กลุ่ม 12 : เมแทบอลิซึมของสารชีวโมเลกุล✨
กรดนิวคลิอิก
โปรตีน
คาร์โบไฮเดรต
ไขมัน
เกิดการ Turnove
DNA repair
ถูกสลาย
Unstable mRNA
ถูกสลาย
อาศัยเอนไซม์
Deoxyribunulease
ได้ Deoxynucleoside5-monophosphates
ได้ Deoxynucleoside
Pi
ได้ Deoxyribose
อาศัยเอนไซม์
Ribonuclease
ได้ Necleoside 5-monaphosphates
Pi
ได้ Nucleoside
ได้ Ribose
Purines
pyrimidines
สลายในกระบวนการสังเคราะห์พิวรีนและพิริมิดีนต่อ
ถูกย่อยในระบบย่อยอาหาร
Amino acids
ได้เป็นแอมโมเนีย NH3
Carbon skeletons
สามารถสังเคราะห์เป็นสารประกอบ amine , นิวคลิโอไทด์
Carbamoyl phosphate
เข้าสู่วัฏจักร Urea cycle
ขับออกทางปัสสาวะ
Keto acids
สลายglucoseเป็นพลังงาน
สังเคราะห์glucose
สังเคราะห์glycogen
Glycogenesis
Glycolysis
สิ่งที่ได้จากกระบวนการ คือ pyruvic acid และ พลังงาน
ย่อยสลายglucoseที่เกิดที่cytosolของเซลล์
เพื่อให้กลายเป็นพลังงาน NADH และ ATP
Krebs Cycle
การย่อยสารอาหารใดๆให้สมบูรณ์ เป็น CO2 และ นำ้ต้องเข้าcycleนี้
เป็นการสร้างCO2 มากที่สุดในการหายใจระดับเซลล์
ผบิต ATP NADH+ H+ และ FADH2 ที่จะเข้าสู่phosphorylation
Pentose Phosphate
ขบวนการสร้างNADPH และน้ำตาลpentose
ประกอบด้วย 2 ระยะ
ระยะ1 ใช้ออกซิเจน(oxidative phase)มีการสร้างNADPH
ระยะ2สังเคราะห์น้ำตาล5 Cโดยไม่ใช้ออกซิเจน
การสลายglycogenเป็นglucose , lactase
ตามความต้องการของร่างกาย
Gluconeogenesis
Glycogenolysis
เป็นการสร้างglucoseจากสารคาร์บอน ไม่ใช่คาร์โบไฮเดรต
เกิดในช่วงการอดอาหาร การกินอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ
หรือออกกำลังกายหักโหม
ในช่วงเวลาที่มีกลูโคสต่ำและพลังงานต่ำ
ไกลโคเจนก็สามารถสลายไปเป็นกลูโคส
กรด Citric acid cycle
วิตามิน
De novo pathway
การสังเคราะห์ที่มาจากสารตั้งต้นขนาดเล็ก
มีการสังเคราะห์ purine nucleotide
CO2
Amino acid
Nucleotide
Ribose-5-phosphate
Salvage Pathway
ในสัตว์การสังเคราะห์purine
เอ็นไซม์ HGPRT
เอ็นไซม์ APRT
เป็นการสังเคราะห์ nucleotide จาก free base
กับ5-phosphoribosyl-1-pyrophophate
ละลายในไขมัน
ละลายในนำ้
วิตามินเอ
ร่างกายสามารถได้รับวิตามินเอ (retinol) จากอาหารโดยตรง หรือสังเคราะห์วิตามินเอจากแคโรทีนอยด์
(carotenoid) ที่ได้จากผักและผลไม้
บำรุงสายตา ช่วยในการมองเห็น
วิตามินบี
สามารถสังเคราะห์ในร่างกายได้ ผ่านการทํางานของแสงอาทิตย์
วิตามินดีจะสะสมในร่างกายใน
รูปแบบที่ยังไม่ออกฤทธิ์ ดังนั้นต้องได้รับการกระตุ้นก่อน
วิตามินอี
วิตามินที่ละลายในไขมัน รับได้
จากอาหาร เช่น ถั่ว น้ํามันพืช ผลไม้ และผักใบเขียว
ต้านอนุมูลอิสระ
วิตามินเค
วิตามินที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด และช่วยในกระบวนการสร้างกระดูก
วิตามินซี
หน้าที่ในการควบคุมการ หลั่งคลอไรด์ผ่านช่องโปรตีนที่ชื่อว่าซีเอฟทีอาร์
ที่เซลล์อีพิทีเลียล
วิตามินบี7
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใช้เป็นโคเอนไซม์ของเอนไซม์carboxylasesซึ่งเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาในเมแทบอลิซึมต่างๆ เช่น การสังเคราะห์กรดไขมัน
