Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ทารกแรกเกิดเพศชาย 2,350 กรัม, image, image, image, image, image, image,…

- - - - การเสียความร้อนไปโดยทารกสัมผัสกับวัตถุหรือที่พื้นผิวเย็น
    - - การเสียความร้อนไปทางอากาศที่อยู่รอบตัว
    - - การเสียความร้อนไปให้วัตถุเย็นโดยทารกไม่สัมผัสวัตถุ
        
        INCASE
        
        ทารกน้ำหนักตัว2,350กรัม
        
        อุณหภูมิแรกเกิด36.2
        
        นอนในradiant warmer
        
        คำนวณ body surface area ได้ เท่ากับ 5.598 ตารางเมตร
        
        ตัวยาว48 cm.
    - - การเสียความร้อนทางผิวหนังไปให้ผ้าเปียกหรือระยะแรกเกิดที่มีน้ำคร่ำเปียกตัวอยู่
  - - - ทารกรายนี้มีภาวะอุณหภูุมิต่ำ
        
        อาการแสดง
        
        อุณหภูมิแรกเกิด 36.2 องศาเซลเซียส
        
        ปลายมือปลายเท้าเย็น
        
        ตัวลาย
        
        การพยาบาล
        
        1.ควรเช็คตัวให้แห้ง ห่อตัวและห่มผ้าไว้
        
        2.จัดให้ทารกอยู่ในตู้อบที่มีอุณหภูมิเหมาะสม เพื่อให้อุณหภูมิเข้าสู่ร่างกายระดับปกติ
        
        ให้อยู่ในตู้อบ (incubator) หรือการใช้เครื่องให้รังสีความอบอ่น (radiant warmer) เป็นการป้องกันการสูญเสียความร้อนให้ทารกได้ดีที่สุดใน 30 นาทีแรกเกด และเปิดเครื่อง radiant warmer ก่อนการคลอดอย่างน้อย 10 นาที โดยอุณภูมิใต้เครื่อง radiant warmer ในตำแหน่งที่วางทารกอยู่ระหว่าง 32-33.8 องศาเซลเซียส
        
        หลีกเลี่ยงภาวะเลี่ยงที่อาจทำให้ทารกสูญเสียความร้อน เช่น หลีกเลี่ยงการวางทารกไว้บนที่นอนที่เย็น หรือที่ๆมีลมพัดลมผ่าน หรือวางทารกไว้ใกล้ฝาผนังห้องที่เย็น
        
        ดูแลให้การพยาบาลอย่างนุ่นวล หลักเลี่ยงการเปิดตู้อบโดยไม่จำเป็น รบกวนทารกให้น้อยที่สุดเพื่อให้ทารกได้พักผ่อน และใช้พลังงานน้อยลง
        
        5.อุปกรณ์ที่ต้องนำมาใช้สำหรับทารกควรทำให้อุ่นก่อนเสมอ เช่น ผ้าห่อตัว ผ้าอ้อม เสื้อผ้า ผ้ายาง
        
        ดูแลให้ทารกตัวแห้งอยู่เสมอ เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ทารกเมื่อเปียกชื้น เช็คมือให้แห้งก่อนสัมผัสทารก และควรสัมผัสอย่างนุ่มนวลและแผ่วเบา
        
        ประเมินอุณหภูมิร่างกายและสังเกตอาการมีอุณหภูมิร่างกายต่ำ เช่น เขียวตามปลายมือปลายเท้า ซึม กระสับกระส่าย ผิวหนังซีดและเย็น เป็นต้น
        
        8.อากาศภายในห้องควรจะต้องถ่ายเทได้สะดวก
  - - - กลุ่มยา Antibiotic eye onitment
      - Ophthalmic Ointment ขนาด 3.5 g.
        
        oxytetracycline HCI 0.5%
        
        Polymyxin B sulfate 10,000 units
      - เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากโรคเยื่อตาอักเสบในทารก
        
