Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
วิเคราะห์กรณีศึกษา, image - Coggle Diagram
วิเคราะห์กรณีศึกษา
กรณีศึกษา
-
-
ประวัติการเจ็บป่วย
-
1 วันก่อนมา ผู้ป่วยมีอาการแน่นหน้าอกขณะออกแรงเดิน หรือ หลังรับประทานอาหารเที่ยง มีอาการเวียนศีรษะ ตาลาย วูบ 3 ครั้ง ไม่เจ็บหน้าอก
-
At OPD 10 นาทีขณะนั่งรอตรวจ ผู้ป่วยรู้สึกปวดเกร็งหน้าท้อง รู้สึกวูบ มีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด อาการแน่นหน้าอก ไม่มีอาการใจสั่น ไม่ดีขึ้นจึงนำส่งER
-
ประวัติเจ็บป่วยในอดีต
•3 ปีก่อน ผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจขาดเลือด
ได้รับการรักษาด้วยการทำบอลลูน และรับยาต่อเนื่องที่โรงพยาบาลมหาราช
-
-
-
โรคกรดไหลย้อน GERD
(Gastroesophageal Reflux Disease)
ความหมายโรคกรดไหลย้อน หมายถึง ภาวะที่มีน้ำย่อยในกระเพาะอาหารซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด ไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร ส่งผลให้มีอาการระคายบริเวณลำคอ และแสบอกหรือจุกเสียดบริเวณใต้ลิ้นปี่ รวมทั้งมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อร่วมด้วย
สาเหตุ
เกิดจากสารคัดหลั่งจากกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กส่วนต้นซึ่งอาจเป็นกรด กรดอ่อน ด่าง หรือแก๊ส ไหลย้อนจากกระเพาะอาหารเข้ามาในหลอดอาหาร แล้วทำให้เกิดอาการ เช่น อาการแสบร้อนหน้าอกหรือเรอเปรี้ยว (Heartburn) โดยอาจทำให้มีการอักเสบของเยื่อบุหลอดอาหาร ( reflux esophagitis) หรือไม่มีการอักเสบของหลอดอาหารก็ได้
-
ความผิดปกติของหูรูดส่วนปลายหลอดอาหารที่ทำหน้าที่ป้องกันกรดไหลย้อนจากกระเพาะอาหารมีความดันของหูรูดต่ำหรือเปิดบ่อยกว่าในคนปกติ ความผิดปกติเหล่านี้อาจเกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และยาบางชนิด เช่น ยารักษาโรคหอบหืดบางตัว
ความผิดปกติในการบีบตัวของหลอดอาหาร ทำให้อาหารที่รับประทานลงช้าหรืออาหารที่ไหลย้อนขึ้นมาจากกระเพาะอาหารค้างอยู่ในหลอดอาหารนานกว่าปกติ
ความผิดปกติของการบีบตัวของกระเพาะอาหาร ทำให้อาหารค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนานกว่าปกติ ทำให้เพิ่มโอกาสการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะอาหารสู่หลอดอาหารมากขึ้น อาหารประเภทไขมันสูงและช็อกโกแลตจะทำให้กระเพาะอาหารบีบตัวลดลง
โรคกรดไหลย้อนนั้นเรียกได้ว่าเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้อง อย่างการรับประทานอาหารเสร็จแล้วนอนทันที การทานอาหารมันๆ หรือการทานเยอะเกินไป จนทำให้เกิดความผิดปกติของหูรูดส่วนปลายหลอดอาหาร หรือความผิดปกติของการบีบตัวของกระเพาะอาหาร กรดจากกระเพาะอาหารจึงไหลย้อนขึ้นมาสู่หลอดอาหารได้มากขึ้น
อาการและอาการแสดง
-
บางรายพบว่ามีภาวะเรอเปรี้ยว คือมีกรดซึ่งเป็นน้ำรสเปรี้ยวหรือน้ำดีซึ่งมีรสขมไหลย้อนขึ้นมาในปากหรือคอ หรือหายใจมีกลิ่น
บางรายอาจพบอาการผิดปกติของโรคหู คอ จมูก เช่น ไอเรื้อรัง เสียงแหบเรื้อรัง หรืออาการหอบหืดเป็นมากขึ้น เป็นต้นเนื่องจากมีการไหลย้อนของน้ำย่อยไประคายที่คอหอย กล่องเสียง และหลอดลม
การวินิจฉัย
ประวัติอาการแสบร้อนบริเวณยอดอก การใช้ยาประเภทแก้ปวดท้องหรือท้องเดินบ่อยๆ เพราะพวกนี้ทำให้หูรูดของหลอดอาหารหย่อนยาน
-
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยการทำ Barium Esophagography ให้กลืนสารทึบรังสีลงไปในกระเพาะ แล้วถ่ายภาพขณะที่สารทึบเคลือบหลอดอาหารและสารอยู่ในกระเพาะอาหาร
การรักษา
การรักษาด้วยยา
ยาลดกรดในกลุ่มยับยั้งโปรตอนปั๊ม (Proton pump inhibitors) เช่น โอเมพราโซล (omeprazole)ขนาด 20 มิลลิกรัม วันละ 1-2 ครั้ง ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงมากในการป้องกันอาการของโรคกรดไหลย้อน
-
บางกรณีอาจใช้ยาเพิ่มการเคลื่อนไหวของทางเดินอาหารร่วมด้วย เช่น เมโทโคลพราไมด์ (metoclo-pramide) ขนาด 10 มิลลิกรัม 1 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง ซึ่งยานี้ควรรับประทานก่อนอาหารประมาณ 30 นาที
-
การรักษาโดยการผ่าตัดในรายที่ใช้ยาไม่ได้ผลหรือมีภาวะแทรกซ้อน อาจจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดซ่อมแซมหูรูด
-
-
-