ควบคุมการแสดงออกของอองโคยีน (oncogene)
วิตามินบี9
เป็นโคเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ
ต่างๆ ในเซลล์ เช่น การสังเคราะห์ดีเอ็นเอและอาร์เอ็นเอ
และเมแทบอลิซึมของกรดอะมิโนหลายๆ ชนิด
ขาดแล้วจะเกิดความผิดปกติ เจริญเติบโตช้า
วินามินบี3
สารตั้งต้นสําหรับการสังเคราะห์นิโคตินาไมด์อะดีนีนไดนิวคลีโอไทด์
และนิโคตินาไมด์อะดีนีนไดนิวคลีโอไทด์ฟอสเฟต
ซึ่งเกี่ยวข้องกับเมแทบอลิซึมในเซลล์ เช่น วิถีไกลโคไลซิส
วิตามินบี6
เป็นวิตามินที่ทําหน้าที่เป็นโคเอนไซม์ในเมแทบอลิซึม คาร์โบไฮเดรต ไขมันและโปรตีน โดยไพริดอกซอล 5-ฟอสเฟต
การขาดวิตามินทําให้เกิดโรคทางสมองและโลหิตจาง
วิตามินบี2
สารตั้งต้นในการสังเคราะห์โคเอนไซม์ฟลาวินโมโนนิวคลีโอไทด์
และฟลาวินอะดีนีนไดนิวคลีโอไทด์
สําคัญในเมแทบอลิซึมคาร์โบไฮเดรต กรดอะมิโน และไขมัน
วิตามินบี1
ป็นโคเอนไซม์เกี่ยวข้อง กับเมแทบอลิซึมเพื่อสร้างพลังงาน
การขาดวิตามินบี 1 ทําให้เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับระบบประสาท หัวใจและหลอดเลือด
แร่ธาตุ
แร่ธาตุที่ร่างกายต้องการในปริมาณมาก
แร่ธาตุที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อย
โซเดียม
โพแทสเซียม
แคลเซียม
ฟอสฟอรัส
ธาตุเหล็ก
แมกนีเซียม
คลอไรด์
ทองแดง
สังกะสี
มีหน้าที่ต่างๆ ภายในเซลล์และเนื้อเยื่อ เช่น การควบคุม ระบบภูมิคุ้มกัน การนําสัญญาณประสาท การหดตัวของกล้ามเนื้อ
สามารถทํางานร่วมกับ
วิตามิน กระตุ้นการผลิตฮอร์โมน และช่วยในกระบวนการเมแทบอลิซึม
สลายกรดไขมันสายยาว
เกิดในไมโทรคอนเดรีย ออกซิดิไดซ์
กรดไขมัน ได้ Acetyl CoA
การสังเคราะห์ไขมัน เริ่มจากคาร์บอน 3 อะตอม คือ malonyl-CoA
(acetyl CoA + คาร์บอนไดออกไซด์ ได้ malonyl-Co A
การสังเคราะห์ไขมันชนิดอื่น
มี Palmitate เป็นสารตั้งต้น
สังเคราะห์ strarate
กรดไขมันสายยาว
กรดไขมันไม่อิ่มตัว
Oleate
Palmitoleate
ในตัวจะถูกเปลี่ยนเป็นคีโตน
Acetone
Acetoacetate
B-hydroxybutyrate
ถ้าเกิดสะสมหรือสังเคราะห์มากเกินไปในผู้ป่วยเบาหวานหรือสภาวะอดอาหาร ชะลอการสลายโปรตีนในกล้ามเนื้อ
สร้าง ketosis
สร้าง ketonemia
Acetosis
Acetonemia
จะทำให้เกิดสภาวะเป็นกรด
ระเหยง่าย
จะถูกใช้เมื่อมีการอดอาหารนานๆ
หรือในเวลาที่ปริมาณกลูโคสไม่เพียงพอ
กรดไขมันจับกับโปรตีนอัลบูมิน
ได้ ลิโพโปรตีน
เข้าสู่วัฏกรดซิตริก
ออกซิไดซ์ได้คาร์บอนไดออกไซด์
อิเล็กตรอนจะส่งไปยังลูกโซ่
สังเคราะห์ ATP
ขนส่งกรดไขมันจากไซโทซอล
ผ่านเนื้อเยื่อชั้นในของไมโทรคอนเดรีย
เพื่อให้เกิดการ Oxidation
กรดไขมันจะถูกกระตุ้นเป็น Fatty acyl Co A
สร้างภายนอกไมโทรคอนเดรีย
Carnitine เป็นตัวนำหมู่ acyl
ข้ามไมโทรคอนเดรีย
ถ้า carnitine มีการบกพร่องหรือผิดปกติ
เช่น การเป็นตะคริว กล้ามเนื้ออ่อนแรงและตายในที่สุด
เนื่องจากมีการสะสม Triacylglycerols ในกล้ามเนื้อกรดไขมัน
จึงเข้าไปในไมโทรคอนเดรียไม่ได้
เกิดเป็น electron transport chain