Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Syphilis หญิงไทย อายุ 29 ปี G1P0 Ht 140 cm. BW 46 Kg.,…

- - - - มารดา
        ระยะตั้งครรภ์ มีอาการทางหัวใจ ปริมาณเลือที่บีบออกจากหัวใจใน 1 นาทีเพิ่มขึ้น ฟังได้ยินเสียง murmur , มีโออกาสเกิดPreeclampsia ได้ถึง 2 เท่า
      - ทารก
        น้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติ , ทารกคลอดก่อนกำหนด ,ทารกมีภาวะโลหิตจาง พิการหรืออาจตายในครรภ์ได้เมื่อเเรกเกิด
- - - - ระยะของโรค
      - ปริมาณ CD4และ T-cell count
      - ปริมาณเชื้อ HIV ในเลือดของมารดา มีผลต่ออัตราการติดเชื้อจากมารดาสู่ทารก
      - วิธีการคลอด การผ่าตลอด ช่วยลดการติดเชื้อจากมารดาสู่ทารก
      - การคลอดก่อนกำหนด พบว่ามารดาที่อายุครรภ์ก่อน 34 wks. พบทารกติดเชื้อสูงขึ้น
      - การมีน้ำเดินเกิน 4 ชม. ก่อนคลอดพบว่าถ้าถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนดนานเกิน 4 ชม. จะเพิ่มอัตราการติดเชื้อสู่ทารกเพิ่มมากขึ้น
      - การเลี้บงลูกด้วยนมแม่มีผลต่อการพรวบพบเชื้อ HIV ที่มาจากน้ำนม
- - - - มักจะเกิดในไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ ตัวโรคเองมักไม่มีผลต่อทารกในครรภ์โดยตรง แต่ในกรณีตับอักเสบเฉียบพลันและมีอาการรุนแรงเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 3 ทารกอาจคลอดก่อนกำหนด ตายในครรภ์ เชื้อไวรัสตับอักเสบบีถ้าหากติดต่อถึงทารกจะทำให้ทารกติดเชื้อไวรัสตั้งแต่กำเนิดกลายเป็นพาหะ และอาจมีผลทำให้เป็นตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง ตลอดจนมะเร็งตับในระยะ 10-25 ปี
  - - - จากลักษณะของอาการและอาการแสดง กลุ่มไม่มีอาการทางคลินิก มักเป็นพาหะเรื้อรัง (Carrier) กลุ่มนี้ตรวจพบ HBsAg บวกในเลือดเท่านั้น แต่สามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้
      - ผลทดสอบน้ำเหลืองหาแอนติเจนหรือแอนติบอดีย์ต่อไวรัส เมื่อตรวจพบ HBsAg ในน้ำเหลืองและถ้าพบ HBeAg ร่วมด้วยจะมีโอกาสแพร่ไปยังผู้อื่นรวมทั้งทารก
        
        ถ้าผลเลือด พบ HBsAg เป็นบวก แสดงว่ามีเชื้อไวรัสในร่างกายอยู่ในภาวะที่เป็นพาหะสามารถแพร่เชื้อได้ แต่ถ้าผลการตรวจเลือดพบ HBsAg เป็นลบ อาจพิจารณาตรวจเลือดซ้ำอีกครั้งในไตรมาสที่สาม
      - จากการซักประวัติได้รับการสัมผัสเชื้อ และจากอาการและอาการแสดง
      - จากการตรวจร่างกาย พบตาเหลือง ตัวเหลือง คันตามผิวหนัง
    - - ผ่านทารก อาจเกิดได้ขณะคลอดที่มีการรั่วของเลือดมารดา
      - ทารกติดเชื้อตั้งแต่ในครรภ์ ถ้ามารดาเป็นพาหะ หรือมีอาการ ทารกมักติดเชื้อในระยะคลอดโดยการกลืนหรือสัมผัสเชื้อจากเลือดของมารดา
      - ทารกมีโอกาสติดเชื้อร้อยละ 10 ถ้ามารดามีการติดเชื้อเฉียบพลันในไตรมาสแรก และร้อยละ 80-90 ที่มารดามีการติดเชื้อเฉียบพลันในไตรมาสที่สาม
      - ติดเชื้อขณะตลอดโดยทารกกลืนเลือดหรือน้ำคัดหลั่งในช่องคลอด
      - ติดเชื้อระยะหลังคลอด อาจมีการติดผ่านทางน้ำนม หัวนม รอยถลอกของทารกจากการคลอด
- - - - มารดาสรีระร่างกายเล็ก
      - ทารกมีขนาดตัวโต
        
        ประมานน้ำหนักไม่น้อยกว่า 4500 กรัม
      - อุ้งเชิงกรานแคบ
      - ส่วนนำผิดปกติ
    - - แบบสัมพัทธ์
        