        พบได้มากในช่วง 1 เดือนแรก
        
        หากติดเชื้ออาจทำให้เกิดอาการตาบอดในทารกแรกเกิด
        
        สาเหตุ มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส
        
        เช่น หนองในและหนองในเทียม หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
        
        ทารกได้รับเชื้อมาจากทางช่องคลอดของมารดาที่ติดเชื้อ
- - - - Incase
        
        เป็น Moro reflex
        
        เนื่องจากขณะตรวจโดยการตบที่นอนเบาๆ ทารกมีการขยับแขนขา ลักษณะคล้ายผวา
        
        ซึ่งการตอบสนองนี้เป็นการตอบสนองของรีเฟล็กซ์ที่พบในทารกแรกเกิดที่ปกติ เพราะถ้าไม่พบรีเฟล็กซ์นี้ในทารกแรกเกิดต้องนึกถึงภาวะสมองได้รับอันตราย กระดูกหักหรือเส้นประสาทแขนเป็นอัมพาตได้
- - - - A:Activity เคลื่อนไหวมือและเท้าไปมา เท่ากับ 2 คะแนน
      - P:Pulse อัตราการเต้นของหัวใจ 90 ครั้ง/นาที เท่ากับ 1 คะแนน
      - G:Grimace ร้องเสียงเบา เท่ากับ คะแนน 1 คะแนน
      - A:Appearance ทารกมีอาการเขียวที่ปลายมือปลายเท้า เท่ากับ1 คะแนน
      - R:Respiration หายใจช้าไม่สม่ำเสมอ เท่ากับ 1 คะแนน
      - รวมคะแนน Apgar score ได้เท่ากับ 6 คะแนน (mild asphyxia ) แปลผล ทารกขาดออกซิเจนเล็กน้อย
        
        การพยาบาล
        
        ดูแลเรื่องการหายใจและการให้ออกซิเจนการดูแล
        
        จัดท่านอนของทารกให้มีการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนอย่างเหมาะสม
        
        นอนศีรษะสูง
        
        เพื่อให้กระบังลมหดตัวได้เต็มที่
        
        นอนราบและใช้ผ้าหนุนบริเวณคอและไหล่
        
        เพื่อให้ศีรษะหงายไปด้านหลังจะทำให้ทางเดินหายใจเปิดตลอดเวลาและอากาศผ่านเข้าออกได้สะดวก
        
        ดูดเสมหะในท่อหลอดลมคอจมูกและปากโดยใช้ความดันระหว่าง 80 -120 มิลลิเมตรปรอทการดูดแต่ละครั้งไม่ควรนานเกิน 5-10 นาทีและให้ออกซิเจนก่อนและหลังดูดเสมหะทุกครั้ง
        
        การให้ออกซิเจนพยายามให้ในจำนวนน้อยที่สุดที่ทารกไม่เขียวเพื่อให้ทารกรอดชีวิตและสมองไม่พิการควรให้แรงดันออกซิเจนในเลือดแดงระหว่าง50-80 มิลลิเมตรปรอทและให้ในระยะเวลาที่สั้นที่สุด
        
        เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากออกซิเจน
        
        ได้แก่
        
        3 more items...
        
        ตบเบาๆที่ก้นกระตุ้นให้ทารกร้องและหายใจ
        
        การควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้อยู่ในระดับปกติอุณหภูมิร่างกาย 36.8-37.2 องศาเซลเซียส
        
        จัดให้ทารกนอนอยู่ในตู้อบเพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อนจากผิวกายของทารกการแผ่รังสีสวมหมวกถุงมือและถุงเท้า
        
        เปลี่ยนผ้าอ้อมทุกครั้งเมื่อทารกถ่ายอุจจาระและปัสสาวะเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำ
    - - 8-10 คะแนน แสดงว่าสภาพของทารกปกติดีไม่มีภาวะขาดออกซิเจนทารกหายใจได้เองหัวใจเต้นเป็นปกติตอบสนองต่อการกระตุ้นและผิวสีชมพู แต่ปลายมือปลายเท้าเขียว
        
        ดูดสารคัดหลั่งในปากด้วยลูกสูบยางแดงเพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง
        
