Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การตรวจทรวงอกและปอด, พัชราพร ศรีประทุมวงค์ เลขที่46 ห้องB รหัส62123301096 …

- - - - ผู้ตรวจใช้ปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางกดไปบน suprasternal notch เทียบหลอดลมกับ Sternocleidomastoid เท่ากันหรือไม่
    - - ด้านหน้า
        
        วางมือบริเวณชายโครงตามแนวกระดูก ซี่โครงที่ 6 โดยนิ้วหัวแม่มืออยู่ที่ Xiphoid process ฝ่ามือโอบด้านข้าง ของทรวงอก บอกให้ผู้ป่วยหายใจ เข้าออกลึกๆสังเกตความแตกต่างของ การเคลื่อนที่ของนิ้วหัวแม่มือทั้ง2ข้าง
      - ด้านหลัง
        
        วางฝ่ามือทั้ง 2 ข้างทาบทรวงอกด้านหลัง ให้นิ้วหัวแม่มือวางขนาน กับกระดูกซี่โครงคู่ที่ 10 ฝ่ามือโอบด้านข้างของทรวงอก ปลาย นิ้วหัวแม่มือ 2 ข้าง อยู่ใกล้กันบริเวณแนวกระดูกสันหลัง โดยมี ระยะห่างเท่ากันบอกให้ผู้ป่วยหายใจ เข้าออกลึกๆสังเกตความแตกต่างของ การเคลื่อนที่ของนิ้วหัวแม่มือทั้ง2ข้าง
    - - ใช้ฝ่ามือหรือสันมือวางบนผนังอกด้านหลังในตำแหน่งที่ตรงกันทั้ง 2 ข้าง จากบนลงล่างหรือล่างขึ้นบนก็ได้ แล้วให้ ผู้ป่วยนับ 1-2-3 จะสัมผัสถึงความรู้สึกสั่นสะเทือนที่เกิดจากเสียง เปรียบเทียบกันทั้ง 2 ข้าง
  - - - เคาะบริเวณยอดปอด โดยให้ผู้ป่วยนั่ง ผู้ตรวจหันหน้าเข้าหาผู้ป่วย เคาะลงบน Supraclavicular fossa ทั้งข้างซ้ายและขวา
      - เคาะปอดด้านหลัง เริ่มเคาะจาก ด้านบน ลงมาด้านล่างทีละช่อง ซี่โครง
      - โดยเริ่มจากกระดูกไหปลาร้าแต่ละข้าง ไล่ลงมาทีละช่อง ของกระดูกซี่โครงทั้ง 2 ข้าง
    - - Tympany
        
        พบใน Pneumothorax เป็นเสียงโปร่ง เหมือนเสียงที่เกิดจากการเคาะหน้าท้องที่มีแก๊สมาก
      - Resonance
        
        เป็นเสียงที่เกิดจากการเคาะปอดที่ปกติหรือเสียงก้อง
      - Dullness
        
        พบใน Pneumonia, Pul. TB, Atelectasis ลักษณะเหมือนเสียงที่เกิดจากการเคาะตับ หรือเสียงทึบ
      - Hyper Resonance
        
        เสียงก้องมาก พบในภาวะ Emphysema
      - Flatness
        
        พบใน Hydrothorax, Pleural effusion ลักษณะเหมือนเสียงที่เกิดจากเคาะบริเวณต้นขา
  - - - ให้ผู้ป่วยนับ 1-2-3 สังเกตการเปลี่ยนแปลงของเสียง กรณีที่มีสิ่งมากั้นระหว่างเนื้อปอดกับผนังทรวงอกเสียงพูดจะเบาลง
    - - Rhonchi and Wheezing
        
        เป็นเสียงที่เกิดจากการสั่นของ หลอดลม ในขณะที่มีลมวิ่งผ่านหลอดลมที่ตีบแคบ พบใน Asthma, COPD, CHF
      - Rhonchi
        
        เป็นเสียงที่มีลักษณะใหญ่และทุ้ม แสดงถึงหลอดลม ขนาดใหญ่ในทรวงอกที่ตีบแคบ
      - Crepitation or crackle
        
