Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
MERS, นางสาวปาณี ตนประโคน รหัสนักศึกษา 621801048 เลขที่ 45 - Coggle…
MERS
การพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อผู้ป่วยละญาติโดยการพูดคุย การแนะนําตัว การอธิบายถึงขั้นตอนแนวทางการดูแลรักษา โดยใช้คำพูดที่อ่อนโยนพูดชัด เพื่อให้ผู้ป่วยและญาติเกิดการเรียนรู้
-
ประเมินอาการและอาการแสดงของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดโดยตรวจวัดสัญญาณชีพ ทุก 1-2 ชั่วโมง หรือตามอาการของผู้ป่วยถ้ามีชีพจรเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูงร่วมด้วย ต้องระวังและรายงานความผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าหัวใจให้แพทย์ทราบ
ผู้ป่วยได้รับยาขับปัสสาวะ Lasix 40 mg IV และต้องบันทึกปริมาณปัสสาวะที่ออกหลังได้ยาขับปัสสาวะ หลังได้ยาขับปัสสาวะ มีปัสสาวะออก 200 มิลลิลิตร ใน8ชั่วโมง .
ประเมินอาการและอาการแสดงของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดโยการตรวจวัดสัญญาณชีพ ทุก 1-2ชั่วโมง หรือตามอาการของผู้ป่วยถ้ามีอาการหายใจหอบเหนื่อยมากขึ้น ต้องระวังและรายงานความผิดปกติให้แพทย์ทราบ
-
จัดการแยกผู้ป่วยตั้งแต่แรกรับและปฏิบัติตามหลักแนวทางปฏิบัติผู้ป่วยแพร่เชื้อทางอากาศ(Airborne precaution) โดยให้ผู้ป่วยอยู่ในห้องแยกโรคความดันลบหรือห้องสํา
หรับผู้ป่วยแพร่เชื้อ (Airborne Infection Isolation Room : AIIR) และชี้แจงให้บุคลากรในหน่วยงานปฏิบัติงานแนวทางการดูแลผู้ป่วยอย่างเคร่งครัด
พยาธิสภาพ
ระยะบวมคั่ง (Stage of Congestion or Edema) เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ปอดจะแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว ร่างกายจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง มีโลหิตมาคั่งบริเวณที่มีการอักเสบ หลอดโลหิตขยายตัว มแบคทีเรีย เม็ดโลหิตแดง ไฟบริน และเม็ดโลหิตขาว (เป็นพวกนิวโตรฟิล โพลิมอร์ฟ )ออกมากินแบคทีเรียระยะนี้กินเวลา24-46 ชม.หลังจากเชื้อเข้าสู่ปอด
ระยะเนื้อปอดแข็ง (Stage of Consolidation) ระยะแรกจะพบว่ามีเม็ดเลือดแดงและไฟบรินอยู่ในถุงลมเป็นส่วนใหญ่ หลอดเลือดฝอย ท่อผนังถุงลมปอดขยายตัวมากขึ้นทําให้เนื้อปอดสแดงจัดคล้ายตับสด(Red heptization)ในรายที่มีการอักเสบรุนแรงจะมีการลุกลามไปถึงเนื้อปอดด้วยต่อมาจะมีจํานวนเม็ดเลือดขาว เข้ามาแทนที่เม็ดเลือดแดงในถุงลมมากขึ้นพื่อกินเชื้อโรค ระยะนี้ถ้าตัด
ระยะปอดฟื้นตัว (Stage of Resolution) เมื่อร่างกายสามารถต้านทานโรคไว้ได้เม็ดเลือดขาวสามารถทําลายแบคทีเรียที่อยู่ในถุงลมปอดได้หมด จะมีเอนไซม์ออกมาละลายไฟบริน เม็ดเลือดขาวและหนองจะถูกขับอออกมาเป็นเสมหะที่มีลักษณะเป็นสีสนิมเหล็ก เพราะมีโลหิตค้างอยู่ เนื้อปอดมักกลับสู่สภาพปกติได้การอักเสบที่เยื่อหุ้มปอดจะหายไปหรือมีพังผืดขึ้นแทน
พยาธิสรีรภาพของภาวะหัวใจวายหรือภาวะหัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure : CHF)หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างเพียงพอ ทําให้เกิดน้ําท่วมปอดเพราะหัวใจมีหน้าที่รับเลือดกลับจากปอดเมื่อหัวใจบีบตัวได้ไม่ดีก็จะรับเลือดกลับจากปอดไม่ได้
พยาธิสรีรภาพ ของการเกิดหัวใจห้องบนสั่นพริ้ว (Atrial fibrillation)
- มีจุดกําเนิดไฟฟ้าผิดปกติเหตุจากภายในหัวใจเองเช่น ความดันในห้องหัวใจที่เพิ่มขึ้นหรือจากภายนอกหัวใจ เช่น ไทรอยด์ฮอร์โมน ตําแหน่งของจุดกําเนิดไฟฟ้าผิดปกติ มักอยู่ที่หลอดเลือดแดงออกจากปอด
- วงจรไฟฟ้าหมุนวนหลายตําแหน่งจากมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและทางไฟฟ้าหัวใจซึ่งทําให้การนําไฟฟ้าเกิดเป็นวงจรหมุนวน
- ผู้ป่วยอาจมีกลไกทั้ง2แบบร่วมกันโดยคลื่นไฟฟ้าของหัวใจมีรูปร่างของPwaveหลายรูปแบบมีความถี่ 400-600 ครั้งต่อนาที และไม่สม่ําเสมอแต่เนื่องจาก Atrioventricular nodeไมสามารถนํากระแสไฟฟ้าทั้งหมดเข้าสู่หัวใจได้ อัตราการเต้นของหัวใจห้องล่างจึงน้อยกว่าและไม่สม่ําเสมอผลที่เกิดขึ้นจาการทํางานที่ไม่สัมพันธ์กันของหัวใจห้องบนและห้องล่างทําให้ปริมาณเลือดทออกจากหัวใจลดลง ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงร่างกายลดลง รวมถึงเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจด้วย
พยาธิสรีรภาพNSTEMI : กลุ่มภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Acute CoronarySyndrome-ACS)กลุ่มอาการที่มีลักษณะบ่งชี้ถึงภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอย่างรุนแรงและเฉียบพลัน ร้อยละ 90% มีสาเหตุจากหลอดเลือดแดงโคโรนารีย์อุดตันจากการแตกของคราบไขมันร่วมกับมีลิ่มเลือดอุดตัน ส่งผลให้ไม่มีการไหลเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ ทําให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกและอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เหงื่อออก หน้ามืด เป็นลม คลื่นไส้ อาเจียน
ข้อวินิจฉัย
-
-
-
-
-
วิตกกังวลเกี่ยวกับอาการป่วยและไม่สามารถบอกความต้องการได้ เนื่องจากมีความแตกต่างด้านภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร
อ้างอิง
พรรณี ฤทธิ์สําเร็จ.(2560).แนวทางการดูแล
ผู้ป่วยในห้องแยกโรค.สืบค้นจาก:file:///C:/Users/TCOM/Downloads/title%20163.pdf. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2563.
-
-
-
นภัทร วัชราภรณ์.(2555).ประสิทธิผลของการสร้างเครือข่ายภาคเอกชนในการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคเมอร์สในผู้เดินทางจากประเทศแถบตะวันออกกลาง พื้นที่กรุงเทพมหานคร.สืบค้นจาก:file:///C:/Users/TCOM/Downloads/title%20154%20(3).pdf. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2563.
-