        เช็ดน้ำคร่ำตามตัวให้แห้งแล้วห่อด้วยผ้าให้อบอุ่น
      - คะแนน 5-7 ทารกกลุ่มนี้มีอาการขาดออกซิเจนเล็กน้อยส่วนใหญ่การเต้นของหัวใจมากกว่า 100 ครั้ง / นาทีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นดีมีการหายใจตื้นหรือไม่สม่ำเสมออาจมีหน้าเขียวตัวนิ่มดูปวกเปียก
        
        ดูดสารคัดหลั่งในปากและจมูกด้วยสายยาง
        
        อาจให้ออกซิเจนทางหน้ากากในอัตรา 4 ลิตร / นาที
        
        กระตุ้นการหายใจโดยใช้นิ้วมือขีดฝ่าเท้าหรือตบกันเบาๆ
      - 3.คะแนน 3-4 ทารกกลุ่มนี้มีการขาดออกซิเจนในระดับปานกลางและมีความเป็นกรดมากกว่าทารกมีตัวเขียวคล้ำทั้งตัวความสามารถในการหายใจอ่อนมากตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นน้อยกล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียกไม่มีความตึงตัวอัตราการเต้นของหัวใจน้อยกว่า 100 ครั้ง / นาที
        
        รีบดูดมูกขี้เทาทางปากและจมูกด้วยสายยางเพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง
        
        ให้ออกซิเจนทางหน้ากาก 4 ลิตร / นาที
        
        ให้รายงานแพทย์เพื่อให้การช่วยฟื้นคืนชีพ
      - 4.คะแนน 0-2 ทารกกลุ่มนี้ขาดออกซิเจนอย่างมากมีความเป็นกรดสูงทารกมีลักษณะเขียวคล้ำอย่างมากไม่มีความสามารถในการหายใจหรือมีเพียงการหายใจเฮือก (gasping) ไม่มีความตึงตัวของกล้ามเนื้อตัวอ่อนปวกเปียกไม่ตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นหัวใจเต้นช้ามากหรือไม่เต้น
        
