Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
cc : กดเจ็บบริเวณใต้คาง 1วันก่อนมาโรงพยาบาล
PI : 2สัปดาห์ก่อนมา…
cc : กดเจ็บบริเวณใต้คาง 1วันก่อนมาโรงพยาบาล
PI : 2สัปดาห์ก่อนมา ให้ประวัติว่ามีอาการกดเจ็บบริเวณใต้คาง คลำพบก้อนบริเวณใต้คาง รักษาตัวที่คลินิกได้ยามารับประทานอาการไม่ทุเลา
1วันก่อนมามีอาการกดเจ็บบริเวณใต้คางเพิ่มมากขึ้น รับประทานยาอาการไม่ทุเลา จึงมาโรงพยาบาล
Tonsillitis
สาเหตุ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมีหลายชนิด ที่สำคัญ คือ Beta-hemolytic Streptococcus group A ซึ่งทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่สำคัญ คือ ไข้รูมาติก ติดต่อโดยการหายใจ ไอ หรือจามรดกันระยะฟักตัว ประมาณ 2-7วัน
อาการ ในรายที่เป็นเฉียบพลัน จะมีไข้สูงเกิดขึ้นทันทีทันใด และอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ครั่นเนื้อครั่นตัวหรือหนาวสะท้านรู้สึกแห้งผากในลำคอ หรือเจ็บในคอมาก บางรายอาจเจ็บคอมากจนกลืนน้ำและอาหารลำบาก
พยาธิสรีรสภาพ ต่อมทอนซิลซึ่งเป็นด่านแรกของร่างกายที่ทำหน้าที่ป้องกันเชื้อโรค ซึ่ง Palatine tonsil เป็นเนื้อเยื่อน้ำเหลืองที่อยู่ด้านข้างของช่องคอ การถ่ายเทน้ำเหลืองจะไหลไปสูต่อมน้ำเหลืองที่คอ ดังนั้นเมื่อมีการอักเสบของต่อมทอนซิลจึงทำให้ต่อมน้ำเหลืองที่คออักเสบ มีอาการบวด และกดเจ็บ ต่มทอนซิลจะมีแขนงของเส้นประสาทคู่ที่9 มาเลี้ยงซึ่งเส้นประสาทนี้จะไปเลี้ยงที่หู ดังนั้นเมื่อมีต่อมทอนซิลอักเสบจึงมีอาการปวดร้านไปเลี้ยงที่หูด้วย
-
ไม่เป็นโรคนี้เพราะ ผู้ป่วยไม่มีไข้ ไม่มีอาการอ่อนเพลีย คลำพบต่อมน้ำลายโตบริเวณใต้คาง มีอาการบวม แดงชัดเจน
Sialadenitis
สาเหตุ ต่อมน้ำลายอักเสบมีผลมากจากการผลิตน้ำลายที่ลดลง เพราะน้ำลายเป็นตัวช่วยย่อยเศษอหาร ช่วยทำให้ช่องปากสะอาด ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียและเศษอาหารและยังช่วยควบคุมสมดุลของเชื้อแบคทีเรีย
อาการ เจ็บในปาก ปากแห้ง เจ็บที่บริเวณใบหน้า บวมหรือแดงบริเวณกรามด้านหน้าใบหู ใต้กราม หรือใต้คาง หน้าบวม คอบวม ต่อมน้ำลายโตคลำพบต่อมน้ำลาย
-
Diagnosis : Sialadenitis
-
การรักษา
1.ยา AMOXICILLIN 500 mg. รับประทานครั้งละ 1เม็ด วันละ 3ครั้ง หลังอาหาร (เช้า กลางวัน เย็น)
2..IBUPROFEN 400mg. รับประทาน ครั้งละ 1เม็ด วันละ 3ครั้ง หลังอาหาร (เช้า กลางวัน เย็น)
3.ยา PARACETAMOL 500mg. รับประทาน ครั้งละ 1เม็ด ทุก 4-6ชั่วโมง เวลามีอาการ
คำแนะนำให้การปฏิบัติตัว นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานยาตามแผนการรักษา ห้ามหยุดยาเอง ให้สังเกตอาการ ถ้ามีอาการต้อมน้ำลายโต กดเจ็บ บวมแดง ให้รีบมาพบแพทย์
Lymphadenopathy
สาเหตุ โรคหัด คออักเสบ การติดเชื้อที่หู การติดเชื้อที่ฟัน มะเร็งต่อมน้ำเหลืองหรือมะเร็งระยะแพร่กระจายวัณโรค โรคติดเชื้อที่แผลหือผิวหนัง
อาการ ต่อมน้ำเหลืองจะมีลักษณะโตจนคลำได้ มีอาการบวม ผิวหนังบริเวณที่ต่อมน้ำเหลืองอักเสบแดง หรือมีริ้วสีแดงขึ้น
-
-
Mumps
พยาธิสภาพ เป็นโรคติต่อทางระบบทาเดินหายใจ ที่ติดเชื้อไวรัสจากคนสู่คน โดยสัมผัสละอองน้ำลายของผู้ที่ติดเชื้อได้จากการไอหรือจาม ไวรัสจะเคลื่อนจากระบบทางเดินหายใจไปยังตต่ิมน้ำลสยบริเวณข้างหู เมื่อต่อมน้ำลายนี้เกิดการอักเสบจะมีให้เกิดอาการเจ็บปวดและบวมแดง
อาการ เบื่ออาหาร มีการติดเชื้อที่ต่อมน้ำลาย มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัวภายใน 24ชม.ต่อมาจะปวดบริเวณขากรรไกร ต่อมน้ำลาย หน้าหูจะบวมโต จะคลำได้ และกดเจ็บ
สาเหตุ เกิดจากการติดเชื้อไวรัส เป็นไวรัสที่อยู่อยู่ในอากาศ สามารถแพร่กระจายได้โดยการไอ จาม เหมือนโรคหวัดหรือสัมผัสละอองของเหลวทั้งน้ำลายและน้ำมูกจากผู้ป่วยที่อาจแฝงอยู่ตามวัตถุต่างๆ
-
ไม่เป็นโรคนี้เพราะ ผู้ป่วยไม่มีไข้ ไม่มีอาการปววดเมื่อยตามร่างกาย คลำพบต่อมน้ำลายโตบริเวณใต้คาง มีอาการบวม แดงชัดเจน