Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เตียง1-11 Lt.Plural Effusion
D552ACA2-C139-4B58-B201-581307FA3D58 -…
เตียง1-11 Lt.Plural Effusion
ข้อมูลผู้ป่วย
-
-
-
-
-
-
ประวัติการผ่าตัด: Tracheostomy (28/04/63)
ปี 2560 OLD ICH S/P craniectomy.การผ่าตัดเปิดกะโหลกแล้วไม่ปิด
ประวัติการเจ็บป่วยปัจจุบัน: 1 วัน ก่อนมาโรงพยาบาล วัด O2 Sat 80% เจ้าหน้าที่ศูนย์สังเกตว่าผู้ป่วยหายใจเร็วขึ้นเล็กน้อย มีอาการหอบเหนื่อยมากขึ้น ไม่มีอาการไอ รับ Feed ได้ปกติ ไม่อาเจียน ไม่มีถ่ายเหลว urineใสพบตะกอนเล็กน้อย
-
พยาธิสภาพ
ทฤษฎี
ปริมาณน้ำของเหลวในโพรงเยื่อหุ้มปอดจะถูกควบคุมด้วยย 2 กลไกสำคัญ คือ จากความดันในหลอดเลือดของเยื่อหุ้มปอดทั้ง 2 ชั้น ซึ่งจะส่งผลให้มีน้ำ/ของเหลวซึมผ่านหลอดเลือดเข้าสู่ในโพรงเยื่อหุ้มปอดและจากการดูดซึมน้ำ/ของเหลวของระบบน้ำเหลืองกลับเข้าสู่หลอดเลือดดำของเยื่อหุ้มปอด และเข้าสู่ร่างกาย ตามลำดับ
ซึ่งทั้ง 2ปัจจัยนี้ต้องอยู่ในสมดุล ปริมาณน้ำของเหลวในโพรงเยื่อหุ้มปอดจึงจะอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ถ้ามีการเสียสมดุลของปัจจัยทั้ง 2 นี้ด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม เช่น มีน้ำของเหลวซึมผ่านหลอดเลือดเยื่อหุ้มปอดมากขึ้น หรือระบบน้ำเหลืองไม่สามารถดูดซึมน้ำ/ของเหลวกลับเข้าสู่หลอดเลือดดำ/ร่างกายได้ ก็จะส่งผลให้เกิดภาวะมีน้ำของเหลวในโพรงเยื่อหุ้มปอด
โดยทั่วไป การจะมีน้ำ/ของเหลวในโพรงเยื่อหุ้มปอดที่จะตรวจพบได้จากการถ่ยาภาพปอดด้วยเอกซเรย์เทคนิคเฉพาะ คือ ถ่ายภาพในท่านอนตะแคงด้านที่สงสัยมีความผิดปกติ (Lateral decbitus) ปริมาณน้ำ/ของเหลวต้องมีปริมาณตั้งแต่ 50 มิลลิลิตรขึ้นไป ทั้งนี้การถ่ายภาพเอกเรย์เทคนิคปกติ ถ่ายในท่ายืน) จะสามารถตรวจได้ว่ามีน้ำของเหลวในโพรงเยื่อหุ้มปอด มักจะต้องมีปริมาณน้ำอย่างน้อยประมาณ 200 -300 มิลลิลิตรขึ้นไป ซึ่งเป็นปริมาณที่จะส่งผลให้ผู้ป่วยเริ่มเกิดอาการผิดปกดิด้วย เช่น เหนื่อยง่ายขึ้นเมื่อต้องออกแรง เป็นต้น
อาการเเสดง
หอบ หายใจถี่ หายใจลำบากเมื่อนอนราบ หรือหายใจเข้าลึก ๆ ลำบาก เนื่องจากของเหลวในช่องเยื่อหุ้มปอดไปกดทับปอด ทำให้ปอดขยายตัวได้ไม่เต็มที่
-
-
การวินิจฉัย
การสอบถามประวัติทางการแพทย์และการตรวจร่างกาย ผู้ที่เคยมีภาวะหัวใจล้มเหลว หรือเคยเป็นโรคตับแข็ง ร่วมกับมีอาการบ่งชี้ เช่น เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก ไอแห้ง หรือตรวจร่างกายแล้วพบความผิดปกติที่ระบบหายใจ อาจคาดการณ์ได้ว่ามีภาวะ Pleural Effusion
การเอกซเรย์ เป็นวิธีวินิจฉัยที่ให้ผลการตรวจชัดเจน เนื่องจากจะช่วยให้เห็นลักษณะปอด รวมถึงของเหลวภายในช่องเยื่อหุ้มปอดได้:
เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (Computerized Tomography: CT Scan) อาจนำมาใช้ตรวจเพื่อหาสาเหตุของภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดได้เพิ่มเติม
