Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
600-320 สื่อดิจิทัลและนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ :<3: - Coggle Diagram
600-320 สื่อดิจิทัลและนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ :<3:
บทที่ 4
พัฒนาการและความเป็นมา
ของเทคโนโลยีการศึกษา
:smiley:
พัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา
เทคโนโลยีการศึกษาเป็นสหวิทยาการที่รวมเอาศาสตร์ต่าง ๆ มาประกอบกัน ได้แก่ พฤติกรรมศาสตร์ (Behavioral Sciences) วิทยาการจัดการ (Management Science) และวิทยาศาสตร์กายภาพ (Physical Science) จากศาสตร์ดังกล่าวจึงเกิดการนำเทคโนโลยีมาใช้ในวงการศึกษา
ต้นทศวรรษที่ 1900 ใช้เทคโนโลยีทางสื่อโสตทัศน์(audio visual)
ในปี ค.ศ. 1913 มีการจัดสภาพห้องเรียนและการใช้สื่อการสอนประเภทต่างๆ
ในช่วงทศวรรษที่ 1920 - 1930 เริ่มมีการใช้เครื่องฉายภาพแบบข้ามศีรษะ (overhead projector) เครื่องบันทึกเสียง วิทยุกระจายเสียง และภาพยนตร์ เข้ามาเสริมการเรียนการสอนวิทยุกระจายเสียงจึงเป็นสื่อใหม่ที่ได้รับความนิยม
ทศวรรษที่ 1950 จึงมีการใช้คำว่า "การสื่อสารทางภาพและเสียง" หรือ แทนคำว่า "การสอนทางภาพและเสียง"
เทคโนโลยีได้ถูกนำมาใช้ทางการศึกษานับตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาล มีการกล่าวถึงนักเทคโนโลยีทางการศึกษาพวกแรก คือกลุ่มโซฟิสต์ (The Elder sophist) ที่ใช้วิธีการสอนการเขียน
ในทศวรรษที่ 1800 มีการใช้มือวาด การเขียนสลักลงบนไม้ ส่วนการใช้ชอล์คเขียนบนกระดานดำ
เทคโนโลยีการศึกษาและการสื่อสาร ได้มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาขึ้นอย่างมากในช่วงปลายทศวรรษที่ 1960 เมื่อโลกได้หันเข้ามาสู่ยุคของคอมพิวเตอร์ ในด้านการศึกษานั้น ได้มีการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนเป็นครั้งแรกในปี 1977 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันนี้ อินเทอร์เน็ตมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในประเทศไทยนั้นบริษัท ACNielsen ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยการตลาดระดับนานาชาติ ได้ทำการสำรวจผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในเขตเมืองใหญ่ในแต่ละภาคของประเทศไทยเมื่อเดือนพฤษภาคม 2544
พัฒนาการทางเทคโนโลยีการศึกษาในปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคต
การศึกษาในปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาเพื่อพัฒนาปฏิรูปการจัดการศึกษาให้เท่าเทียบกับสากลดังนั้นจึงได้มีการนำสารสนเทศเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายการศึกษา
คือ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
:pen: :check:
1.สภาพการเรียนการสอนในระบบ (Fonmal Education)หมายถึง
การที่เทคโนโลยีการศึกษามีส่วนสนับสนุนการเรียนการสอนในระบบ ในชั้นเรียนที่มีหลักสูตรเฉพาะ มีกรอบการเรียนที่ชัดเจน ทำให้การเรียนการสอนในระบบเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
