Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การประเมินภาวะสุขภาพ : การตรวจทรงอกและปอด(Thorax / Chest & Lung) -…
การประเมินภาวะสุขภาพ : การตรวจทรงอกและปอด(Thorax / Chest & Lung)
ปอดและทรวงอก
ตำแหน่งสำคัญบริเวณทรวงอก
ทรวงอกด้านหน้า (Anterior chest wall)
1. รอยบุ๋มเหนือกระดูกอก (Suprasternal notch)
2. มุมกระดูกอก (Angle of Louis) เป็นส่วนต่อระหว่างกระดูก
Sternum กับ Manubrium
3 เส้นกึ่งกลางกระดูกอก (Midsternal line)
4. ขอบของกระดูกซี่โครงที่ตัดกัน (Costal angle)
5. กระดูกไหปลาร้า (Clavicle)
6. เส้นกึ่งกลางกระดูกไหปลาร้า (Midclavicular line)
ทรวงอกด้านข้าง (Lateral chest wall)
ทรวงอกด้านข้าง (Lateral chest wall)
1. เส้นด้านหลังรักแร้ (Posterior axillary line)
2. เส้นด้านหน้ารักแร้ (Anterior axillary line)
3. เส้นกึ่งกลางรักแร้ (Mid axillary line)
ทรวงอกด้านหลัง (Posterior Chest Wall)
1. ปุ่มกระดูกสันหลัง (Spinal Process) ของ Cervical spinal
spine ที่ระดับ 7 (C7)
2. ส่วนล่างของกระดูกสะบัก (Inferior angle of scapula)
การดู
1. ลักษณะผิวหนัง : มีผื่น แผล มี spider nevi หรือ spider angioma หรือไม่
2. ขนาดและรูปร่าง : เส้นผ่าศูนย์กลางจากด้านหน้าไปหลังแคบกว่าด้านข้าง ประมาณ 5:7 รูปร่างผิดปกติ เช่น Pigeon chest sinv Funnel chest
3. ลักษณะเต้านม หัวนม
4. การเคลื่อนไหวของทรวงอก อัตราการหายใจ ความลึก จังหวะ
การคลำ
คลำตำแหน่งของหลอดลม
ใช้ปลายนิ้วชี้หรือกลางกดบน suprasternal notch เพื่อเทียบช่องว่างระหว่างหลอดลมกับ Sternocleidiomastoid
ใช้นิ้วคลำ suprasternal notch
การขยายตัวของปอด (Lung expantion) ทั้งสองข้างเท่ากันหรือไม่
ด้านหน้า : วางมือบนแนวกระดูกซี่โครงซี่่ที่ 6 นิ้วหัวแม่มืออยู่ที่ Xiphoid process
ด้านหลัง : นิ้วหัวแม่มือวางขนานกับกระดูกซี่โครงคู่ที่ 10 ปลายนิ้วหัวแม่มืออยู่ใกล้แนวกระดูกสันหลัง
การคลำเสียงสะท้อน (Tactile fremitus or Vocal fremitus)
วางสันมือลงบนผนังอกด้านหลัง ให้ผู้ป่วยนับ 123 แล้วฟังเสียงสั่นสะเทือน
การเคาะ : เริ่มจากกระดูกไหปลาร้าแต่ละข้าง ไล่ลงมาทีละช่องของกระดูกซี่โครง
Flatness : พบใน Hydrothorax , Pleural effusion เหมือนเสียงที่เคาะต้นขา
Dullness พบใน Pneumonia,Pul,TB,Atelectasis เป็นเสียงทึบ เหมือนเคาะตับ
Tympany พบใน Pneumothorax เป็นเสียงโปร่ง
Resonance เป็นเสียงเคาะปอดที่ปกติ เสียงก้อง
ตำแหน่งสำคัญบริเวณทรวงอก
การฟัง
การฟังเสียงหายใจปกติ (Nomal breath sound)
Tracheal/bronchial breath sound ตำแหน่ง Trachea และ Bronchus
Bronchovesicular breath sound รอบ manubrium ,รอบ Intercostal space ด้านหน้า และ Interscapula area ด้านหลัง
