Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

KIDNEY URINARY BLADDER SYSTEM (KUB SYSTEM), นางสาวปวีณา หมื่อโป เลขที่ 51…

- - - - Renal artery
        
        ไตแต่ล่ะข้างในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเกือบทั้งหมดจะถูก เลี้ยงโดยเส้นเลือดแดงเพียง1 เส้น
        
        เล้นเลือดแดงที่ไปเลี้ยงไตจะออกจาก Aorta และเข้าสู่ ไตบริเวณขั้วไต (Hilum)
      - Renal pelvis
        
        2.Parasympathetic nerve
        
        1.Sympathetic nerve
      - Renal vein
        
        ออกมาจากไตแต่ล่ะข้างโดยต่อเข้ากับ Inferior vena cava
    - - 2.Renal medulla :ไตชั้นใน
      - 1.Renal cortex : ไตชั้นนอก
    - - 1.Renal calyx
      - 2.Renal pelvis
  - - - 1.Glomerulus
        
        Capillary network
        
        2.Glomerular basement membrane
        
        3.Epithelial cell (Podocyte)
        
        1.Endothelial cell
        
        Mesangial cell
        
        Bowman’s capsule
      - 2.Tubule
        
        Proximal convoluted tubule
        
        Loop of Henle
        
        Distal convoluted tubule
        
        Collecting duct
- - - - Vitamin D มีบทบาทสำคัญในการควบคมสมดุลของ Ca P และการ metabolism ของกระดูก
    - - สร้างจาก Interstitial fibroblast
      - ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงในไขกระดูก
- - - - 130 ml/min/1.73 ตารางเมตร ผู้ชาย
      - 120 ml/min/1.73 ตารางเมตร ในผู้หญิง
  - - - Macroscopic (Gross) hematuria มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
      - Microscopic hematuria มองเห็นด้วยกล้องจุลทรรศน์
    - - ตรวจพบ RBC ≥ 3 ตัว ต่อ high-power field ที่ตรวจจากปัสสาวะที่ปน
- - - - 1.↑sCr ≥ 0.3 mg/dL in 48 hr
      - ↑sCr ≥ 1.5 x baseline in 7 day
      - Urine volume < 0.5 ml/kg/hr for 6 hr
- - - - การทำงานของไต
        
        eGFR < 60 ml/min/1.73m2
      - โครงสร้างของไตผิดปกติ
        
        มีเม็ดเลือดขาวหรือเม็ดเลือดแดงออกมาในปัสสาวะ
        
        มีโปรตีนไขขาวออกมาในปัสสาวะ >30 mg/24hr
        
        โครงสร้างของไตผิดปกติ
        
        ผู้ป่วยปลูกถ่ายไต
  - - - UACR
      - UPCR
      - Urine dip stick
    - - นอนไม่หลับ
      - ปัสสาวะบ่อยกลางคืน
      - ปวดศีรษะ
      - ขาอยู่ไม่นิ่ง
      - ทานอาหารได้น้อย ลิ้นไม่รับรส
      - เหนื่อยเวลาออกแรง
      - อ่อนเพลีย
      - ตะคริวบ่อย
      - คันตามตัวโดยเฉพาะกลางคืน
    - - คันมีรอยเกาตามตัว
      - แขนขาไม่ค่อยมีแรง
      - เลือดออกตามไรฟัน
      - เยื่อหุ้มหัวใจหรือเยื่อหมปอดอักเสบ
      - ปอดบวมน้ำ บวมตามแขนขา
      - ผิวหนังแห้ง มีสีคล้ำผิดปกติ
      - หายใจมีกลิ่นแอมโมเนีย
  - - - Toxin(lead,aristolochic acid) อยู่ในสมุนไพรจีน
      - Stone
    - - HTN
      - PAN Fibromuscular dysplasia ขนาดของไตมากกว่า 12 cm.
    - - IgAN
      - DM SLE Infection Drugs
    - - Polycystic kidney disease
      - Renal dysplasia
    - - เป็นนิ่วไปอุดตัน
      - IgAN
      - ความดันโลหิตสูง
      - เบาหวาน
  - - - ภาวะซีด
      - ภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง
      - ภาวะเลือดเป็นกรด
      - โรคกระดูกและแร่ธาตุที่เกิดจากโรคไต: Ca P
      - ภาวะความดันโลหิตสูง
      - ภาวะบวมและสารน้ำเกินในร่างกาย
      - ภาวะของเสียในเลือดคั่ง
    - - เริ่มการบำบัดทดแทนไตเมื่อ
        
        GFR <15 + มีอาการจากของเสียในร่างกายคั่ง
        
        GFR <6 → เริ่มทำได้เลยแม้ไม่มีอาการ
      - เมื่อเข้าสู่ CKD ระยะที่ 4 ควรส่งพบ อายุรแพทย์โรคไต
    - - ควบคุมความดันโลหิต
      - ยากลุ่ม ACEi/ARB ใช้อย่างระวังใน CKD stage 4-5
      - อาหาร : จำกัดเกลือ< 5 กรัม/วัน และโปรตีน< 0.8 g/Kg/day
      - หยุดสูบบุหรี่
      - หลีกเลี่ยงสารที่มีพิษต่อไต
      - ควบคุมน้ำตาล รักษาระดับ HbA1C ~ 7%
- - - - ได้รับ Na ปริมาณมาก
      - มีการสูญเสียน้ำจาก Fever, Burn, Reapiratory tract infection รักษาโดยการให้น้ำทางปากหรือหลอดเลือดดำ
  - - - มีการสูญเสีย Kออกไปจากร่างกาย
        
        Renal loss : Vomitting,Diuretics
        
        Gastrointestinal loss : Diarrhea
      - K เคลื่อนย้ายเข้าไปในเซลล์ -Insulin, B2-agonist
  - - - Pseudohyponatremia เกิดจาก Hyperglycemia
      - Truehyponatremia เกิดจาก SIADHคือ ADH หลั่งเยอะมากรักษาด้วยการจำกัดน้ำ 500-1000 ml/day
  - - - รับประทานอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง
      - โพแทสเซียมขับออกทางไตได้น้อยลง Renal failure
      - K เคลื่อนย้ายออกมาจากเซลล์
      - Hypoaldosteronism -ACEi/ARB,
- - - - Wide anion gap metabolic acidosis (AG>18 mEq/L) - Lactic acidosis
      - Normal anion gap metabolic acidosis (AG<18 mEq/L) - Diarrhea
      - Anion gap = Na - (Cl + HCO3) ค่าปกติ 12-18 mEq/L
    - - หาสาเหตุ และแก้ไขสาเหตุนั้นๆ
    - - ยับยั้งการทำงานของ receptor ต่างๆภายในร่างกาย
      - ส่งผลต่อการทำงานของเอนไซม์ต่างๆในร่างกาย
      - เชื่อว่าอาจส่งผลต่อการทำงานของระบบหวใจและหลอดเลือด
  - - - การทำให้ด่างยังคงอยู่ในร่างกาย/ทำให้ไตขับด่างไม่ได้
        
        Volume contraction
        
        Chloride depletion
        
        Renal failure
        
        Potassium depletion
      - การสร้างด่าง:ถ้าไตทำงานได้ปกติจะสามารถขับด่างส่วนเกินได้หมด
    - - ผู้ป่วยมความดันโลหิตสูง
      - ผู้ป่วยความดันโลหิตปกติ-Vomitting, Nasogastric tube, Diuretics
    - - หาสาเหตุ และแก้ไขสาเหตุนั้นๆ