Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พฤติกรรม การรับรู้และการปรับตัวของมนุษย์, นางสาวเณศรา ลาทา 6311901018 …
พฤติกรรม การรับรู้และการปรับตัวของมนุษย์
การปรับตัวของมนุษย์
สิ่งมีชีวิตทั้งหลายจำเป็นต้องมีการปรับตัวในด้านต่างๆจึงจะสามารถดำรงชีวิตได้อย่างเป็นสุขหากไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัวที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาจะทำให้ชีวิตอยู่ได้ด้วยความยากลำบากการปรับตัวจึงถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ความหมายของการปรับตัว
การปรับตัว คือ การที่บุคคลสามารถสร้าง หรือ ขัดเกลาพฤติกรรมให้เข้ากับแบบแผนของสังคม หรือ สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยแปลงให้สามารถบรรลุจุดหมายที่ต้องการ ทำให้มีชีวิตอยู่อย่างปกติสุขทั้งร่างกายและ
จิตใจ โดยไม่เกิดผลเสียต่อทั้งตนเองและผู้อื่น ทั้งนี้ในการศึกษาและเข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์ จำเป็นต้องศึกษาทั้งในแง่ชีววิทยาและจิตวิทยา โดยในแง่ชีววิทยา เป็นการปรับตัวให้เป็นไปตามความต้องการของร่างกาย ส่วนในแง่ของจิตวิทยา เป็นการปรับตัวให้เป็นไปตามความต้องการของจิตใจ
ลักษณะของการปรับตัว
การปรับตัวที่สมบูรณ์ (integrative adjustment) เป็นลักษณะการปรับตัวที่บุคคล
สามารถแก้ปัญหาได้แล้ว ทำให้ตนเองเกิดความสบายใจ ไม่มีข้อขุ่นข้องหมองใจเหลืออยู่
การปรับตัวไม่สมบูรณ์ (non-integrative adjustment) เป็นการปรับตัวที่บุคคลไม่สามารถแก้ไป้ญหานั้นได้ แต่มีวิธีทำให้คลายเครียดภายในใจให้ลดลงได้บ้าง ยังคงมีความมสบายใจเหลืออยู่ การปรับตัวแบบนี้อาศัยกลไกทางจิตหรือกลไกการป้องกันตนเองเป็นตัวช่วย
การรับรู้
การรับรู้เป็นปัจจัยที่กำหนดพฤติกรรมของมนุษย์การแสดงออกถึงพฤติกรรมของมนุษย์นั้นไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่เกิดจากสิ่งกระตุ้นหลาย ๆ ประการด้วยกันซึ่งจำเป็นต้องมีการศึกษาเพื่อให้ทราบและเข้าใจสาเหตุของพฤติกรรมอันจะนำไปสู่การปรับพฤติกรรมของมนุษย์ให้สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข
กระบวนการรับรู้
กระบวนการรับรู้ เริ่มจกการสัมผัสด้วยประสาทสัผัสที่มีต่อสิ่งเร้ และมีกรแปลความหมายจากประสบการณ์ดิม หรืความเติม จนกิดอการตอบสนองต่อสิ่งร้นั้น การรับรู้จะเกิดขึ้นต้องประกอบไปด้วยกระบวนการที่สำคัญ ดังนี้
ชนิดและธรรมชาติของสิ่งเร้า คือ สิ่งเร้าต่าง ๆ ที่เข้ามาเร้าอวัยวะรับสัมผัสของคน อาจมีลักษณะและคุณสมบัติแตกต่างกัน เช่น แสง สี เสียง อาหาร รสชาติต่าง ๆ อุณหภูมิ ภาพ เป็นต้น
การแปลความหมาจากการสัมผัส สิ่งที่จะช่วยให้การแปลความหมายดีหรือถูกต้องเพียงใด ต้องอาศัยองค์ประกอบที่สำคัญ
1.สติปัญญาและความฉลาด
2.การสังเกตพิจารณา
3.ความสนใจและความตั้งใจ
4.คุณภาพจิตใจในขณะนั้น
การสัมผัสหรืออการสัมผัส คือ อาการที่อวัยวะแต่ละชนิดรับการสัมผัสจากสิ่งเร้าหรือมีสิ่งเร้าเข้ามากระทบกับอวัยวะรับสัมผัส เพื่อให้คนเรารับรู้ภาวะแวดล้อม โดยปกติแล้วเมื่อคนเราได้รับสัมผัส แล้วจะจำแนกอาการสัมผัสนั้น ๆ เช่น ได้ยินเสียงดัง ติกต๊อก ๆ ก็สามารถแปลออกได้ว่าเป็นเสียงของนาฬิกา เป็นต้น
