กลุ่มอาการ เจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย ใจสั่น

กลุ่มอาการเจ็บหน้าอก (chest pain)

กลุ่มอาการหายใจลําบาก หอบเหนื่อย (Dyspnea)

กลุ่มอาการใจสั่น (Palpitation)

จากระบบหัวใจและหลอดเลือด

จากระบบทางเดินอาหาร

จากระบบทางเดินหายใจ

จากโรคระบบประสาท กล้ามเนื้อและข้อต่อ

• เจ็บแน่นๆอึดอัดกลางหน้าอก2-3 นาทีและมักไม่เกิน15 นาที
• มีอาการเมื่อออกแรงอย่างหนัก / มีอารมณ์เครียดหรืออากาศเย็น
• อาการดีขึ้นเมื่อพัก
• ประวัติ HT, DM,DLP

• อาการเจ็บปวดแปลบๆเป็นมากเมื่อหายใจเข้าออกลึกๆ
•มีปัจจัยเสี่ยงต่อ deepvein thrombosis(ผู้ป่วยติดเตียง /เคยผ่าตัดเกี่ยวกับสะโพก/มีการบาดเจ็บบริเวณขา /ตั้งครรภ์หรือหลังคลอด หรือมีเลือดแข็งตัวผิดปกติ)

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• อาการหอบเหนื่อย
• ตรวจพบ pleuriticchest pain
• มีอาการหัวใจเต้นเร็ว มีอาการ cyanosis
• พบภาวะออกซิเจนในเลือดต่ํา
• อาจพบ neck veinengorgement

pulmonary embolism

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
•ประเมินความรู้สึกตัว ABCs
•ประเมินสัญญาณชีพ
•เคี้ยวและกลืน aspirin 325mg ทันทีโดยเคี้ยวและกลืน1 เม็ดและกลืน1 เม็ด (ไม่มี bleeding precaution)
•ให้ออกซิเจน cannula 3.5 LPM /Mask c bag ตามค่า O2 Saturation•ให้ IV fluid เพื่อเปิดเส้นและให้สารน้ำเพื่อ hemodynamic support•ส่งต่อทันที

• มีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรงทันทีทันใด
• หอบ หายใจลําบาก
• ประวัติอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บของทรวงอก

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• อาการหอบเหนื่อย
• ปอดด้านที่มีพยาธิสภาพขยายตัวลดลง
• เสียงหายใจลดลง มีtrachea เอียง
• พบ neck veinengorgement
• พบอาการ cyanosis ออกซิเจนในเลือดต่ำ
• หัวใจเต้นเร็ว

Pneumo-thorax
/ TensionPneumo-thorax

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
•ประเมินความรู้สึกตัว ABCs ประเมินสัญญาณชีพ
•ให้ออกซิเจน cannula 3.5 LPM /Mask c bag ตามค่า O2 Saturation
•ให้ IV fluid เพื่อเปิดเส้นและให้สารน้ําเพื่อ hemodynamic support•ส่งต่อทันที

• ปวดแบบ sharppain เป็นมากเมื่อหายใจเข้า-ออก• ประวัติติดเชื้อทางเดินหายใจ

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• อาการหอบเหนื่อย
• พบ pleural frictionrub
• ฟังปอดได้ยินเสียงcrepitation ไข้ ไอมีเสมหะ

Pneumonitis

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
• ประเมิน ABCs และ V/S
• ให้พักผ่อน(Rest) ให้ออกซิเจน cannula 3.5 LPM /Mask c bag ตามค่า O2 Saturation• ส่งต่อทันที

•เจ็บปวดแบบแสบร้อนเหมือนโดนไฟลวกในอกทั่วๆไปอาการเป็นๆหายๆ
• มีอาการเปรี้ยวในคอ เจ็บคอ แสบลิ้นหรือไอเรื้อรังอาหารไม่ย่อยท้องอืด
• เกิดอาการหลังรับประทานอาหาร
• พฤติกรรม สูบบุหรี่รับประทานอาหารเผ็ด อาหารมันดื่มชา กาแฟ /อ้วน/ตั้งครรภ์