สภาพการเรียนการสอนนอกระบบ(Informal Education) หมายถึง การที่เทคโนโลยีการศึกษามีส่วนช่วยสนับสนุนการเรียนการสอนนอกระบบ คือการเรียนการสอนที่มีหลักสูตรเฉพาะกลุ่มหรือหลักสูตรที่มีกรอบการเรียนค่อนข้างกว้างขวาง โดยไม่กำหนดระยะเวลาที่แน่นอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถและโอกาสของผู้เรียนที่จะอำนวย การเรียนการสอนประเภทนี้
สภาพการเรียนการสอนตามอัธยาศัย (Nonformal Education) หมายถึง การที่เทคโนโลยีการศึกษามีส่วนช่วยสนับสนุนการเรียนการสอนตามอัธยาศัย เป็นการจัดการศึกษาสำหรับบุคคลกลุ่ม ต่างๆ ที่มีความจำกัดบางอย่าง แต่บางครั้งมีความต้องการได้รับความรู้ เป็นหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องต้องพยายามจัดโอกาสให้กับบุคคลเหล่านี้ โดยใช้เทคโนโลยีการศึกษาเข้ามาช่วยสนับสนุนให้การจัดการศึกษาตามอัธยาศัยมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
รูปแบบของการจัดการศึกษาทั้ง 3 รูปแบบดังกล่าวได้สะท้อนความตื่นตัวที่จะปฏิรูปการศึกษาโดยยึดหลักการศึกษาตลอดชีวิตที่เน้นให้ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ซึ่งส่งผลดีต่อการจัดการศึกษาโดยภาพรวม
:recycle:
1.การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจัดกิจกรรมและพัฒนาการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญนั้นจะทำให้ผู้เรียนเกิดความรู้และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ โดยฝึกการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล เพื่อนำความรู้และองค์ความรู้ที่เกิดขึ้นไปใช้ในการพัฒนาตนเองและสังคมได้
การจัดระบบเครือข่ายการเรียนรู้ที่ให้มีแหล่งความรู้ที่หลากหลาย สำหรับการค้นคว้าหาความรู้ทุก ๆ ด้านที่ผู้เรียนต้องการและเหมาะสมกับผู้เรียน จะทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้พัฒนาตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างกว้างขวาง
การปรับกระบวนการเรียนการสอน โดยเน้นให้ครูเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวกและชี้แนะให้ผู้เรียนทำการศึกษาค้นคว้าคิด ตัดสินใจด้วยตนเอง โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและระบบเครือข่ายการเรียนรู้เป็นเครื่องมือ ขณะเดียวกันครูต้องเป็นต้นแบบด้านคุณธรรม จริยธรรมและจะต้องปลูกฝังทั้งในชั่วโมงเรียนและกิจกรรมการฝึกปฏิบัติ
บทที่ 5
แหล่งเรียนรู้และเครือข่ายการเรียนรู้
:smiley:
-การเรียนรู้สอดคล้องทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยม
-การเรียนรู้สอดคล้องทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มปัญญานิยม
-การเรียนรู้ สอดคล้องทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มสร้างสรรค์นิยม
วัตถุประสงค์ของแหล่งเรียนรู้
@ เพื่อจัดกระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับความแตกต่างระหว่างบุคคล
@ เพื่อหาแนวทางการเรียนรู้หลากหลายรูปแบบ
@ เพื่อจัดหาโอกาสสร้างประสบการณ์การเรียนรู้จากสื่อ
