Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 14 ทักษะการสื่อสารสําหรับครู - Coggle Diagram
บทที่ 14 ทักษะการสื่อสารสําหรับครู
วัตถุประสงค์
• ตระหนักถึงความสําคัญของหลักการ ประเด็นและทักษะการสื่อสารที่ใช้ในการสอนและให้คําปรึกษาแก่ผู้เรียน
• เข้าใจทักษะการสื่อสารที่จําเป็นกับผู้เรียน ผู้ปกครอง และเพื่อนครู
• ใช้ทักษะการสื่อสารกับผู้เรียนที่ประสบปัญหา
ความเห็นอกเห็นใจ
(Empathic Responding)
ครูหลีกเลี่ยงการโต้แย้งกับผู้เรียนและยอมรับปัญหาของผู้เรียน บทบาทของครูควรเป็นผู้ฟัง ผู้ช่วย เหลือ แทนที่จะเป็นฝ่ายตรงกันข้าม
การรับฟังอย่างเห็นอกเห็นใจมีประโยชน์มาก ช่วยให้ครูจัดการกับผู้เรียนที่มีอารมณ์รุนแรง โดยไม่ ต้องแก้ปัญหาของผู้เรียนด้วยตัวครูเอง การรับฟังอย่างเห็นอกเห็นใจมีองค์ประกอบ 2 ทักษะ คือ ทักษะการฟัง (Listening Skill) และทักษะกระบวนการ (Processing Skill)
บทนํา
ทักษะการสื่อสารของครูต่อผู้เรียนมีความสําคัญเพราะสามารถช่วยผู้เรียนที่กําลังมีปัญหา ครูต้อง เข้าใจปัญหาของผู้เรียนว่ามีสาเหตุมาจากภายนอกหรือภายในห้องเรียน บางครั้งครูสามารถแก้ปัญหาของ ผู้เรียนโดยการตั้งใจฟังสิ่งต่าง ๆ แล้วให้กําลังใจชี้แนวทางสําหรับการแก้ปัญหาที่ผู้เรียนสามารถเลือกหรือปรับ ใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ยุทธศาสตร์การสื่อสาร ครูควรเลือกยุทธศาสตร์การสื่อสารมาใช้ในการแก้ปัญหาที่ ไม่สามรถแก้ปัญหาด้วยวิธีง่ายได้ เพื่อเป็นการช่วยให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของตนเอง
ความเข้มแข็ง (CONSTRUCTIVE ASSERTIVENESS)
ความเข้มแข็งเป็นความสามารถที่จะยืนยันในสิทธิตามกฎหมายที่คนอื่นจะละเมิดหรือล่วงล้ําไม่ได้ ส่วนคําว่าสร้างสรรค์ (Constructive) หมายถึงลักษณะที่สร้างความเป็นมิตรของครูต่อผู้เรียน Assertiveness
ความเข้มแข็งจะเป็นแนวทางควบคุมพฤติกรรมก้าวร้าว (Aggressive) ของผู้เรียนที่มีต่อผู้เรียนที่มี ลักษณะยอมจํานน ครูต้องชี้แจงผู้เรียนให้ชัดเจนครูเอาจริงเอาจังกับการสอนและการเคารพสิทธิของคนอื่น
การชี้ให้เห็นปัญหา (Stating the Problem or Concern)
(1) ชี้พฤติกรรมของผู้เรียนที่กําลังเกิดขึ้น
(2) บอกผลกระทบของพฤติกรรมดังกล่าว
ภาษาท่าทาง (Body Language) การแสดงความเข้มแข็ง จริงจังของครูต่อผู้เรียนด้วยท่าทางมี 3 ลักษณะ คือ
3) ต้องแสดงสีหน้าลักษณะในหน้าให้เหมาะสมพร้อมน้ําเสียงที่เหมาะสม คือ ไม่ควรยิมเมื่อพูด ตักเตือน เป็นต้น
1) ดูตาผู้เรียน (Eye Contact) เมื่อผู้เรียนชี้ให้เห็นปัญหาแต่ไม่จ้องหน้าแบบตุ หรือโกรธ หรือ เกลียด เพราะผู้เรียนจะเห็นว่าครูโหดร้าย และไม่ควรจ้องตานานเกินไป ถ้าจําเป็นก็ควรจ้องตาเป็นระยะ ๆ
