Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 8 ภาษาและวัฒนธรรมเพื่อสันติ (Language and Culture for Peace),…
บทที่ 8
ภาษาและวัฒนธรรมเพื่อสันติ
(Language and Culture for Peace)
ความหมายของคำว่า “สันติ”
คำว่า
“สันติ”
แปลว่า ความสงบ ความราบคาบความเยือกเย็น การหยุด นิพพาน
และอาจแปลว่า
"การคืนดีกัน"
หรือ
“การหยุดเป็นศัตรูกัน”
ประเภทของสันติภาพ
ได้แบ่งสันติภาพออกเป็น 2 ประเภท คือ
สันติภาพภายนอก
คือ สันติภาพที่หมายถึงสภาพ ที่ปราศจากสงคราม ปราศจากความรุนแรงและปราศจากความรุนแรงแต่มีความขัดแย้งกัน
สันติภาพภายใน
คือ นิพพาน อันเป็นสภาวะที่ปราศจากความรุนแรงและความขัดแย้งภายจิตใจ
ความขัดแย้งและความรุนแรงยุคใหม่
ความรุนแรงมีสาเหตุหลัก 2 ประการ คือ
1. ลักษณะส่วนตัวของผู้กระทำความรุนแรง
1.1 ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก
1.2 เลียนแบบบิดา มารดา ที่ชอบใช้ความรุนแรง ได้แบบอย่างจากหนังสือ โทรทัศน
1.3 ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนในเรื่องผิดชอบชั่วดี ครอบครัวขาดความอบอุ่น
1.4 เจ็บป่วยด้วยโรคบางอย่าง ทำให้ควบคุมตนเองไม่ได้
เช่น โรคจิต เป็นต้น
2. ทัศนคติค่านิยม และความเชื่อผิด ๆ ของผู้กระทำความรุนแรง ตลอดจนความเชื่อดั้งเดิมผิด ๆ ที่เรียกว่ามายาคติ (myths)
2.1 ความเชื่อบางอย่างส่งเสริมให้เกิดความรุนแรง
2.2 ความเชื่อบางอย่างส่งเสริมให้ผู้กระทำไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้ความรุนแรง
2.3 ความเชื่อบางอย่างเป็นการยอมรับให้มีการใช้ความรุนแรง
2.4 ความเชื่อบางอย่างส่งเสริมให้ผู้ถูกกระทำความรุนแรง เป็นฝ่ายรับผิดชอบ
2.5 ความเชื่อบางอย่างทำให้ขาดความระมัดระวังตัว
2.6 ความเชื่อบางอย่างทำให้ขาดการเอาใจใส่คนบางกลุ่มไป
วาจาที่สร้างความเกลียดชัง (Hate Speech)
คำว่า
Hate Speech
หรือวาจาที่สร้างความเกลียดชังสามารถแบ่งออกได้เป็น
3 ระดับ
ตามความรุนแรงจากน้อยที่สุดไปมากที่สุด คือ
ระดับที่ 1
การตั้งใจแบ่งแยก กีดกัน สร้างความเป็นเขา-เราต่อกลุ่มเป้าหมาย
ระดับที่ 2
มีการยั่วยุให้เกิดความเกลียดชังต่อกลุ่มเป้าหมาย
ระดับที่ 3
มีการยั่วยุให้เกิดการใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มเป้าหมาย
แหล่งเผยแพร่ Hate Speech
ในโลกยุคปัจจุบัน แหล่งเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารได้รวดเร็วที่สุด
และทรงประสิทธิภาพมากที่สุด คืออินเตอร์เนต จนมีคำกล่าวไว้ว่า
“ใครสามารถควบคุมข้อมูลข่าวสารทางอินเตอร์เนตได้ก็สามารถ
ควบคุมโลกได้ทั้งใบ”อินเตอร์เนตสร้างคุณประโยชน์มหาศาล
แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างไร้ขีดจำกัด