@ เพื่อจัดหาโอกาสทางการศึกษาอย่างอิสระ และศึกษาด้วยตนเอง
@ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการพิจารณาตัดสินสิ่งที่เรียนรู้ด้วยตนเอง
@ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการเรียนรู้ และทักษะการใช้วัสดุอุปกรณ์
@ เพื่อพัฒนาความคิดริเริ่ม ความเป็นอิสระ ความรับผิดชอบการตัดสินใจ การแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
@ เพื่อพัฒนาทักษะด้านการค้นคว้า การอภิปราย การสนทนา การนำเอาความรู้ที่ได้รับมาประยุกต์ใช้
@ เพื่อเป็นแรงดลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาการศึกษาตลอดชีวิต
:warning:
ประเภทของการเรียนรู้
แหล่งการเรียนรู้
-ในโรงเรียน
-นอกโรงเรียน
:!:
ลักษณะของแหล่งเรียนรู้
-แหล่งเรียนรู้ที่เกิดเองตามธรรมชาติ
-แหล่งเรียนรู้ที่จัดทำ หรือสร้างขึ้น
:!:
ข้อดีในการนำแหล่งเรียนรู้ไปใช้ในกระบวนการเรียนการสอน
-ผู้เรียนได้เรียนรู้จากของจริงทำให้เกิดประสบการณ์ตรง
-ผู้เรียนเกิดความสนุกสนาน
-ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อชุมชนและกระบวนการเรียนรู้
-ผู้เรียนเห็นคุณค่าของแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น
-ผู้เรียนเกิดความรักท้องถิ่นและเกิดความรู้ในการอนุรักษ์สิ่งที่มีคุณค่าในท้องถิ่น
:!!:
เครือข่ายการเรียนรู้
มายถึง การประสานแหล่งความรู้และข้อมูลข่าวสาร การใช้ทรัพยากรธรรมชาติและการปฏิบัติงานอย่างสอดคล้อง เชื่อมโยงกันทั้งระหว่างงานที่รับผิดชอบ การจัดการศึกษาในและนอกระบบโรงเรียนและระหว่างหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในระดับต่าง ๆ ตลอดจนระบบการเรียนรู้อย่างไม่เป็นทางการ เพื่อสร้างแลกเปลี่ยน ถ่ายทอดและกระจายความรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสได้เรียนรู้อย่างกว้างขวางและต่อเนื่องตลอดชีวิตตามความต้องการของบุคคลและชุมชน (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, 2535)
ความสำคัญของเครือข่ายการเรียนรู้
ปัจจุบันมีการสร้างระบบเครือข่ายการเรียนรู้กันมากขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดระบบการเรียน การสอน รูปแบบใหม่ในสถาบันการศึกษา เช่น เครือข่ายภายในโรงเรียน หรือภายในสถาบันอุดมศึกษา และเชื่อมโยงกันระหว่าง วิทยาเขตจัดเป็นแคมปัสเน็ตเวิร์ค ก่อให้เกิดการติดต่อสื่อสารระหว่างครูกับนักเรียน เพื่อร่วมมือกันทำงานได้มากขึ้น เป็นสื่อกลาง เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลข่าวสารได้ทั่วโลก รวมทั้งสามารถใช้ประโยชน์จากระบบ อินเทอร์เน็ตในการส่งข่าวสารได้
:star:
คุณลักษณะพิเศษของเครือข่ายการเรียนรู้
สามารถเข้าถึงได้กว้างขวาง ง่าย สะดวก
เป็นการเรียนแบบร่วมกันและทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม
สร้างกิจกรรมการเรียนรู้ โดยเน้นให้ผู้เรียนเป็นผู้กระทำมากกว่าเป็นผู้ถูกกระทำ
ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนการสอน และเน้นบทบาทที่เปลี่ยนแปลงไป
จัดให้เครือข่ายการเรียนรู้เป็นเสมือนชุมชนของการเรียนรู้แบบออนไลน์
แนวทางการบริหารจัดการและพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้
ขั้นการก่อรูปเครือข่ายการเรียนรู้ (learning network forming)
ขั้นการจัดระบบบริหารเครือข่ายการเรียนรู้ (learning network organizing)
ขั้นการใช้เครือข่ายการเรียนรู้(learning network utilizing )
ขั้นการธำรงรักษาเครือข่ายการเรียนรู้ (learning network maintaining)
กระบวนการและวิธีการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้
การตระหนักถึงความจำเป็นในการสร้างเครือข่ายเป็นขั้นตอนที่ผู้ปฏิบัติงานหรือฝ่ายจัดการตระหนักถึงความจำเป็นในการสร้างเครือข่ายเพื่อที่จะทำงานให้บรรลุเป้าหมายรวมทั้งพิจารณาถึงองค์กรต่างๆ ที่เห็นว่าเหมาะสมเพื่อรวมเข้าเป็นเครือข่ายในการทำงานร่วมกัน
การติดต่อกับองค์กรที่จะร่วมเป็นเครือข่ายหลังจากตัดสินใจเกี่ยวกับองค์กรที่เห็นว่าเหมาะสมในการเข้าร่วมเป็นเครือข่ายแล้ว
การสร้างพันธกรณีร่วมกัน เป็นข้นตอนการสร้างความผูกพันร่วมกัน มีการตกลงใจในความสัมพันธ์ต่อกันและตกลงที่จะทำงานร่วมกันเป็นเครือข่ายซึ่งการทำกิจกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการหรือแก้ปัญหาร่วมกันจะต้องมีความรู้เพียงพอที่จะทำกิจกรรมได้โดยการเชิญวิทยากรมาถ่ายถอดเพิ่มพูนความรู้ การไปศึกษาดูงาน
การพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมกัน เป็นขั้นตอนที่สร้างเครือข่ายให้เกิดผลงานเป็นรูปธรรมโดยเริ่มทำกิจกรรมที่ใช้ทรัพยากรร่วมกัน
การทำกิจกรรมร่วมกัน เป็นขั้นตอนที่เกิดขึ้นหลังจากมีการพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมกันแล้ และนำไปสู่การทำกิจกรรมร่วมกันจนมีผลงานเป็นที่ปากฎชัด เกิดประโยชน์ร่วมกันในองค์กรเครือข่าย จนเกิดการขยายกลุ่มเครือข่ายมากยิ่งขึ้น
การรวมตัวกันจัดตั้งองค์กรใหม่ร่วมกัน เพื่อรองรับจำนวนสมาชิกใหม่ที่มากขึ้น
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
บทบาทของครูผู้สอนในการใช้แหล่งเรียนรู้
-ผู้จัดการ
-ผู้ร่วมทำกิจกรรม
-ผู้ช่วยเหลือหรือแหล่งวิทยากร
-ผู้สนับสนุนและเสริมแรง
-ผู้ติดตามตรวจสอบ
: :red_flag:
เครือข่ายการเรียนรู้กับความเปลี่ยนแปลงทางการศึกษา
รูปแบบการเรียนการสอน เน้นให้ผู้เรียนเป็นหลักในการแสวงหา ค้นคว้าข้อมูลด้วยตนเองมากขึ้นจาก แหล่งสารสนเทศต่างๆ ทั่วโลก และจากสื่อหลากหลายประเภทนอกเหนือจากหนังสือ รวมทั้งสามารถเลือกเวลาและ สถานที่ในการศึกษาได้เอง
บทบาทของผู้สอน จากระบบเดิมที่เน้นให้ครูเป็นจุดศูนย์กลางของการเรียนการสอนเปลี่ยนไปสู่ระบบที่ครู เป็นเพียงผู้ชี้แนะหรือเป็นที่ปรึกษาในสาขาวิชาที่สอนโดยผ่านทางเครือข่าย
บทบาทของผู้เรียน เปลี่ยนแปลงจากระบบเดิมที่นักเรียนเป็นเพียงผู้รับฟัง และปฏิบัติตามคำสั่งของครู รับฟังความรู้ความคิดเห็นจากครูเป็นหลัก ไปสู่ระบบที่นักเรียนต้องเป็นผู้แสวงหาด้วยตนเอง ต้องกระตือรือร้น และตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
