Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 2 การรับรู้ การจำ การลืม และการถ่ายโยงการเรียนรู้ - Coggle Diagram
บทที่ 2 การรับรู้ การจำ การลืม และการถ่ายโยงการเรียนรู้
การรับรู้และการสัมผัส
ความหมายของการรับรู้และการสัมผัส
การสัมผัส หมายถึง เป็นกระบวนการที่เกี่ยวกับการที่สิ่งเร้าจากภายนอกมากระทบประสาทสัมผัสของอินทรีย์เป็นครั้งแรก
การรับรู้ หมายถึง การะบวนการที่อินทรีย์ปะทะกับสิ่งเร้าในสภาพแวดล้อม โดยอาศัยประสาทสัมผัสทางใดทางหนึ่งหรือหลายทางร่วมกันทำงาน
โครงสร้างของประสาทรับสัมผัส
การสัมผัสทางตา
การสัมผัสทางหู
การสัมผัสทางจมูก
การสัมผัสทางลิ้น
การสัมผัสทางกาย
การรับสัมผัสทางการเคลื่อนไหวและการทรงตัว
ระดับของการรับสัมผัส
เทรชโฮลด์สมบูรณ์ หมายถึง จำนวนพลังงานที่มีความถี่ต่ำสุดที่อินทรีย์สามารถรับรู้ได้
เทรชโฮลด์ความแตกต่าง หมายถึง ความเข้มข้นของพลังงานสิ่งเร้าที่มีค่าน้อยที่สุดที่เปลี่ยนแปลงไปจนทำให้ร่างกายสามารถรู้สึกถึงคามเปลี่ยนแปลงนั้นได้
สิ่งที่มีอิทธิพลต่อการรับรู้
คุณลักษณะที่มีอยู่ทำให้เกิดลักษณะภาพลักษณ์ของสิ่งต่างๆ เกิดจากการสรุปและตีความหมายของแต่ละคน ทำให้เกิดอคติในทางบวกและทางลบ
คุณลักษณะของบุคคล เป็นลักษณะที่แตกต่างกันของบุคคลที่มีอิทธิพลต่อการรับรู้ ได้แก่ อวัยวะในการรับสัมผัส, ความต้องการของผู้รับรู้, ประสบการณ์เดิม, เจตคติ, การให้คุณค่า
คุณลักษณะของสถานการณ์ สถานการณ์ที่มีผลต่อการรับรู้ของบุคคล อารมณ์ของบุคคลก่อนหรือขณะเกิดการรับรู้จะมีอิทธิพลต่อการแปลความหมายถูกต้องหรือผิดพลาดได้อย่างมาก
คุณสมบัติของสิ่งเร้าภายนอกที่มีผลต่อการรับรู้ ได้แก่ ขนาดของสิ่งเร้า, การเปลี่ยนแปลงของสิ่งเร้า, การเคลื่อนไหวของสิ่งเร้า, การเกิดซ้ำๆ ของสิ่งเร้า, สีสันและความแตกต่างของสิ่งเร้า
หลักของการรับรู้
การจัดระเบียบการรับรู้ บุคคลจะเกิดการจัดระเบียบของสิ่งเร้าที่รับรู้โดยอัตโนมัติ
รับรู้ในลักษณะภาพและพื้น คือสิ่งที่เราให้ความสนใจและสิ่งที่เราไม่ให้ความสนใจ
การจัดหมวดหมู่สิ่งเร้าที่จะรับรู้
การรับรู้ความลึกและระยะทาง บุคคลมีความสามารถในการรับรู้ความกว้าง ความยาว และระยะทาง
การรับรู้เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ 3 กรณี
1) การเคลื่อนที่เนื่องจากถูกชักจูง
2) การเคลื่อนไหวหลอก
3) การเกิดมุมและการตัดกันของเส้น
เปอร์สเปกทีฟ
การจำ
หมายถึง การเก็บสะสมความรู้และประสบการณ์ต่างๆ ของบุคคล หลังจากการรับรู้ เรียนรู้ หรือเหตุการณ์นั้นๆได้สิ้นสุดลงแล้ว
ระบบของการจำ
ระบบการจำจากการรู้สึกสัมผัส
การคงอยู่ของความรู้สึกสัมผัสหลังจากการเสนอสิ่งเร้าสิ้นสุดลง เป็นระบบการจำขั้นแรกเก็บข้อมูลไว้ในช่วงสั้นๆ
ระบบความจำระยะสั้น
เป็นความจำชั่วคราวที่เกิดขึ้นหลังการรับรู้แล้ว อยู่ในระยะเวลาสั้นๆ ที่เราตั้งใจหรือมีจิตใจจดจ่อต่อสิ่งนั้นเท่านั้น
