Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่3 ส่วนที่ใช้และองค์ประกอบที่สำคัญ ของพืชสมุนไพร, image, image,…
บทที่3
ส่วนที่ใช้และองค์ประกอบที่สำคัญ
ของพืชสมุนไพร
สมุนไพร แก้ไอ ขับเสมหะ
ได้แก่
ขิง
ดีปลี
เพกา
เมล็ด ใส่น้ำต้มไฟอ่อนๆ
มะขามป้อม
มะขาม
มะนาว
ผลคั้นสดใส่เกลือเล็กน้อย
มะแว้งเครือ
มะแว้งต้น
สมุนไพร ขับลม โรคกระเพาะ
ขับลม
ได้แก่
ขมิ้นชัน
แทน Simethicone,mixt carminative
ขิง
แทน Simethicone,mixt carminative
เบญจกูล
แทน Simethicone,mixt carminative,diasgest
ธาตุอบเชย
แทน mixt carminative
โรคกระเพาะ
ได้แก่
ขมิ้นชัน
ใช้เหง้าแก่สด
กล้วยน้ำว้า
ใช้ผลห่ามหรือผลดิบ
สมุนไพร กระดูก กล้ามเนื้อ
ยารับประทาน
ได้แก่
เถาวัลย์เปรียง
แทน Diclofenac
สหัสธารา
แทน Tolperisone,Diclofenac
ยาใช้ภายนอก
ได้แก่
ยาหม่องไพล
แทน Analgesic blam
น้ำมันไพล
แทน Analgesic blam
ครีมไพล
แทน Analgesic blam
เจลพริก
แทน Diclofenac gel
ลูกประคบ
ช่วยในการไหลเวียนขงโลหิต
สมุนไพร แก้ไข้
ได้แก่
ฟ้าทะลายโจร
บอระเพ็ด
ยาจันทน์ลีลา
แทน Paeacetamol
สมุนไพร ขับปัสสาวะ
ได้แก่
ขลู่
หั่นเป็นชิ้น ต้มกับน้ำ
ยาน้ำกระเจียบแดง
แทน hydrochlorothiazide
(HCTZ)
สมุนไพรทีใช้รักษาโรคผิวหนัง
ได้แก่
สมุนไพรทีใช้กําจัดเหา
ได้แก่
น้อยหน่า
วิธี
ใช้ใบน้อยหน้าสด 4 ใบตําผสมกับเหล้าขาว ชโลมให้ทั่วศีรษะ แล้วใช้ผ้าคลุมไว้ประมาณ 10 นาที
ใช้เมล็ดนํามาบดคั้นกับนํ้ามะพร้าว
กรองเอาแต่นํ้ามาชโลมให้ทั่วศีรษะ แล้ว
ใช้ผ้าโพกไว้ประมาณ 1 -2 ชั่วโมง
ยาครีมเมล็ดน้อยหน่า
วิธี
ชโลมครีม 20 -30 กรัม ที่ผม ทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง ใช้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 3 สัปดาห์
สมุนไพรทีใช้รักษาแผลสด
ได้แก่
มะขาม
ใช้เปลือกเมล็ด นําไปต้ม นํามาล้างแผล
ขมิ้นชัน
วิธี
ผงขมิ้น 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับนํ้ามันมะพร้าวหรือนํ้ามันหมู 2 - 3 ช้อนโต๊ะ เคี่ยวด้วยไฟอ่อน ๆ
คนจนนํ้ามันกลายเป็นสีเหลือง ใช้นํ้ามันที่ได้ใส่แผล
ขมิ้นชันมาล้างให้สะอาด แล้วตําจนละเอียด คั้นเอานํ้าใส่แผล