บทบาทของการเรียนการสอน มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ โดยเฉพาะระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเปิดช่องทางไปสู่แหล่งความรู้ต่างๆ ได้ทั่วโลก
ห้องเรียน สำหรับผู้สอน ประกอบด้วยอุปกรณ์ที่ใช้ในการสอน คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ แสดงภาพ วิดีโอโปรเจคเตอร์ เชื่อมเข้าสู่ระบบเครือข่าย และระบบอินเทอร์เน็ต
ศูนย์เครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียน เป็นสถานที่ที่ผู้เรียนสามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการ ค้นคว้า เชื่อมต่อเข้าสู่ระบบเครือข่ายภายในสถาบันการศึกษา รวมทั้งสามารถใช้ผ่านโมเด็มจากบ้านของผู้เรียนเข้าสู่ เครือข่ายได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ฐานบริการข้อมูลการเรียน เป็นที่เก็บข้อมูลข่าวสารในรูปแบบต่างๆ ทั้งที่อยู่ในรูปของตัวอักษร รูปภาพ และเสียง ซึ่งผู้เรียนสามารถเรียกใช้งานได้ตลอดเวลาประกอบด้วย
Student Homepage เป็นที่เก็บข้อมูล ข่าวสารของนักเรียน และส่งการบ้านให้ครูตรวจได้โดยแจ้ง pointer บอกตำแหน่งให้ครูทราบ
บทที่6
การประยุกต์ใช้สื่อในการจัดการเรียนการสอนเพื่อเเก้ปัญหาผู้เรียน
:smiley:
เทรนการเรียนรู้ของของรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล
1.สถานการณ์เเละแนวโน้มการปลี่ยนเเปลงการเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่
2.พฤติกรรมและความต้องการการเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่
3.เเนวโน้มอนาคต
4การนำใช้ในสังคมไทย
:star:
แนวโน้มอนาคต
-แนวโน้มด้าน AI :!:
ความก้าวหน้าด้านปัญญาประดิษฐ์หรือ AI จะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในทุก platform แนวโน้มหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือการกำเนิดขึ้นของ AI ที่มีลักษณะเป็นตัวตนคิดอ่านแทนมนุษย์ได้บางเรื่อง
-แนวโน้มด้าน Crowd sourcing :!:
แนวโน้มการรวบรวมพลังและทรัพยากรจากฝูงชน (Crowd sourcing) ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการรวบรวมข้อมูลและสติปัญญาเท่านั้น แต่ยังรวมถึง แรงงาน เงินทุน ผู้คน ด้วย โดยมีจุดประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยน แบ่งปันประสบการณ์ ความรู้ ซึ่งกันและกัน ช่วยให้บรรลุเป้าหมายต่างๆ ที่วางไว้
-แนวโน้มบูรณาการระหว่าง Platform การเรียนรู้ออนไลน์ :!:
ปัจจุบันแรงจูงใจของผู้ผลิตสื่อในแต่ละ Platform เริ่มเปลี่ยนแปลงเข้าสู่เป้าหมายเดียวกันมากขึ้น นั่นคือเข้าถึงเข้าถึงผู้คนให้ได้จำนวนมากที่สุด และสร้างประสบการณ์เรียนรู้ที่ราบรื่นมากที่สุด จึงมีแนวโน้มที่ platform หลากหลายอันจะหลอมรวมกัน
-แนวโน้มการเกิดอาชีพใหม่ :!:
รูปแบบที่หลากหลายในการเรียนรู้จะทำให้เกิดอาชีพใหม่ๆ ยกตัวอย่างเช่น ครูชื่อดังที่มีชื่อเสียงในช่องทางของ MOOCs นักจัดรายการเพื่อการเรียนรู้ทั้งบนสื่อวีดิทัศน์ (Youtube) และสื่อทางเสียง (Podcast) นักวิจารณ์รายการอื่น (Commentator หรือ recommender) นักอ่านหนังสือเสียง อาชีพที่เกี่ยวข้องกับกีฬา e-sport นักการตลาดบนสื่อสังคม เป็นต้น
