Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

urinary system - Coggle Diagram

- - - - • มีการบาดเจ็บที่ระบบทางเดินปัสสาวะ
        • การอักเสบ
      - • มะเร็งในระบบทางเดินปัสสาวะ
      - • การตายของ basement membrane ของ glomerulus
        ทำให้ RBC ถูกกรองผ่านมาทาง ปัสสาวะได้
  - - - โปรตีนผ่านโกลเมอรูลัสเพิ่มขึ้น
      - ระดับโปรตีนในพลาสมามาก
        ลดการดูดกลับที่หลอดเลือดฝอยไต
  - - - ปัสสาวะมากจากการเพิ่มปริมาณน้าในร่างกาย
        •การผลิตและหลั่ง ADH ลดลง เช่น เบาจืด
        •หลอดเลือดฝอยไตไม่ตอบสนองต่อADH เช่นไตวายเรื้อรัง
      - ปัสสาวะมากจากการเพิ่มความเข้มข้นของปัสสาวะ เช่น น้าตาล ยูเรีย
- - - - โรคนิ่วทางเดินปัสสาวะส่วนบน คือ นิ่วที่พบบริเวณ กลีบกรวยไต กรวบไต ท่อไต
      - โรคนิ่วทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง คือ นิ่วที่พบบริเวณ กระเพาะปัสสาวะ บริเวณท่อปัสสาวะ
    - - แคลเซียม ก้อนนิ่วจากแคลเซียมเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดงเป็นสารที่มักพบในอาหารและเครื่องดื่มที่นิยมดื่มกัน เช่น สตรอว์เบอร์รี่ ส้ม ผักใบเขียว ถั่ว เต้าหู้ น้ นมเต้าหู้ โซดา ชา เบียร์ กาแฟ
      - กรดยูริก พบประมาณ 10% ก้อนนิ่วชนิดที่พบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง หรือพบในผู้ป่วยโรคเกาท์ โดยก้อนนิ่วจากกรดยูริกนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อปัสสาวะเป็นกรดมากเกิน
      - ซีสทีน พบประมาณ 1% นิ่วชนิดนี้พบได้ไม่บ่อย เกิดขึ้นได้ทั้งกับเพศชายและเพศหญิงที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมของซีสทีน
      - สตรูไวท์ พบประมาณ 14% เป็นนิ่วที่ส่วนใหญ่พบในผู้หญิงที่มีการติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะะอาจมีขนาดใหญ่จนไปขัดขวางทำให้การขับปัสสาวะถูกปิดกั้น (Urinary Obstruction)
    - - ปวดบริเวณหลังหรือช่องท้องด้านล่างข้างใดข้างหนึ่ง อาจปวดร้าวลงไปถึงบริเวณขาหนีบ มีอาการปวดบีบเป็นระยะ และปวดรุนแรงเป็นช่วง ๆ ที่บริเวณดังกล่าว
      - ปัสสาวะเป็นเลือด หรืออาจมีสีแดง ชมพู และน้ำตาล ปัสสาวะแล้วเจ็บ ปวดปัสสาวะบ่อย น้อย ขุ่นมีกลิ่นแรง คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้
  - - - ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง ได้แก่ ปัสสาวะแสบขัดอาการปวดหลังอาการเหล่านี้แสดงถึง cystitis, urethritis หรือ prostatitis
      - ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนบน มีไข้ ปวดหลังสดงถึง acute pyelonephritis intrarenal abscess หรือperinephric abscess
    - - ทางกระแสเลือด ทางน้ำเหลือง และแพร่กระจายโดยตรง
    - - Asymtomatic มีไข้ ปวดหลังใต้กระดูกซี่โครง Dysuria N/V
  - - - การสูบบุหรี่ , กลุ่มโรคบางโรค เช่น von Hippel-Lindau,
        Tuberous sclerosis ,โลหะหนัก เช่น แคดเมียม, ตะกั่ว ,รังสีจากสาร Thoratrast
    - - ปัสสาวะเป็นเลือด (56%), วด (38%), คล าได้ก้อน (36%),
        น้ าหนักลด และอ่อนเพลีย (27%) ,ไข้ (11%),สาเหตุอิ่นๆ
  - - - ปัสสาวะปนเลือด , ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่ได้ หรือปัสสาวะแสบขัดจากการแพร่กระจายของมะเร็ง ได้แก่ ปวดกระดูกเนื่องจากการกระจายไปทีกระดูก ปวดเอวเนื่องจากการอุดตันของท่อไต
  - - - ความผิดปกติทางพันธุกรรมของกล้ามเนื้อ ,ความผิดปกติเกี่ยวกับระบบการเผาผลาญอาหาร ,ภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรงกล้ามเนื้อขาดเลือด ,การติดเชื้อแบคทีเรีย ,การได้รับสารพิษ,การใช้ยาบางชนิดอย่างยากลุ่ม Statin
    - - กล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่บริเวณแขนขา,ปวดกล้ามเนื้อบริเวณหัวไหล่ หลังส่วนล่าง,ปัสสาวะเป็นสีน้ำตาลแดงหรือสีเหมือนน้ าโคล่า ,กระหายน้ำปัสสาวะน้อย หัวใจเต้นเร็ว
- - - - พฤติกรรมการใช้ชีวิต , การตั้งครรภ์
      - อายุ , การใช้ยา , การเจ็บป่วยภาวะต่างๆ
  - - - การอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ
        การอกัเสบของท่อปัสสาวะ
      - ท่อปัสสาวะได้รับอันตราย
        อาจเกิดขึ้นชั่วคราวภายหลังร่วมเพศ
  - - - ภาวะที่มีปัสสาวะเล็ดออกมาขณะที่มีการเพิ่มของความดันในช่องท้อง เช่น การเบ่ง, การจาม, การไอ, การหัวเราะ ภาวะนี้เป็นภาวะปัสสาวะเล็ดชนิดที่พบได้มากที่สุดในผู้หญิงอายุน้อย และอุบัติการณ์เพิ่มสูงขึ้นในผู้หญิงช่วงอายุ 45-49 ป
    - - เป็นภาวะที่เมื่อผู้สูงอายุเกิดอาการปวดปัสสาวะอย่าง
        ทันทีทันใด จะมีปัสสาวะราดออก มาทันทีโดยไม่สามารถไปเข้าห้องน้ำได้ทันเกิด ขึ้นเนื่องจากกระเพาะ
        ปัสสาวะบีบตัวไวกว่าปกต
      - สาเหตุ
        
