Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การตรวจทรวงอกและปอด (Thorax / Chest & Lung) - Coggle Diagram
การตรวจทรวงอกและปอด (Thorax / Chest & Lung)
การคลำปอด
ตำแหน่งของหลอดลมทำได้ 2วิธี
ผู้ป่วยนั่งหรือนอนก้มคอมาข้างหน้าเล็กน้อย ผู้ตรวจใช้ปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางกดไปบน suprasternal notch โดยให้นิ้วอยู่แต่ละข้างของหลอดลม เปรียบเทียบความรู้สึกว่าช่องว่าง
ผู้ป่วยนั่งหน้าตรง ผู้ตรวจใช้นิ้วคลำหาจุดกึ่งกลางของSuprasternal notchและเคลื่อนนิ้วเข้าหา Trachea สังเกตว่าสัมผัสได้ที่จุดกึ่งกลาง
การขยายตัวของปอด (Lung expansion)
ตรวจด้านหลัง วางฝ่ามือทั้ง 2 ข้างทาบทรวงอกด้านหลัง ให้นิ้วหัวแม่มือวางขนานกับกระดูกซี่โครงคู่ที่ 10 10ฝ่ามือโอบด้านข้างของทรวงอก ปลายนิ้วหัวแม่มือ 2ข้าง อยู่ใกล้กันบริเวณแนวกระดูกสันหลัง ให้ผู้ป่วยหายใจเข้าออกลึก ๆ
ตรวจด้านหน้า วางมือบริเวณชายโครงตามแนวกระดูกซี่โครงที่ 6 โดยนิ้วหัวแม่มืออยู่ที่ Xiphoid process ฝ่ามือโอบด้านข้างของทรวงอก บอกให้ผู้ป่วยหายใจเข้าออกลึกๆ
การคลำเสียงสะท้อน
(Tactile fremitus or Vocal fremitus)
ใช้ฝ่ามือหรือสันมือวางบนผนังอกด้านหลัง ในตำแหน่งที่ตรงกันทั้ง 2 ข้าง จากบนลงล่างหรือล่างขึ้นบนก็ได้ แล้วให้ผู้ป่วยนับ 1-2-3จะสัมผัสถึงความรู้สึกสั่นสะเทือนที่เกิดจากเสียงเปรียบเทียบกันทั้ง 2ข้าง
การเคาะปอด
ให้นิ้วมือซ้ายเหยียดตรงวางแนบบริเวณที่จะตรวจ ใช้นิ้วกลางมือขวาเคาะลงบนนิ้วกลางมือซ้ายบริเวณ Distal interphalangeal joint ในแนวดิ่ง โดยใช้การเคลื่อนไหวของข้อมือขวา
ตำแห่งการเคาะปอด
เคาะบริเวณยอดปอดโดยให้ผู้ป่วยนั่ง ผู้ตรวจหันหน้าเข้าหาผู้ป่วยเคาะลงบน Supraclavicular fossa ทั้งข้างซ้ายและขวา
เริ่มจากกระดูกไหปลาร้าแต่ละข้าง ไล่ลงมาทีละช่อง
ของกระดูกซี่โครงทั้ง 2ข้าง
ได้ยินเสียงก้อง (Resonance)
เคาะปอดด้านหลัง เริ่มเคาะจากด้านบนลงมาด้านล่างทีละช่องซี่โครง
ได้ยินเสียงก้อง (Resonance)
การแปลผล
Dullness พบใน Pneumonia, Pul. TB, Atelectasis เสียงที่เกิดจากการเคาะตับ หรือเสียงทึบ
Tympany พบใน Pneumothoraxเป็นเสียงโปร่ง เกิดจากการเคาะหน้าท้องที่มีแก๊สมาก
Flatness พบใน Hydrothorax, Pleural effusion เสียงที่เกิดจากเคาะบริเวณต้นขา
Resonance เป็นเสียงที่เกิดจากการเคาะปอดที่ปกติ หรือ เสียงก้อง
Hyper – resonanceเสียงก้องมาก พบในภาวะ Emphysema
การฟังเสียงปอด
ให้ผู้ป่วยอ้าปากเล็กน้อย หายใจเข้าออกลึกๆ แล้วฟังที่ผนังทรวงอกด้วยด้าน diaphragm ของ stethoscopeแต่ละตาแหน่งควรฟังอย่างน้อย 1 รอบของการหายใจเข้า –ออกโดยเปรียบเทียบกับอีกด้านหนึ่งในตาแหน่งเดียวกัน
เสียงที่ควรฟัง
การฟังเสียงหายใจปกติ
( Normal breath sound )
Tracheal/ Bronchial breath soundบริเวณคอตำแหน่งของ Trachea และ bronchus (หายใจเข้าสั้น –ออกยาว)
Bronchovesicular breath sound บริเวณรอบ manubrium 1st., 2nd. Intercostal space ด้านหน้า และinterscapula area ด้านหลัง(หายใจเข้า –ออก เท่า ๆ กัน)
Vesicular breath soundบริเวณชายปอดทั้ง 2ข้าง (หายใจเข้ายาว –ออกสั้น)
การฟังเสียงพูดให้ผู้ป่วยนับ 1-2-3สังเกตการเปลี่ยนแปลงของเสียง กรณีที่มีสิ่งมากั้นระหว่างเนื้อปอดกับผนังทรวงอก เสียงพูดจะเบาลง
การฟังเสียงผิดปกติ
Crepitation or crackle เป็นเสียงที่ไม่ต่อเนื่อง เกิดจากลมหายใจ
Rhonchi เป็นเสียงที่มีลักษณะใหญ่และทุ้ม
Rhonchi and Wheezingเป็นเสียงที่เกิดจากมีลมวิ่งผ่านหลอดลมที่ตีบแคบ
พบใน Asthma,COPD, CHF
Wheezingเป็นเสียงที่มีลักษณะแหลม
Stridor เป็นเสียงที่เกิดจากการตีบแคบของหลอดลมขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นเสียงหวืดที่ได้ยินชัดในช่วงหายใจเข้า
การดูปอด
รูปร่างของทรวงอก
antero-posterior diameter และ lateral diameter ทำโดยวัดความหนาของทรวงอก โดยantero-posterior dlameter แคบกว่า lateral diameter เป็นสัดส่วน 1:2
ขนาดของทรวงอก
ทรวงอกทั้งสองข้างสมมาตรกัน ซี่โครงไม่แคบหรือกว้างเกินไป
การเคลื่อนไหวของทรวงอก
การเคลื่อนไหวของทรวงอกสัมพันธ์กับการหายใจและเท่ากันทั้ง 2 ข้าง