Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
AGE with AKI
ลำไส้อักเสบ และ ไตวายเฉียบพลัน
gr1_lrg,…
AGE with AKI
ลำไส้อักเสบ และ ไตวายเฉียบพลัน
ประวัติผู้ป่วย
ผู้ป่วยหญิงไทยชื่อ นางสาวประเทืองทิพย์ ปานทองคำ เตียง 1-3 ward มภร.10/2 อายุ 59 ปี
วันที่รับไว้ในโรงพยาบาล 30 กันยายน 2563
วันที่รับไว้ในความดูแล 4 ตุลาคม 2563
การวินิจฉัยโรคแรกรับ AGE with AKI
การวินิจฉัยโรคปัจจุบัน AGE with AKI
การผ่าตัด ผ่าทำ graft ที่ขาขวา เมื่อ 2 ปี
General appearance
ผู้ป่วยหญิงไทย ผมดำมีผมแซมขาว ผมมัน หนังศรีษะไม่แห้ง ผิวหน้ามัน ตามัวเล็กน้อย แต่ยังคงมองได้อยู่ ที่จมูก ใส่ O2 canula 3 LPM หลังคดงอ ไม่สามารถเหยียดตรงได้ ที่นิ้วโป่งข้างขวา on injection plug ไว้
ผู้ป่วยได้ใส่สายปัสสาวะคาไว้ ที่ขาทั้งสองข้าง บวม+1 ไม่ค่อยมีแรง เวลาเดินต้องใช้ walker ช่วยเดิน ที่กลางหน้าแข้งไปจนถึงข้อเท้าข้องขวา มีแผลสีดำเนื่องจากเป็นแผลจากโรคเบาหวาน ที่ข้อเท้าข้างซ้ายมีแผ่นcold packวางไว้เนื่องจากปวด
-
-
-
-
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
1.มีโอกาสขาดสารอาหาร หรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เนื่องจาก เบื่ออาหาร
-
-
-
กิจกรรมการพยาบาล
-
2.ดูให้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยการพูด บอกให้ผู้ป่วยเข้าใจ และให้ผู้ป่วยรับประทานอาหาร
-
4.ถ้าผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารในมื้อเดียวได้ปริมาณมากพอ ควรแนะนำให้อาหารครั้งละน้อยและเพิ่มจำนวนมื้ออาหารเป็นวันละ 5-6 มื้อ และไม่ควรเร่งรีบในการรับประทานอาหาร
5.ถ้าเบื่ออาหารโรงพยาบาลอาจให้ผู้ป่วยเลือกอาหารเองหรือแนะนำผู้ป่วย/ญาติ นำอาหารมาเองได้โดยไม่ขัดกับโรคที่เป็น
-
7.ดูแลความสะอาดของอาหารเครื่องใช้ในการให้อาหาร รวมทั้งวิธีการให้อาหารที่ถูกต้องเพื่อป้องกันการท้องเสีย
-
9.ประเมินการให้โภชนบำบัดว่าได้ผลหรือไม่ เช่น ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขนขา การเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุตา
-
-
การเจ็บป่วยในปัจจุบัน
ผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลีย อยากนอนตลอดเวลา ผู้ป่วยมีอาการหายใจแรงและลึก on O2 canula 3 LPM มีอาการปวดข้อเท้าด้านซ้าย pain score 5 ผู้ป่วยทานอาหารได้น้อย ผู้ป่วยมีอาการบวม
-
การส่งเวรในวันนี้ ( อัพเดททุกวัน )
คุณป้าประเทืองทิพย์ ปานทองคำ อายุ 59 ปี Dx.AGE with AKI รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง ช่วยเหลือตัวเองได้บนเตียง มีโรคประจำตัว DM HT DLD CKD ไม่มีหายใจหอบเหนื่อย ชนิดอาหารคืออาหารอ่อน เบาหวาน มีจำกัดน้ำ <= 1,000 ml รวมน้ำ นม ยา มีเจาะ DTX ก่อนทานข้าว เช้าได้ 67 จึงได้ทานนม 1 กล่อง กลางวันได้ 75 ตอนเย็นได้ 129
v/s วันนีตอน 14.00 BT 37.4 BP 113/60 P 72 R 18 I/O 700/450
