Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 14 ทักษะการสื่อสารสำหรับครู - Coggle Diagram
บทที่ 14 ทักษะการสื่อสารสำหรับครู
วัตถุประสงค์
เข้าใจทักษะการสื่อสารที่จำเป็นกับผู้เรียน ผู้ปกครอง และเพื่อนครู
ใช้ทักษะการสื่อสารกับผู้เรียนที่ประสบปัญหา
ตระหนักถึงความสำคัญของหลักการ ประเด็นและทักษะการสื่อสารที่ใช้ในการสอนและให้คำปรึกษาแก่ผู้เรียน
มาตรการการป้องกันพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในขณะการจัดการเรียนการสอน มาตรการป้องกันไม่สามารถป้องกันพฤติกรรมทุกกรณีได้ และมาตรการที่จะหลีกเลี่ยงวิธีการรุนแรงจึงจะไม่เพียงพอสำหรับพฤติกรรมเรื้อรัง
การทำความเข้าใจในพฤติกรรมที่คาดหวังแต่ผู้เรียนชัดเจนหรือไม่ หรือว่าได้ดำเนินการ จัดการกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมทันทีครูได้ดำเนินการทุกอย่างมาแล้วแต่ผู้เรียน 2 คน ยังมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมสำหรับการแก้ปัญหาของครู
ครูทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ต่อปัญหาที่เกิดขึ้นปล่อยไว้ปัญหาก็จะหมดไปเอง
ส่งผู้เรียนไปพบครูใหญ่
เชิญผู้ปกครองมาพบ และหาทางช่วยเหลือร่วมกัน
หาวิธีลงโทษ
วิธีการดังกล่าวมีข้อดี ข้อเสีย
ไม่ต้องใช้กลวิธีมาก และอาจจะได้ผลถ้าผู้เรียนมีความสนใจครูเป็นพื้นฐานแต่การปล่อยปละละเลยอาจจะทำให้ปัญหาระยะสั้นแต่คงช่วยแก้ปัญหาระยะยาวในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
จะไม่เสียเวลาสอนของครูและเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นชั่วคราวแต่คงไม่ช่วยแก้ปัญหาระยะยาวในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้เรียนในห้องเรียนการส่งผู้เรียนไปห้องครูใหญ่ควรเป็นเรื่องที่ร้ายแรง
การทำโทษโดยวิธีต่างๆ เช่นการกักตัวการงดหรือตัดสิทธิบางอย่างก็ย่อมทำได้แต่การลงโทษจะก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ดีต่อผู้เรียน ผู้เรียนจะคดว่าผู้ใหญ่ครูโหดร้ายไ่เป็นมิตรและผู้เรียนจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบเพื่อต่อต้าน
วิธีการแต่ละวิธีมีข้อจำกัดครูต้องอาศัยวิธีการอื่นๆเพื่อแก้ปัญหาแต่ไม่ได้หมายความว่าวิธีที่กล่าวมาทั้ง 3 จะใช้ไม่ได้ ไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยวิธีง่ายๆ ได้ เพื่อเป็นการช่วยให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของตนเอง ทักษะการสื่อความหมายของครูต่อผู้เรียนจึงมีความสำคัญที่จะช่วยผู้เรียนที่กำลังประสบปัญหา ครูต้องเข้าใจปัญหาของผู้เรียนจากภายนอกและภายในห้องเรียน