        เป็นเสียงที่ไม่ต่อเนื่อง
      - Wheezing
        
        เป็นเสียงที่มีลักษณะแหลมกว่า rhonchi ซึ่งความ แหลมของเสียงขึ้นกับความเร็วของลมที่วิ่งผ่าน
      - Stridor
        
        เป็นเสียงที่เกิดจากการตีบแคบของหลอดลมขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นเสียงหวีดที่ได้ยินชัดในช่วงหายใจเข้า มักจะได้ยินโดยไม่ ต้องใช้ stethoscope
      - Decrease breath sound เสียงหายใจเบากว่าปกติพบในภาวะที่มีลมหรือของเหลวในช่องเยื่อหุ้มปอด
        Pleural friction rub เกิดจากการเสียดสีของเยื่อหุ้มปอดที่อักเสบ พบใน Pleuritis
    - - Bronchovesicular breath sound (หายใจเข้า – ออก เท่า ๆ กัน)
      - Vesicular breath sound (หายใจเข้ายาว – ออกสั้น)
      - Tracheal / Bronchial breath sound (หายใจเข้าสั้น – ออกยาว)
- - - - ใช้ปลายนิ้วมือทั้ง 4 นิ้ว ตำแหน่งที่คลา พบว่าหัวใจเต้นแรงที่สุด จะมีแรงกระแทกถูกนิ้วมือเพียงจุดเดียว หรือเป็นบริเวณเล็กๆ ไม่เกิน 2-3 ซม.
    - - แรงขึ้น เพราะ Left ventricular hypertrophy ,contractility
      - เปลี่ยนไปทางซ้ายเนื่องจาก Rt. Pneumothorax , Lt. Atelectasis ,Cardiac dilatation
      - เปลี่ยนไปทางขวาเนื่องจาก Lt. Pneumothorax , Rt.Atelectasis
    - - Thrill คือปรากฏการณ์ของ Murmurs ที่ดังมาก จนเกิดการสั่นสะเทือน ของ Chest wall จะรู้สึกเหมือนมีคลื่นมากระทบ (Vibration sensation ถูกที่ฝ่ามือ
  - - - คือตำแหน่งที่มีการเต้น ของหัวใจแรงที่สุด เรียกว่า Point of maximum impulse : PMI บางรายอาจมองไม่เห็นเนื่องจากผนังทรวงอกหนา ต้องใช้วิธีคลำ
    - - ในบริเวณ Precordial area และ บริเวณคอทั้ง 2 ข้างเช่น Impulse จาก Aneurysm
    - - มีการ โป่งนูน ของผนังทรวงอกหรือไม่
        ถ้ามี bulging ด้านซ้ายของกระดูก sternum แสดงว่ามี Right ventricular hypertrophy
  - - - S1 เป็นเสียงที่เกิดจากการปิดของmitral&tricuspidvalveเกิดใน ช่วงหัวใจบีบตัว ฟังชัดที่สุดบริเวณ Apex
      - S2 เป็นเสียงที่เกิดจากการปิดของ pulmonic & aortic valve เกิดใน ช่วงหัวใจคลายตัว ฟังชัดบริเวณpulmonic&aorticvalve
    - - Systolic murmur : เกิดระหว่างเสียง S1 และเสียง S2 โดยเกิดพร้อมกับการเต้นของชีพจรที่คอ
        Diastolic murmur : เกิดระหว่างเสียง S2 และเสียง S1 โดยเกิดหลังการเต้นของชีพจรที่คอ
      - ความดังของMurmur
        
        Grade 1 : เสียงเบามาก ฟังยาก ต้องตั้งใจฟัง อาจพลาดได้
        
        Grade 2 : เสียงเบา แต่ฟังได้ยินทันทีที่แตะหูฟังบนผนังทรวงอก
        
        Grade 4 : เสียงดังมากขึ้น และเริ่มคลา thrill ได้
        
        Grade 5 : เสียงดังมาก แตะหูฟังไม่สนิทก็ได้ยินและคลำได้ thrill และ heaving
        
        Grade 6 : เสียงดังมากที่สุด อาจฟังได้ โดยไม่ต้องใช้ Stethoscope
        
        Grade 3 : เสียงดังปานกลาง แต่ยังคลาไม่ได้ thrill