ขมิ้นมาผสมกับนํ้าปูนใสเล็กน้อยและผสมสารส้ม พอกบริเวณที่เป็นแผล
ยาครีมบัวบก
ทําความสะอาดแผลก่อนทายา ใช้ทาบริเวณที่เป็นแผลวันละ 1 -3 ครั้ง หรือตามแพทย์สั่ง
ยานํ้าเปลือกมังคุด
ใช้ทาแผลสดและแผลเรื้อรัง
วันละ 2 ครั้ง เช้า - เย็น
สมุนไพรทีใช้รักษาแผลไฟไหม้
นํ้าร้อนลวก
ได้แก่
ชาจีน
นํากากใบชาพอกแผล
บัวบก
บัวบกตําให้ละเอียด คั้นนํ้าเอานํ้าทาชโลมบริเวณที่
เป็นแผล
นํ้ามันมะพร้าว
สําลีชุบนํ้ามันมะพร้าวทาแผล
บางๆทุก 10 - 15 นาที
ว่านหางจระเข้
ตัดใบสดๆปอกเปลือกออก ล้างเมือกที่อยู่ใต้เปลือกออกให้หมด นําวุ้นที่อยู่ภายในมาทา
ยาเจลว่านหางจระเข้
ทาบริเวณผิวหนังที่ถูกไฟไหม้นํ้าร้อนลวก
วันละ 3 - 4 ครั้ง
สมุนไพรทีใช้รักษาแผลเรื้อรังจากการฉายรังสี
ได้แก่
ว่านหางจระเข้
ตัดใบสดๆล้างให้สะอาด ปอกเปลือกออก ล้างเมือกที่อยู่ใต้เปลือกออกให้หมด นําวุ้น
มาทาหรือพอกบริเวณที่เป็น
ยาสารละลายพญายอ
สําหรับป้ายปาก
สมุนไพรทีใช้รักษาอาการ
ผื่นคัน ลมพิษ
ได้แก่
หญ้าคา
ใช้ใบต้มหรือแช่นํ้าอาบ
พลู
ใช้ใบสด 1 - 7 ใบโขลกพอแหลก ผสมเหล้าโรงพอควร แช่ไว้สักระยะหนึ่ง แล้วนํามาทาบริเวณที่เป็น
ยาเจลพลู
ทาบาง ๆ บริเวณที่มีอาการคันวันละ 2 - 3 ครั้ง
ยาคาลาไมน์พญายอ
เขย่าขวดก่อนใช้ยา ทาบาง ๆ บริเวณที่มีอาการ วันละ 3 -5 ครั้
สมุนไพรทีใช้รักษาอาการผิวหนังพุพอง
นํ้าเหลืองเสีย
ได้แก่
เหงือกปลาหมอ
ใช้ทั้งต้นและใบสดหรือแห้งประมาณ 3 – 4 กํามือ ล้างให้สะอาด นํามาสับ ต้มนํ้าอาบหรือชะล้างแผล
ขมิ้นชัน
ใช้เหง้าสดหั่นเป็นแว่น บดให้ละเอียด ใช้ส่วนที่เป็นนํ้าทาบริเวณที่เป็น
สมุนไพรทีใช้แก้พิษแมลง สัตว์ กัดต่อย
ได้แก่
ตำลึง
ใช้ใบสด 2 -10 ใบ ตําให้แหลก นํามาทาหรือพอก
ผักบุ้งทะเล
นําใบและเถาผักบุ้งทะเล 1 กํามือ ล้างให้สะอาด ตําให้ละเอียด คั้นเอานํ้าทาบริเวณที่อักเสบบวมแดง รวมทั้งการอักเสบ จากพิษของแมงกะพรุน
ขมิ้นชัน
ล้างนํ้าให้สะอาด แล้วตําจนละเอียด คั้นเอาแต่นํ้ามาทาบริเวณที่เป็น
พญายอ
ใบเพสลาด 2 - 10 ใบ ตําให้แหลก นํามาทา
ยาหม่องพญายอ
ยาทิงเจอร์พลู
ทาบริเวณที่มีอาการ วันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น
สมุนไพรทีใช้รักษากลาก เกลือน
