Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Pathology of Kidney and Urinary bladder system - Coggle Diagram

- - - - ปริมาณ HCO3ในปัสสาวะเพิ่มขึ้น
      - ภาวะ Mg 2+ในเลือดต่ำ
      - การเพิ่มการทำงานของระบบ RAAS
      - ภาวะ Ca2+ในเลือดสูง
  - - - ร่างกาย อ่อนเพลีย
      - เบื่ออาหาร
      - คลื่นไส้
      - ผิดปกติทางสมอง
  - - - ลด RBF หลอดเลือดฝอยส่วนต้นและห่วง Henle’s loop จึงปรับตัวดูดซึม Na2+ กลับมากขึ้น
      - ความบกพร่องของระบบ RAAS
      - ความผิดปกติของหลอดเลือดฝอยในไตรวมบริเวณผิวนอกของไต
      - ภาวะไตวาย
  - - - เพิ่มการสร้างและหลั่ง ADH
      - ลดการดูดซึมโซเดียมและคลอไรด
      - ภาวะไตวาย
  - - - ไตล้มเหลวเฉียบพลัน
      - ไตล้มเหลวเรื้อรัง
  - - - ขาดน้ำ
      - สูญเสียน้ำเช่น อาเจียน แผลไฟไหม้
      - รับประทาน Na2+เกิน
    - - ทำให้เลือดที่ไหลเวียนผ่านไตมีความเข้มข้นสูง
      - อาการขาดน้ำ
- - - - การพบโปรตีนในปัสสาวะชั่วคราว
    - - การพบโปรตีนในปัสสาวะทุกครั้งที่มีการตรวจปัสสาวะ
    - - ระดับโปรตีนในพลาสมามาก
      - โปรตีนผ่านโกลเมอรูลัสเพิ่มขึ้น
      - Pathophysiology
        
        ปริมาณเลือดลดลงเซลล์หลอดเลือดฝอยส่วนต้น ซึ่ง
        ต้องอาศัยออกซิเจนและสารอาหารจากเลือด
  - - - ปัสสาวะมากจากการเพิ่มปริมาณน้ำในร่างกาย
      - ปัสสาวะมากจากการเพิ่มความเข้มข้นของปัสสาวะ
  - - - การอักเสบ
      - มะเร็งในระบบทางเดินปัสสาวะ
      - การตายของ basement membrane ของ glomerulus
      - การบาดเจ็บที่ระบบทางเดินปัสสาวะ
  - - - ไตวาย
      - ดื่มน้ำน้อยมาก
- - - - การอักเสบของท่อปัสสาวะ
      - ท่อปัสสาวะได้รับอันตราย
      - อาจเกิดขึ้นชั่วคราวภายหลังร่วมเพศ
      - การอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ
  - - - การบวมบริเวณท่อปัสสาวะ
      - ต่อมลูกหมากโต
      - กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
      - ระบบประสาทเสียหน้าที่
  - - - อายุ
      - การใช้ยา
      - การเจ็บป่วยหรือภาวะต่างๆ
      - การตั้งครรภ์
      - พฤติกรรมการใช้ชีวิต
  - - - ภาวะที่มีปัสสาวะเล็ดออกมาขณะที่มีการ
        เพิ่มของความดันในช่องท้อ
    - - เกิดขึ้นเนื่องจากกระเพาะ
        ปัสสาวะบีบตัวไวกว่าปกติ
    - - ภาวะที่เกิดจากกล้ามเนื้อเรียบของ
        กระเพาะปัสสาวะสูญเสียความสามารถในการบีบตัว
    - - ภาวะที่เกิดจากความผิดปกติที่นอกเหนือจากสาเหตุที่
        เกิดจากการควบคุมการถ่ายปัสสาวะไม่ได้
    - - ไอ จาม ปัสสาวะเล็ด
      - ปัสสาวะไหลรินออกมาโดยไม่รู้ตัว
      - ปวดปัสสาวะรุนแรงแล้วราดออกมา
      - ปัสสาวะเล็ดราดหลังการถ่ายปัสสาวะสุด
- - - - กลุ่มโรคบางโรค เช่น von Hippel-Lindau,
        Tuberous sclerosis
      - โลหะหนัก เช่น แคดเมียม, ตะกั่ว
      - การสูบบุหรี่
      - รังสีจากสาร Thoratrast
    - - ปัสสาวะเป็นเลือด (56%),
      - ปวด (38%), คลำได้ก้อน (36%), น้ำหนักลด และอ่อนเพลีย (27%),
      - ไข้ (11%)
      - พบโดยบังเอิญจากการตรวจเนื่องจาก
        สาเหตุอื่น ๆ (6%
  - - - ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง
        