•เจ็บแน่นๆอึดอัดกลางหน้าอกทันทีทันใดสัมพันธ์กับการกลืนอาหาร
• มีประวัติกลืนอาหารลําบาก รู้สึกเหมือนมีสิ่งติดอยู่ในทรวงอกด้านล่างเป็นๆหายๆ

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• ปวดแสบร้อน(heartburn) บริเวณepigastrium30-60 นาทีหลังอาหาร/ หลังกินอาหารแล้วล้มตัวนอน

Gastroeso-phageal refluxdisease /Refluxesophagitis

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
•ให้ Aluminum hydroxide 15 ml. qid. pc หลังอาหาร 1 ชั่วโมง
•Ranitidine 150 mg.ทุก 12 ชั่วโมง
• ท้องอืดให้Simethicone1-2 tab qid. pc และhs. (ไม่เกิน 500 mg./day)
• ให้ยา 1 สัปดาห์นัดติดตามอาการหากดีขึ้นให้ยารับประทานต่อ 2 เดือน
• ควรส่งต่อเพื่อการรักษาที่เหมาะสมเมื่อพบว่าอาการไม่ดีขึ้นใน 1 สัปดาห์หรือเป็นๆหายๆเรื้อรัง / มีน้ำหนักลดอาเจียน ถ่ายดํา ซีดหรือดีซ่าน/ ในผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 40 ปี

Esophagealspasm

• ส่งต่อแพทย์

•เจ็บหน้าอกแบบปวดแสบปวดร้อนซีกใดซีกหนึ่งตามแนวเส้นประสาท(dermatome)

•ประวัติได้รับบาดเจ็บ/อุบัติเหตุ

• อาการเจ็บแปลบๆเวลาหายใจเข้าลึกๆหรือขยับตัว
• มีประวัติไข้แล้วไอมากหรือการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างแรงๆ

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• พบจุดกดเจ็บชัดเจน• เจ็บมากขึ้นเมื่อขยับทรวงอกกรณีกล้ามเนื้ออักเสบ มักมีไข้ร่วมด้วย

Costochondritis/ Myositis

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
•ประคบน้ําอุ่นหรือยานวด methylsalicylate หรือครีมไพลจีซาลทานวดวันละ 2- 3 ครั้ง
•ให้ยาแก้ปวด Ibuprofen 200 - 400mg.  ทุก 4 - 6 ชั่วโมง PC (ไม่เกิน1.2 กรัม/วัน)
•ติดตามอาการ 3 วัน ส่งต่อหากอาการไม่ดีขึ้นหรือสงสัยอาจมีซี่โครงหัก

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• พบจุดกดเจ็บชัดเจนเจ็บมากขณะหายใจเข้า-ออก

Fracture rib

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• พบผื่นแบบ(maculopapular) ซึ่งจะกลายเป็นตุ่มน้e(vesicles) ภายใน 1-2วันหรือแผลไปตามแนวdermatome

Herpes zoster

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
• ถ้าปวด มีไข้ให้paracetamol
• หากเป็นผื่นทาด้วย calaminelotion หรือน้eจากการบดต้นเสลดพังพอนทาวันละ 2-3 ครั้ง
• ควรส่งต่อใน 1 สัปดาห์ ถ้ามีการลุกลามขึ้นที่บริเวณตาหู/ ปวดรุนแรง / กระจายทั่วตัว /ผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 50 ปี

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• อาการเจ็บหน้าอกแบบ anginapectoris
• มีอาการ referredpain ไปกราม แต่ไม่เกิน temporo-mandibular jointไหล่ คอและแขนและไม่ต่ำกว่าสะดือ