อัลตราซาวด์ (Ultrasound) เป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงแสดงภาพอวัยวะภายในร่างกาย ซึ่งจะแสดงภาพส่วนของเนื้อเยื่ออ่อน (Soft Tissue) ทารกที่อยู่ในครรภ์ ภาวะเส้นเลือดอุดตัน การอัลตราซาวด์อกจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีวินิจฉัยภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด
การวิเคราะห์ของเหลวภายในช่องเยื่อหุ้มปอด (Pleural Fluid Analysis) สามารถทำได้หลายวิธี แต่ส่วนใหญ่แพทย์มักใช้การเจาะโพรงเยื่อหุ้มปอดหรือสอดท่อขนาดเล็กเข้าไปในปอดเพื่อระบายของเหลวออกมา แล้วนำของเหลวดังกล่าวไปตรวจสอบ
-
การรักษา
ทฤษฎี
การระบายของเหลวออกจากช่องเยื่อหุ้มปอด แพทย์จะเปิดรอยแผลขนาดเล็กและสอดท่อเข้าไปในช่องเยื่อหุ้มปอด เพื่อระบายของเหลวออกภายนอกร่างกาย ทั้งนี้ ผู้ป่วยอาจต้องรับการรักษาซ้ำ หากพบว่ามีปริมาณของเหลวเพิ่มขึ้นอีก
การผ่าตัด วิธีนี้มักใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง โดยแพทย์จะสอดท่อเข้าไปในช่องอกเพื่อบังคับทิศทางให้ของเหลวไหลจากบริเวณปอดออกสู่ช่องท้อง ซึ่งเป็นจุดที่ร่างกายระบายของเหลวได้ง่ายกว่า หรือในกรณีที่มีอาการรุนแรง แพทย์อาจตัดเยื่อหุ้มปอดบางส่วนทิ้ง วิธีนี้เรียกว่า Pleurectomy
-
-
-
ความหมาย
Pleural Effusion หรือ ภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด คือภาวะที่มีของเหลวปริมาณมากเกินปกติในพื้นที่ระหว่างเยื่อหุ้มปอดและเยื่อหุ้มช่องอก โดยปริมาณน้ำที่มากขึ้นจะไปกดทับปอด ส่งผลให้ปอดขยายตัวได้ไม่เต็มที่ ผู้ป่วยภาวะนี้มีอาการโดยทั่วไปคือ ไอ เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก หรือรู้สึกเจ็บขณะหายใจ โดยปกติภายในช่องว่างระหว่างเยื่อหุ้มปอดและเยื่อหุ้มช่องอกจะมีของเหลวอยู่ในปริมาณเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ปอดเสียดสีกับช่องอกขณะเกิดการขยายตัวในกระบวนการหายใจ แต่หากของเหลวนี้มีปริมาณมากเกินปกติจะทำให้เกิด Pleural Effusion
ชนิดของของเหลว
ของเหลวแบบใส (Transudate) เกิดจากแรงดันภายในหลอดเลือดที่มากขึ้นหรือโปรตีนในเลือดมีค่าต่ำ ทำให้ของเหลวรั่วไหลเข้ามาในช่องเยื่อหุ้มปอด ซึ่งมักพบในผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว
สาเหตุ
ภาวะหัวใจล้มเหลว เป็นภาวะที่ส่งผลให้เกิดความดันต้านกลับในหลอดเลือดดำ มักทำให้เกิดอาการบวมจากของเหลวบริเวณขาและอาจมีภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดร่วมด้วย
โรคตับแข็ง โรคที่เนื้อเยื่อตับปกติค่อย ๆ ถูกแทนที่ด้วยพังผืดแผลเป็น (Scar Tissue) จากการอักเสบ โดยพังผืดนี้จะไปขัดขวางการทำงานของตับในการกรองของเสียหรือขับสารพิษ รวมถึงการผลิตสารอาหาร ฮอร์โมน และโปรตีนในเลือด ซึ่งระดับโปรตีนในเลือดที่ต่ำนั้นจะส่งผลให้มีของเหลวซึมออกมานอกหลอดเลือดและอาจทำให้เกิดภาวะ Pleural Effusion ตามมา
โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด เกิดขึ้นเมื่อลิ่มเลือดจากอวัยวะต่าง ๆ (ส่วนใหญ่มักมาจากบริเวณขา) ไหลมาอุดกั้นหลอดเลือดแดงที่นำเลือดเข้าสู่ปอด (Pulmonary Artery) ทำให้รู้สึกเจ็บหน้าอก ไอ หายใจถี่ บางครั้งมีภาวะ Pleural Effusion และอาจรุนแรงถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ซึ่งนอกจากภาวะนี้จะก่อให้เกิดของเหลวแบบใสแล้ว ยังก่อให้เกิดของเหลวแบบขุ่นได้เช่นกัน
ของเหลวแบบขุ่น (Exudate) ส่วนใหญ่เกิดจากการอักเสบ มะเร็ง หลอดเลือดหรือท่อน้ำเหลืองอุดตัน มักมีอาการที่รุนแรงและรักษาได้ยากกว่าภาวะ Pleural Effusion ชนิดของเหลวแบบใส
สาเหตุ
-
ไตวาย เกิดจากหน่วยไตได้รับความเสียหาย ทำให้ไม่สามารถกรองเลือดและขับน้ำปัสสาวะได้ตามปกติ ซึ่งอาจเป็นภาวะไตวายเฉียบพลันจากการบาดเจ็บ ได้รับสารพิษ หรือภาวะไตวายเรื้อรังจากโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ผู้ป่วยไตวายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนโดยมีอาการเจ็บหน้าอก มีภาวะ Pleural Effusion กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือไตถูกทำลายอย่างถาวรได้
อาการอักเสบ อาจเป็นการอักเสบที่ปอดตั้งแต่แรกหรือการอักเสบจากอวัยวะอื่นแล้วส่งผลให้ปอดอักเสบ จนเกิดของเหลวในช่องเยื่อหุ้มปอดตามมา เช่น การอักเสบจากโรคข้ออักเสบ โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) เป็นต้น
สาเหตุอื่น ๆ โรคหรือภาวะที่นอกเหนือจากข้างต้นอาจก่อให้เกิด Pleural Effusion ได้เช่นกัน แต่พบไม่มากนัก เช่น วัณโรค โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง เลือดคั่งในทรวงอก ภาวะน้ำเหลืองคั่งในช่องปอด (Chylothorax) รวมถึงผู้ที่ต้องสูดดมแร่ใยหินเป็นประจำ
-
สภาพทั่วไป
ผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 52 ปี รู้สึกตัวดี ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ bed ridden มา4ปี ศรีษะทั้ง2ข้างไม่สมมาตรกัน ศีรษะด้านซ้ายมีรอยแผล craniectomy (การผ่าตัดเปิดกะโหลกแล้วไม่ปิด) ตาทั้งสองข้างสมมาตรกัน เยื่อบุตาซีด หายใจ on tracheostomy tube With O2 collar mask 3 LPM มีเสมหะสีเหลืองเขียว เหนียว บริเวณจมูกด้านซ้าย มี NG tube for feed สูตร B.D. 1.5:1 300X4 feed น้ำตาม 50ml. feed รับได้ ไม่มีcontent ปากปกติ คอมีแผลTracheostomy แผลแห้งดี ไม่แดงไม่บวม ไม่มี discharge แขนทั้งสองข้างลีบ
ข้อยึดติดแข็ง บริเวณหลังด้านซ้ายมีแผลจากการทำ ICD บริเวณทรวงอก ปิดแผลด้วย vasaline guaze แผลแดงดี ขอบแผลแห้ง ไม่มีเลือดซึม ไม่มีdischarge อวัยวะสืบพันธ์ุปกติ retained foley's cathenter ปัสสาวะสีเหลืองใส มีตะกอนสีขาวเล็กน้อย ไม่ถ่ายอุจจาระ ขาทั้งสองข้างลีบ มีข้อยึดติดแข็ง
( 2/11/63)
10.00น.
-
-
-
Respiration rate = 18ครั้ง/นาที,
-
14.00น
-
-
Respiration rate = 18ครั้ง/นาที,
-
-
-