ระบบความจำระยะยาว
ทำหน้าที่เหมือนคลังข้อมูลถาวร จะบรรจุทุกอย่างที่รู้เอาไว้ ไม่จำกัดความสามารถในการเก็บข้อมูล และข้อมูลไม่หายไป
การจัดความจำ
การระลึกได้
การถอดแบบข้อมูลหรือข้อเท็จจริง
การจำได้
การทดสอบโดยการปรากฏสิ่งที่เคยเห็นมาแล้วในอดีตปะปนกับสิ่งเร้าใหม่ๆ
การเรียนซ้ำ
การทำซ้ำๆ ในการเรียนรู้แบบนี้ใช้วัดด้วยเวลาหรือจำนวนครั้งที่ใช้ในการเรียนซ้ำๆ
การบูรณาการใหม่
การใช้ความจำหนึ่งกระตุ้นให้เกิดความจำอื่นๆ ตามมา ประสบการณ์ในอดีตทั้งหมดถูกสร้างขึ้นใหม่ จากสิ่งที่ถูกสะสมไว้เพียงสิ่งเดียว
ทฤษฎีเกี่ยวกับการจำ
ทฤษฎีความจำสองกระบวนการ
ทฤษฎีการจัดกระบวนการตามระดับความลึก
ทฤษฎีการสลายตัว
สมมติฐานรหัสคู่
ทฤษฎีสองมาตรฐาน
การลืม
หมายถึง การไม่สามารถระลึกเรื่องราว ข้อมูลที่มีความจำเป็นซึ่งถูกบันทึกไว้ได้ เป็นความล้มเหลวในการจำหรือไม่สามารถจำได้ ไม่สามารถค้นข้อมูลที่เก็บในความจำระยะยาวได้
สาเหตุของการลืม
การเสื่อมสลาย การเสื่อมสภาพของร่องรอยการจำตามเวลา เกิดขึ้นในการจำการรับสัมผัสและความจำระยะสั้น
การลืมที่ขึ้นอยู่กับสิ่งชี้แนะ เป็นข้อมูลที่จำไม่ได้ แต่ไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ นึกไม่ออกแต่เมื่อมีสิ่งกระตุ้นก็นึกได้ทันที
การถูกรบกวน การเรียนรู้ใหม่รบกวนการเรียนรู้เก่าทำให้เกิดการลืมได้ เกิดขึ้นในความจำระยะสั้นและความจำระยะยาว
การเก็บกด เป็นการลืมความทุกข์ที่เจ็บปวด ถูกเก็บกดให้ไปอยู่ในจิตใต้สำนึก จนกระทั้งลืมสนิท
การไม่ได้ลงรหัสหรือการล้มเหลวในการคืนค่า
การถ่ายโยงการเรียนรู้
หมายถึง อิทธิพลจากการเรียนรู้ครั้งแรกที่มีต่อการเรียนรู้ครั้งต่อไปหรือเป็นการแผ่ขยายผลการเรียนรู้อย่างหนึ่งไปช่วยการเรียนอีกอย่างหนึ่ง
ทฤษฎีการถ่ายโยงการเรียนรู้
ทฤษฎีการถ่ายโยงโดยความคล้ายคลึง
การถ่ายโยงจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อสถานการณ์ใหม่มีเนื้อหาสาระ เหมือนหรือคล้ายคลึงกับเนื้อหาสาระในสถานการณ์ ของการเรียนรู้ในอดีต
ทฤษฎีการถ่ายโยงโดยความเข้าใจ
การเรียนรู้หลักการจะช่วยเอื้อการถ่ายโยงความรู้บวก การถ่ายโยงชนิดนี้เกิดขึ้น เนื่องจากสามารถเข้าใจและสรุปเหตุการณ์ต่างๆ เป็นกฎเกณฑ์และนำมาเรียนรู้เรื่องใหม่
ทฤษฎีการถ่ายโยงของจิตวิทยากลุ่มเกสตัลท์
การถ่ายโยงจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้เรียนมีความเข้าใจอย่างมีความหมาย จึงสามารถนำความรู้ไปใช้ในสถานการณ์ใหม่ที่มีความคล้ายคลึง
ทฤษฎีการถ่ายโยงการเรียนรู้ของออสกูด
ความสำคัญของสิ่งเร้ามีผลต่อการถ่ายโยงการเรียนรู้ เชื่อว่าการถ่ายโยงการเรียนรู้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความคล้ายคลึงของการตอบสนองของสิ่งเร้าในการเรียนรู้สองอย่าง