บ่นปวดท้อง Pain score =
ยังมีการติดตามผล Lab
BUN 34.8 (H) Cr 2.65 (H)
ผล Lab electrolyte Na 134 (L) Cl 93.4 (L) K 3.08 (L) CO2 28.6
ผู้ป่วยจึงได้รับ KCl 50 ml q 3 hr x 2 dose
-
พยาธิสภาพของโรค
AGE
หลังจากที่เชื้อรอดจากการถูกทำลายของสารภูมิคุ้มกันในน้ำลาย กรดที่กระเพาะและด่างที่ Duodenum แล้ว เชื้อจะแบ่งตัวและก่อพยาธิสภาพ
-
-
-
สาเหตุ
-
-
-
-
-
ผู้ป่วยให้ประวัติว่าก่อนที่จะท้องเสีย ได้รับประทานขนมจีนน้ำยากะทิเข้าไป และทานแกงไตปลาและถั่วงอกต้มสุก
-
-
AKI
ภาวะไตเสีหายเฉียบพลันเป็นภาวะที่การทำงานของไตเสียไปอย่างรวดเร็วภายในวลา 1-7 วัน จัดป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยในโรงพยาบาล ภาวะนี้ส่วนใหญ่แพทย์เป็นผู้ตรวจพบจากการตรวจเลือดหรือวัดปริมาณปัสสาวะ/ชั่วโมง จำแนกควมรุนแรงออกเป็น 3 ระยะ
- ระยะเสี่ยง เป็นระยะที่เพิ่งตรวจพบข้อใดข้อหนึ่ง
มีการเพิ่มขึ้ของ Creatinine ในเลือดประมาณ 1.5 เท่า ของค่าเดิมตอนที่สบายดี หรือ เพิ่มขึ้นจากค่าเดิม >= 0.3 mg% (26.52 umol/L)
-
-
- ระยะไตเสียหาย เป็นระยที่ชัดเจนขึ้น โดยมีหลักฐานข้อใดข้อหนึ่ง
-
-
-
- ระยะไตวาย เป็นระยะที่ไตไม่ทำงานแล้ว โดยมีข้อใดข้อหนึ่ง
มีการเพิ่มขึ้นของค่า Creatinine ในเลือดประมาณ 3 เท่าจากค่าเดิมตอนที่สบายดี หรือ เพิ่มขึ้นจากค่าเดิม >= 0.5 mg% (44 umol/L)
-
-
-
สาเหตุ
-
-
-
-
ไตอักเสบประเภทมีภูมิต้านทานต่อกลอมเมอรูลัส หรือท่อไตซึ่ง อาจเกิดเองหรือเกิดตามหลัง การติดเชื้อในที่อื่นของร่างกายก็ได้
มีการอุดตันของทางเดินปัสสาวะ เช่น นิ่ว ในไต ในท่อไต ในกระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากโต หรือมะเร็งปากมดลูก
การรักษา
- การรักษาสาเหตุของไตวายเฉียบพลัน
- การใช้ยาแก้ไขไตวายเฉียบพลัน
- การรักษาแบบประดับประคองและรักษาโรคแทรกซ้อน
- การให้สารอาหารในผู้ป่วยไตวายเฉียบพลัน
- การล้างไต ( dialysis ) ในผู้ป่วยไตวายเฉียบพลัน
-
D - Method
-
-
T=treatment
การล้างไต มี 3 วิธีการ ได้แก่ การฟอกเลือด การล้างไตทางช่องท้องและการปลูกถ่ายไต สำหรับการปลูกถ่ายไตจะใช้เฉพาะในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายเท่านั้น
- การฟอกเลือด (Hemodialysis) หมายถึง การนำเลือดออกจากตัวผู้ป่วยทางหลอดเลือดเทียมไปผ่านตัวกรองเลือดเพื่อแลกเปลี่ยนของเสีย สารน้ำและเกลือแร่ และนำเลือดที่มีของเสียน้อยวนกลับเข้าสู่ร่างกาย รวมถึงอาจมีการทดแทนสารน้ำที่มีความบริสุทธิ์สูงเข้าสู่ร่างกายในวิธีการฟอกเลือดเทคนิคพิเศษบางชนิด
2.การล้างไตทางช่องท้อง (Peritoneal dialysis) หมายถึงการขจัดของเสีย สารน้ำและเกลือแร่โดยการแลกเปลี่ยนสารต่างๆ ในเลือดกับน้ำยาฟอกไตโดยอาศัยเยื่อบุช่องท้องเป็นตัวกรองปริมาตรของน้ำยาล้างไตที่ใส่เข้าไปในช่องท้องประมาณ 1.0-2.0 ลิตร/ครั้ง ความถี่ของการเปลี่ยนถ่ายน้ำยาโดยทั่วไปทุก 4-6 ชั่วโมง แต่อาจมีความถี่มากขึ้นอยู่การพิจารณาของแพทย์เพื่อให้ได้ความพอเพียงในการขจัดของเสีย สารน้ำและเกลือแร่