Angina pectoris

• เจ็บแน่นๆอึดอัดกลางหน้าอกทันทีทันใด เกิดขณะนอนพักหรือหรืออกแรงแต่ส่วนมากเจ็บหน้าอกขณะพักนาน20 - 30 นาที
• มีเหงื่อออกหรือคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วยได้

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• อาการเจ็บหน้าอกเหมือน anginapectoris แต่รุนแรงกว่า มีreferredpain
• พบ arrythmia• ฟังเสียงหัวใจได้ยินเสียง`murmur• ตรวจคลื่นไฟฟ้า หัวใจอาจพบ Non-ST-Elevation MIหรือพบ Q-wave STelevation MI

Acute Coronary Syndrome

• เจ็บหน้าอกแบบsharp painทันทีทันใด และรุนแรงตั้งแต่เริ่มแรกเหมือนมีการฉีกขาดบริเวณกลางหน้าอกและปวดทะลุไปกลางหลัง
• ส่วนใหญ่มีประวัติ HT

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• พบชีพจรที่คอ ขา-แขนอาจไม่เท่ากัน
• ความดันโลหิตสองข้างไม่เท่ากันหรือแตกต่างกันมากกว่า10 มิลลิเมตรปรอท
• รายที่มีการแตกของaorta จะพบBP ตกหรือภาวะ shock
• พบอาการซีดเขียวเย็นของแขน-ขาได้
• รายที่แตกเซาะไปจนถึง carotid arteryจะคลําชีพจรได้เบาและฟังได้เสียงฟู่

Acute aortic dissection

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
• ประเมินความรู้สึกตัว ABCs
• ให้ absolute bed rest
• ให้ Morphine 3 – 5 mg IV dilute ทุก10 – 15 นาทีตามคําสั่งแพทย์• ส่งต่อทันที

• เจ็บหน้าอกแบบsharp pain มีการปวดร้าวไปหลังsternum
• กระจายไปคอ หลังไหล่ซ้าย เจ็บมากขึ้นมาไอหายใจเข้าลึกกลืนอาหารหรือนอนหงาย
• เจ็บน้อยลงมานั่งหรือก้มตัวไปข้างหน้า

• อาการเจ็บแน่นหน้าอกตลอดเวลา
• ประวัติอุบัติเหตุ การบาดเจ็บของทรวงอก
• โรคที่ทําให้เกิดน้ำในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ เช่นหัวใจล้มเหลว

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• อาการเหนื่อยอ่อนเพลีย• กระสับกระส่ายระดับความรู้สึกตัวลดลง• ปัสสาวะลดลง
• neck vein engorgement• หัวใจเต้นเร็ว เสียงหัวใจเบาลง พบpulsus paradoxus
• ความดันโลหิตตก

Cardiac tamponade

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
• ประเมินความรู้สึกตัว ABCs
• ประเมินสัญญาณชีพ• ให้พักผ่อน(Rest)
• ให้ออกซิเจน cannula 3.5 LPM /Mask C bag ตาม O2 Saturation
• ให้ IV fluid เพื่อเปิดเส้นและให้สารน้ำ
• กรณีที่มีความดันโลหิตตกหรือมีภาวะช็อคในช่วงแรกควรให้ IV fluidอย่างเร็วเมื่ออาการดีขึ้นจึงปรับลดปริมาณ IV fluid ลง• ส่งต่อทันที

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• ตรวจพบ pericardial friction rub
• คลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบdiffuse STsegmentelevation,depressed PRsegment

Pericarditis


•หายใจลําบากหอบเหนื่อยเสียงหายใจออกยาวอาการดีขึ้นเมื่อได้รับยาขยายหลอดลม

• หายใจหอบลึก
•มีอาการหลังภาวะเครียด/มีเรื่องขัดใจ

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• หายใจหอบลึก• มือจีบเกร็งทั้งสองข้าง

