Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 4 การออกแบบอาคารรับแรงดึง, จัดทำโดย, นายณัฐกร งามขำ …
บทที่ 4 การออกแบบอาคารรับแรงดึง
การเลือกหน้าตัด
การออกแบบองค์อาคารรับแรงดึงคือการเลือกใช้หน้าตัดเหล็กรูปพรรณที่เหมาะสมเพื่อรับแรงดึงที่ต้องการ
พื้นที่หน้าตัดต้องมีค่าอย่างน้อย
กำลังรับแรงดึง T คือค่าที่น้อยกว่าระหว่าง 0.60FyAg และ 0.50
F
u
A
e
สูตร
min Ag = T / 0.60Fy
สูตรพื้นที่สุทธิประสิทธิผลต้องมีค่าอย่างน้อย
min Ae = T / 0.50Fu
เนื่องจาก
Ae = UAn
ค่าน้อยสุดของ
An
คือ
min An = min Ae / U = T/0.5 x Fu x U
ค่าน้อยที่สุดของ
Ag
สำหรับข้อกำหนดที่สองจะต้องมีอย่างน้อยเท่ากับค่าน้อยสุดของ
An
บวกกับพื้นที่โดยประมาณรูเจาะ
สูตร
min Ag = T/0.5 x Fu x U + พื้นที่รูเจาะ
เนื่องจากค่ามากสุดของอัตราความชะลูด
L/r
คือ 300 จะหา ค่าน้อยสุดของ r สำหรับการออกแบบ คือ
min r = L/300
เหล็กเส้นและเคเบิ้ล
กรณีไม่ต้องคำนึงถึงความชะลูด
เหล็กเส้นหน้าตัดกลมตันและเคเบิ้ลมักถูกใช้รับแรงดึง
AISD กำหนดหน่วยแรงดึงในการออกแบบสำหรับเหล็กเส้นกลมทำเกลียวเท่ากับ
0.33Fu
พื้นที่หน้าตัดทั้งหมด จะคำนวณจากเส้นผ่านศูนย์กลางนอกสุดของเกลียว
สูตรพื้นที่หน้าตัดทั้งหมดเท่ากับ
T / 0.33Fu
องค์อาคารรับแรงดึงในโครงถักหลังคา
โครงถักมักถูกใช้เป็นโครงหลังคาของอาคารที่มีช่วงยาว
โครงถักจะถูกวางตามความยาวอาคารโดยมีระยะห่างเท่ากัน
ยึดด้วยคานตามแนวยาวเรียกว่า แป (Purlin)
เสริมเหล็กเส้นกันแอ่น(Sag Rod)
โครงหลังคาเบา
มุงด้วยเหล็กลีดลอน
ถ้าระยะห่างระหว่างโครงหลังคามากกว่า 6 เมตร จะใช้เหล็กเส้นกันแอ่นทุกระยะหนึ่งในสาม
ถ้าระยะห่างระหว่างโครงหลังคาน้อยกว่า 6 เมตร อาจใช้เหล็กเส้นกันแอ่นทุกระยะครึ่งหนึ่ง
โครงหลังคาหนัก
โครงหลังคาที่ใช้กระเบื้องซีเมนต์ใยหิน อาจต้องการเหล็กกันแอ่นเป็นระยะที่ใกล้กว่า ความยาวที่ต้องใช้เหล็กกันแอ่นที่ระยะ หนึ่งในสามจะเป็น 4 เมตร
สาเหตุที่ต้องมีเหล็กเส้นกันแอ่น
เพื่อรองรับด้านข้างของแปเนื่องจากน้ำหนักบรรทุกที่ลงหลังคาในแนวดิ่งนั้นถูกแตกออกเป็นองค์ประกอบในแนวขนานและตั้งฉากกับความลาดเอียงหลังคา
น้ำหนักที่กระแจลงมาทำไให้แปแอ่นตัวไปตามทิศทางด้านข้าง เนื่องจากความต้นทานการดัดของหน้าตัดแปในแนวขนานกับหลังคาหรือ
ค่าโมเมนต์อินเนอร์เชียรอบแกน y จะมีค่าน้อยกว่าแกน x
จึงต้องใช้เหล็กเส้นกันแอ่นมาช่วย
การพิจารณาแรงในเหล็กเส้นกันแอ่น
แรงจะถูกส่งต่อจากเหล้กกันแอ่นเส้นล่างสุด สะสมขึ้นไปจึงมีค่ามากที่สุดในเส้นบนสุด
แรงมากที่สุดในเหล็กเส้นกันแอ่นจะเกิดขึ้นที่เหล็กเส้นกันแอ่นตัวบนสุดเพราะต้องรับแรงรวมจากเหล็กเส้นกันแอ่นที่ต่ำลงมา
อัตราส่วนความชะลูด
แม้ว่าจะไม่มีการจำกัดอัตราส่วนความชะลูดของเหล็กเส้นกันแอ่น แต่เส้นผ่าศูนย์กลางไม่ควรน้อยกว่า 1/500 ของความยาว
ขนาดน้อยสุดของเหล็กเส้นกันแอ่นที่ใช้คือ 16 มิลลิเมตร
หากใช้เหล็กเส้นกันแอ่นขนาดที่น้อยกว่า 16 มิลลิเมตร เหล็กมักเกิดการเสียหายระหว่างการก่อสร้าง
จัดทำโดย
นายณัฐกร งามขำ รหัสนิสิต 60361224
นายพชรพล สมัครเขตรการ รหัสนิสิต 60363150
นางสาวพิมพ์ผกา หล้านามวงค์ รหัสนิสิต 60363402
นายพีรพัฒน์ กาญจนเพชร รหัสนิสิต 60363471
นายสิปปกร พิริยะอนันตกุล รหัสนิสิต 60365086