Vesicular breath sound ที่ชายปอดทั้งสองข้าง
การฟังเสียงพูด
ให้ผู้ป่วยนับ 123 แล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลงของเสียง
การฟังเสียงผิดปกติ (Adventitious sound)
Crepitation เกิดจากน้ำในหลอดลมฝอยทำให้ถุงลมแฟบขณะหายใจออก
Rhonchi หลอดลมขนาดใหญ่ในทรวงอกที่ตีบแคบ
Wheezing อากาศผ่านหลอดลมขนาดเล็กตีบแคบ
Stridor เป็นเสียงตีบแคบของหลอดลมขนาดใหญ่ เป็นเสียงหวีด
Decrease breath sound เสียงหายใจเบากว่าปกติ
Pleural friction rub เกิดจากการเสียดสีของเยื่อหุ้มปอดอักเสบ
การตรวจหัวใจ
การฟัง
ฟังบริเวณ Precordial area โดยใช้ตำแหน่งลิ้นหัวใจที่ 4 แห่ง
อุปกรณ์ : ใช้ Stethoscope
ด้าน Bell - ฟังเสียงต่ำ (low pitch) ไม่ควรกดแน่น
ด้าน Diaphragm - ฟังเสียงสูง (high pitch) โดยกดให้แน่น
สิ่งที่สังเกตขณะฟัง
ลักณะของเสียง : เบา แรง พอดี
ความสม่ำเสมอ : จังหวะการเต้น
ความถี่ของเสียง : ช้าหรือเร็ว อัตราการเต้น นับเต็มนาที
การฟังเสียงหัวใจปกติ (Normal heart sound)
S1 เป็นเสียงที่เกิดจากการปิดของ mitral & tricuspid valve เกิดช่วงหัวใจบีบตัว ฟังได้ชัดสุดที่บริเวณ Apex
S2 เป็นเสียงที่เกิดจากการปิดของ pulmonic & aortic valve เกิดในช่วงหัวใจคลายตัว ฟังชัดที่บริเวร pulmonic & aortic valve
ตำแหน่งลิ้นหัวใจ
A.V.A (Aortic valvular area) = Intercostal ที่ 2 ชิดกับ sternum ด้านขวา
P.V.A (Pulmonic valvular area) = Intercostal ที่ 2 ชิดกับ sternum ด้านซ้าย
A.V.A (Tricuspid valvular area) = Intercostal ที่ 5 ชิดกับ sternum ด้านซ้าย
A.V.A (Mitral valvular area) = Intercostal ที่ 5 ตัดกับ MCL.
การดู
ลักษณะผนังทรวงอกเหมือนกันสองข้างไม่มีการโป่งนูน (Bulging)
Point of maximum : PMI = ตำแหน่งที่มีการเต้นของหัวใจแรงที่สุด (อยู่ที่ Apex)
การคลำ
คลำตำแหน่ง PMI = ปกติจะอยู่ที่ Intercostal ที่ 5 ตรงกับ MCL
คลำเพื่อตรวจอาการหัวใจโต (Ventricular heave)
การคลำ Thrill : ปรากฎการของ Murmurs ที่ดังมาก จนเกิดการสั่นสะเทือนของ chest wall
การฟังเสียงฟู่ (Cardiac murmur) : มีการไหลเวียนของเลือดผ่านลิ้นหัวใจหรือเส้นเลือดที่ผิดปกติ
Systolic murmur : เกิดระหว่างเสียง S1 กับ S2 เกิดพร้อมการเต้นของชีพจรที่คอ
Diastolic murmur : เกิดระหว่างเสียง S2 กับ S1 : เกิดหลังการเต้นของชีพจรที่คอ
ความดัง 6 ระดับ
Grade 1 : เบามาก
Grade 2 : เบา แต่ได้ยินทันที
Grade 3 : ดังปานกลาง ยังคลำ Thrill ไม่ได้
Grade 4 : ดังมากขึ้น เริ่มคลำ Thrill ได้
Grade 5 : ดังมาก คลำได้ Thrill และ Heaving
Grade 6 : ดังมาก อาจฟังได้โดยยไม่ต้องใช้หูฟัง