พฤติกรรม
รูปแบบพฤติกรรมของมนุษย์
1. พฤติกรรมเปิดเผยหรือพฤติกรรมภายนอก (Overt Behavior)
เป็นพฤติกรรมที่บุคคลแสดทำให้ผู้อื่นสามารถมองเห็นได้สังเกตได้ เช่น การเดิน การหัวเราะ การพูด เป็นต้น ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่แสดงออกมา
2. พฤติกรรมปกปิดหรือพฤติกรรมภายใน (Covert Behavior)
เป็นพฤติกรรมที่บุคคลแสดงแล้ว แต่ผู้อื่นไม่สามารถมองเห็นได้หรือสังเกตได้โดยตรง จนกว่าบุคคลนั้นจะเป็นผู้บอกหรือแสดงบางอย่างเพื่อให้คนอื่นรับรู้ได้ เช่น ความคิด อารมณ์ การรับรู้ ความโกรธเป็นต้น
ความแตกต่างของพฤติกรรมของมนุษย์
ความแตกต่างทางด้านร่างกาย (Physical)
เป็นความแตกต่างของลักษณะทางกายภายนอกซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจนเช่นหน้าตาผิวพรรณความสูง / เตี้ยความอ้วน / ผอมเป็นต้นความแตกต่างทางร่างกายอาจนำไปสู่ความแตกต่างทางด้านอื่น ๆ ได้เนื่องจากร่างกายต้องทำงานสัมพันธ์กันทั้งหมดเช่นร่างกายที่อ้วนหรือผอมมาก ๆ ย่อมไม่กระฉับกระเฉงเหมือนคนที่แข็งแรงและอาจถูกล้อเลียนจนเกิดเป็นปมด้อยในการเข้าสังคมได้นอกจากนี้ความสามารถทางร่างกายยังรวมไปถึงความสามารถอันเกิดจากการกระทำเช่นวัยหนุ่มสาวย่อมแสดงออกถึงพลังได้ดีกว่าคนสูงอายุหรือเด็กหรือคนในวัยเดียวกันถ้าหากร่างกายได้รับการฝึกฝนดีก็ย่อมจะมีทักษะดีกว่าคนที่ไม่ได้รับการฝึกฝนเป็นต้น
ความแตกต่างทางด้านอารมณ์ (Emotion)
หมายถึงการแสดงออกทางอารมณ์หรือความรู้สึกต่างๆเช่นดีใจเสียใจโกรธอิจฉาก้าวร้าวเป็นต้นซึ่งการแสดงออกทางอารมณ์มีมากน้อยไม่เท่ากันและแสดงออกมาไม่เหมือนกันการควบคุมทางอารมณ์ก็เช่นเดียวกันบางคนมีความสามารถในการ
ความแตกต่างทางด้านสติปัญญา (Intelligence)
หมายถึงความแตกต่างในด้านการแก้ปัญหาเช่นคนที่มีไอคิวสูง (100 ขึ้นไป) จะมีความคิดในการแก้ไขปัญหาได้หลายแง่มุมมีความละเอียดในการแก้ปัญหาได้มากกว่า แต่สำหรับคนที่มีไอคิวต่ำ 90 ลงมา) จะคิดได้น้อยกว่าและมักมีกรอบความคิดที่ไม่กว้างการแก้ปัญหาจึงอาจเกิดขึ้นได้น้อยกว่าด้วยเหตุนี้ในปัจจุบันนักการศึกษาจึงพยายามหาวิธีการช่วยเหลือให้เด็กได้ฝึกการต่อภาพหรือให้เล่นของเล่นที่มีการฝึกการตัดสินใจมากขึ้นเนื่องจากการฝึกเล่นสิ่งของเหล่านี้เป็นการฝึกประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาเมื่อบุคคลไปเผชิญปัญหาในชีวิตประจำวันก็จะมีการแก้ไขปัญหาได้ดีขึ้น
ความแตกต่างทางด้านสังคม (Society)
หมายถึงความสามารถที่แสดงออกในหมู่คณะหรือระหว่างคนซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่าแม้จะมีสติปัญญาพอ ๆ กัน แต่ความสามารถในการเข้าสังคมย่อมมีได้ไม่เหมือนกันสถาบันแรกที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่เป็นที่ยอมรับในสังคมคือครอบครัวต่อมาคือโรงเรียนซึ่งต้องตระหนักและมีแนวทางในการฝึกฝนเด็กให้มีความสามารถในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นให้ได้เพราะคนที่เข้ากับสังคมได้ดีย่อมเป็นที่ยอมรับของเพื่อนร่วมงานผู้บังคับบัญชาหรือผู้ใต้บังคับบัญชา
นางสาวเณศรา ลาทา 6311901018