โรคหืด Asthma
ความหมาย / คำจำกัดความ
Asthma เป็นภาวะหลอดลมตีบชั่วคราว
(reversible airfow obstruction) ซึ่งเกิดจากผู้ป่วยสัมผัสกับสารก่อ
ภูมิแพ้อันจะกระตุ้นให้หลอดลมอักเสบจนกระทั่งเกิดภาวะหลอดลมตีบตามมา
พยาธิสภาพของการเกิดโรค
หลอดลมของผู้ป่วยมักไวต่อสารกระตุ้น (bronchial hyperresponsiveness) เมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้จะเกิดการอักเสบในหลอดลม สารก่อภูมิแพ้เหล่านี้จะกระตุ้น T และ B lymphocyte ให้ผลิตสาร interleukin-3 และ 4เพื่อกลับไปกระตุ้นให้ B lymphocyte ผลิต IgE มาตอบสนองต่อตัวกระตุ้น หลังจากนั้น IgE จะไปกระตุ้น mast cell,macrophages, eosinophils, neutrophils และ lymphocytes ที่ผนังหลอดลมให้หลั่งสารอักเสบออกมาที่ผนังหลอดลมจนเกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดลม โดยพบมี epithelial cell ของผนังหลอดลมลอกหลุด มีการสร้างสารเมือกมากขึ้นในหลอดลม ส่วน basement membrane ของผนังหลอดลมมีการหนาตัวขึ้น และเซลล์กล้ามเนื้อหลอดลมเพิ่มจำนวนมากขึ้น
สาเหตุและปัจจัยการเกิดโรค
สาเหตุของหอบหืด เกิดจากการที่หลอดลมมีภาวะไวต่อการกระตุ้นจะทำให้กล้ามเนื้อของหลอดลมเกร็ง มีการบวมของเยื่อบุบริเวรหลอดลม ทำให้เกิดการอักเสบ ตีบแคบ หายใจลำบาก ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดการตีบแคบ เช่น การหดตัวของกล้ามเนื้อรอบๆ หลอดลม การบวมอักเสบของเยื่อบุภายในหลอดลม หรือมีเสมหะจำนวนมากคั่งค้างอยู่ภายในหลอดลม
พันธุกรรม มีประวัติการการเป็นหอบหืดคนในครอบครัว
โรคภูมิแพ้ สารก่อภูมิแพ้ที่สำคัญ เช่น ขนสัตว์เลี้ยง ไรฝุ่นบ้าน แมลงสาบ สปอร์เชื้อรา เกสรดอกไม้
สารเคมี สารเคมีที่ใช่ในบ้านอาจก่อให้เกิดอาการมากขึ้น เช่น กลิ่นสี ยาฆ่าแมลง สเปรย์แต่งผม ควันบุหรี่
การออกกำลังกาย บางคนเกิดอาการเมื่อต้องออกแรงในการทำกิจกรรมต่างๆรวมถึงออกกำลังกายโดยเฉพาะที่ที่มีอาการเย็น
ภาวะอารมณ์ มักเกิดขึ้นในผู้ที่มีความเครียด ส่งผลให้หายใจผิดปกติโดยไม่รู้ตัว ทำให้หายใจบ้างลึกบ้างตื้นบ้างสลับกันไปมา
สารในกลุ่มซัลไฟต์ ( Sulfites ) และสารกันบูดสารที่เจือปนในอาหารหรือเครื่องดื่มบางชนิด เช่น ผลไม้แห้ง เบียร์ไวน์
โรคกรดไหลย้อน ภาวะที่มีกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร ผู้ป่วยจะมีอาการแสบร้อนในอก กรดไหลย้อนทำให้ผู้ป่วยที่เป็นหอบหืด มีอาการบ่อยขึ้น และรุนแรงได้
ไวรัสทางเดินหายใจ
ไซนัสอักเสบเรื้อรัง
อาการและอาการแสดง
กล้ามเนื้อเรียบของทางเดินหายใจหดตัว ( Bronchospasm ) ทำให้ทางเดินอาหารตีบแคบลง
การอักเสบของเยื่อบุทางเดินหายใจ ทำให้เยื่อบุทางเดินหายใจบวม
การอักเสบของเยื่อบุทางเดินหายใจ มีมูก ( Mucous ) มาก และมักจะเหนียวข้น ซึ่งทำให้ช่องทางเดินหายใจตีบแคบขึ้น
อาการโดยทั่วไปของผู้ป่วยหอบหืด
มีปัญหาเรื่องการหายใจ ผู้ป่วยหายใจสั้น หายใจลำบากหรือหายใจไม่อิ่ม
มีอาการเจ็บหน้าอก หรืออาการเเน่นหน้าอก
มีอาการไอ
มีปัญหาในการนอนหลับ โดยปัญหามาจากการหายใจลำบาก หรือการหายใจติดขัด ส่งผลให้หลับไม่สนิทหรือหลับไม่เต็มอิ่ม
อาการของหอบหืดที่รุงเเรงที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ซึ่งมีความอันตรายถึงชีวิต
