Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่8พยาธิสรีรวิทยาความผิดปกติของระบบหัวใจและหลอดเลือด - Coggle Diagram
บทที่8พยาธิสรีรวิทยาความผิดปกติของระบบหัวใจและหลอดเลือด
ภาวะช็อก
ความหมาย
ภาวะที่มีการไหลเวียนโลหิตไปยังเนื้อเยื่อไม่เพียงพอ จึงทำให้เนื้อเยื่อขาดออกซิเจนและสารที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต รวมทั้งมีของเสียที่เกิดจากเมตะบอลิสมของเซลล์คั่งค้างอยู่ จึงเกิดการทำลายเนื้อเยื่อทั่วร่างกาย การทำงานของอวัยวะต่างๆล้มเหลว หากไม่ได้รับการแก้ไขทันท่วงทีผู้ป่วยจะเสียชีวิตในที่สุด
ระยะของช็อค
1.ระยะแรกหรือระยะปรับตัว
ระยะที่จะกระตุ้นกลไกการปรับตัวของร่างกายเพื่อไม่ให้การไหลเวียนเลือดไปยังอวัยวะอื่นๆ
ระยะปรับตัวไม่สำเร็จ
ระยะที่กลไกการปรับตัวของร่างกายนั้นไม่ได้ผล
อวัยวะที่สำคัญ
ไต
สมอง
หัวใจ
ระยะสุดท้ายหรือระยะไม่ฟื้น
ระยะที่มีเซลล์ตายอย่างมากทำให้ผู้ป่วยฟื้นกลับเป็นปกติได้
ชนิดของภาวะช็อค
Hypovolemic หรือ Hematogenic shock
ภาวะช็อคที่เกิดจากการสูญเสียปริมาตรน้ำในหลอดเลือด
Cardiogenic shock
ภาวะที่หัวใจไม่สามรถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อได้เพียงพอ
Lactic acidosis
เกิดจากเนื้อเยื่อขาดออกซิเจน (Hypoxia) จึงทำให้ได้พลังงานจากเมตาโบลิสมแบบไม่ใช้ออกซิเจน
ความผิดปกติของการทำงานของหัวใจ
ความผิดปกติของเยื่อหุ้มหุ้มหัวใจ
Pericardial effusion
ภาวะที่มีสารน้ำหรือเลือดในช่องเยื่อหุ้มหัวใจมากกว่าปกติ
สาเหตุ
การบาดเจ็บบริเวณทรวงอก ภาวะเเทรกซ้อนจากการผ่าตัดหัวใจ
Pericarditis
การอักเสบของเยื่อหุ้มหัวใจ
เกิดจากการติดเชื้อ
Constrictive pericarditis
ผลต่อเนื่องมาจากการอักเสบของเยื่อหุ้มหัวใจ
ความผิดปกติหัวใจในเด็ก
ความผิดปกติของหัวใจในเด็กในที่นี้เน้นความผิดปกติที่เป็นมาเเต่กำเนิด
ภาวะที่มีการเชื่อมต่อของวงจรเลือดดำเเละเลือดเเดง
ความผิดปกติของหลอดเลือดของหัวใจ
อาการเเละอาการเเสดง
Stable angina
เจ็บหน้าอกที่เกิดขึ้นเมื่อมีสิ่งกระตุ้นให้หัวใจต้องทำงานมากขึ้น
Variant angina
เจ็บหน้าอกที่เกิดขึ้นจากกล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดหดตัวเกิดขึ้นขณะพัก
Silent myocardial ischemia
กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดโดยที่ไม่มีอาการเจ็บหน้าอกซึ่งกลไกยังไม่ชัดเจน
ความผิดปกติของลิ้นหัวใจ
พบบ่อย
Aortic
Aortic valve stenosis
Aortic valve regurgitation
Mitral valve
Mitral valve stenosis
สาเหตุที่พบบ่อย
ไข้รูมาติก
Mitral valve regurgitation
ความผิดปกติของการไหลเวียนเลือดดำ
หลอดเลือดดําขอด(Varicose)
Primary varicose vein
การเพิ่มเเรงดันในหลอดเลือดดำอยู่นานๆทำให้การทำงานของลิ้นในหลอดเลือดดำทำหน้าที่ได้ไม่ดี
พบในผู้ที่มีอาชีพยืนนานๆ
Secondary varicose vein
กลุ่มหลอดเลือดดำขอดที่เกิดจากการอุดตันของทางเดินเลือดดำ
การเกิดลิ่ม เลือดในหลอดเลือดดํา
การที่เลือดดําไหลช้าพบในผู้ที่ไม่รู้สึกตัวเป็นอัมพาต
มีโอกาสในการเกิดลิ่ม เลือดได้มากกว่าปกติเช่น ภาวะขาดน้ำ
การบาดเจ็บของหลอดเลือดดํา ภาวะที่เป็นอันตรายที่สุดของ DVT คือการหลุดของลิ่มเลือดจากจุดที่เกิดไปตามกระแสเลือดไปอุดตันในวงจรปอด
Pressure ulcer
ระยะเเละความรุนเเรงของเเผลกดทับ
ระยะที่1ผิวเป็นรอยเเดง
ระยะที่2ผิวหนังชั้นกำพร้าถูกทำลายเเต่ไม่ลึกถึงผิวชั้นหนังเเท้
ระยะที่3มีการทำลายของผิวลึกลงไปชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
ระยะที่4เเผลลึกเเละรุนเเรงมากมีการทำลายของชั้นdeep fascia
ความผิดปกติของการไหลเวียนเลือดแดง
หลอดเลือดเเดงโป่งพอง
หลอดเลือดแดงแข็ง ความดันโลหิตสูง
การบาดเจ็บหรอืการอักเสบของหลอดเลือด
ภาวะความดันโลหิตต่ำ
อาการที่พบบ่อย
วิงเวียนจะเป็นลม
เวียนศรีษะ
หน้ามืด
ภาวะความดันโลหิตสูง
ในปีหนึ่งๆคนไทยเสียชีวิตจากโรคความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดสมองระหว่าง15,000-21,000 คนซึ่งเป็นอันดับ3รองจากมะเร็งและอุบัติเหตุ
1.ความดันโลหิตสูงเกิดที่ไตเป็นกลุ่มสาเหตุที่บ่อยที่สุดในกลุ่มSecondary hypertensionเกิดจากมีการตีบแคบ
ความดันโลหิตสูงที่เกิดจากเนื้องอกของต่อมหมวกไตชั้นในการหลังCatecholamines
3.ความดันโลหิตสูงที่เกิดจากการตีบแคบของหลอดเลือดเอออร์ต้า
4.ความดันโลหิตที่เกิดจากฮอร์โมนAldosterone มากกว่าปกติ
5.ความดันโลหิตสูงที่เกิดจากCorticosteroid มากกว่าปกติ