        การที่ศีรษะทารกมีการบิดหรือเงยทำให้เส้นผ่าศูนย์กลางของศีรษะทารกที่จะผ่านช่องทางคลอดใหญ่เกินกว่าจะผ่านลงมาได้
      - แบบสมบูรณ์
        
        มีความแตกต่างของขนาดศีรษะทารกและขนาดของอุ้งเชิงกราน ซึ่งทำให้ทารกไม่สามารถคลอดทางช่องคลอดได้
    - - Cesarean section
        การผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง
        
        การผ่าตัดทางหน้าท้องเพื่อนำตัวเด็กทารกในครรภ์
        ออกมาทางแผลผ่าตัดด้านหน้ามดลูก
        
        ประเภทของการผ่าตัด
        
        Low segment caesarean sectionเป็นการผ่าตัดบริเวณส่วนล่างของมดลูกโดยผ่าตามแนวขวางของมดลูก
        
        Caesarian Hysterectomyเป็นการตัดมดลูกออกทิ้งหลังนำทารกออกจากมดลูกทันทีจะทำในรายที่มดลูกแตก หรือมีเนื้องอกในมดลูกขนาดใหญ่
        
        Classical caesarean sectionเป็นการผ่ตัดตามแนวตั้งบริเวณส่วนบนของมดลูก
        
        ข้อบ่งชี้
        
        Failed induction
        
        Cephalopelvic disproportion (CPD)
        
        Failure to progress in labor
        
        Proven fetal distress
        
        Plavental abruption
        
        Placental previa
        
        Umbilical cord prolapsed
        
        Conjoined twins
        
        ภาวะแทรกซ้อน
        
        ด้านมารดา
        
        เสียเลือดเป็นจำนวนมากจากผ่าตัด
        
        การติดเชื้อของอวัยวะต่าง ๆ ภายในช่องท้อง
        
        อวัยวะใกล้เคี้ยงได้รับการกระทบ กระเทือนหรือชอกช้า
        
        อาการปวดแผลอย่างรุนแรงและเป็นเวลานาน
        
        ช็อก
        
        แพ้ยาที่ได้ขณะผ่าตัด
        
        เสียเลือดเป็นจำนวนมาก
        
        ได้รับยาสลบเป็นเวลานาน
        
        ด้านทารก
        
        เกิดภาวะพร่องออกซิเจน
        
        ทารกอาจได้รับความบอกช้ำหรือกระทบกระเทือนจากการผ่าตัด
- - - - แต่หลังจากนั้นระบบภูมิคุ้มกันจะจดจำแอนติเจนไว้ หากมีตั้งครรภ์ที่สอง ของแม่ที่มีหมู่เลือดแบบ Rh- มีลูกที่มีหมู่เลือดแบบ Rh + อีก จะทำให้ร่างกายของแม่สร้างแอนติบอดีระยะยาว IgG ปริมาณมากโดยแอนติบอดี IgG นี้สามารถผ่านรกได้ และอยู่ในร่างกายได้นาน
        จึงส่งผลต่อทารก ทำให้เกิดเม็ดเลือดแดงทารกแตก หากในครรภ์ที่สองของแม่ที่มีหมู่เลือดแบบ Rh- แต่มีลูกที่มีหมู่เลือดแบบ Rh- เช่นเดียวกันก็ไม่มีปัญหาเกิดขึ้น
        
        การป้องกัน
        
        การไปฝากครรภ์ตั้งแต่เนิ่นๆ หากตรวจพบการไม่เข้ากันของเลือดแม่และลูกในการตั้งครรภ์ครั้งแรก คุณหมอจะฉีดยาลดการสร้างภูมิต้านทานต่อเลือดของลูกให้เมื่อตั้งครรภ์ 28 สัปดาห์ และอีกเข็มหลังคลอดภายใน 72 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดของแม่ ไปทำลายเม็ดเลือดแดงของลูกในการตั้งครรภ์ครั้งถัดไป แต่ก็ไม่มีปัญหาใด ๆ สำหรับการคลอดซึ่งคุณแม่ที่มีกลุ่มเลือด Rh- ยังสามารถคลอดได้ตามปกติ
      - โดยปกติหากพ่อและแม่มีหมู่เลือด Rh ตรงกันเมื่อแม่เริ่มตั้งครรภ์
        เด็กทารกก็จะไม่มีปัญหาอะไร แต่หากว่าแม่มีหมู่เลือดแบบ Rh- พ่อมีหมู่เลือดแบบ Rh + และลูกที่เกิดมามีหมู่เลือดแบบ Rh + ในครรภ์แรก เลือดของทารกที่ปนเปื้อนสู่เลือดของแม่จะกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของแม่สร้างแอนติบอดีต่อแอนติเจน RhD ซึ่งในครั้งแรกจะสร้างแอนติบอดีอายุสั้น IgM ซึ่งไม่สามารถผ่านรกได้ จึงไม่ส่งผลต่อทารกในครรภ์นั้น
- - - - หากพบว่าติดเชื้อซิฟิสลิสจะส่งไปconsult ต่อที่แผนกผิวหนังและกามโรค
        
