Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่10บทบาทความรับผิดชอบของพยาบาลในการดูแลผู้ ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใ…
บทที่10บทบาทความรับผิดชอบของพยาบาลในการดูแลผู้
ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ
ภาวะการหายใจล้มเหลว
อาการ
และอาการแสดงเมื่อมีภาวะการหายใจล้มเหลว
Respiratory system : หายใจเร็วหายใจลําบาก
Cardiovascular system : ชีพจรเต้นเร็ว
ความดันโลหิตสูง
อาจมีการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ(arrhythmia) และ
ระยะท้ายมีHypotensi
Central nervous system :
ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนไป สับสน
ไม่สมาธิกระสับกระส่าย ถ้ามีภาวะ Hypoxemia
รุนแรงมากขึ้นและผู้ป่วยจะซึมลงและไม่รู้สึกตัว และ
มีอาการแสดงของ Hypercapnia คือปวดศีรษะ
ผิวหนังแดงอุ่น ซึมลง ชักและ ไม่รู้สึกตัวได้
Hematologic effect : เม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น
การรักษา
ให้เนื้อเยื่อ ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
การรักษาโรคหรือสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะการณ์หายใจล้มเหลว
สาเหตุของภาวการณ์หายใจล้มเหลว
1.ความผิดปกติที่ปอด
1.1 Obstructive pulmonary function
1.2 Restrictive pulmonary function
1.3 ความผิดปกติของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงปอด
ความผิดปกติที่ช่องทรวงอกและเยื้อหุ้มปอด
ความผิดปกติที่ระบบประสาทสวนกลาง
ความผิดปกติของระบบประสาท และกล้ามเนื้อ
่5. ความผิดปกติของระบบหวัใจและหลอดเลือด
1.ชนิดของภาวการณ์หายใจล้มเหลว
การหายใจล้มเหลวอย่าวเฉียบพลัน
(Acute respiratory failure)
การหายใจล้มเหลวอย่างเรื้อรัง
(Chronic respiratory failure)
ภาวะที่มีการพร่องของ ออกซิเจนในเลือดแดง
และคาร์บอนไดออกไซด์สูงขึ้น อย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยเกิดหลัง 48-72 ชม
ภาวะที่มีการพร่องของ ออกซิเจนในเลือดแดง(Hypoxemia)โดยมีPaO2 ต่ำากวา่ 50 มมปรอทหรือคาร์บอนไดออกไซด์คั่ง (Hypercapnia) โดยมีPaCoสูงกวา่ 50 มมปรอท เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
การดูดเสมหะ
การใช้สายยางดูดเสมหะซึ้งปราศจากเชื้อผ่านเข้าทางปากจมูก หรืออุปกรณ์ที่ใส่เข้าไปในหลอดลม เช่น Endotracheal, Tracheostomy tube เป็นต้นเพื่อนําเสมหะออกจากทางเดินหายใจเนื่องจากผู้ป่วยไอขับเสมหะออกเองไม่ได้หรอืการเก็บเสมหะเพื่อส่งตรวจทางห้องปฎิบัติการ
การประเมินเพื่อการดูดเสมหะ
1.1 พบปัจจัยเสี่ยงต่อเสมหะอุดกั้นายในทางเดินหายใจผู้ป่วยขับเสมหะออกเองไม่ได้เสมหะปริมาณมากลักษณะเสมหะเหนียว
2 อาการแสดงของเสมหะอุดกั้นภายในทางเดินหายใจ
ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยหายใจลําบาก, หายใจเสียงดัง
หรือการได้ยิน เสียงเสมหะภายในหลอดลมของผู้ป่วยอัตรา
ชีพจรและการหายใจเพิ่นขึ้น การฟังปอดได้เสียงผิดปกติ -การประเมินที่ควรหาความผิดปกติอื่นๆ ด้วยเนื่องจากภาวะพร่องออกซิเจนของผู้ป่วยอาจมีสาเหตุนอกเหนือจากเสมหะอุดกั้นภายในทางเดินหาย
การพยาบาลผู้ป่วยขณะที่ได้รับออกซิเจน
เช่น
หมั่นสังเกตและประเมินภาวะของผู้ป่วย
1.1 ตรวจวัดสัญญาณชีพ ดูลักษณะและอัตราเร็วของการหายใจ ความดันโลหิต และชีพจร
1.2 ความผิดปกติของสีผิว ดูลักษณะบรเิวณริมฝีปากเล็บมือ เล็บเท้า
1.3 ระดับความรู้สึกตัว
1.4 วัดปริมาตรตรหายใจเข้า-ออกต่อครั้ง(TridalVolume)
1.5 ติดตามผลค่าก๊าซให้ออกซิเจน (Blood gas)
การให้ออกซิเจนประเภทต่างๆ
Oxygen Mask หรือหน้ากากออกซิเจน
-ใช้สำหรับ อัตราการไหลของออกซิเจนใช้อัตรา 5-10
ลิตร/นาทีความเข้มข้นของออกซิเจนที่ได้60-100 %
การใช้ต้องครอบให้แนบสนิทกับหน้า
Nasal Cannula หรอืสายออกซิเจนแบบผ่านจมูก-ใช้สำหรับอัตราการไหลของออกซิเจน 6-10 ลิตร/นาทีความเข้มข้นของออกซิเจนที่ได้24-44 % สายเล็กๆที่นําออกซิเจนควรอยู่ลึกในจมูกประมาณ 1 ซม ข้อดีคือ ผู้ป่วยจะรูสึกสบายกว่าอุปกรณ์แบบอื่นและมีราคาถูก
Oxygen Re breathing Mask with Bag หรือหน้ากากออกซิเจนมีถุง-ใช้สำหรับอัตราการไหลของออกซิเจน 1-10 ลิตร/นาทีการใช้ ้ต้องครอบให้นบสนิทกับหน้าสังเกตว่าถุงมีการยุบพองตามจังหวะการหายใจของคน
4.Oxygen Re breathing Mask with Bag หรือหน้ากากออกซิเจน