2) การเข้าไปใกล้ผู้เรียนแต่ไม่ใกล้จนเกินไปจนผู้เรียนกลัว ควรหันหน้าไปทางผู้เรียน ยึดตัวตรงให้ ผู้เรียนเห็นว่าผู้สอนเอาจริง
การให้ได้มาซึ่งพฤติกรรมที่เหมาะสม (Obtaining Appropriate Behavior)
การที่จะใช้การสื่อสารที่มี ประสิทธิภาพ จําเป็นต้องมีทักษะที่จําเป็น 3 ประการ คือ
การแสดงความเข้มแข็ง (Constructive Assertiveness)
คือ การสนับสนุนให้ปรับปรุง/พัฒนาให้ ดีขึ้นโดยครูชี้แจงในพฤติกรรมที่คาดหวังให้ชัดเจน พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต้องได้รับการแก้ไขให้ถูกต้องด้วย วิธีใด ๆ
การแก้ปัญหา (Problem Solving)
การแก้ปัญหามีหลายขั้นตอนเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อตกลงอันเป็นที่ พอใจด้วยกัน มีความจําเป็นต้องวางแผนกับผู้เรียน เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง
การแสดงความเห็นอกเห็นใจ (Empathic Responding)
คือการรับฟังและเข้าใจผู้เรียนโดยรักษา ความสัมพันธ์ที่ดีมีการพูดคุยปรึกษาหารือกัน
ทักษะการฟัง (Listening Skill)
ทักษะการฟัง คือ การยอมรับการแสดงออกทางอารมณ์ หรือความคิดของผู้เรียนอย่างน้อยก็แสดงให้ เห็นว่าเรารับฟังโดนเพียงแต่ตั้งใจฟัง บางครั้งเพียงแต่แสดงอาการสนใจก็จะช่วยให้ผู้เรียนพูดต่อไปได้ หรือมี การพยักหน้าจ้องดูตาและภาษาท่าทางอื่น ๆ ที่จะช่วยให้การสนทนาดําเนินต่อไปได้ หรืออาจจะใช้เสียง เช่น อ่อ อย่างนั้นหรือ เล่าต่อไปซิ เป็นอย่างไรต่อไป น่าสนใจ หรืออื่นๆ ต่อผู้เรียนที่แสดงอาการ หรือ ความรู้สึกปฏิเสธ หรือหมดกําลังใจ หรือต้องการความมั่นใจโดยครูอาจสัมผัสหรือตบเบา ๆ ที่ไหล่หรือกอดเบา ๆ มากไปกว่านี้ ครูอาจจะบอกว่าพูดต่อไป มีอะไรอีก ครูสนใจฟังความคิดของผู้เรียน เธอแสดงความคิดเห็น อะไรบ้าง เธอคิดว่าอย่างไร เธอฟังครูและ ครูก็อยากฟังความคิดเธอ
การแก้ปัญหา (Problem Solving)
1) กําหนดปัญหา
2) หาแนวทางการแก้ปัญหา
3) แล้วเลือกแนวทางใด ๆ ในบางสถานการณ์
ขั้นตอนในการพูดคุยระหว่าง ครู ผู้เรียน เพื่อแก้ปัญหา มีดังต่อไปนี้
ขั้นที่ 1 ชี้ปัญหา (Identifying the Problem)
ขั้นที่ 2 การเลือกแนวทางการแก้ปัญหา (Selecting a Solution)
ขั้นที่ 3 การตกลงในข้อผูกมัด (Obtaining a Cornrnitrment)
กิจกรรมเสนอแนะ
กิจกรรมที่1: การพัฒนาทักษะความเข้มแข็ง (Developing Assertiveness Skilt)
กิจกรรมที่ 2: Producing Empathic Responses
กิจกรรมที่ 3: การฝึกการแก้ปัญหา (Problem Exercises)
กิจกรรมที่ 4: การวิเคราะห์บทสนทนา (Dialogue Analysis)