Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สมดุลน้ำและอิเล็กโทรไลต์ กรด ด่างในร่างกาย - Coggle Diagram
สมดุลน้ำและอิเล็กโทรไลต์ กรด ด่างในร่างกาย
ความผิดปกติของสมดุลน้ำ
ภาวะขาดน้ำ (Dehydration) ร่างกายสูญเสียน้ำมากแต่ได้รับน้ำน้อย อาจเกิดจากการออาเจียน ท้องเดิน การเสียเลือด โรคเบาหวาน โรคเบาจืดการได้รับยาขับปัสสาวะส่งผลให้ความเข้มข้นของน้ำภายนอกเซลล์เพิ่มขึ้นน้ำภายในเซลล์ถูกดึงออก ทำให้เซลล์เหี่ยวและขาดน้ำ
ภาวะน้ำเกิน(Water excess) ร่างกายได้รับน้ำเพิ่มขึ้นหรือรับปกติแต่มีการสูญเสียน้อย เกิดจากการดื่มน้ำมาก ความผิดปกติทางจิตใจ การได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำมากเกิน การขับปัสสาวะลดลงสาเหตุมาจากโรคหัวใจล้มเหลวไตวายเรื้อรังส่งผลให้ความเข้มข้นของน้ำภายนอกเซลล์ลดลง โซเดียมในพลาสมาต่ำ น้ำเคลื่อนเข้าสู่ภายในเซลล์ เซลล์บวม
การกระจายของน้ำในร่างกาย
น้ำที่อยู่ในเซลล์ Intracellular fluid , ICF มีประมาณร้อยละ40 ของน้ำหนักตัว
น้ำที่อยู่ภายนอกเซลล์ Extracellular fluid , ECF มีประมาณร้อยละ 40 ของน้ำหนักตัวประกอบด้วย
• น้ำที่อยู่ระหว่างเซลล์ น้ำที่อยู่ล้อมรอบเซลล์ มีประมาณร้อยละ15ของน้ำหนักตัว • น้ำที่อยู่ในหลอดเลือดพลาสมามีประมาณร้อยละ4- 5ของน้ำหนักตัว • น้ำที่ข้ามเซลล์ น้ำที่หล่อเลี้ยงอวัยวะ ต่าง ๆ เช่นน้ำในลูกตาน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลังมีประมาณร้อยละ1- 3 ของน้ำหนักตัว
ความผิดปกติโปแตสเซียม
ภาวะโปแตสเซียมเกิน(Hyperkalemai)
สาเหตุ • ภาวะโปแตสเซียมเกิน(Hypetkalemia) tourniquet แน่นและนานทำให้ขาดเลือดมาเลี้ยงเม็ดเลือดแดงแตก K+ ออกนอกเซลล์ • ภาวะโปแตสเซียมสูงจริงไตวาย ได้รับโปแตสเซียมมากเกินไป
ภาวะโปแตสเซียมต่ำ(Hypokalemia)
รับประทานน้อย ดึงโปแตสเซียมเข้าสู่กล้ามเนื้อ จากการรับประทานมากเกินไป มีการสูญเสียโปแตสเซียมออกจากร่างกาย อาเจียน ท้องเสีย ขับออกทางปัสสาวะ เสียเหงื่อ
ออสโมลาลิตี้(osmolality)ของน้ำในร่างกายน้ำในแต่ละส่วนของร่างกายประกอบด้วยสารละลายต่างกันความเข้มข้นของสารละลายที่อยู่ในน้ำจะมีหน่วยเป็นมิลลิออสโมลต่อกิโลกรัมของน้ำเรียกว่าออสโมลาลิตี้
การควบคุมอออสโมลาลิตี ในการควบุมออสโมลาลิตี้ของน้ำภายนอกเซลล์ให้ปกติขึ้นอยู่กับอัตราส่วนของสารละลายต่อประมาณน้ำที่มีอยู่ภายในร่างกายซึ่งการควบคุมนี้อาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างการดื่มน้ำโดยการกระตุ้นของศูนย์การกระหายและการขับน้ำออกจากร่างกายโดยอาศัยฮอร์โมนADH
กลไกทางฮอร์โมน เกี่ยวกับฮอร์โมนที่สำคัญคือ aldosterone รองลงมาคือ ฮอร์โมน ADH และ ACTH
กลไกทางประสาท เป็นการรเฟลกซ์ทางระบบประสาท มีตัวรับความดันโลหิต พบที่ผนังหัวใจห้องบนซ้าย ผนังของหลอดเลือดแดงใหญ่ ผนังของหลอดเลือดดำใหญ่ ผนังหลอดเลือดในปอด ตับและหลอดเลือดแดงที่เข้าสู่โกลเมอรูลัสที่ไตส่ง สัญญาณไปยังระบบประสาทส่วนกลางออกฤทธิ์มตามระบบประสาทอัตโนมัติมีผลต่อการตีบตัวของหลอดเลือด การทำงานของหัวใจ การขับเกลือและน้ำที่ไต
สมดุลน้ำในร่างกาย (Body water balance) ในภาวะปกติ น้ำที่รับเข้ามากับน้ำที่ร่างกายขับออกจะต้องมีปริมาณเท่ากันจึงจะเกิดภาวะสมดุล ร่างกายจะได้รับน้ำทีค่าเฉลี่ยต่อวนั ประมาณ 2,750 ml.จากการดื่มน้ำรับประทานอาหารและขบวนเมตาบอลิซึม การขับน้ำปริมาณน้ำที่ได้รับโดยขับออกทางปัสสาวะ อุจจาระ ทางเหงื่อการหายใจ
อิเลคโทรไลต์คือ สารที่เมื่ออยู่ในตัวทำลาย เช่น น้ำจะแตกตัวให้ประจุไฟฟ้า
ถ้าให้ประจุลบ (-) เรียก แอนไอออน คลอไรด์
ถ้าให้ประจุบวก (+) เรียก แคทไอออน(cathion) โซเดียม โปแตสเซียม
ความผิดปกติ
ภาวะโซเดียมเกิน (Hypernatremia)
อาการทางสมอง กล้ามเนื้อกระตุก กระสับกระส่าย สับสน ประสาทหลอน ซึม ชักหมดสติปัสสาวะเข้มข้นขึ้น
• ระดับโซเดียมสูงมาก ๆ ความดันเลือดในปอดเพิ่มขึ้น เกิดภาวะน้ำท่วมปอด มีอาการหอบเหนื่อยนอนราบไม่ได้อาจมีท้องมาน
• ระดับโซเดียมไม่สูงมาก กระหายน้ำลิ้น แห้งไข้สูง อ่อนเพลีย
ภาวะโซเดียมต่ำ (Hyponatremia)
• ระดับน้อย ค่าNa+ 125 มิลลิโมล/ลิตร อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ปวดศีรษะ มึนงง • ระดับปานกลาง ค่าNa+ 115-120 มิลลิโมลลิตร เวียนศีรษะ อ่อนเพลียมาก ปัสสาวะออกน้อย ความดันโลหิตต่ำ ชีพจรมากกว่า 100ครั้ง/นาทีผิวหนังเหี่ยว กระหายน้ำตะคริวอาเจียน • ระดับรุนแรง ค่าNa+ 110-115 มิลลิโมล/ลิตร เพ้อ กระสับกระส่าย ไม่รูสึกตัว ซึม ชัก ความดันโลหิต ต่ำ ชีพจรเร็ว เหงื่อออก ช็อก