บทนี่เน้นการใช้ทักษะการสื่อสารกับยุทธวิธีที่จะสื่อความหมายชัดเจนมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ความคิด สถานการณ์ที่ก่อให้เกิดปัญหาและเน้นการรับข้อมูลต่างๆ ครูต้องเป็นผู้ฟังที่ดี พยายามเข้าใจผู้เรียนเกี่ยวกับความรู้สึกและความกังวลห่วงใย การที่จะใช้การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ มี 3 ประการ
การแสดงความเห็นอกเห็นใจ คือ การรับฟังและเข้าใจผู้เรียนโดยรักษาความสัมพันธ์ที่ดีการพูดคุยปรึกษาหารือกัน
การแสดงความเข้มแข็ง คือ การสนับสนุนให้ปรับปรุง/พัฒนาให้ดีขึ้นโดยครูชี้แจงในพฤติกรรมที่คาดหวังให้ชัดเจน พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต้องได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง
การแก้ปัญหา มีหลายขั้นตอนเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อตกลงอันเป็นที่พอใจด้วยกัน มีความจำเป็นต้องางแผนกับผู้เรียน เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง
ความเข้มแข็ง
เป็นความสามารถที่ยืนยันในสิทธิตามกฎหมายที่คนอื่นจะละเมิดล่วงล้ำไม่ได้ส่วนคำว่าสร้างสรรค์ หมายถึงลักษณะที่สร้างความเป็นมิตรของครูต่อผู้เรียน
บางคนอาจจะฝึกฝนได้โดยเฉพาะในเรื่องการเรียนการสอนมีทักษะในลักษณะการวางตัวได้ดีในสถานการณ์ก็สามารถนำไปใช้ในสถานการณ์อื่นคนที่ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง เช่น รู้สึกประหม่าในการเป็นผู้นำกลุ่มประหม่าจะเป็นผู้นำสนทนา ไม่กล้าสบตา ครูประเภทดังกล่าวต้องฝึกฝนตนเอง สร้างความเชื่อมั่นในตนเอง
องค์ประกอบของลักษณะความสามารถและความเชื่อมั่นในตนเอง ได้แก่ ความไม่ก้าวร้าว ไม่โต้แย้งแบบหัวชนฝา รู้จักยืดหยุ่นในคำพูดที่ชัดเจนในประเด็นปัญหามุ่งประเด็นที่ชัดเจน
ความเข้มแข็งจะเป็นแนวทางควบคุมพฤติกรรมก้าวร้าว ของผู้เรียนที่มีต่อผู้เรียนที่มีลักษณะยอมจำนน ครูต้องชี้แจงผู้เรียนให้ชัดเจนครูเอาจริงเอาจังกับการสอนและการเคารพสิทธิของคนอื่น
การชี้ให้เห็นปัญหา
พฤติกรรมของผู้เรียนที่ไม่เหมาะสมในห้องเรียนจะก่อให้เกิดปัญหากับครูในการดำเนินการเรียนการสอน เช่น ทำให้เกิดความล่าช้า ขลุกขลักไม่ราบรื่น ดึงความสนใจของเพื่อนๆไปจากบทเรียนช่วยให้ผู้เรียนเปลี่ยนพฤติกรรมได้ ในการชี้ปัญหาให้ผู้เรียนทราบ
ชี้พฤติกรรมของผู้เรียนที่กำลังเกิดขึ้น
บอกผลกระทบของพฤติกรรม เช่นการคุยกันและการส่งข้อความกันในระหว่างที่มีการอภิปรายรบกวน
การเน้นพฤติกรรมที่เหมาะสมและผลกระทบสามารถที่จะลดข้อโต้แย้งหรือการป้องกันตัวของผู้เรียนได้และช่วยให้ผู้เรียนปรับปรุงพฤติกรรมให้ถูกต้อง
ข้อสังเกต คือ คำกล่าวตักเตือนของครูครูต้องไม่ประณามหรือดุว่าให้ผู้เรียนเสียหาย
ภาษาท่าทาง
ดูตาผู้เรียน เมื่อผู้เรียนชี้ให้เห็นปัญหาแต่ไม่จ้องหน้าแบบดุ หรือโกรธ เกลียด เพราะผู้เรียนเห็นว่าครูโหดร้าย จ้องเป็นระยะ
การเข้าใกล้ผู้เรียนแต่ไม่ใกล้จนเกินไปจนผู้เรียนกลัว ควรหันหน้าไปทางผู้เรียน