ได้แก่
ขมิ้นชัน
ใช้ผงขมิ้นผสมกับนํ้า คนให้เข้ากันดีแล้วใช้ทาบริเวณที่เป็น
กระเทียม
ฝานกลีบกระเทียมแล้วนํามาถูบ่อย ๆ บริเวณที่มีรอยโรคเกลื้อน
ข่า
ใช้เหง้าสดฝนกับเหล้าโรงหรือนํ้าส้มสายชู ทาบริเวณที่มีรอยโรคเกลื้อน
ชุมเห็ดเทศ
ใช้ใบสดนํามาตําให้ละเอียดหรือขยี้ใช้ทาถูบริเวณที่เป็นนานๆและบ่อย ๆ
ยาทิงเจอร์ทองพันชั่ง
ทาบริเวณที่มีอาการวันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น จนกว่าจะหาย
สมุนไพรทีใช้รักษาเริม งูสวัด
ได้แก่
ตําลึง
ใช้ใบสดประมาณ 2 กํามือ ตําให้ละเอียด เติมดินสอพอง 1 ใน 4 ส่วน นํามาทา
พญายอ
ใช้ใบสดประมาณ 1 กํามือ ตําผสมเหล้าทาบ่อย ๆ
ยาครีมพญายอ
ทาบาง ๆ บริเวณที่เป็น วันละ 5 ครั้ง
ยาทิงเจอร์พญายอ
ทาบาง ๆ บริเวณที่เป็น ทุก 2 -4 ชั่วโมง
สมุนไพรที่ใช้เป็น ยาระบาย
ได้แก่
ดีเกลือฝรั่ง
ข้อห้ามใช้
หญิงตั้งครรภ์และเด็ก
ภาวะทางเดินอาหารอุดตัน
ยาธรณีสันฑะฆาต
ข้อห้ามใช้
หญิงตั้งครรภ์ คนมีไข้และเด็ก
ยาชุมเห็ดเทศ
ข้อห้ามใช้
ผู้ป่วยที่มีภาวะทางเดินอาหารอุดตัน
แทน Bisacodyl
ยามะขามแขก
ข้อห้ามใช้
ผู้ป่วยที่มีภาวะทางเดินอาหารอุดตัน
สมุนไพรที่ใช้เป็น ยาแก้ท้องเสีย
ได้แก่
ยาธาตฺบรรจบ
ข้อห้ามใช้
หญิงตั้งครรภ์และผู้มีไข้
ยาเหลืองปิดสมุทร
ใช้ไม่เกิน 1 วัน
ยาผงกล้วย
ไม่ควรใช้ในคนที่ท้องผูก
ยาฟ้าทะลายโจร
ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
สมุนไพรที่ใช้เป็น ยาขับพยาธิ
ได้แก่
ฟักทอง
มะหาด
มะขาม
เล็บมือนาง
สะแก
มะเกลือ
รักษาพยาธิปากขอ พยาธิไส้เดือน พยาธิแส้ม้า
อันตรกิริยาของยาสมุนไพร
คือ
ปฏิกิริยาทางเภสัชวิทยาระหว่างกันของสารทั้งสองชนิด
แบ่งเป็น
ด้านพลศาสตร์
คือ
ปฏิกิริยาที่มีผลเปลี่ยนแปลงฤทธิ์ของยาทั้งทางด้านชีวเคมีและสรีรวิทยา แต่ไม่มีผลต่อระดับความ
เข้มข้นของยาในร่างกาย
แบ่งเป็น
การออกฤทธิ์ต้านกัน
การออกฤทธิ์เสริมกัน
ด้านเภสัชจลศาสตร์
คือ
ปฏิกิริยาที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับยาในร่างกายไปจากปกติ ทั้งในเลือด เนื้อเยื่อ หรือ
ตำแหน่งที่ยาออกฤทธิ์
แบ่งเป็น
การดูดซึมยา สมุนไพรอาจส่งผลต่อปัจจัยต่าง ๆ ที่รบกวนได้
เช่น
