Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การป้องกันและควบคุมการแพร่ กระจายเชื้อในโรงพยาบาล - Coggle Diagram
การป้องกันและควบคุมการแพร่
กระจายเชื้อในโรงพยาบาล
เชื้อโรคสามารถแพร่กระจายจากผู้ป่วยที่เป็นโรคหรือผู้ที่เป็นพาหะของโรคไปสู่คนอื่นได้ด้วยวิธีต่างๆบุคลากรต้องมีความรู้เกี่ยวกับวิธีแพร่กระจายเชื้อ เพื่อสามารถป้องกันผู้ป่วยและตนเองให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อและป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อ
วิธีการแพร่กระจายมี 3 วิธี
การแพร่กระจายเชื้อโโยการสัมผัส (Contact transmission) การสัมผัสทางอ้อม (Indirect contact transmissioon)
การแพร่กระจายเชื้อโดยละอองฝอยน้ำมูกน้ำลาย (Droplet transmission)
การแพร่กระจายเชื้อทางอากาศ (Airborne transmission)
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ
ในโรงพยาบาลมี 3 ปัจจัย
เชื้อก่อโรค
ส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อแบคทีเรียและมักเป็นเชื้อประจำถิ่นส่วนน้อยเป็นเชื้อจากผู้ป่วยอื่นบุคลากร หรือสิ่งแวดล้อม
สิ่งแวดล้อม ถ้ามีเชื้อโรคในสิ่งแวดล้อมมาก
ผู้ป่วยจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคมากขึ้น
อาคาร สถานที่
เครื่องมือ เครื่องใช้
บุคลากรและญาติที่มาเยี่ยมผู้ป่วย
คน
เป็นปัจจัยที่สำคัญ ถ้าบุคลากรหรือผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันลดลงจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ง่าย
การติดเชื้อในโรงพยาบาล หมายถึง การติดเชื้ออันเป็นผลจากการที่ผู้ป่วยหรือผู้รับบริการได้รับเชื้อจุลชีพขณะอยู่โรงพยาบาลซึ่งเชื้อจุลชีพอาจเป็นเชื้อที่มีอยู่ในตัวผู้ป่วย (Endogenousorganism ) หรือเป็นเชื้อจากภายนอกร่างกายผู้ป่วย (Exogenousorganism) โดยที่ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลผู้ป่วยไม่มีอาการแสดงของการติดเชื้อ และไม่ได้อยู่ในระยะฟักตัวของเชื้อ หากไม่ทราบว่าระยะฟักตัวของเชื้อในโรงพยาบาลถือว่าเป็นการติดเชื้อในโรงพยาบาล
หลักการควบคุมโรคจิตติดเชื้อในโรงพยาบาล
การควบคุมโรคแม้ไม่ทำให้โรคติดเชื้อลงได้
การควบคุมควรกระทำไปเพื่อแก้ปัจจัยการติดเชื้อ
การกำจัดแหล่งเชื้อโรค
แยกผู้ป่วยที่ติดเชื้อ
ดูแลเครื่องมือให้สะอาด
การป้องกันการนำเชื้อโรคเข้าสู่ผู้ป่วย
การกำจัดเชื้อบนเครื่องมือ
การดูแลสิ่งแวดล้อม
เข้มงวดในการล้างมือ
เสริมสร้างภูมอคุ้มกันให้แก่ผู้ป่วย
การรักษาโรค
การให้อาหารเสริม
กลไกการเกิดติดเชื้อ
ที่สำคัญ ได้แก่
การสัมผัส เกิดขึ้นกับการจับต้องผู้ป่วยโดยตรง หรือการสัมผัสที่เกิดขึ้นจากการใช้เครื่องมือต่างๆ พาหะที่สำคัญที่สุดในการนำเชื้อสู่ผู้ป่วย คือ
เครื่องมือ
เครื่องใช้ที่ไม่ได้รับการกำจัดเชื้อที่ถูกต้องก็ทำให้มีการแพร่กระจายเชื้อได้ง่าย
การแพร่เชื้อทางอากาศ ส่วนใหญ่เป็นเชื้อไวรัส
ไข้หวัดใหญ่
อีสุกอีใส
หลักการการป้องกันการติดเชื้อ
และควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ
isolation precaution
หมายถึง การปฏิบัติเพื่อป้องกันการติดเชื้อและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อจากผู้ป่วยสู่ สถานบริการสาธารณสุข
Standard Precaution หมายถึง ปฏิบัติขั้นพื้นฐานเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่ใช้กับผู้ป่วยทุกรายที่รับบริการจากโรงพยาบาล โดยไม่คำนึงถึงการวินิจฉัยของโรค หรือภาวะ
ติดเชื้อของผู้ป่วย
การทำความสะอาดมือ
การใช้อุปกรณ์ป้องกันร่างกายส่วนบุคคล
การป้องกันไม่ให้บุคลากรได้รับอุบัติเหตุจากของมีคม และสัมผัสสาคัดหลั่งขณะปฏิบัติงาน
การปฏิบัติเพื่อทำให้ปราศจากเชื้อสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์
การดูแลเพื่อสิิ่งแวดล้อม
การจัดสถานที่ให้ผู้ป่วย
การจัดการเครื่องผ้า
Transmission Based Precautions
หมายถึง การปฏิบัติเพื่อควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ ซึ่งใช้การใช้มาตราการนี้จะขึ้นกับลักษณะหนทางการแพร่กระจายเชื้อโรคของผู้ป่วย
แบ่งเป็น 3 ประการ
การป้องกันการติดเชื้อทางอากาศ (Ariborne)
เกิดจากละอองฝอยเล็กกว่า 5 ไมครอน
จัดให้ผู้ป่วยอยู่ห้องแยกความดันลบ
ปิดประตูทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการใช้พัดลม
ให้ผู้ป่วยใช้ผ้าหรือกระดาษปิดจมูกเวลาไอจาม และใส่ผ้าปิดจมูกชนิดธรรมดาตลอดเวลา
ผู้เข้าเยี่ยม หรือผู้ดูแลต้องใส่ผ้าปิดปากและจมูกชนิด N-95
ล้างมือ แบบ Hygiemic hand washing หลังการเยี่ยม
การป้องกันการติดเชื้อทางละอองเสมหะ
(Droplet precautions) ป้องกันการกระจายเชื้อโรคจากละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย ที่มีขนาดใหญ่
ให้จัดเตียงผุ้ป่วยไว้ห่างกันไม่น้อยกว่า 3 ฟุต และมีอากาศถ่ายเทสะดวก
เตรียมภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดมีถุงลมฝอยรองรับสารคัดหลั่ง แล้วทิ้งในถังฝอยติดเชื้อ
ถ้ามีการย้ายผู้ป่วยออกนอก ต้องให้
ผู้ป่วยใส่ผ้าปิดปากและจมูก และแจ้งให้หน่วยงานทราบล่วงหน้าเพื่อป้องกัน การแพร่กระจายเชื้อ
การป้องกันการติดเชื้อจากการสัมผัส (Contact precaution)
สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโรค ที่สามารถแพร่กระจายเชื้อทางการสัมผัสทั้งทางตรงและทางอ้อม
สวมถุงมือและผ้ายางทุกครั้งเมื่อจับผู้ป่วยและถอดออกก่อนออกจากห้องผู้ป่วย
หลังดูแล หรือเข้าเยี่ยมต้องล้างมือแบบ Hygienic hand washing ทุกครั้ง
แนะนำญาติให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสเครื่องมือและผู้ป่วย