- การปลูกถ่ายไต (Kidney transplantion) เป็นการรับไตจากผู้บริจาคสมองตายหรือยังมีชีวิตมาปลูกถ่ายในอุ้งเชิงกรานหรือตำแหน่งที่เหมาะสมในร่างกายผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย โดยผู้รับบริจาคต้องรับประทานยากดภูมิคุ้มกันหลังผ่าตัดตลอดชีวิตเพื่อป้องกันภาวะสลัดไต (transplant rejection)
-
H=health
-
การออกกำลังกาย ควรควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร การจำกัดปริมาณอาหาร และชนิดของอาหารที่รับประทาน ในแต่ละมื้อ
มีการจำกัดน้ำดื่ม 1,500 ml/day
-
พยายามไม่ทำให้เกิดแผล หรือถ้ามีแผล ควรรักษาความสะอาด และหมั่นทำแผลทุกครั้งเมื่อแผลเปียก หรือมาพบแพทย์เพื่อปรึกษา
-
-
-
O=outpatient
F/U 2 week พ.อภิญญา Cardio clinic + BUN,Cr,Elyte
-
-
-
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
1.มีโอกาสขาดสารอาหาร หรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เนื่องจาก เบื่ออาหาร
ข้อมูลสนับสนุน
SD : ผู้ป่วยบ่นไม่อยากรับประทานอาหารอ่อน
ผู้ป่วยบอกว่าอาหารไม่ถูกปาก
OD : ผู้ป่วยทานได้ 2-3 คำ แล้วคายทิ้ง
ผู้ป่วยได้รับประทานอาหารที่โรงพยาบาลจัดให้ ซึ่งเป็นอาหารอ่อน จึงไม่ถูกปาก
วัตถุประสงค์
1.ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์และใกล้เคียงกับความต้องการของร่างกายย
2.ป้องกันอันตรายที่เกิดจากภาวะขาดสารอาหารอย่างรุนแรง
เกณฑ์ประเมินผล
ไม่ภาวะอ่อนเพลีย ไม่อ่อนแรง
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินอาการขาดสารอาหารอย่างรุนแรง เช่น อาการแขนขาลีบ เยื่อบุตาซีด
2.ดูให้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยการพูด บอกให้ผู้ป่วยเข้าใจ และให้ผู้ป่วยรับประทานอาหาร
3.ดูแลความสะอาดของปากและฟันเพื่อเพิ่มความอยากอาหาร
4.ถ้าผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารในมื้อเดียวได้ปริมาณมากพอ ควรแนะนำให้อาหารครั้งละน้อยและเพิ่มจำนวนมื้ออาหารเป็นวันละ 5-6 มื้อ และไม่ควรเร่งรีบในการรับประทานอาหาร
5.ถ้าเบื่ออาหารโรงพยาบาลอาจให้ผู้ป่วยเลือกอาหารเองหรือแนะนำผู้ป่วย/ญาติ นำอาหารมาเองได้โดยไม่ขัดกับโรคที่เป็น
6.จัดสิ่งแวดล้อมให้สะอาดและสุขสบาย
7.ดูแลความสะอาดของอาหารเครื่องใช้ในการให้อาหาร รวมทั้งวิธีการให้อาหารที่ถูกต้องเพื่อป้องกันการท้องเสีย
8.ติดตามประเมินผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
9.ประเมินการให้โภชนบำบัดว่าได้ผลหรือไม่ เช่น ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขนขา การเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุตา
10.ประเมินสารน้ำที่เข้าออกจากร่างกายและชั่งน้ำหนักผู้ป่วยทุกวันเพื่อประเมินภาวะบวมหรือขาดน้ำ
การประเมินผลการพยาบาล
-