Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การตรวจร่างกายระบบหายใจ หัวใจและการไหลเวียนเลือด, นางสาวศศิวิมล เทพปาน…
การตรวจร่างกายระบบหายใจ หัวใจและการไหลเวียนเลือด
การตรวจทรวงอกและปอด
chest landmake
เส้นสมมติใช้กำหนดแนวทางและขอบเขตของทรวงอก
ประกอบด้วย
Mid sternal line
ลากจากแนวดิ่งผ่านกลาง sternum
Mlid clavicular line
ลากเส้นแนวดิ่งผ่านจุดกึ่งกลางกระดูกไหปลาร้า
Anterior axilayr line
ลากเส้นแนวดิ่งผ่านรอยพับด้านหน้าของรักแร้
Mid axilary line
ลากเส้นแนวดิ่งผ่านจุดกึ่งกลางรักแร้
Posterior axilary line
ลากเส้นในแนวดิ่งผ่านรอยพับด้านหลังรักแร้
Vertebral line
ลากเส้นแนวดิ่งผ่านกระดูกสันหลัง
Scapular line
ลากเส้นแนวดิ่งผ่านมุมแหลมล่างของกระดุกสะบัก
Anatomical landmark
ที่หมายที่สำคัญบนร่างกาย
ประกอบด้วย
nipple
Angle of Louis
ต่อระหว่าง manubriumและsternum
Suprasternal notch
อยู่ที่ฐานคอด้านหน้าเหนือmanubrium
costal angle
Spinous process
Inferior angle of scapula
วิธีตรวจ
การดู
1.ลักษณะผิวหนัง
ภาวะปกติ
สีผิวอ่อนกว่าแขนขา
ไม่มีรอยโรค
ภาวะผิดปกติ
มีรอยโรคบรผิวหนัง
เชื้อรา
แผล
ผื่น
Spider never
2.ขนาด
ภาวะปกติ
ทรวงอกขนาดเท่ากัน 2 ข้าง ช่องว่าระหว่างซี่โครงไม่กว่างและไม่แคบเกินไป
ภาวะผิดปกติ
ขนาดไม่เท่ากัน ช่องซี่โครงแคบหรือกว้างเกินไป
3.รูปร่าง
สังเกตได้จากโครงกระดูกอก ดู anterior posterior diameter กับ leteral diameter
ภาวะปกติ
รูปร่างกลม anterior posterior diameter แคบกว่า leteral diameter เป็น5:7 เคลื่อนขึ้นลงตามการหายใจ
ภาวะผิดปกติ
เป็น Kyposis ,scoliosis ,pigeon chest , funnel chest , barral chest
การเคลื่อนไหว
การขยายตัวทรวงอกเมื่อหายใจเข้าออก สังเกตอัตราการหายใจ ความลึก จังหวะ
ภาวะปกติ
การเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับการหายใจ และเท่ากันทั้ง2 ข้าง
ภาวะผิดปกติ
การเคลื่อนไหวของทรวงอกไม่สัมพันธ์กับการหายใจ
การคลำ
1.ตำแหน่งของหลอดลม
1.1 ให้ผู้ป่วยนั่งหรือนอนก้มคอมาข้างหน้า ผู้ตรวจใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางกดลงบน Suprasternal notch
ภาวะปกติ
ช่องว่างระหว่างหลอดลมกับSternocleidomastoid ทั้ง2 ข้างเท่ากัน
1.2 ผู้ป่วยนั่งหน้าตรง ผู้ตรวจใช่นิ้วคลำหาจุดกึ่งกลางของ Suprasternal notch เคลื่อนนิ้วเข้าหา Trachea สังเกตว่าสัมผัสได้จุดกึ่งกลางหรือไม่
2.Lung expansion