เพิ่มการดูดซึม
ส่งผลให้ระดับยาในเลือด
เพิ่มสูงขึ้นและอาจเพิ่มผลข้างเคียงหรือพิษได้
ลดการดูดซึม
ทำให้ระดับยาลดลงหรือออกฤทธิ์ช้าลง ส่งผลต่อประสิทธิผลในการรักษาได้
เกิดสารประกอบที่ซับซ้อน
เพิ่มการเคลื่อนที่ผ่านทางเดินอาหาร
เปลี่ยนแปลงระดับ pH
การกระจายยา
เช่น
การจับตัวของยา
การกระจายตัวยาจากเลือดผ่านเนื้อเยื่อ
การเปลี่ยนแปลงยา
คือ
กระบวนการทางชีวเคมีของร่างกายในการเปลี่ยนแปลงโมเลกุลของยา โดยอาศัยเอนไซม์ในการเปลี่ยนแปลงยา
การขับยาออกจากร่างกาย
คือ
กระบวนการกำจัดยาออกจากร่างกายผ่านช่องทางต่าง ๆ
เวชสำอาง
คือ
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประเภทหนึ่ง ที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับเครื่องสำอาง
ได้แก่
Anti-acne
ได้แก่
ชาเขียว
ไพล
สารสกัดเปลือกมังคุด
ว่านหางจระเข้
Anti aging
ได้แก่
ครีมขมิ้น
รอยย่นบริเวณหางตา ลดลงภายใน 5 สัปดาห์
สารสกัดจากรำข้าว
ผลแตงกวา
บัวบก
เจล
ช่วยให้ผิวยืดหหยุ่นและกระชับ
ลิปติก
ลดรอยย่นบริเวณริมฝีปาก
ผลมะขามป้อม
ว่านหางจระเข้
Antipollution
ได้แก่
มะหาด
hair cosmetic
สมุนไพรทำให้ผมงอก
อัญชัน
มะกรูด
ว่านมหาเมฆ
สมุนไพรแก้ผมเป็นรังแค
ทองพันชั่ง
Nutricosmetic
ได้แก่
ถั่วเหลือง
ยับยั้งเอนไซม์ทำลายผนังเซลล์
ผักหรือผลไม้สีแดง เหลือง
ผักสีเขียว
มีLutein
ถั่วเมล็ดและกรดไขมัน
การใช้กัญชาทางการแพทย์
คือ
พืชที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท
เภสัชพฤกษศาสตร์ของกัญชา
ในวงศ์ Cannabidaceae
ได้แก่
Cannabis sativa
Cannabis indica
Cannabis rudealis
ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ได้ประโยชน์
ได้แก่
ภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด
โรคลมชักที่รักษายาก และโรคลมชักที่ดื้อต่อยารักษา
ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
ภาวะปวดประสาท
ภาวะเบื่ออาหารในผู้ป่วย AIDS ที่มีน้ำหนักตัวน้อย
การเพิ่มคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลแบบประคับประคอง
สมุนไพรที่ใช้แต่งสี
ได้แก่
สีเขียว
ใบเตยหอม
การเตรียม
หั่นขวางใบให้เป็นฝอย โขลกพอแหลก เติมน้ำเล็กน้อยแล้วคั้นกรองด้วยผ้าขาวบาง
