Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การมอบหมายงาน (Assignment) - Coggle Diagram
การมอบหมายงาน (Assignment)
ความหมาย
เป็นการมอบหมายสู่ระดับต่ำหรือระดับเดียวกันทั้งในเรื่องของ ความรับผิดชอบและความสามารถ โดยการชี้แจงของกิจกรรม จากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่ง ซึ่งบุคคลจะต้องมีทักษะด้านความรู้ และการตัดสินใจ กิจกรรมที่มอบจะต้องมีความชัดเจนในการ ปฏิบัติ (ANA.1992) งานที่มอบให้ ผู้รับมอบต้องมีสิทธิ์ในการทำงานนั้นด้วยตนเอง และเข้าใจในงานนั้น
จุดประสงค์ของการมอบหมายงาน
กำหนดขอบเขตความรับผิดชอบในหน้าที่แต่ละคน
เพื่อไม่ให้ งานซ้ำซ้อนกัน
เพื่อให้เกิดการพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ
เพื่อเป็นแนวทางในการประเมินผลการปฏิบัติงานและ การบริการการพยาบาล
เพื่อความสะดวกต่อการบริหารงานในหอผู้ป่วย
ระดับของเจ้าหน้าที่ (Level of Staff)
เสมียนหอผู้ป่วยหรือเสมียนวอร์ด (ward)
พนักงานผู้ช่วย
ผู้ช่วยพยาบาล
ผดุงครรภ์
พยาบาล
การจัดระบบงาน
กำหนดวัตถุประสงค์การบริการผู้ป่วย
-เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรเก็บไว้เป็นหลักฐาน
-สอดคล้องกับนโยบายของโรงพยาบาลและมโนมติการให้การพยาบาลชัดเจน เชื่อถือได้ นาไปปฏิบัติได้
-มีวัตถุประสงค์ประจำแผนกของตนโดยมีคณะกรรมการ แต่ละหน่วย ช่วยกันจัดตั้งขึ้นทุกหน่วยงาน
-พิจารณาแผนการให้การพยาบาล ซึ่งสอดคล้อง และประสานกันกับแผนการรักษาของแพทย์
-มีการวางแผนระยะสั้นและระยะยาว
-มีการมอบหมายความรับผิดชอบ สิทธิ อำนาจ หน้าที่รวมทั้งลำดับความสำคัญก่อนหลังว่าสิ่งใดควรทำก่อนสิ่งใดควรทำภายหลัง
-ชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ทุกคนได้ทราบและแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ
2.กำหนดขอบเขตความรับผิดชอบ
กำหนดอัตรากำลังและประเภทของเจ้าหน้าที่แต่ละระดับซึ่งควรคำนึงถึง
-ลักษณะและสภาพของผู้ป่วย เช่น ผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยเรื้อรัง
-การบริการ
-ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่
-อุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้ และสิ่งอำนวยความสะดวก
-จำนวนผู้ป่วยที่ต้องดูแล
กำหนดหน้าที่รับผิดชอบ และลักษณะงานที่ทำ
กำหนดการติดต่อสื่อสารและขั้นตอนการรายงานต่าง ๆ อย่างละเอียด
คู่มือปฏิบัติการพยาบาล
การวางแผนการให้การพยาบาล
นโยบายการบริหารบุคคล
จัดหาเครื่องมือเครื่องใช้
การบันทึกและการรายงาน
การเสริมความรู้ทางวิชาการ
มีการติดต่อประสานงานกับพยาบาลวิชาชีพ หรือเจ้าหน้าที่อื่นในทีมสุขภาพ
มีเกณฑ์การประเมินผล
วิธีการมอบหมายงาน
การมอบหมายเป็นรายกรณี (Case Method)
พยาบาล 1 คนจะให้การดูแลทุกอย่างสำหรับผู้ป่วยรายนั้น ๆ ตลอดระยะเวลาการขึ้นปฏิบัติงานในแต่ละเวร ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องตลอด 8 ชั่วโมง
ดูแลผู้ป่วยทั้งหมดเป็นองค์รวม ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม
พยาบาล 1 คนดูแลผู้ป่วย 5-8 คน หอผู้ป่วยสามัญ/พิเศษ
พยาบาล 1 คนดูแลผู้ป่วย 2-3 คน หอผู้ป่วยวิกฤต
ข้อดี
สัมพันธภาพที่ดี รู้จักผู้ป่วยเป็นอย่างดีเหมาะสำหรับการดูแลผู้ป่วยวิกฤตที่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
ข้อเสัีย
รู้เฉพาะข้อมูลผู้ป่วยของตัวเอง