        กมีความผิดปกติของระบบประสาท เช่น โรคเบาหวาน โรคพาร์กินสัน ซึ่งมักพบกมีความผิดปกติของระบบประสาท เช่น โรคเบาหวาน โรคพาร์กินสัน
    - - ปัสสาวะเล็ดตลอดเวลาเนื่องจากมีปัสสาวะค้างในกระเพาะปัสสาวะ (overflow incontinece) เช่น ในผู้ป่วยเบาหวานที่มีพยาธิสภาพของเส้นประสาท ที่มาเลี้ยงกระเพาะปัสสาวะรือเกิดจากการอุดกั้นทางเดิน ปัสสาวะส่วนล่าง (bladder outlet obstruction) เช่น ต่อมลูกหมากโต
      - อาการ และอาการแสดง
        
        ปวดปัสสาวะรุนแรงแล้วราดออกมา,ไอ จาม ปัสสาวะเล็ด
        
        ปัสสาวะไหลรินออกมาโดยไม่รู้ตัว
        ปัสสาวะเล็ดราดหลังการถ่ายปัสสาวะสุด
    - - ที่เกิดจากความผิดปกติที่นอกเหนือจากสาเหตุที่เกิดจากการควบคุมการถ่ายปัสสาวะไม่ได้ แต่เกิดจากมีปัญหาทางสมองได้แก่ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสติปัญญา ที่ไม่สามารถไปเข้าห้องน้ำเองได้