Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 7 การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนโดยใช้ภาษาและวัฒนธรรมเป็นฐานตามแนวทางโร…
บทที่ 7
การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนโดยใช้ภาษาและวัฒนธรรมเป็นฐานตามแนวทางโรงเรียนพหุวัฒนธรรม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551,
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้
นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
การจัดการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
ระดับประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6)
เป็นระดับการศึกษาที่มุ่งเน้นทักษะพื้นฐานด้านการอ่านการเขียน การคิดคำนวณ การคิดพื้นฐาน การติดต่อสื่อสาร กระบวนการเรียนรู้ทางสังคม
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3)
เป็นระดับการศึกษาที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้สำรวจความถนัด และความสนใจของตนเอง ส่งเสริมการพัฒนาบุคลิกภาพส่วนตน มีทักษะในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ คิดสร้างสรรค์ และคิดแก้ปัญหา
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6)
เป็นระดับการศึกษาที่มุ่งเน้น การเพิ่มพูนความรู้และทักษะเฉพาะด้าน สนองตอบความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียนแต่ละคนทั้งด้านวิชาการ และวิชาชีพ มีทักษะ มีทักษะในการใช้วิทยาการและเทคโนโลยี
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
กิจกรรมแนะแนว
เป็นกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์สิ่งแวดล้อมสามารถคิดตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้านการเรียนและอาชีพสามารถปรับตนได้อย่างเหมาะสม
แนวการจัดกิจกรรมแนะแนว
สำรวจสภาพปัญหา ความต้องการ ความสนใจและธรรมชาติของผู้เรียน
ศึกษาวิสัยทัศน์ของสถานศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลของผู้เรียนที่ได้จากการสำรวจ
กำหนดสัดส่วนสาระของกิจกรรมในแต่ละด้าน
กำหนดแผนการปฏิบัติกิจกรรมแนะแนว
การจัดทำรายละเอียดของแต่ละกิจกรรม
ปฏิบัติตามแผน วัดและประเมินผล และสรุปรายงาน
กิจกรรมลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี
เป็นกิจกรรมที่มุ่งปลูกฝังระเบียบวินัยและกฎเกณฑ์เพื่อการอยู่ร่วมกันให้รู้จักการเสียสละและบำเพ็ญประโยชน์แก่สั
งคมและวิถีชีวิตในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งการจัดกิจกรรมลุกเสือ เนตรนารี
แนวการจัดกิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี
คำปฏิญาณและกฎ ถือเป็นหลักเกณฑ์ที่ลูกเสือทุกคนให้คำมั่นสัญญาว่าจะปฏิบัติตามกฎ ของลูกเสือ
เรียนรู้จากการกระทำ เป็นการพัฒนาส่วนบุคคลความสำเร็จหรือไม่สำเร็จของผลงานอยู่ที่การกระทำของตนเอง
ระบบหมู่ เป็นรากฐานอันแท้จริงของการลูกเสือ เป็นพื้นฐานในการอยู่ร่วมกัน การยอมรับซึ่งกันและกัน
การใช้สัญลักษณ์ร่วมกัน ฝึกความเป็นหนึ่งเดียวในการเป็นสมาชิกลูกเสือ เนตรนารี ด้วยการใช้สัญลักษณ์ร่วมกัน
การศึกษาธรรมชาติ คือ สิ่งสำคัญอันดับหนึ่งในกิจกรรมลูกเสือ ธรรมชาติอันโปร่งใสตามชนบท ป่าเขา
ความก้าวหน้าในการเข้าร่วมกิจกรรม กิจกรรมต่างๆที่จัดให้เด็กทำ ต้องให้มีความก้าวหน้าและดึงดูดใจสร้างให้เกิดความกระตือรือร้น
การสนับสนุนโดยผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ชี้แนะหนทางที่ถูกต้องให้แก่เด็กเพื่อให้เขาเกิดความมั่นใจในการที่จะตัดสินใจกระทำสิ่งใดลงไป
แนวการจัดกิจกรรมชุมนุม
สำรวจความสนใจของผู้เรียนในการเลือกเข้าร่วมชุมนุม ชมรม
ให้ผู้เรียนดำเนินกิจกรรมได้หลากหลายทั้งภายในและภายนอกห้องเรียน
มีครูที่ปรึกษา ชุมนุม ชมรม
