Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การตรวจทรวงอกและปอด (การหายใจ) Thorax /Chest&Lung - Coggle Diagram
การตรวจทรวงอกและปอด (การหายใจ)
Thorax /Chest&Lung
ตรวจเพื่อประเมินการทำหน้าที่ของอวัยวะและส่วนประกอบที่เกี่ยวข้อง
ได้แก่ 1.ผิวหนัง กล้ามเนื้อ กระดูกหน้าอก กระดูกซี่โครง
2.อวัยวะระบบหายใจ เช่นหลอดลม ปอด หัวใจและระบบโลหิต
การเคาะ
การเคาะที่ถูกต้อง
ในคนที่ถนัดขวา ให้ใช้นิ้วมือเหยียดตรงวางแนบบริเวณที่ต้องการจะตรวจใช้นิ้วกลางมือขวา เคาะลงบนนิ้วกลางมือซ้ายบริเวณ Distal interphalangeal joint ในแนวตั้ง
เคาะเปรียบเทียบข้างซ้ายและขวาไล่บนลงล่าง ขณะเคาะให้กดนิ้วแนบกับผิวหนังและยกนิ้วอื่นขึ้น
การเคาะสามารถบอกความผิดปกติที่ลึกไม่เกิน 5-7 cm
การเคาะปอด
ลำดับการเคาะ
เริ่มจากกระดูกไหปลาร้าแต่ละข้างไล่ลงมาทีละช่องของกระดูกซี่โครงทั้ง 2 ข้าง
ปกติเสียงก้อง resonance
เคาะปอดด้านหลัง
เริ่มเคาะจากด้านบน ลงด้านล่างทีละช่องซี่โครง
ปกติเสียง resonance จะสิ้นสุดราวระดับ left rib 9th และ rib 8th
เคาะยอดปอด
ให้ผู้ป่วยนั่ง ผู้ตรวจหันหน้าเข้าหาผู้ป่วย เคาะลงบน supraclavicular fossa ทั้งซ้าย ขวา
การแปลผล
flatness
พบใน hydrothorax,pleural effussion
ลักษณะเหมือนเสียงที่เกิดขึ้นจากการเคาะต้นขา
dullness
พบใน Pneumonia, Pul TB, Atelectasis
ลักษณะเหมือนเสียงที่เกิดจากการเคาะตับ เสียงทึบ
Tํympany
พบใน Pneumothorax เป็นเสียงโปร่ง ลักษณะเหมือนเสียงที่เกิดจากการเคาะหน้าท้องที่มีแก๊สมาก
resonanance
เสียงที่เกิดจากการเคาะปอดปกติ เสียงก้อง
hyper-resonance
เสียงก้องมาก พบในภาวะ emphysema
ตำแหน่งการเคาะ
เคาะบริเวณทึบของตับ จะเริ่มมีเสียงทึบ dullness ที่ics 4 thและบริเวณทึบชัดเจนที่แนว mid-clavicular line
การฟัง
เสียงที่ฟัง
การฟังเสียงหายใจปกติ
tracheal/bronchial breath sound เข้าสั้น ออกยาว
bronchovesicular breath sound
บริเวณรอบ manubrium 1st, 2nd intercostal space ด้านหน้าและ interscapular area ด้านหลัง หายใจเข้าออกเท่าๆกัน
vesicular breath sound บริเวณชายปอดทั้ง 2 ข้าง หายใจเข้ายาว- ออกสั้น
การฟังเสียงหายใจผิดปกติ
crepitation or crackle
เป็นเสียงที่ไม่ต่อเนื่องเกิดจากลมหายใจ ผ่านsecretionที่ terminal bronchiole
และ alveoli ได้ยินเสียงชัด ช่วงหายใจ 3 ระดับ คือ fine medium coarse
rhonchi and wheezing
เป็นเสียงที่เกิดจากการสั่นของหลอดลม ในขณะที่มีลมวิ่งผ่านหลอดลมที่ตีบแคบ พบใน Asthma COPD, CHF
