การประเมินสุขภาพ
การตรวจบริเวณช่องท้อง

การตรวจบริเวณช่องท้อง

การแบ่งเส้นสมมุติฐานในการตรวจบริเวณช่องท้อง

การแบ่ง 4 ส่วน

image

การแบ่ง 9 ส่วน

image

วิธีตรวจ

ใช้หลักการดู การฟัง การเคาะ และการคลำตามลำดับ

การคลำจัดไว้เป็นอันดับสุดท้ายเพราะการคลำมีผลรบกวนต่อคนไข้มากที่สุดอาจทำให้อาจนำไปสู่การแปลผลที่ผิดพลาดได้

การดู

สิ่งที่ควรสังเกตุ

  1. รูปร่างลักษณะของท้อง ท้องโตกว่าปกติหรือไม่
  1. บริเวณที่นูนหรือโป่งพองเฉพาะที่

การฟัง

  1. แผลเป็น (Scars) รอยแผลผ่าตัด หรือลายที่ผนังหน้าท้อง (Striae)

  1. หลอดเลือดดำที่โป่งพอง (Superficial vein dilatation)
  1. สะดือ มีการดึงรั้งหรือไม่ ในผู้ที่มีการอักเสบหรือไส้เลื่อน(Umbilical hernia)

6.การเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหารหรือลำไส้ (visible peristalsis)แสดงถึงการอุดตันในทางเดินอาหาร

  1. การเคลื่อนไหวของผนังหน้าท้องขณะที่ผู้ป่วยหายใจเข้าและออก

image

image

สิ่งที่ต้องฟัง

  1. เสียงการเคลื่อนไหวของลำไส้ (Bowel sound) ปกติได้ยิน 6 – 12 ครั้ง/นาที
  1. เสียงผิดปกติเช่น เสียงฟู่ (Bruit) เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดแดง

การฟังเสียงในช่องท้องโดยใช้ Stethoscope ด้าน bellฟังแต่ละครั้ง ควรฟังให้ทั่วทั้ง 4 Quadrants และฟังอย่างน้อย 3 นาที

การเคาะ

เคาะเพื่อตรวจอาการต่างๆดังนี้

เพื่อตรวจหาสารน้ำและอากาศในช่องท้อง

เพื่อตรวจขนาดของตับ ม้าม และก้อนในท้องร่วมกับการคลำ

วิธีตรวจ

ใช้ปลายนิ้วกลางข้างขวาเคาะเบาๆลงบนนิ้วมือซ้ายของผู้ตรวจ ซึ่งวางแนบบนหน้าท้องผู้ป่วย โดยเคาะจากส่วนที่โปร่งไปยังส่วนที่เคาะทึบ การตรวจอวัยวะที่อยู่ลึกให้เคาะแรงขึ้น

การเคาะเพื่อตรวจหาสารน้ำในช่องท้อง มี 3 วิธี

*1.การตรวจการเปลี่ยนที่ของเสียงเคาะทึบ (Shifting dullness)

หลักการ

วิธีตรวจ

2.การตรวจการสั่นสะเทือนของสารน้ำ (Fluid thrill) .

หลักการ

วิธีตรวจ

สารน้ำจะเปลี่ยนที่ไปอยู่ส่วนที่ต่ำสุดเสมอตามแรงโน้มถ่วง

ให้ผู้ป่วยนอนหงาย เริ่มเคาะจากสะดือไปด้านข้างทั้งซ้ายและขวา จนถึงแนวเส้นกลางรักแร้ ในคนปกติจะเคาะได้เสียงโปร่งถ้ามีน้ำในช่องท้องจะได้เสียงทึบ จากนั้นให้ผู้ป่วยพลิกตัว บริเวณที่มีสารน้ำจะเปลี่ยนที่มาอยู่ข้างล่าง ดังนั้นบริเวณเอวข้างบนที่เคยเคาะทึบจะเปลี่ยนเป็นโปร่ง เพราะน้ำมาอยู่ข้างล่าง

สารน้ำในช่องท้องจะเป็นตัวนำให้เกิดการสั่นสะเทือน

ผู้ป่วยนอนหงาย ผู้ตรวจวางมือซ้ายขนานกับหน้าท้องด้านขวาของผู้ป่วย แล้วใช้มือขวาของผู้ตรวจเคาะเบา ๆ ที่ท้องด้านซ้ายถ้ามีน้ำในช่องท้อง ผู้ตรวจจะรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนที่ฝ่ามือซ้าย

3. การตรวจอาการแสดงแบบหลุมบ่อ (Puddle sign)

เป็นการตรวจหาสารน้ำในช่องท้อง โดยเฉพาะที่จำนวนน้อยเช่น 200 มล.ซึ่งวิธีนี้ไม่นิยมใช้เนื่องจากเป็นท่าที่ไม่สะดวกสำหรับผู้ป่วย

การเคาะตับ

วิธีตรวจ

ให้เคาะในแนวเส้นกลาง MCL. โดยเริ่มจากหน้าท้องด้านล่างต่ำกว่าสะดือซึ่งมีเสียงโปร่ง ค่อย ๆ เคาะขึ้นบนจนได้ขอบล่างของตับ ซึ่งมีเสียงทึบ แล้วเคาะจากบริเวณหน้าอกซึ่งมีเสียงโปร่ง ค่อย ๆ เคาะต่ำลงจนพบขอบบนของตับ จากนั้นจึงวัดความสูงของตับ (Liver span)

ขนาดของตับปกติ

  1. ขนาด6 – 12 ซม. แนว Midclavicular line
  1. ขนาด 4 – 8 ซม. แนว Midsternal line

image

click to edit

click to edit