประเทศการควบคุมโรงเรียนราษฎร์มีจุดกําเนิดจากโรงเรียนสอนศาสนาของตะวันตก และยังไม่มีมาตรการใดใน การควบคุม แต่ต่อมามี พ.ร.บโรงเรียนราษฎร์ พ.ศ. 2461 ในสมัยรัชกาลที่ 6
ประวัติศาสตร์การศึกษาไทยหลังการประกาศใช้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่ชาติ พ.ศ. 2542 - ปัจจุบัน
ระบบการศึกษา มีการจัดระบบการศึกษาชั้นประถมศึกษา 6 ปี การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 3 ปี และการศึกษาตอนปลาย 3 ปี หรือระบบ 6-3-3 นอกจากนี้การศึกษาไทยยังจัดการศึกษาออกเป็น 3 รูปแบบ ดังนี้
การศึกษาในระบบ เป็นการศึกษาที่กําหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของ
การศึกษา การวัด และการประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสําเร็จการศึกษาที่แน่นอน
การศึกษาขั้นพื้นฐาน ประกอบด้วยการศึกษาซึ่งจัดไม่น้อยกว่าสิบสองปีก่อนระดับอุดมศึกษา
การศึกษาระดับอุดมศึกษา แบ่งเป็นสองระดับ คือ ระดับต่ำกว่าปริญญา และระดับปริญญา
การศึกษานอกระบบ เป็นการศึกษาที่มีความยืดหยุ่นในการกําหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการ จัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัด และประเมินผล ซึ่งเงื่อนไขสําคัญของการสําเร็จ การศึกษา โดยเนื้อหา และหลักสูตรจะขึ้นอยู่สภาพปัญหา และความต้องการของบุคคล แต่ละกลุ่ม
การศึกษาตามอัธยาศัย เป็นการศึกษาที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจ
ศักยภาพความพร้อม และโอกาส โดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์ สังคม สภาพแวดล้อม หรือแหล่งความรู้อื่น ๆ