วางฝ่ามือ 2 ข้าง ทาบทรวงอกด้านหลัง ใช้นิ้วหัวแม่มือวางขนานกับ Rib ที่10 ฝ่ามือโอบด้านข้างทรวงอก ปลายนิ้วหัวแม่มือ อยู่ใกล้แนวกระดูกสันหลัง ผู้ป่วยหายใจเข้า ออกลึกๆ
ภาวะปกติ
ฝ่ามือทั้งสองรู้สึกขยายออกเท่ากัน นิ้วหัวแม่มือเคลื่อนออกจากจุดกึ่งกลางออกเท่ากัน
ภาวะผิดปกติ
ความรู้สึกถูกดันขยายของมือทั้งข้างไม่เท่ากัน
3.Tactile fremitus
ใช้ฝ่ามือหรือสันมือวางบนผนังอกด้านหนัง จากบนลงล่างหรือล่างขึ้นบน ผู้ป่วยนับ1 2 3 จะรู้สึกถึงการสะเทือน
ภาวะปกติ
ความรู้สึกสั่นสะเทือนมากที่สุดบริเวณกระดูกออก ตรง ICS 2 สั่นสะเทือนเท่ากัน
ภาวะผิดปกติ
คลำได้ tactile fremitus ลดลง เพิ่มขึ้น
4.คลำตำแหน่งที่กดเจ็บ
เช่น Costochondral junction
การเคาะ
นิ้วมือซ้ายเหยียดตรงวางแนบ บริเวณที่จะตรวจ ใช้นิ้วกลางมือขวาเคาะลงบนนิ้วกลางมือซ้าย บริเวณ Distal interphalangeal joint
เคาะเปรียบเทียบกันซ้ายและขวา ไล่จากบนลงล่าง
ภาวะปกติ
ได้ยินเสียงเคาะ Resonance ทั่วทั้งปอด ด้านหน้ามีเสียง dullness บริเวณซ้าย Sternum ตั้งฃแต่ช่องซี่โครง 3-5 มีเสียง dullness ของตับที่ช่องซี่โครง 6
ภาวะผิดปกติ
พบเสียง hyperresonance
การฟัง
1.Nomal breath sound
Tracheal breath sound
บริเวณคอ ตน.Tracher และ Bronchus
ภาวะปกติ
ลักษณะเสียงจะดังมาก หายใจเข้าสั้น ออกยาว มีช่องว่างเงียบระหว่างเสียงหายใจเข้าและออก
Bronchovesicular breath sound
บริเวณรอบ manubrium
ภาวะปกติ
เสียงดังปานกลาง หายใจเข้าออกเท่ากัน ไม่มีช่วงเงียบระหว่างหายใจเข้าออก
vesicular breath sound
บริเวณชายปอดทั้ง 2 ข้าง
ภาวะปกติ
ลักษณะเสียงเบาหายใจเข้ายาว ออกสั้น ฟังได้ทั่วทั้งปอดหรือบริเวณของถุงลม
2.การฟังเสียงพูด
ให้ผู้ป่วยนับ 1 2 3
กณีมีสิ่งมากั้นระหว่าง เนื้อปอดกับทรวงอก
เสียงพูดจะเบาลง
3.การฟังเสียงผิดปกติ
Crepitation
เสียงที่ไม่ต่อเนื่อง เกิดจากลมหายใจ
Rhonchi
เสียงใหญ่และทุ้ม หลอดลมขนาดใหญ่ตีบแคบ
Wheezing
เสียงแหลมกว่า rhonchi ขึ้นกับความเร็วของลมที่วิ่งผ่าน
stridor
เป็นเสียงหวีด
ตรวจเพื่อประเมินการทำหน้าที่ของอวัยวะ ส่วนประกอบของทรวงอก
1.ผิวหนัง เต้านม กล้ามเนื้อ กระดูกอก กระดูกซี่โครง
2.หลอดลม ปอด
3.หัวใจ ระบบไหลเวียนเลือด
การตรวจหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิต
ตำแหน่งลิ้นหัวใจ
A.V.A Rt.ICS 2nd ชิดกับsternum
P.V.A Lt.ICS 2 nd ชิดกับ sternum
T.V.A. Lt.ICT 5th ชิดกับ sternum
M.V.A Lt.ICS 5 th ตัดกับ MCL.