โดยเฉพาะการสื่อสารทางไลน์ (Line) และเฟสบุ๊ก (Facebook)
ประเภทของสื่อ
1. สื่อสร้างสรรค์
เป็นสื่อที่ช่วยส่งเสริมพฤติกรรม เอื้อเฟื้อและเสียสละช่วยพัฒนาความคิด
เชิงสร้างสรรค์สร้างบรรยากาศของความสงบสุข
2. สื่อทางลบ
เป็นสื่อที่ช่วยกระตุ้นให้มีพฤติกรรมก้าวร้าว ชอบใช้ความรุนแรงเพื่อการทำลายล้าง และตัดสินปัญหาความขัดแย้ง วัยรุ่นชอบเลียนแบบความรุนแรงจากสื่อประเภทต่าง ๆ เช่น ภาพยนตร์เกม รายการโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ที่เสนอภาพข่าวความรุนแรง เป็นต้น
การวิเคราะห์สื่อ
การวิเคราะห์แยกแยะสื่อสร้างสรรค์และสื่อทางลบ
ควรใช้หลักการรู้เท่าทันสื่อมาเป็นแนวทาง
ในการพิจารณาเลือกรับสื่อที่เหมาะสม ดังนี้
หลักการ
“อะไรคือความจริง อะไรคือการตีความ”
ผู้รับสารควรมีความรู้เกี่ยวกับ กระบวนการทางานของสื่อ และมีความสามรถในการแยกแยะเนื้อหาข่าวที่สื่อมวลชนนำเสนอ โดยไม่สับสนว่าอะไรคือความจริงหรือจินตนาการหรือเป็นเพียงข้อสันนิษฐานจากความคิดเห็นของผู้เสนอข่าว
หลักการ
“ช้าในการตัดสิน”
ข่าวที่เสนอในภาพลบหรือข่าวร้าย ข่าวส่งเสริมการใช้ความรุนแรงในสังคม เป็นสื่อทางลบ ไม่ควรเชื่อข่าวเหล่านการตัดสินใจเชื่อถือข่าวสารใด ๆ ต้องมีการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารจาก
สื่อแหล่งอื่นด้วย
หลักการ
“เชื่อในส่วนที่ดีไว้ก่อนเสมอ”
ปัจจุบันสื่อมวลชนนำเสนอข้อมูลข่าวสารเป็นสื่อทางลบหรือเป็นเรื่องราวในแง่ร้ายเป็นส่วนใหญ่ ผู้รับสารควรมีหลักของการเชื่อในส่วนที่ดีเสมอหรือยอมรับสื่อสร้างสรรค์
หลักการ
“อย่าพิพากษาปรักปราคน”
ข่าวสารที่เป็นข่าวลือเป็นการสร้างความเสียหายให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ข่าวสารที่แสดงออกถึงการสนับสนุนพฤติกรรมก้าวร้าวหรือการใช้ความรุนแรงเป็นสิ่งที่ไม่ควรให้ความเห็นชอบผู้รับสารต้องใช้การคิดแบบวิเคราะห์เพื่อแยกแยะให้ออกระหว่างข้อมูลข่าวสารที่เป็นสื่อสร้างสรรค์หรือสื่อทางลบ
การรู้เท่าทันสื่อ
สื่อทั้งหลายล้วนแต่ถูกประกอบสร้างขึ้น ซึ่งไม่ได้สะท้อนความจริงของโลกแบบเรียบง่ายตรงไปตรงมาด้วยเทคนิคและกลวิธีบางอย่าง
สื่อสร้างภาพความเป็นจริงซึ่งสื่อสร้างขึ้น ตีความ สรุปและสร้างให้เราเห็นภาพดังกล่าว ดังนั้นสื่อจึงเป็นแหล่งสร้างภาพความเป็นจริงที่อาจไม่จริงเสมอไป
สื่อมีนัยทางการค้าแอบแฝงอยู่ การผลิตสื่อส่วนหนึ่งเพื่อธุรกิจและกำไร เราจึงควรพิจารณาถึงอิทธิพลทางการค้าที่มีในสื่อและพิจารณาว่าการนำเสนอและเผยแพร่ออกไปเพื่อต้องการให้เลือกใช้สินคา้หรือบริการใช่หรือไม่
สื่อมีนัยทางอุดมการณ์และค่านิยม
สื่อมีนัยทางสังคมและการเมือง
สื่อแต่ละประเภทมีรูปแบบทางสุนทรียภาพเฉพาะตัว
นางสาว วนิสรา กองเกียรติเจริญ
63031040161 Section.19