        การรักษาในหญิงตั้งครรภ์รายนี้
        
        ให้ยา Benzathine penicillin G 2.4 mU ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ สัปดาห์ละ 1 เข็ม เป็นเวลา 3 สัปดาห์ หากหญิงตั้งครรภ์มีประวัติการแพ้ penicillin ยาที่ใช้รักษาคือ Erythomycin ขนาด 500 mgรับประทานวันละ 4 ครั้งนาน 30 วัน
        
        การบริหารยา
        
        Benzathine penicillin G 2.4 mU IM สัปดาห์ละ 1 ครั้ง นาน 3 สัปดาห์ โดย Diluteใน sterile water 3.6 ml รวมได้ 4 ml โดยแบ่งฉีดบริเวณ dorsogluteal muscles ของกล้ามเนื้อสะโพก ข้างละ 1.2 mU ใช้เข็มขนาด 18-20 ยาว 1 นิ้วครึ่ง ฉีดช้าๆ อัตราเร็วคงที่slow IV push 3-5 นาที อาจลดอาการปวดด้วยการผสม 1%Lidocaine0.5-1ml(ที่ไม่มีepinephrine)
        
        ผลข้างเคียง
        
        ภายหลังได้รับการรักษาอาจเกิด Jarisch-Herxheimer reaction ซึ่งปฏิกิริยาของร่างกายที่เกิดขึ้นภายหลังได้รับการรักษาทำให้มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย หัวใจเต้นเร็ว เส้นเลือดขยายตัว ผิ่นแดงขึ้นตามตัว อาจมีความดันโลหิตต่ำและหายใจเร็ว มักเกิดหลังได้รับยา 2-8 ชั่วโมงและจะทุเลาลงภายใน 24 ชั่วโมง ไข้ขึ้นสูงในระหว่าง 6-12 ชั่วโมงหลังได้รับยา
        
        การพยาบาลก่อน-หลังการให้ยา
        
        4 more items...
      - คำแนะนำ
        
        ให้ความรู้/การปรึกษาเรื่องซิฟิลิสและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
        
        ฝึกทักษะการใช้และให้ถุงยางอนามัย
        
        ติดตามและรักษาสามี/คู่เพศสัมพันธ์
        
        นัดติดตามผลการรักษา
- - - - hemoglobin H/ Constant Spring
        
        เป็นโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียชนิดที่มีความรุนแรงปานกลาง
        มีการเจริญเติบโตช้าไม่สมวัย
        มีอาการซีด ตาเหลือง ตับและม้ามโต
        และอาจพบนิ่วในถุงน้ำดี อาจต้องรักษาโดยการให้เลือด
      - hemoglobin H; Hb H
        
        มีความรุนแรงเล็กน้อยถึงปานกลาง
        อาจมีอาการซีดเล็กน้อยถึงปานกลาง
        ปกติไม่จำเป็นต้องให้เลือด
        ยกเว้นมีการติดเชื้อ มีไข้สูง ทำให้มีอาการซีดเร็วมาก
        เนื่องจากมีการแตกของเม็ดเลือดแดงมากขึ้น
      - homozygous α -thalassemia1
        หรือ
        hemoglobin Bart's hydrops fetalis
        
        เป็นโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียชนิดที่มีความรุนแรงมากที่สุด มักเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์หรือภายหลังคลอด
      - homozygous hemoglobin Constant Spring
        
        เป็นชนิดที่มีอาการน้อยมาก อาจพบซีดเล็กน้อย
        คลำพบม้ามโตเล็กน้อย สามารถตรวจพบในเลือดได้โดยการตรวจชนิดของฮีโมโกลบิน (Hb typing)
    - - βo-thalassemia/hemoglobin E
        
        เป็นโรคที่มีอาการรุนแรงปานกลางถึงมาก มีภาวะโลหิตจาง รูปร่างและใบหน้าเป็นธาลัสซีเมีย ท้องโต โตช้า ให้เลือดบ่อย
      - homozygous βo-thalassemia
        
        เป็นโรคที่มีอาการรุนแรงมาก รูปใบหน้าเปลี่ยน โตช้า ให้เลือดบ่อย ให้ยาขับธาตุเหล็กทุกวัน อาจเสียชีวิตก่อนอายุ 10-20 ปี
      - homozygous hemoglobin E; HbE/ Hb
        
        มีอาการซีดเพียงเล็กน้อย