Hyperventilation

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
• หายใจในกรวยกระดาษหรือถุงพลาสติก
• แนะนําให้หายใจเข้าออกช้า ๆไม่ควรให้ออกซิเจนส่งต่อถ้าไม่ดีขึ้นภายใน 30 นาที

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• ตรวจร่างกายตอนไม่มีอาการหอบจะไม่พบความผิดปกติ
• ช่วงที่มีอาการหอบจะฟังปอดได้ยินเสียงwheezing หรือRhonchi จากปอดทั้งสองข้าง

Asthma
/Status asmaticus

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
• แนะนําหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น
ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคและการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยและการใช้ยา
• ให้ยาขยายหลอดลม Salbutamolผ่าน nebulizer ต่อกับ O2 หรือพ่นยาขยายหลอดลม DPI /MDI
• ส่งต่อทันทีถ้าอาการไม่ดีขึ้นหลังพ่นยา 2 ครั้งห่างกัน 15 นาที

• หอบเหนื่อยง่ายเวลาออกแรง ในระยะรุนแรงหอบเหนื่อยจนทํางานไม่ได้มีอาการหอบกําเริบเป็นๆหายๆ
• ไอเรื้อรังมีเสมหะสีขาว
• ประวัติสูบบุหรี่• พบในวัยกลางคนหรือผู้สูงอายุ

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• หอบ หายใจลําบากจนต้องห่อปากเวลาหายใจออก ใช้Accessory muscleในการหายใจ
• ลักษณะทรวงอกเปลี่ยนแปลงเป็นbarrel shape• เคาะปอดเสียงhyperresonance
• ฟังเสียงปอดได้เสียงwheezing

COPD

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
• แนะนําหยุดสูบบุหรี่/หลีกเลี่ยงมลพิษทางอากาศ ดื่มน้ำอุ่นมากๆ
มีอาการหอบบรรเทาด้วยยาขยายหลอดลมชนิดสุดพ่น/รับประทานตามคําสั่งการรักษาของแพทย์
• ในรายที่เป็นรุนแรงจําเป็นต้องใช้ยากcorticosteroid สุดพ่นคล้ายผู้ป่วยหอบหืด
• ส่งต่อทันทีถ้าอาการหอบไม่ดีขึ้นใน 4-6 ชั่วโมง
• มีไข้เสมหะมีหนองให้ยาปฏิชีวนะ

•เหนื่อยหอบนอนราบไม่ได้•หอบเหนื่อยเป็นช่วงๆโดยเฉพาะกลางคืน•มีไอเป็นพักๆ•มีประวัติ HT /โรคหัวใจ/เบาหวาน

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• นอนราบไม่ได้
• พบneck vein engorgement
• พบ pitting edemaหน้าแข้ง ข้อเท้า
• ชีพจรเบาเร็วไม่สม่ำเสมอ
• ฟังปอดได้ยินเสียงfine crepitation

Congestive Heart failure

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
• ประเมิน ABCs และ V/S
• ให้พักผ่อน(Rest)ห้ออกซิเจน cannula 3.5 LPM /Mask c bag ตามค่า O2 Saturation
• ให้น้ำเกลือให้ยาขับปัสสาวะ/ACEI • ส่งต่อทันที

• เหนื่อยหอบ นอนราบ ไม่ได้
• ไอมีเสมหะปนเลือด

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• ฟังปอดได้ยินเสียง fine crepitationชายปอดด้านล่าง
• อาจพบ cyanosis

Acute pulmonary edema

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
• ประเมิน ABCs และ V/S
• ให้พักผ่อน(Rest)ให้ออกซิเจน cannula 3.5 LPM /Mask c bag ตามค่า O2 Saturation• ส่งต่อทันที

• อาการใจสั่น• เจ็บหน้าอกรุนแรง
• หอบเหนื่อย• แขนขาข้างหนึ่งอ่อนแรงฉับพลัน• เป็นลมหมดสติ

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• ชีพจรเต้นไม่สม่ำเสมอและแรงไม่เท่ากัน

