กฎหมายและจริยธรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ

กฎหมาย (IT Law)

click to edit

  1. กฎหมายเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Transactions Law)

เพื่อรับรองสถานะทางกฎหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้เสมอข้อมูลที่ท าในกระดาษ อันเป็นการรองรับ

click to edit

  1. กฎหมายเกี่ยวกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์

click to edit

  1. กฎหมายเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศให้ทั่วถึง และเท่าเทียมกัน

(National Information Infrastructure Law)

เพื่อก่อให้เกิดการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ อันได้แก่โครงข่าย

โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ สารสนเทศทรัพยากรมนุษย์ และโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศส าคัญอื่น

click to edit

  1. กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Law)

เพื่อก่อให้เกิดการรับรองสิทธิ และให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งอาจถูกประมวลผลเปิดเผยหรือ

เผยแพร่ถึงบุคคลจ านวนมากได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วโดยอาศัยพัฒนาการทางเทคโนโลยี จนอาจก่อให้เกิดการน า

ข้อมูลนั้นไปใช้ในทางมิชอบอันเป็นการละเมิดต่อเจ้าของข้อมูล ทั้งนี้โดยค านึงถึงการรักษาดุลยภาพระหว่างสิทธิขั้น

พื้นฐานในความเป็นส่วนตัว เสรีภาพในการติดต่อสื่อสาร และความมั่นคงของรัฐ

click to edit

  1. กฎหมายเกี่ยวกับการกระท าความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (Computer Crime Law)

เพื่อก าหนดมาตรการทางอาญา ในการลงโทษผู้กระท าผิดต่อระบบการท างานของคอมพิวเตอร์ระบบ

ข้อมูล และระบบเครือข่าย ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักประกันสิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองการอยู่ร่วมกันของสังคม

click to edit

. 6.กฎหมายเกี่ยวกับการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Funds Transfer Law)

เพื่อก าหนดกลไกส าคัญทางกฎหมายในการรองรับระบบการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งที่เป็นการโอน

เงินระหว่างสถาบันการเงิน และ ระบบการช าระเงินรูปแบบใหม่ในรูปของเงินอิเล็กทรอนิกส์ก่อให้เกิดความเชื่อมั่น

ต่อระบบการท าธุรกรรมทางการเงิน และการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มากยิ่งขึ้น

click to edit

click to edit

ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า ข้อความที่ได้สร้าง ส่ง รับ เก็บรักษา หรือ ประมวลผลด้วยวิธีการ

ทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น วิธีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โทรเลข โทรพิมพ์

หรือโทรสาร

click to edit

ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า อักษร อักขระ ตัวเลข เสียงหรือสัญลักษณ์อื่น ใดที่สร้างขึ้นให้

อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งน ามาใช้ประกอบกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแสดง ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับ

ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุตัวบุคคลผู้เป็น เจ้าของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับ

ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น และเพื่อแสดงว่าบุคคล ดังกล่าวยอมรับข้อความในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น

“เจ้าของลายมือชื่อ” หมายความว่า ผู้ซึ่งถือข้อมูลส าหรับใช้สร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์และสร้าง
ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้นในนามตนเองหรือแทนบุคคลอื่น

click to edit

ด้วยกัน โดยได้มีการก าหนดค าสั่ง ชุดค าสั่ง หรือสิ่งอื่นใด และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ท า

หน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ

click to edit

click to edit

“ข้อมูลคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ ค าสั่ง ชุดค าสั่ง หรือสิ่งอื่นใดบรรดา ที่อยู่ในระบบ

คอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึง ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตาม

กฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย

click to edit

click to edit

“ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของระบบ คอมพิวเตอร์

ซึ่งแสดงถึงแหล่งก าเนิดต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลา ชนิดของบริการ หรืออื่น ๆ ที่

เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์นั้น

click to edit

“ผู้ให้บริการ” หมายความว่า

(๑) ผู้ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดย ประการอื่น โดย

ผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในนามของตนเอง หรือ ในนามหรือเพื่อประโยชน์ของ

บุคคลอื่น

click to edit

อาชญากรรมคอมพิวเตอร์

ความหมายของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์

  1. การกระท าใด ๆ ก็ตาม ที่เกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์ อันท าให้เหยื่อได้รับความเสียหาย และท า

ให้ผู้กระท าได้รับผลตอบแทน

  1. การกระท าผิดกฎหมายใด ๆ ซึ่งจะต้องใช้ความรู้เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ มาประกอบการกระ

ผิด และต้องใช้ผู้มีความรู้ทางคอมพิวเตอร์ ในการสืบสวน ติดตาม รวบรวมหลักฐาน เพื่อการด าเนินคดี จับกุม

อาชญากรคอมพิวเตอร์จะก่ออาชญากรรมหลายรูปแบบ ซึ่งปัจจุบันทั่วโลกจัดออกเป็น 9 ประเภท (ตาม