        ัปัสสาวะแสบขัด
        
        ปัสสาวะบ่อยโดยไม่มีไข้หนาวสั่น
      - ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนบน
        
        ปวดสีข้าง อาการทาง systemic, leukocytosis
        
        มีไข้
        
        ปวดหลัง
    - - พบเชื้อตั้งแต่102-104 cfu/m
  - - - ปัสสาวะปนเลือด
      - อาการผิดปกติของการถ่ายปัสสาวะ
      - อาการอันเนื่องจากการแพร่กระจายของมะเร็ง
  - - - โรคที่เกิดจากแร่ธาตุแข็งชนิดต่าง ๆ ที่รวมตัวกันเป็นก้อน ก้อนนิ่วมีชนิด
        และขนาดที่แตกต่างกันไป
        
        .โรคนิ่วทางเดินปัสสาวะส่วนบน
        
        โรคนิ่วทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง
      - สาเหตุ
        
        เกิดขึ้นได้จากปริมาณของเกลือ แร่ธาตุ และสสารต่าง ๆ เช่น แคลเซียม กรดออกซาลิก และกรดยูริกในปัสสาวะที่เปลี่ยนแปลงไป
      - อาการ
        
        ปัสสาวะแล้วเจ็บ
        
        ปวดปัสสาวะบ่อย
        
        ปัสสาวะเป็นเลือด หรืออาจมีสีแดง ชมพู และน้ำตาล
        
        ัปัสสาวะน้อย
        
        มีอาการปวดบีบเป็นระยะ และปวดรุนแรงเป็นช่วง ๆ ที่บริเวณดังกล่าว
        
        ปวดบริเวณหลังหรือช่องท้องด้านล่างข้างใดข้างหนึ่ง อาจปวดร้าวลงไปถึงบริเวณขาหนีบ
        
        ปัสสาวะขุ่นหรือมีกลิ่นแรง
        
        หนาวสั่น เป็นไข้
  - - - ความผิดปกติทางพันธุกรรมของกล้ามเนื้อ
      - ความผิดปกติเกี่ยวกับระบบการเผาผลาญอาหาร
      - ภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรงกล้ามเนื้อขาดเลือด หรือตาย
      - การออกกำลังกายที่ต้องออกแรงมาก หรือการออกกำลังกายต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอย่างวิ่งมาราธอน
      - การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือการติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ เริม และเอชไอวี เป็นต้น
      - การได้รับสารพิษ เช่น พิษงูกัด เป็นต้น
      - การใช้ยาบางชนิดอย่างยากลุ่ม Statin
    - - ปวดกล้ามเนื้อบริเวณหัวไหล่ หลังส่วนล่าง หรือต้นขา
      - ปัสสาวะเป็นสีน้ าตาลแดงหรือสีเหมือนน้ำโคล่า
      - กล้ามเนื้ออ่อนแรง
      - กระหายน้ำปัสสาวะน้อย
      - หัวใจเต้นเร็ว
      - ชัก หมดสติ
    - - รักษาด้วยการผ่าตัด
        
        ความตึงหรือแรงกดที่ทำให้เกิดภาวะขาดการไหลเวียนของเลือด
        ในกล้ามเนื้อ
      - Intervention
        
        การฟอกไต
      - รักษาด้วยยา
        
        ยาไบคาร์บอเนตหรือยาขับปัสสาวะบางชนิดเพื่อช่วยให้ไตทำงานเป็น
        ปกติ