อาการหายใจหอบถี่ หรือหายใจลำบากมีเสียง แย่ลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อใช้อุปกรณ์พ่นยา เช่น อัลบิวเทอรอล แล้วไม่ช่วยให้อาการดีขึ้นเลย
มีอาการหายใจหอบเมื่อทำกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังร่างกายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
การวินิจฉัย / การตรวจร่างกาย / การประเมิน
ทำโดยตรวจ spirometry +/- methacholine challenge test เพื่อวินิจฉัยว่าเป็นโรคหอบหืด
นอกจากนี้ขณะมีอาการหอบฉุกเฉินก็ควรถ่ายภาพรังสีทรวงอกด้วย เพราะผู้ป่วยอาจมี pneumonia, pneumothoraxหรือ pneumomediastinum ร่วมด้วยได้ ตลอดจนแพทย์ควรทำการวัด peak fow ด้วย peak fow meter
เพื่อประเมินอาการของผู้ป่วยด้วย
ในเบื้องต้นของการวินัจฉัย แพทย์จะถามประวัติของการเกิดอาการและสัญญาณของหอบหืดโดยละเอียด รวมทั้งประวัติการเป็นหอบหืดของสมาชิกในครอบครัว นอกจากนี้ แพทย์จะตรวจสมรรถภาพของปอด ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี
สไปโรเมทรีย์ (Spirometry) เป็นเครื่องตรวจสมรรถภาพปอด ซึ่งเป็นการตรวจวัดปริมาตรของอากาศที่หายใจเข้าและออกจากปอด
การรักษาเเละการป้องกัน
ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นเป้าหมายของการรักษา คือควบคุมอาการให้เป็นปกติได้นานที่สุด ให้อาการสงบ และให้ผู้ป่วยมีชีวิตเป็นปกติสุข ด้วยการมีสมรรถภาพปอดใกล้เคียงปกติมากที่สุด
ยาที่ใช้บรรเทาอาการโรคหืด (Relievers)
ใช้เพื่อบรรเทาอาการหอบ จะใช้ยากลุ่มนี้เฉพาะเมื่อมีอาการ ได้แก่ ยาพ่นขยายหลอดลมชนิดเบต้า 2 (Beta2-agonists) มีผลให้กล้ามเนื้อเรียบในหลอดลมคลายตัว หากผู้ป่วยมีการใช้ยาพ่นชนิดบรรเทาอาการบ่อยครั้งหรือเป็นประจำ จะเป็นข้อบ่งชี้ว่ามีอาการเรื้อรังและการควบคุมอาการนั้นอาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร
พีค โฟลว์ มิเตอร์ (Peak Flow Meter) เป็นเครื่องวัดความเร็วสูงสุดของลมที่เป่าออกได้ ใช้เพื่อวัดสมรรถภาพของปอด
การทดสอบทางหลอดลม (Bronchial Provocation Test) เป็นการวัดความไวของหลอดลมต่อสิ่งกระตุ้น เพื่อวินิจฉัยว่าเป็นโรคหืดหรือไม่ จะใช้เมื่อทดสอบโดย 2 วิธีการแรกแล้วยังไม่สามารถวินิจฉัยได้ โดยใช้สารกระตุ้นเช่น สารเมธาโคลีน (Methacholine) มาใช้ในการทดสอบสมรรถภาพของปอด
การใช้เครื่องตรวจวัดความอิ่มตัวออกซิเจนของฮีโมโกลบินในชีพจร (Pulse Oximetry) ช่วยให้สามารถวัดประเมินภาวะการขาดออกซิเจนได้อย่างรวดเร็ว
ยาที่ใช้ควบคุมโรคหืด (Controllers) ต้องใช้เป็นประจำเพื่อการรักษาอาการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม ยาที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดคือยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดสูด (Inhaled Corticosteroid) และยังมียากลุ่มอื่น ๆ ที่สามารถใช้ได้ เช่น ยาต้านลิวโคไทรอีน (Leukotriene Modifier Antagonist) เป็นต้น
การรักษาอื่น ๆ ที่นำมาช่วยในการรักษา
- Magnesium sulfate
- Heliox
- Non-invasive positive pressure ventilation (NIPPV)
- ใส่ท่อช่วยหายใจและเครื่องช่วยหายใจ
ภาวะเเทรกซ้อน
โรคหอบหืดจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง แต่ในรายที่มีอาการรุนแรงและเรื้อรัง อาจจะมีแบคทีเรียแทรกซ้อนทำให้เป็นไซนัสอักเสบ หรือบางรายถึงกับเป็นเนื้องอกในโพรงจมูก