แลกเปลี่ยนเรียนรู้และเผยแพร่กิจกรรม
ครูที่ปรึกษากิจกรรมประเมินตามหลักเกณฑ์การประเมินผล
กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศชาติในลักษณะอาสาสมัครเพื่อช่วย ขัดเกลาจิตใจของผู้เรียนให้มีความเมตตากรุณา มีความเสียสละ
แนวการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
จัดกิจกรรมในลักษณะบูรณาการใน 8 กลุ่มสาระ
จัดกิจกรรมลักษณะโครงการ โครงงาน หรือกิจกรรม
จัดกิจกรรมร่วมกับองค์กรอื่น
2 แนวทางดังนี้
การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนรายกิจกรรม
ตรวจสอบเวลาเข้าร่วมกิจกรรมของผู้เรียน
ให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
ประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนจากการปฏิบัติกิจกรรม
และผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะของผู้เรียนตามเกณฑ์
ที่สถานศึกษากำหนดด้วยวิธีการที่หลากหลาย
ผู้เรียนที่มีเวลาการเข้าร่วมกิจกรรมมีการปฏิบัติกิจกรรม
และผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
เป็นผู้ผ่านการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนรายกิจกรรม
ผู้เรียนที่มีผลการประเมินไม่ผ่านในเกณฑ์เวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะตามที่สถานศึกษากำหนดการประเมินผลกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ครู หรือผู้รับผิดชอบต้องดำเนินการซ่อมเสริมและประเมินจนผ่าน
การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อการตัดสิน
กำหนดให้มีผู้รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของผู้เรียนทุกคน
ผู้รับผิดชอบสรุปและตัดสินผลการร่วมกิจกรรม
พัฒนาผู้เรียนของผู้เรียนเป็นรายบุคคล
ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
กิจกรรมแนะแนว
กิจกรรมนักเรียน ได้แก่ กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บำเพ็ญประโยชน์
กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
ผู้รับผิดชอบเสนอผลการประเมินต่อคณะอนุกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อให้ความเห็นชอบ
ผู้รับผิดชอบเสนอผู้บริหารสถานศึกษาพิจารณาเพื่ออนุมัติผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนผ่านเกณฑ์การจบแต่ละระดับการศึกษา
การจัดการศึกษาเชิงพหุวัฒนธรรม
เกิดจากสภาพห้องเรียนและโรงเรียนที่ประกอบด้วยนักเรียนต่างเชื้อชาติ วัฒนธรรมเรียนร่วมกันมีมากขึ้นส่งผลทาให้เกิดความยากลาบากในการจัดการเรียนการสอนของครูว่าจะจัดเนื้อหาและกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างไรจึงจะสามารถพัฒนาผู้เรียนที่มีความหลากหลายเหล่านี้ให้พัฒนาสูงสุดตามศักยภาพของตน
Banks (2001) กล่าวว่า การศึกษาพหุวัฒนธรรมเป็นรูปแบบของการจัดการศึกษาประเภทหนึ่ง ที่สภาพแวดล้อมทางการศึกษาประกอบไปด้วยนักเรียนที่มาจากกลุ่มวัฒนธรรมที่ต่างกัน เช่น กลุ่มชาติพันธุ์ เพศ ชั้นทางสังคม กลุ่มภูมิภาค กลุ่มความต้องการพิเศษ โดยปัญหาของกลุ่มต่าง ๆ
Tileston (2004) กล่าวว่าการศึกษาพหุวัฒนธรรม คือกระบวนจัดการศึกษาที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อพัฒนาส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดความตระหนักรู้
รูปแบบการจัดการศึกษาพหุวัฒนธรรม
บูรณาการเนื้อหาวัฒนธรรมของนักเรียน เข้าไปในวิชาต่างๆ
คือการที่ครูผู้สอนยังคงสอนวิชาต่าง ๆ เหมือนที่เคยสอนมา ขณะเดียวกันก็นาเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมของนักเรียนกลุ่มต่าง ๆ มาสอดแทรก บูรณาการในเนื้อหาเดิมที่กาลังสอนอยู่
การสร้างความรู้ใหม่
ครูจะเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นผู้บอกความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ให้แก่นักเรียนเพื่อให้นักเรียนจดจาเนื้อหาความรู้ที่มีอยู่ เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่กระตุ้นให้นักเรียนได้ใช้ความคิดเชิงวิเคราะห์เปรียบเทียบ
การลดอคติ
การจัดหลักสูตรที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้นักเรียนมีเจตคติต่อเชื้อชาติวัฒนธรรมอื่น ๆ ในทางบวกและ
มีค่านิยมแบบประชาธิปไตย โดยครูควรจัดสภาพแวดล้อม
การสอนที่ยึดหลักความยุติธรรม
สนับสนุนให้นักเรียนทุกกลุ่มเชื้อชาติ วัฒนธรรมในชั้นเรียน มีโอกาสประสบความสำเร็จในการเรียนโดยเท่าเทียมกัน โดยการส่งเสริมให้นักเรียนจากกลุ่มต่าง ๆ เข้าร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้นในชั้นเรียน และในโรงเรียนอย่างทั่วถึง
การปรับโครงสร้างทางสังคมและวัฒนธรรมในโรงเรียน
เน้นการปรับวัฒนธรรมองค์กรของโรงเรียนให้เหมาะสมกับนักเรียนกลุ่มต่าง ๆ ให้เกิดความเสมอภาคเท่าเทียมกัน โดยผู้บริหาร ครู บุคลากรทุกคนในโรงเรียน รวมถึงผู้ปกครองนักเรียน ควรมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจ
แนวทางการจัดการศึกษาเชิงพหุวัฒนธรรมในโรงเรียน
ชรินทร์ มั่งคั่ง (2562)
ได้ศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับการรู้พหุวัฒนธรรมศึกษาและการปฏิบัติเชิงวิชาชีพของครูสังคมศึกษาในโรงเรียนมัธยมศึกษา ผลการวิจัยพบว่า การรู้พหุวัฒนธรรมศึกษาของครูสังคมศึกษามีการรู้โดยรวมระดับน้อย (ค่าเฉลี่ย 1.22) สำหรับการปฏิบัติเชิงวิชาชีพของครูสังคมศึกษาโดยครูส่วนใหญ่ (ร้อยละ 70)
ศิลป์ชัย สุวรรณมณี และคณะ (2557)
ได้ศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันรูปแบบการบริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาของรัฐที่สอดคล้องกับบริบทสังคมพหุวัฒนธรรม กรณีศึกษาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผลการวิจัยพบว่ารูปแบบการบริหารโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาของรัฐที่สอดคล้องกับบริบทสังคมพหุวัฒนธรรม พบว่า มีค่าไค-สแควร์ ( 2) เท่ากับ 207.15 ที่องศาอิสระ (df) เท่ากับ 144 มีค่าไค-สแควร์สัมพัทธ์ (2/df) เท่ากับ 1.43 ค่าดัชนีวัดระดับความกลมกลืน (GFI) ดัชนีวัดระดับความกลมกลืนที่ปรับแก้แล้ว (AGFI) เท่ากับ 0.92 และ 0.87 ตามลำดับ
ลำพอง กลมกูล (2561)
ได้ศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับพหุวัฒนธรรมทางศาสนากับแนวทางการอยู่ร่วมกันของจีนและมลายู ผลการวิจัยพบว่า ความแตกต่างทางศาสนา ชาติพันธุ์และความเชื่อในบรูไนส่งผลให้เกิดขันติธรรมในการอยู่ร่วมกัน โดยมีการจัดการศึกษาที่มีฐานะของการเรียนรู้ที่นำไปสู่การแสดงออกของการจัดการและการบริหารอย่างเหมาะสมเพื่อให้เกิดกลไกในการดำเนินชีวิตร่วมกัน
พระมหานภดล ปุญฺญสุวฑฺฒโก (2561)
ได้ศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมพหุวัฒนธรรม: กรณีศึกษาชุมชนเขตบางรัก ผลการวิจัยพบว่า 1. แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมพหุวัฒนธรรม 2. หลักการที่เกี่ยวข้องกับการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมพหุวัฒนธรรม 3. การอยู่ร่วมกันของคนในสังคมพหุวัฒนธรรมที่หลากหลาย
ณัฐชนา มณีพฤกษ์ (2560)
ได้ศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับแนวทางการจัดการเรียนการสอนศิลปะที่ส่งเสริมการเห็นคุณค่าในพหุวัฒนธรรมระดับประถมศึกษาในโรงเรียนนานาชาติ ผลการวิจัยพบว่า สภาพของหลักสูตรศิลปศึกษาในโรงเรียนนานาชาติมีการกำหนดขอบเขตเนื้อหาสาระที่แสดงถึงวัฒนธรรม และ แนวทางการจัดการเรียนการเรียนการสอนศิลปะที่ส่งเสริมการเห็นคุณค่าในพหุวัฒนธรรมระดับประถมศึกษาในโรงเรียนนานาชาติ
นางสาวมัลลิกา อ่อนประชู รหัสนิสิต 60206699