ต้องใช้พยาบาลวิชาชีพจำนวนมาก
ต้องใช้พยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์สูง
การมอบหมายงานตามหน้าที่ (Functional Nursing)
การมอบหมายงานจะเน้นที่หน้าที่และกิจกรรมเป็นสำคัญโดยบุคลากรแต่ละคนจะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบหน้าที่ 1-2 อย่างเช่นพยาบาลวิชาชีพมีหน้าที่ให้ยาทางหลอดเลือดดำ และรับผู้ป่วยใหม่ทุกราย
ข้อดี
ใช้คนน้อย แก้ปัญหาขาดแคลนบุคลากร
member เป็นพยาบาลจบใหม่
เหมาะสำหรับหอผู้ป่วยที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก
ต้นทุนต่ำ
ข้อเสีย
พยาบาลต้องดูแลผู้ป่วยจำนวนมาก ไม่ทันเวลา คุณภาพไม่ดี
พยาบาลมุ่งแต่ทำงานของตนให้เสร็จไม่สนใจผู้ป่วย
พยาบาลจะขาดสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ป่วย
หัวหน้าทีมอยู่กับเอกสาร
ไม่ทราบข้อมูลและการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วย
การมอบหมายงานเป็นทีม (Team Nursing)
ข้อดี
สร้างความพึงพอใจให้กับผู้ป่วยและบุคลากร
คุณภาพดีขึ้น
สัมพันธภาพกับผู้ป่วยดีขึ้น
ข้อเสีย
จำนวนผู้ป่วยต่อทีมมากเกินไป กลายเป็น functional
การพยาบาลเจ้าของไข้ (Primary Nursing)
พยาบาลวิชาชีพ 1 คน จะทำหน้าที่เป็นตัวจักรสำคัญในการดูแลผู้ป่วยตลอดระยะเวลาที่อยู่ในโรงพยาบาลตั้งแต่แรกรับเข้าไว้ในโรงพยาบาลจนกระทั่งจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล
จำนวนผู้ป่วยในความดูแลจะแตกต่างกันไปตามระยะเวลาในการอยู่โรงพยาบาล ความซับซ้อนของโรค สิ่งที่เอื้ออำนวย
ข้อดี
ผู้ป่วยได้รับการดูแลต่อเนื่อง
ข้อเสีย
ช้พยาบาลวิชาชีพจำนวนมาก
พยาบาลมีประสบการณ์ เชี่ยวชาญ
การจัดการรายกรณี (Case Management)
เป็นการทำงานที่เน้นการดูแลผู้ป่วยในระยะยาว ระบบนี้สามารถข้ามแผนกได้ และเน้นความสำเร็จของผลลัพธ์ โดยใช้ขอบเขตของเวลาเป็นตัวกำหนด มีการใช้ทรัพยากรอย่างจำกัด เป็นระบบที่มุ่งเน้นการดูแลที่มีคุณภาพสูงสุดและค่าใช้จ่ายที่ประหยัดคุ้มค่ามีลักษณะการดูแลที่มีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง มีการวางแผนเกี่ยวกับการใช้เงิน เทคโนโลยี และคนอย่างเหมาะสม มีแผนปฏิบัติการร่วม (Care MAPs) และแผนการพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง
การจัดตารางเวลาเจ้าหน้าที่
(Staffing Schedules)
การจัดตารางแบบรวมศูนย์ (Centralized Scheduling) หัวหน้าจัด
การจัดตารางแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Scheduling) สมาชิกจัด ขอเวรได้
การจัดตารางด้วยตนเอง (Self - Scheduling) PT
ทางเลือกหรือการหมุนเวียนเวลาทำงาน (Alternating or Rotating Work Shifts)
การจัดเวลาทำงานอย่างถาวร (Permanent Shift)
การจัดตารางเป็นช่วงเวลาหรือเป็นวงจร (Block or Cyclical
Scheduling)
ความยืดหยุ่นในการทำงาน (Variable Staffing)
การทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน,5 วันต่อสัปดาห์
(Eight-Hour Shift, 5 Day Work Week)
การทำงาน10 ชั่วโมงต่อวัน,4 วันต่อสัปดาห์
(Ten-Hour Day , 4 Day Work week)
การทำงาน 10 ชั่วโมงต่อวัน โดยเพิ่ม 5-6 ชั่วโมงในเวร
(Ten Hour Day Plus Five or Six Hour shift)
การทำงาน 10 ชั่วโมงต่อเวร,7 วันต่อสัปดาห์
(Ten Hour Shift ,Seven Day Workweek)
การทำงาน 12 ชั่วโมงต่อวัน, 7 วันต่อสัปดาห์
(Twelve-Hour Shift, Seven Day Workweek)