วิธีการตรวจ
การดู
1.ลักษณะผนังทรวงอก
สังเกตสีผิว หลอดเลือดดำบริเวณทรวงอก รูปร่างทรวงอก ลักณะรูปร่าง ตำแหน่งการเต้น
ภาวะปกติ
สีผิวทรวงอกเหมือนสีผิวกาย ไม่มีรอยโรค หลอดเลือดดำไม่โป่งพองบริเวณ precordium ลักษณะไม่แตกต่างจากทรวงอกอีกข้าง เห็นการเต้นของหัวใจ
ภาวะผิดปกติ
ผิวหนังเขียวคล้ำ อาจพบ spider nevi หลอดเลือดดำที่ผนังทรวงอกขยายผิดปกติ มีBulging
2.Apical impulse
ตำแหน่งที่หัวใจเเต้นแรงสุด เรียก point of maximum impulse : PMI
3.Abnormal pulsation
บริเวณ Precordial area บริเวณคอทั้ง2ข้าง
การคลำ
1.คลำตำแหน่งของ PMI.
ใช้ปลายนิ้วมือทั้ง4นิ้ว เป็นตำแหน่งที่หัวใจเต้นแรงสุด อยู่ที่ช่องซี่โครงที่ 5 ตรงกับ MCL.เป็นตำแหน่งของ Apex
2.Ventricular heave
หัวใจห้องล่างซ้าย : วางฝ่ามือให้ส่วนส้นมือทาบบริเวณหัวใจห้องล่างซ้าย หันปลายมือไปด้านข้าง ถ้าพบแรงกระแทกมาถูกฝ่ามือแรง แสดงว่ามี heave หัวใจห้องห้างซ้าย
หัวใจห้องล่างขวา: วางฝ่ามือให้ส่วนส้นมือทาบบริเวณขอบซ้ายกระดูกอก พบแรงกระแทกผิดปกติมี Heave ของหัวใจห้องล่างขวา
3.Thrill
วางมือใหด้ส่วนฐานของนิ้วมือทับตำแหน่งลิ้นหัวใจ เมื่อมีthrill จะรู้สึกมีคลื่นมากระทบที่มือ การพบ thrill จะได้ยินเสียง murmur อย่างน้อง 4เกรดใน 6 เกรด
ภาวะปกติ
apex beat คลำได้กว้างประมาน 2 เซนติเมตร อยู่ที่ชบ่องที่โครงที่5ข้างซ้าย แนวMCL
ภาวะผิดปกติ
apex beat เคลื่อนบจากตำปหน่งปกติ
การฟัง
ฟังบริเวณ Precordial area ทั้งหมดที่ตำแหน่งลิ้นหัวใจ 4 ตำแหน่ง
สังเกต 1.ลักษณะของเสียง 2.ความสม่ำเสมอ
3.ความถีของเสียง
1.Normal heart sound
S1 เกิดจากการปิดของ mitral และ Tricuspid valve เกิดในช่วงหัวใจบีบตัว ฟังชัดสุดที่ Apex
S2 เกิดจากการปิดของ pulmonic และ aortic valve เกิดช่วงคลายตัว ฟังชัดที่ pulmonic และ aortic valve
2.Cardiac murmur
เกิดจากการสั่นสะเทือนของเลือดขณะการไหลของเลือด ผ่านลิ้นหัวใจ หรือเส้นเลือดผิดปกติ
Systolic murmur
เกิดจาก S1และS2 เกิดพร้อมกับการเต้นของชีพจร
Daistolic murmur
เกิดจาก S2และS1 หลังการเต้นของชีพจรที่คอ
ความดังมี 6 ระดับ
นางสาวศศิวิมล เทพปาน เลขที่66
2B (62123301136)