rhonchi
เป็นเสียงใหญ่และทุ้ม แสดงถึงหลอดลมขนาดใหญ่ในทรวงอกที่ตีบแคบ
wheezing
เป็นเสียงที่มีลักษณะแหลมกว่า rhochi
stridor
เสียงที่เกิดจากการตีบแคบของหลอดลมขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นเสียงหวีดที่ได้ยินชัดในช่วงหายใจเข้า มักได้ยินโดยไม่ต้องใช้ stethoscope
การดู
ลักษณะผิวหนังทรวงอก มีผื่นและมี spider nevl or spider angioma หรือไม่
ขนาด รูปร่างทรวงอกปกติเส้นผ่านศูนย์กลางจากด้านหน้าไปด้านหลังจะแคบกว่าด้านหน้า 5-7
ดูลักษณะเต้านม หัวนม
การเคลื่อนไหวทรวงอก สังเกตุอัตราการหายใจ ความลึก จังหวะ การใช้กล้ามเนื้อหน้าอก มี sternal retaction ดึงรั้งเหนื่อยหอบมากหรือไม่
funnel chest อกนุ่ม
pigeon chest อกไก่
การคลำ
การขยายตัวของปอด
ด้านหน้า
ดูการคลื่อนไหวของ upper and middle lope
คล้ายด้านหลังวางมือบริเวณชายโครงตามแนวกระดูก rib คู่ที่ 6
นิ้วหัวแม่มืออยู่ที่ xiphoid process ฝ่ามือโอบด้านข้างให้ผู้ป่วยหายใจเข้าออกลึกๆ สังเกตการเคลื่อนที่ออกจากจุดกึ่งกลางของหัวแม่มือและการขยายของฝ่ามือทั้ง 2 ข้าง
ด้านหลัง
วางฝ่ามือทั้ง2 ข้างทาบทรวงอก ให้นิ้วหัวแม่มือวางขนานกับ rib คู่ที่ 10 ฝ่ามือโอบด้านข้างทรวงอก ปลายนิ้วแม่มือ 2 ข้าง อยู่ตามแนวกระดูกสันหลัง มีระยะห่างเท่าๆกัน ให้ผู้ป่วยหายใจเข้าออกลึกๆ สังเกตการเคลื่อนที่ของนิ้วหัวแม่มือทั้ง 2 ข้าง
การคลำเสียงสะท้อน
วิธีการตรวจใช้ฝ่ามือหรือสันมือวางบนผนังอกด้านหลังในตำแหน่งที่ตรงกัน 2 ข้าง จากบนลงล่างหรือล่างขึ้นบนแล้วให้ผู้ป่วยนับ123 ดังๆ จะสัมผัสถึงความรู้สึกสั่นสะเทือนที่เกิดจากเสียงเปรียบเทียบทั้ง 2 ข้าง
ถ้าคลำเสียงสะท้อนได้มากกว่าอีกข้างหนึ่งแสดงว่า ปอดข้างนั้นแฟ็บหรือมีสิ่งอุดกลั้นในหลอดลม เช่น นำ้ หนอง ลมในโพรงเยื่อหุ้มปอด
ตำแหน่งของหลอดลม
ผู้ป่วยนั่งหรือนอน ก้มคอมาข้างหน้าให้กล้ามเนื้อsternocleidomastoid
ผู้ตรวจใช้ปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางกดไปบน suprasternal notch ให้นิ้วอยู่แต่ละข้างของหลอดลมเปรียบเทียบช่องว่างระหว่าง sternocleidomastoid ทั้ง 2 ข้างว่าเท่ากันหรือไม่
ผู้ป่วยนั่งหน้าตรง ผู้ตรวจใช้นิ้วคลำหาจุดกึ่งกลางของ suprasternal notch เคลื่อนนิ้วเข้าหา trachea สังกตว่าสัมผัสได้ถึงจุดกึ่งกลางหรือไม่
การคลำตำแหน่งกดเจ็บ
เช่น costochondral junction และตำแหน่งอื่นๆ กดกระดูกอ่อน เกิดการอักเสบ ถ้าเจ็บหน้าอกเป็นที่หัวใจ