ข้อมูลคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจร่างกฎหมายอาชญากรรมคอมพิวเตอร์)

1) การขโมยข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งรวมถึงการขโมยประโยชน์ในการลักลอบใช้บริการ

2) อาชญากรน าเอาระบบการสื่อสารมาปกปิดความผิดของตนเอง

3) การละเมิดสิทธิ์ปลอมแปรงรูปแบบ เลียนแบบระบบซอฟต์แวร์โดยมิชอบ

4) ใช้คอมพิวเตอร์แพร่ภาพ เสียง ลามก อนาจาร และข้อมูลที่ไม่เหมาะสม

5) ใช้คอมพิวเตอร์ฟอกเงิน

6) อันธพาลทางคอมพิวเตอร์ที่เช้าไปก่อกวน ท าลายระบบสาธารณูปโภค เช่น ระบบจ่ายน้ า จ่าย

ไป ระบบการจราจร

7) หลอกลวงให้ร่วมค้าขายหรือลงทุนปลอม

8) แทรกแซงข้อมูลแล้วน าข้อมูลนั้นมาเป็น)ระโยชน์ต่อตนโดยมิชอบ เช่น ลักลอบค้นหารหัสบัตร

เครดิตของผู้อื่นมาใช้ดักข้อมูลทางการค้าเพื่อเอาผลประโยชน์นั้นเป็นของตน

9) ใช้คอมพิวเตอร์แอบโอนเงินบัญชีผู้อื่นเข้าบัญชีตัวเอง

คำแนะนำเพื่อป้องกันการกระทำความผิด

click to edit

 ไฟล์วอลส่วนตัว (Personal Firewall)

ไฟล์วอลล์ส่วนตัวคือซอฟแวร์ที่ติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัวซึ่งท าหน้าที่ป้องกันผู้บุกรุกหรือผู้ไม่

ประสงค์ดีเข้ามาในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของเราหรือช่วยป้องกันโปรแกรมที่ไม่ประสงค์ดี เช่น ไวรัส โทรจัน

สปายแวร์ ถูกติดตั้งลงไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัวโดยที่เราไม่ทราบหรือไม่รู้ตัว ดังนั้นเราควรติดตั้งไฟล์วอลล์

ส่วนตัวโดยสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บ

click to edit

การสวมรอยบุคคล (Identity Theft)

ในปัจจุบัน การขโมยและการฉ้อฉลนั้น สามารถกระท าได้กับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ในเครื่อง

คอมพิวเตอร์ ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันเอกสารส าคัญที่ใช้ระบุตัวตนมากมายได้ถูกจัดเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์และ

อาจเข้าถึงได้ โดยผู้บุกรุกโดยผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การขโมยเอกสารส าคัญนั้นอาจน าไปสู่การสวมรอยเป็นตัว

บุคคลผู้เป็นเจ้าของเอกสารนั้น และอาจใช้ในการด าเนินเรื่องต่าง ๆ แทนเจ้าของโดยมิได้รับอนุญาตซึ่งเป็นการ

กระท าที่ผิดกฎหมาย เช่นการขโมยบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่านเพื่อท าการลอ็กอินเข้าไปซื้อสินค้า ผลที่เกิดขึ้นต่อผู้ที่ถูก

click to edit

click to edit

click to edit

click to edit

 สแปม (Spam)

สแปม คืออีเมล์ที่เป็นขยะ ผู้รับสแปมอาจจะต้องใช้เวลาในการจัดการกับสแปมจ านวนมากในแต่ละวัน

และ สแปมยังกีดขวางการท างานของเมล์เซิฟเวอร์ทั่วโลก ซึ่งท าให้ทุกคนประสบกับปัญหาการเชื่อมต่อที่ช้าลงและ

เสียค่าใช้จ่ายในการเชื่อต่อที่สูงขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถจัดการกับสแปมได้อย่างเด็ดขาด แต่ก็สามารถลดระดับ

ความรุนแรงลงได้ ดังนี้

o ไม่ส่งอีเมล์เพื่อตอบกลับสแปมที่ส่งมา การตอบกลับสแปมนั้นเท่ากับเป็นการยืนยันอีเมล์แอดเดรส

ของผู้รับว่ามีอยู่จริงและจะท าให้ผู้รับตกเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

o ใช้อีเมล์แอดเดรสประจ าเพื่อติดต่อกับผู้ที่ติดต่ออยู่ด้วยเป็นประจ า เช่น ผู้ร่วมงาน ครอบครัว ส าหรับ

การส่งอีเมล์เพื่อจุดประสงค์อื่น ๆ ให้ใช้อีเมล์แอดเดรสต่างหาก

o ใช้ตัวกรองสแปม ให้เลือกชนิดที่เหมาะสมกับโปรแกรมอีเมล์ที่ใช้งานอยู่ให้มากที่สุด

click to edit