สีแดง
กระเจี๊ยบแดง
ใช้ส่วนกลีบเลี้ยงที่หุ้มฝัก
แกะฝักทิ้ง แล้วต้มให้เดือด
ฝาง
ให้สีชมพูอ่อน
ใช้ส่วนที่เป็นแก่น ต้มกับน้ำ
ข้าวแดง : ให้สีแดงคล้ำ
ถั่วแดง : ให้สีแดงคล้ำ
หัวบีทรูท :ให้สีแดงทับทิม
ครั่ง : ให้สีแดงทับทิม
สีน้ำตาล
โกโก้
สีเหลือง
ดอกกรรณิกา : ให้สีเหลืองทอง
ขมิ้น : ให้สีเหลือง
ดอกคำฝอย : ให้สีเหลืองส้ม
คำแสด : ให้สีเหลืองอมน้ำตาล
ลูกตาล
ฟักทอง
มันเทศ
พุด
หญ้าฝรั่น หรือ แซฟฟรอน
สีส้ม
ส้มเขียวหวาน ให้สีเหลืองส้ม
แครอท ให้สีส้ม
สีม่วง
ข้าวเหนียวดำ
ผักปลัง
ดอกอัญชันให้สีน้ำเงิน หรือสีม่วงถ้าเติมน้ำมะนาว
สีดำ
กาบมะพร้าว
ถั่วดำ
สมุนไพรไล่แมลงและสัตว์รังควาน
ได้แก่
สมุนไพรไล่ยุง
กะเพรา
ขมิ้น
มะกรูด
ไพรีทรัม
สมุนไพรไล่มอด
กะเพรา
กระวาน
กานพลู
พริกไทยดำ
พริกแห้ง
ใบมะกรูดสด
สมุนไพรไล่มด
ได้แก่
หน่อไม้ดอง
พริกป่น
ขมิ้น
พริกสดและผิวมะกรูด
สมุนไพรไล่ปลวก
ได้แก่
ข่า ตะไคร้ กระเทียม
ใบขี้เหล็ก
น้ำส้มสายชู
เกลือ
สมุนไพรไล่แมงมุม
ได้แก่
ส้ม
เปปเปอร์มินต์
เกลือ
เกาลัด
สมุนไพรไล่แมลงสาบ
ได้แก่
ใบกระวานแห้ง
กานพลู
พริกไทย
สมุนไพรไล่แมลงวัน
ได้แก่
เปลือกส้ม
น้ำส้มสายชู
กระเทียม
ผักกลิ่นฉุน
ตะไคร้หอม
สมุนไพรไล่แมลงหวี่
ได้แก่
กาบมะพร้าว กับ เครือกระทกรก
ใบหางนกยูง
ดอกดาวเรือง
ตะไคร้
สมุนไพรไล่ต๊ักแตน
ได้แก่
น้อยหน่า
สะเดา
เลี่ยน
สมุนไพรไล่เพลี้ยแป้ง
ได้แก่
น ้ายาล้างจาน
พริกสด
สมุนไพรไล่เพลี้ยอ่อน
ได้แก่
หางไหลแดง
ยาสูบ
สะเดา
สาบเสือ
สมุนไพรฆ่าเหา
ได้แก่
ยูคาลิปตัส
หนอนตายหยาก
น้อยหน่า
ผักเสี้ยน
สมุนไพรไล่เห็บ หมัด
ได้แก่
มะคำดีควาย
มะขาม
น้อยหน่า
สะเดา
ไพล
เมล็ดมันแกว
สมุนไพรไล่หนู
ได้แก่
มะกรูด
ใบพลู ข่า กระเทียม
น้ำมันสะระแหน่
น้ำมันระกา น้ำมันสะระแหน่
ยี่โถ
สมุนไพรไล่จิ้งจก
ใบสาบเสือ ใบน้อยหน่า
น้ำส้มควันไม้
พืชที่มีพิษ
แบ่งเป็น
พืชที่มีผลต่อระบบทางเดินอาหาร
แบ่งเป็น
กลุ่มที่มีผลระคายเคืองต่อเยื่อบุปากและลำคอ
การรักษา
ล้างปาก รับประทานยาลดกรดครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ ทุก ๆ 2 ชั่วโมง
ตัวอย่าง
เผือก Colocasia spp.