-แนวโน้มอื่นๆ :!:
ระบบการบันทึกข้อมูลการศึกษาจะเปลี่ยนไป เพื่อรองรับกลุ่มผู้เรียนแบบ MOOCs ที่มีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคตอย่างเช่นประกาศนียบัตรจิ๋ว (nanodegree) สื่อวีดีทัศน์และเกมจะมีลักษณะของการถ่ายทอดสดมากขึ้น
บทที่7
สารสนเทศการรู้สารสนเทศและการรู้เท่าทันสื่อ
:smiley:
สารสนเทศ (Information)
สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ข้อเท็จจริง ความคิด ประสบการณ์ รวมถึงจินตนาการของมนุษย์ ที่มีการจัดการบันทึกลงในสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโสตทัศน์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการสื่อสารและการตัดสินใจ
ความสำคัญของสารสนเทศ
:!:
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้าพัฒนาประเทศชาติ
สนับสนุนการวางแผนและนโยบายการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ
ช่วยในการแก้ไขปัญหา และพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพ
ช่วยติดตามความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงของโลก
ความสำคัญของสารสนเทศ
:!:
เป็นสิ่งจำเป็นต่อการวิจัยและพัฒนาสิ่งต่าง ๆ
สำคัญและจำเป็นต่อภาคอุตสาหกรรม พัฒนาการแข่งขันในระดับประเทศ และระดับนานาชาติ
ช่วยพัฒนาศักยภาพของคนในสังคม
ลักษณะสารสนเทศที่ดี
ความถูกต้อง
ความทันสมัยและทันต่อการใช้งาน
ความสมบูรณ์
ตรงกับความต้องการ
ตรวจสอบแหล่งที่มาได้
ประโยชน์ของสารสนเทศ
:!:
สารสนเทศก่อให้เกิดการพัฒนา
สารสนเทศก่อให้เกิดการศึกษา
สารสนเทศก่อให้เกิดการสืบทอดทางวัฒนธรรม
สารสนเทศก่อให้เกิดความเป็นเหตุเป็นผล
สารสนเทศก่อให้เกิดภูมิปัญญา
เทคโนโลยีสารสนเทศ
เครื่องมือในการเก็บรวบรวม การจัดเก็บข้อมูลไว้อย่างเป็นระบบ มีการประมวลผล วิเคราะห์ผลที่ประมวลได้จากข้อมูลนั้น สามารถเรียกหาได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการสื่อสารข้อมูลไปยังผู้ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพในรูปแบบที่เข้าใจง่าย
:red_flag:
ความสำคัญ
เทคโนโลยีสารสนเทศ
:warning:
การศึกษาและการเรียนรู้
การดำรงชีวิตประจำวัน
การดำเนินธุรกิจ
การรู้สารสนเทศ (Information Literacy)
“ความสามารถของบุคคลที่เกี่ยวกับสารสนเทศในเรื่องต่อไปนี้ คือ การรู้ถึงความต้องการสารสนเทศ การวิเคราะห์และรู้แหล่งสารสนเทศที่เหมาะสม การรู้ถึงวิธีการที่จะเข้าถึงสารสนเทศที่อยู่ในแหล่งสารสนเทศต่างๆ การประเมินคุณภาพของสารสนเทศที่ได้รับ การจัดการสารสนเทศและการใช้สารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ” (มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2554)
:pen:
ความสำคัญของการรู้สารสนเทศ
1) การศึกษาเรียนรู้
2) การดำรงชีวิตประจำวัน
3) การประกอบอาชีพ
4) ความเข้าใจสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง
5) ทำให้ผู้เรียนเป็นผู้มีศักยภาพในการเรียนรู้ตลอดชีวิต
6) เป็นเครื่องมือสำคัญในการเลือกใช้สารสนเทศที่มีคุณภาพ
องค์ประกอบของการรู้สารสนเทศ