        ต้องได้รับการช่วยเหลือทันทีที่คลอดเสร็จให้รายงานแพทย์เพื่อให้การช่วยฟื้นคืนชีพอย่างเร่งด่วน
- - - - In case ทารกรายนี้มีอัตราการเต้นของหัวใจ90ครั้ง/นาที ถือว่ามีการเต้นของหัวใจช้ากว่าปกติอาจเกิดตามการเคลื่อนไหวและความแข็งแรงของทารก
    - - In case ทารกรายนี้ถือว่าเป็นภาวะปกติมีการหายใจช้าไม่สม่ำเสมอ
    - - In case ทารกรายนี้มีน้ำหนัก2,350กรัม
        ถือว่าน้ำหนักน้อยกว่าปกติ
    - - In case ทารกรายนี้ถือว่ามีความยาวของลำตัว48cms.ตามเกณฑ์ปกติ
    - - In case ทารกรายนี้มีความยาวรอบศึรษะmento-occipital34cms. fronto-occipital32cms. Sub-occipito bregmatic30cms.ถือว่ามีความยาวรอบศีรษะปกติ
    - - In case ทารกรายนี้รอบอก31cms.ถือว่ามีความยาวเส้นรอบอกตามเกณฑ์ปกติ
    - - In case ทารกรายนี้ อุณหภูมิแรกเกิด36.2องศาเซลเซียส มีอุณหภูมิร่างกายต่ำ
    - - In case ทารกรายนี้มีตัวลายปลายมือปลายเท้าเย็นถือเป็นภาวะปกติ
- - - - 4)ปิดแอร์ทันที่เมื่อศีรษะทารกผ่านพ้นช่องคลอดของมารดาหรือห้ามเปิดแอร์กรณีที่มารดามีแนวโน้วคลอดง่ายและเร็ว
      - 5) ผู้ทำคลอดตัดสายสะดือผู้ช่วยนำผ้าผืนที่อุ่นใต้ Radiant warmer ให้ผู้ทำคลอดเช็ดตัวเด็กแล้วนำผ้าเปียกออกแล้วอุ้มทารกให้มารดาดูเพศ
      - 3) ผ้ารับเด็กอยู่ใน Set ผ้ารับเด็กเปิดเตรียมใต้ Radiant warmer
      - 6) เช็ดตัวทารกทันทีแรกเกิดหลังจากการช่วยเหลือเบื้องต้นนำทารกที่เปลือยไปให้แม่อุ้มเนื้อแนบเนื้อ Bonding and Attachment พร้อมนำผ้าห่มเผืนที่ผ่านการอุ่นไปห่อหุ้มตัวทารกดูดนมแม่นาน 5-10 นาที
      - 1) ปรับระดับอุณหภูมิห้องคลอดให้ได้ 26 ° C
      - 7) กิจกรรมการตกแต่งสะคือการผูกป้ายข้อมือให้ถูกชื่อนามสกุลที่ทารกใช้เพศเวลาเกิดวันที่เกิดทำภายใต้ Radiant warner
      - 2) เปิดเครื่อง Radiant warmer ก่อนคลอด 15 นาที
      - 8) กิจกรรมตรวจร่างกายทั่วไปตรวจดูความพิการ แต่กำเนิดวัดความยาวลำตัวรอบอกรอบศีรษะรวมถึงกิจกรมอื่น ๆ เช่นฉีดยาหยอดตาป้ายสะคือทำใต้ Radiant warner
      - 10) ชั่งน้ำหนักทารกโดยใช้กระดาษฟางรองเครื่องชั่งน้ำหนักปรับเครื่องชั่งน้ำหนักให้ได้มาตรฐานตามน้ำหนักการใช้กระดาษฟางรองเครื่องชั่งเพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อนจากการนำความร้อน โดยกระดาษฟางผ่านการอุ่นใต้ Radiant warmer ก่อนนำไปใช้
      - 9) วัดอุณหภูมิกายทางทวารหนักโดยใช้เทอร์โมมิเตอร์แบบกระเปาะแก้วสอดปรอทลึก 3 ซม. นาน 3 นาทีกรณีทารกครบกำหนด ถ้าก่อนกำหนดสอดสัก 2.5 cm ประเมินการหายใจชีพจร
      - 11) เคลื่อนย้ายทารกที่ได้รับการห่อตัวด้วยเสื้อผ้าเด็กผ้าอ้อมและห่ออีกชั้นด้วยผ้าห่อ 1 ผืนที่ผ่านการอุ่นใต้ Radiant warmer สวมหมวกให้ทารกด้วยแล้วเจ้าหน้าที่อุ้มจากห้องคลอดไปยังหลังคลอดให้มารดา (หลังคลอด 2 ชม.) ควรมีการเปลี่ยนแปลงในวิธีของการส่งทารกให้กับมารดาหลังคลอดจากการ
      - 12) ขณะอยู่หลังคลอด 2 ชั่วโมงให้เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 27 ° C ห้ามเปิดพัดลม
      - 13) ดูแลทารกแรกเกิดหลังคลอด-2 ชม. หลังคลอดโดยวัดสัญญาณชีพทุก 30 นาทีจำนวน 2 ครั้งและ 1 ชั่วโมงจำนวน 1 ครั้งมีความเหมาะสมในการนำไปปฏิบัติ
      - 14) ดูแลทารกแรกเกิด -2 ชม. หลังคลอดมิให้นอนแช่ปัสสาวะหรืออุจจาระ
      - 15) ดูแลย้ายทารกหลังคลอดที่ครบ 2 ชั่วโมงไปตึกหลังคลอดโดยห่อตัวด้วยผ้าอ้อมและผ้าขนหนูอีก 1 ชั้นสวมหมวกด้วยก่อนย้ายด้วยคลิปเด็ก แต่กรณีทารกที่มีปัญหาหลังคลอดมีการใช้ Transfer Incubator สำหรับการเคลื่อนย้าย
  - - - เช็คตัวให้แห้ง ห่อตัวและห่มผ้าไว้
      - ดูแลความสะอาดร่างกายทารก โดยเปลี่ยนผ้ารองก้น ผ้าปูทุกครั้งที่อุจจาระปัสสาวะ
      - ประเมินภาวะอุณหภูมิต่ำ เช่น หัวใจเต้นช้าลง หายใจช้าลง ริมฝีปากปลายมือปลายเท้าเขียว แขนขาเย็น