ต้องแสดงสีหน้าลักษณะใบหน้าให้เหมาะสมพร้อมน้ำเสียงที่เหมาะสม
การให้ได้มาซึ่งพฤติกรรมที่เหมาะสม
ครูต้องยืนกรานให้ผู้เรียนมีพฤติกรรมที่เหมาะสมตามที่ต้องการผู้เรียนอาจจะบ่ายเบี่ยงในรูปแบบหรือลักษณะต่างๆ เช่น ปฏิเสธที่จะทำ โต้แย้ง แก้ตัว โทษคนอื่น
ความเห็นอกเห็นใจ
ทักษะการสื่อสารที่สำคัญ คือ ความสามารถในการรับฟังผู้เรียนด้วยความเห็นใจเป็นทักษะที่แสดงให้เห็นว่า ครุตระหนัก สนใจ ยอมรับฟัง และตั้งใจที่จะทำความเข้าใจ ระหว่างครูกับผุ้เรียนทำให้เข้าใจปัญหาได้ชัดเจนขึ้น
การรับฟังด้วยความเห็นอกเห็นใจจะมีส่วนช่วยส่งเสริมลักษณะความเข้มแข็งของครูทำให้ทราบความคิดของผู้เรียนการใช้ทักษะการรับฟังอย่างเห็นอกเห็นใจ ไม่ได้หมายความว่าผู้เรียนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเป็นการกระทำที่ถูกต้อง โดยไม่คำนึงถึงคนอื่น
ครูควรมีพฤติกรรมต่างๆต่อไปนี้เพื่อการแก้ปัญหา
ครูหลีกเลี่ยงการโต้แย้งกับผู้เรียนและยอมรับปัญหาของผู้เรียน ควรเป็นผู้ฟัง ผู้ช่วยเหลือ
การรับฟังอย่างเห็นอกเห็นใจช่วยให้ครูจัดการกับผู้เรียนที่มีอารมณ์รุนแรงโดยไม่ต้องแก้ปัญหาของครูเอง
ทักษะการฟัง
การยอมรับการการแสดงออกทางอารมณ์ หรือความคิดของผู้เรียนอย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าเรารับฟังบางครั้งแสดงอาการสนใจโดยการพยักหน้าจ้องดูตาและภาษาทางอื่นๆที่ช่วยให้การสนทนาดำเนินต่อไปได้
ทักษะกระบวนการ
อาศัยความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลหรือข้อความที่ครูได้รับจากผู้เรียน
การแก้ปัญหา
เป็นกระบวนการที่ใช้ในการจัดการและแก้ไขความขัดแย้ง ที่เกิดขึ้นระหว่างครูกับผู้เรียนครูต้องหาแนวทางร่วมกับผู้เรียนเพื่อลดปัญหาหรือแก้ปัญหา คือ
หาแนวทางการแก้ปัญหา
เลือกแนวทางใดๆในบางสถานการณ์
กำหนดปัญหา
การแก้ปัญหาจะต้องหาสาเหตุของปัญหาทักษะของความเข้มแข็งและทักษะการแสดงความเห็นอกเห็นใจ จะช่วยให้ความเห็นพ้องต้องกันในการการแก้ปัญหาดีขึ้น การพูดเพื่อแก้ปัญหาจะใช้เฉพาะกรณีที่เกิดขึ้นเรื้อรังที่ไม่สามารถใช้วิธีง่ายๆบางอย่างต้องแก้ไขทันที
ขั้นตอนในการพูดคุยระหว่างครู -ผู้เรียน เพื่อแก้ปัญหา
ขั้นที่ 1 ชี้ปัญหา ครูเริ่มต้นการพูดคุยโดยบอกวัตถุประสงค์ให้ผู้เรียนได้พูดคุยแสดงความคิดเห็นเพื่อครูจะได้รับข้อมูล
ขั้นที่ 2 การเลือกแนวทางการแก้ปัญหา ครูเปิดโอกาศให้ผู้เรียนเสนอแนะเเนวทางในการแก้ปัญหา ถ้าครูเป็นผู้เสนอแนวทางครูต้องตรวจสอบปฏิกิริยาของผู้เรียนว่าผู้เรียนเข้าใจแค่ไหนยอมรับแค่ไหน
ขั้นที่ 3 การตกลงในข้อผูกมัด ครูให้ผู้เรียนยอมรับแนวทางแก้ปัญหา และปฏิบัติในระยะเวลาที่กำหนดผู้เรียนจะสัญญาด้วยวาจาหรือเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรก็ได้