ทักษะที่ 1 การกำหนดความต้องการสารสนเทศ (Task definition)
ทักษะที่ 2 การใช้กลยุทธ์ในการสืบค้นสารสนเทศ (Information seeking strategies)
ทักษะที่ 3 การกำหนดแหล่งสารสนเทศและการเข้าถึงแหล่งสารสนเทศ (Location and access)
ทักษะที่ 4 การใช้สารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ (Use of information)
ทักษะที่ 5 การสังเคราะห์สารสนเทศ (Synthesis)
ทักษะที่ 6 การประเมินสารสนเทศ (Evaluation)
ลักษณะของผู้เรียนที่เป็นผู้รู้สารสนเทศ
คือ การสร้างบุคคลให้เป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต (Life-long learner) เป็นผู้ที่สามารถค้นหา ประเมิน และใช้สารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการแก้ปัญหาหรือการตัดสินใจ บุคคลจะเป็นผู้รู้สารสนเทศก็คือ บุคคลที่รู้ว่าจะเรียนรู้ได้อย่างไร (People who have learned how to learn)
การรู้เท่าทันสื่อ
การรู้เท่าทันสื่อ คือ การอ่านสื่อให้ออก เพื่อพัฒนาทักษะในการเข้าถึงสื่อ การวิเคราะห์สื่อ การตีความเนื้อหาของสื่อ การประเมินค่าและเข้าใจผลกระทบของสื่อและสามารถใช้สื่อให้เกิดประโยชน์ได้
:fire:
ความสำคัญของการรู้เท่าทันสื่อ
ทุกวันนี้สื่อสมัยใหม่ได้รับการพัฒนาหลากหลายรูปแบบและได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของคนทุกรุ่นทุกเพศทุกวัยเราจึงควรเรียนรู้ที่จะเข้าใจสื่อว่ามีลักษณะที่สำคัญอย่างไรบ้าง เพื่อให้สามารถใช้สื่อได้อย่างสร้างสรรค์
ลักษณะสำคัญของสื่อ
สื่อทั้งหมดมีผู้สร้าง
สื่อสร้างภาพความจริง
สื่อคือธุรกิจ
สื่อส่งสารเชิงอุดมการณ์และค่านิยม
สื่อแสดงนัยทางสังคมและการเมือง
แนวทางการรู้เท่าทันและวิเคราะห์สื่อ
สื่อคือสิ่งที่สร้างขึ้น - Media are Constructions
สื่อมีเป้าหมายทางธุรกิจ/โฆษณา - Media Constructions have Commercial purposes
สื่อสร้างค่านิยมและอุดมคติ - Media messages contain Values and Ideologies
สื่อทำให้มีผลที่ตามมาทางการเมืองและสังคม
สื่อแต่ละชนิดมีเอกลักษณ์และข้อจำกัด
SOCIAL MEDIA คืออะไร :question:
เครื่องมือ / เว็บไซต์ ที่ใช้ในการสื่อสาร รวบรวม และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต
แนวโน้มของ SOCIAL MEDIA :check:
50% ของประชากรโลกมีอายุต่ำกว่า 30 ปี
ในอเมริกามีคนเรียกใช้ Facebook มากกว่า Google
1 ใน 5 พบรักกันผ่านอินเทอร์เน็ต
ถ้า Facebook เป็นประเทศ มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือในอังกฤษ มากกว่า 50% เป็นการใช้งาน Facebook
หลายมหาวิทยาลัยหันมาใช้แท็บเล็ตในการเรียนการสอน
SOCIAL MEDIA กับการศึกษา :check:
ข้อมูลจาก National School Boards Association สรุปว่า
นักเรียน 96% แสดงตัวตนทางอินเทอร์เน็ตโดยใช้เครือข่ายทางสังคม
นักเรียน 30% มีบล็อกเป็นของตนเอง
มากกว่า 50% มีการสนทนาเกี่ยวกับงานที่ครู/โรงเรียนมอบให้
เครื่องมือที่ได้รับความนิยมได้แก่ Skype, Youtube, Wordpress, Twitter และ Facebook
SOCIAL MEDIA ที่ได้รับความนิยม
:check:
Facebook
Line
Twitter
Youtube
MySpace
LinkedIn
Friendster