กล้ามเนื้อหัวใจตาย ลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดสมอง/ปอด

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
• ให้การรักษาโรคเบื้องต้น• ส่งต่อทันที

• อาการใจสั่น• ตกเลือดรุนแรง
• ปวดท้องรุนแรง• อาเจียนรุนแรง
• ท้องเดินรุนแรง• ถ่ายดํา• เป็นลมหน้ามืด

•อาการใจสั่น มีอาการเรื้อรัง

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• ชีพจรมากกว่า 100ครั้งต่อนาทีเต้นสม่ำเสมอได้แรงเท่ากันตลอด

Shock

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• ชีพจรเต้นไม่สม่ำเสมอและแรงไม่เท่ากันตลอด
• ฟังเสียงหัวใจได้ยินเสียง murmur

โรคลิ้นหัวใจพิการ
/โรคหัวใจรูมาติก

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
• พิจารณาให้ยาตามความจําเป็น
• ส่งต่อภายใน 24 ชั่วโมง

• อาการใจสั่น
• น้ำหนักลดฮวบ

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• ชีพจรเต้นไม่สม่ำเสมอและแรงไม่เท่ากันตลอดมากกว่า 120 ครั้งต่อนาที
• มือสั่น ตาโปน ขี้ร้อนเหงื่อมาก คอพอก

Hyperthyroidism

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
• กรณี Hyperthyroidismมีชีพจรมากกว่า 100 ครั้ง/นาทีเต้นสม่ำเสมอได้แรงเท่ากันตลอดส่งต่อภายใน 3 วัน

• อาการใจสั่นหลังการออกกําลังกาย

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• ชีพจร>100 ครั้งต่อนาทีเต้นสม่ำเสมอ

ออกกําลังกายหักโหม

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
• ให้นั่งพัก• แนะนําการออกกําลังกายที่ถูกวิธี

• อาการใจสั่น หลังการสูบบุหรี่ดื่มเหล้าดื่มกาแฟหรือยาชูกําลังกานกินยาแก้หอบแก้หวัดหรือยาอื่นๆ

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• ชีพจร>100 ครั้งต่อนาทีเต้นสม่ำเสมอ

ฤทธิ์ข้างเคียงของสารกระตุ้น

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
• ให้ดื่มน้ำมากๆ• หยุดยาหรือสารกระตุ้น
• ส่งต่อถ้าไม่ดีขึ้นภายใน 6 ชั่วโมง

• อาการใจสั่น
• มีเรื่องวิตกกังวลคิดมากหรือนอนไม่หลับร่วมด้วย

การตรวจร่างกายที่ผิดปกติ
• ชีพจร>100 ครั้งต่อนาทีเต้นสม่ำเสมอ

วิตกกังวล

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
• แนะนําของออกกําลังกาย
• การผ่อนคลายความเครียด
• ให้ยาคลายกังวล เช่นHydroxyzine (25mg.) 2 tab tid. pc +hs
• ส่งต่อถ้าไม่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์

รักษาพยาบาลเบื้องต้น
• ประเมินความรู้สึกตัว ABCs และให้พักผ่อน(Rest)
• ให้ออกซิเจน cannula 3.5 LPM
• ให้เคี้ยวและกลืน aspirin 325 mgทันทีโดยเคี้ยวและกลืน1 เม็ดและกลืน1 เม็ด (กรณีไม่มีbleedingprecaution) ให้น้ําเกลือเพื่อเปิดเส้นไว้
• ให้อมยา nitroglycerine 5 mg. ใต้ลิ้น(ถ้าผู้ป่วยมียาประจํา อม 1 เม็ดห่างกัน5 นาทีไม่เกิน 3 เม็ด) ห้ามให้ในผู้ป่วยมีภาวะ hypotension หรือbradycardia
• ถ้าshock หรือหยุดหายใจให้ดําเนินการช่วยฟื้นคืนชีพ
• ส่งต่อทันที

click to edit