Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การบริหารความขัดแย้ง (Conflict Management), image, นางสาวชญานุช ธรรมเสนา…
การบริหารความขัดแย้ง (Conflict Management)
ความหมายของความขัดแย้ง
สภาพการณ์ที่ทำให้คนตกอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถตัดสินใจหรือตกลงหาข้อยุติอันเป็นที่พอใจได้ อันเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่ายได้
สภาพการณ์หรือสถานการณ์ที่เป็นความแตกต่างที่บุคคล2 คน หรือมากกว่า แสดงพฤติกรรมเปิดเผยออกมาอย่างแตกต่างกัน
ผลของความขัดแย้ง
ผลเสียของความขัดแย้ง
สัมพันธภาพระหว่างบุคคลเสื่อมลงไป
บรรยากาศของความจริงใจ และความไววางใจจะหมดสิ้นไป
เกิดการต่อต้านทั้งทางอ้อมและเปิดเผย
ผลดีของความขัดแย้ง
ความขัดแย้งมักก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ
ช่วยให้มีการปรับปรุงทางเลือกในการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ช่วยให้เกิดการหาข้อพิสูจน์ที่สมเหตุสมผลก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรคสิ่งแปลกใหม่
สาเหตุที่ทำให้มนุษย์ขัดแย่งกัน อาจแบ่งออกได้เป็น 3 ประการคือ
3.ผลประโยชน์ คือสิ่งที่ทุกคนต้องการหรือความพอใจของแต่ละคนความขัดแย้งกันเพราะผลประโยชน์มองเห็นได้ชัดเจนและเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันมากที่สุด ผลประโยชน์เป็นมูลเหตุที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง โดยเฉพาะผลประโยชน์ในทางเศรษฐกิจและการเมือง
2.แนวทางปฏิบัติ ผู้ที่มีแนวความคิดเห็นอย่างเดียวกัน ย่อมจะร่วมงานกันได้ แต่แนวทางปฏิบัติย่อมจะแตกต่างกัน เพราะการทำงานสำเร็จตามเป้าหมาย ทุกคนย่อมแสวงหาหนทางปฏิบัติที่ตนคิดว่าเหมาะสม คนที่มีความคิดเห็นตรงกันในหลักการอาจไม่เห็นด้วยกับวิธีปฏิบัติของอีกฝ่ายหนึ่งก็ได้ ความขัดแย้งอาจจะเกิดขึ้นจากเหตุนี้ได้อีกทางหนึ่ง
1.ความคิดเห็น ความคิดเห็นที่ตรงกันของบุคคลจะช่วยให้บุคคลคบค้าสมาคมกันได้อย่างราบรื่น แต่ถ้าความคิดเห็นไม่ลงรอยกันและฝ่ายหนึ่งไม่ยอมรับความคิดเห็นของอีกฝ่ายว่าถูกต้อง ความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้น
หลักการที่จะแก้ความขัดแย้ง ( mind set)
6.เอาใจใส่ซึ่งกันและกันและไม่เห็นแก่ตัว
หลีกเลี่ยงการใช้คะแนนเสียงข้างมากเป็นข้อยุติ
4.หาข้อมูลเพิ่มเพื่อช่วยในการตัดสินใจ
มีความจริงใจที่แสดงความต้องการที่แท้จริงออกมา
ทั้ง 2 ฝ่าย มีทัศนคติในการแก้ไขปัญหามากกว่าการเอาชนะซึ่งกันและกัน
1.ความขัดแย้งเป็นเรื่องปกติ และอาจเกิดขึ้นได้เสมอ
ประเภทของความขัดแย้ง
ประเภทที่ 2 ความขัดแย้งระหว่างบุคคล (Interpersonal Conflict)
ประเภทที่ 4 ความขัดแย้งระหว่างกลุ่ม (Intergroup Conflict)
ประเภทที่ 3 ความขัดแย้งภายในกลุ่ม (Intragroup Conflict)
ประเภทที่ 5 ความขัดแย้งในองค์การ (Intraoganizational Conflict)
ประเภทที่ 1. ความขัดแย้งภายในตัวบุคคล(Intrapersonal Conflict)
ประเภทที่ 6 ความขัดแย้งระหว่างองค์การ (Interoganizational Conflict)
บทบาทของผู้นำต่อปัญหาความขัดแย้ง
ต้องพร้อมที่จะเสี่ยง
6.แสดงความมีอำนาจ
4.พิจารณาความเป็นธรรมชาติของความอิสระซึ่งกันและกัน
7.ต้องจำกัดขอบเขตในสิ่งที่ทำสำเร็จแล้ว
การสร้างเป้าประสงค์และค่านิยมร่วม
8.การสร้างความเชื่อมั่นร่วมกัน
การติดต่อสื่อสารที่ชัดเจนต่อเนื่อง
9.ความสมดุลถูกต้องในการจูงใจ
1.ให้ความสนใจกับประเภทต่างๆของความขัดแย้ง เช่น ความขัดแย้งระหว่างบุคคลภายในบุคคล ความขัดแย้งภายในหน่วยงาน
10.การสร้างความเห็นอกเห็นใจ
นางสาวชญานุช ธรรมเสนา 60170013