Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เบาหวาน DM : diabetes mellitus
เมื่อมีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงเป็นระยะเ…
เบาหวาน DM : diabetes mellitus
เมื่อมีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงเป็นระยะเวลานาน น้ำตาลจะตกตะกอนจับตัวอยู่ตามผนังหลอดเลือดหนามากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีน้ำตาลเหนียวๆจับตัวที่ผนังหลอดเลือดทำให้หลอดเลือดแคบลง ความยืดหยุ่นของหลอดเลือดลดลง กลายเป็นความกระด้างและมีความเปราะแตกง่าย ในขณะเดียวกันเมื่อหลอดเลือดที่เคยกว้างกลับมีขนาดแคบลง ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก จึงเป็นผลทำให้หัวใจทำงานมากขึ้น ออกแรงสูบฉีดเลือดมากขึ้น จึงเป็นผลทำให้ความดันในเลือดสูง
สาเหตุ
-
-
-
-
-
อาการ
การวินิจฉัย
-
-
-
-
จำแนกโรค
-
Type 1 เกิดจากการทำลายเบต้าเซลล์ของตับอ่อน ซึ่งมีหน้าที่สร้าง Insulin ส่งผลให้ร่างกายเกิดภาวะพร่อง Insulin
Type 2 เกิดจากร่างกายมีภาวะดื้อต่อ Insulin ร่วมกับมีการหลั่ง Insulin ลดลง ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
-
-
-
-
-
-
-
-
ผุ้ป่วยมีมารดาเป็นเบาหวานรักษาต่อเนื่อง น้ำหนัก75กิโลกรัม ส่วนสูง175 เซนติเมตร BMI 24.49 ไม่ควบคุมอาหาร อายุ62ปี
ความดันโลหิตสูง HT : Hypertension
ในภาวะที่มีความดันโลหิตสูงนานๆจะส่งผลให้หัวใจบีบตัวแรงขึ้น เพื่อต่อต้านความดันโลหิตที่เพิ่มสูงขึ้นกล้ามเนื้อหัวใจก็จะปรับตัว โดยการเพิ่มความหนาของผนังกล้ามเนื้อหัวใจ เนื่องจากต้องสูบฉีดเลือดต้านกับความดันโลหิตที่สูง เมื่อผนังกล้ามเนื้อหัวใจหนาขึ้น การทำงานของหัวใจแต่ละห้องก็จะเสื่อมลง เกิดการยืดขยายของกล้ามเนื้อหัวใจเพิ่มขึ้นจนไม่สามารถยืดขยายได้อีก ทำให้ปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงไตลดลง
สาเหตุ
-
ผู้ป่วยน้ำหนัก 75 กิโลกรัม ส่วนสูง 175 เซนติเมตร BMI 24.49 ภาวะอ้วน ผู้ป่วยมีอายุ 62 ปี ไม่ควบคุมอาหาร มีประวัติ DM,HT
-
-
-
-
อาการ
-
-
การวินิจฉัย
ผู้ป่วยมีประวัติดื่มเหล้าตั้งแต่อายุ20ปี ให้ประวัติ HT 3 ปีที่แล้ว สูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 20 ปี วันละ20มวน พบเส้นเลือดที่คอโป่งพอง BP 166/92 mmHg (16/10/63) CXR พบ Cardiomegaly และ Cephalization (17/10/63)
การรักษา
-
ผู้ป่วยให้ประวัติเลิกบุหรี่มา 10 ปี เลิกสุรามา 10 ปี รับประทานยา Hydralazine (25) 2 tab , Manidipine (20) 1 tab รับประทานยาต่อเนื่อง
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
ไตเสื่อม CKD : chronic kidney disease
ในภาวะปกติ ระบบหัวใจและหลอดเลือดจะส่งเลือดมาเลี้ยงที่ไต เมื่อเส้นเลือดแดง afferent arteriole นำเลือดเข้าสู่หน่วยไตบริเวณโกลเมอรูลัสและออกมาเส้นเลือดแดง efferent arteriole การตีบของเส้นเลือด efferent arteriole ทำให้ความดันเส้นเลือดแดงในโกลเมอรูลัสเพิ่มขึ้น เป็นผลให้ส่วนประกอบของเลือดถูกดันออกจากเส้นเลือดไปอยู่ในท่อไต เรียกกลไกนี้ว่า การกรอง ของเหลวที่ผ่านการกรองจะวิ่งไปตามท่อไตเล็กๆ ซึ่งจะมีการดูดซึมสารต่างๆและน้ำกลับเข้าสู่ร่างกาย หากไตขาดเลือดไปเลี้ยงเป็นเวลานาน จะทำให้ไตเสื่อมสภาพ ไม่สามารถกรองและดูดกลับน้ำเข้าเซลล์ได้
สาเหตุ
ผู้ป่วยมีประวัติเป็น DM,HT
อาการ
-
-
การวินิจฉัย
ระยะของโรค
การรักษา
ผู้ป่วยได้รับน้ำวันละ 300 ml ย้ายฟอกไต inter 5 (19/10/63) ได้รับยาขับปัสสาวะ และยาบดความดัน Hydralazine (25) 1 tab , Manidipine (20) 1 tab
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
electrolyte ผิดปกติ Ca 8.6 , Mg 1.9 , P 4.3 , Alb 3.1
-
-
-
-
-
-
-
ภาวะน้ำเกิน Volume overload
เป็นภาวะที่ร่างกายมีปริมาณน้ำนอกเซลล์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากไตเสื่อมสภาพ อัตราการกรองที่ไตหรือสมรรถภาพในการกรองของเสียที่ไตบกพร่อง ทำให้แรงดันในหลอดเลือดดันส่วนประกอบของเลือดออกไปอยู่ภายนอกเซลล์แทน
สาเหตุ
อาการ
-
การวินิจฉัย
ตรวจร่างกาย Fluid thrill , shifting dullness
ตรวจร่างกายพบ Fluid thrill รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนที่ฝ่ามือ , shifting dullness ได้ยินเสียง dullness ตรวจดูการทำงานของไต Ca 8.6 , Mg 1.9 , P 4.3 , Alb 3.1
-
-
พบมีน้ำในท้อง วัดรอบท้อง 42 นิ้ว บวมกดบุ๋ม2+ on SPONT PEEP 5 RR 16 FiO2 0.4%Retain foley’s catheter urine out put 300 ml
-
-
-
-
-
-
-
-