สาวน้อยประแป้ง
กลุ่มที่มีผลระคายเคืองต่อเยื่อบุผนังกระเพาะอาหาร
ตัวอย่าง
พืชในสกุลพลับพลึง
การรักษา
ไม่ควรกระตุ้นผู้ป่วยให้อาเจียน ควรจะล้างท้อง และใช้ถ่าน ในการดูดพิษแอลคาลอยด์
กลุ่มที่มีผลระคายเคืองต่อเยื่อบุลำไส้
ตัวอย่าง
มะเนียงน้ำ เทียนหยด มันแกว หางไหลแดง ก้ามปูมะคำดีควาย
การรักษา
ให้รับประทานยาเคลือบกระเพาะอาหาร หรือดื่มนม
หรือกินไข่ขาว แล้วนำส่ง
โรงพยาบาล
กลุ่มที่มีผลทำให้กระเพาะและลำไส้อักเสบอย่างช้าๆ
แบ่งเป็น
กลุ่มที่มีสารเลคติน
การรักษา
ทำให้คนไข้อาเจียน และรับประทานยาเคลือบกระเพาะอาหาร หรือดื่มนม หรือกินไข่ขาว
แล้วรีบส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดเพื่อล้างท้อง
ตัวอย่าง
เมล็ดของ มะกล่ำตาหนู ละหุ่ง สบู่ดำ
กลุ่มที่มีสารสเตียรอยด์แอคคาลอยด์
ตัวอย่าง
โทงเทง และมะแว้งนก
กลุ่มที่มีสารออกซาเลท
ตัวอย่าง
ใบและก้านใบโกฐน้ำเต้า ใบผักกาดส้ม ผลเถาคันแดง
กลุ่มที่มีสารโคลชิซีน
ตัวอย่าง
ดองดึงหัวขวาน
การรักษา
ให้ยาเคลือบกระเพาะอาหาร แล้วรีบส่งโรงพยาบาลทันทีเพื่อป้องกันการช็อค
พืชที่มีพิษต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ
แบ่งเป็น
พืชที่มีสารกลุ่มคาร์ดิแอคกลัยโคไซด์
ตัวอย่าง
ยี่โถ รำเพย บานบุรีสีเหลือง ชวนชม
การรักษา
พยายามทำให้อาเจียน หลังจากนั้นให้กินยาเม็ดถ่านเพื่อดูดซับพิษ แล้วส่งโรงพยาบาลในทันท
พืชที่มีสารไซยาโนจินิคกลัยโคไซด์
ตัวอย่าง
มันสำปะหลัง
ถ้าผ่านกระบวนการใช้ความร้อนก็จะรับประทานได้
พืชที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง
การรักษา
ดื่มไข่ขาวเพื่อทำให้อาเจียน หรือกินยาเม็ดถ่านเพื่อดูดซับพิษ แล้วส่งโรงพยาบาลในทันที
แบ่งเป็น
กล่มุที่มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง
ตัวอย่าง
พบได้ในพืชวงศ์ Solanaceae
กล่มุที่มีฤทธิ์ทำให้ชัก
ตัวอย่าง
ผลเลี่ยน เมล็ดแสลงใจ หัวกลอย
กลุ่มที่มีฤทธิ์ทำให้ประสาทหลอน
ตัวอย่าง
กัญชา จันทน์เทศ ลำโพง กลอย
พืชที่ระคายเคืองต่อผิวหนัง
แบ่งเป็น
พืชที่มีหนามหรือขน และมีสารพิษ
ตัวอย่าง
หมามุ่ย กะลังตังช้าง ตำแยตัวเมีย ตำแยช้าง
การรักษา
กำจัดขนพิษออกไป โดยใช้เทียนไขลนไฟให้อ่อนตัว คลึงบริเวณที่ถูกขนพิษ แล้วทาด้วยยาคาลาไมน์ หรือครีมสเตียรอยด์
พืชที่มียาง
ยางขาว
ตัวอย่าง
สลัดได ส้มเช้า โป้ยเซียนและพญาไร้ใบ
การรักษา
ล้างหรือเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ แล้วทาด้วยคาลาไมด์ และรับประทานยาแก้แพ้
ยางใส
ตัวอย่าง
สบู่ดำ สบู่แดง ฝิ่นต้น
การรักษา
ล้างด้วยน้้ำและสบู่
พืชที่มีเอนไซม์
ได้แก่
bromelain ที่พบในสับปะรด
พืชที่มี calcium oxalates
ตัวอย่าง
กระดาด บุก บอนสี
พืชที่มีผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ
ได้แก่
ลูกเนียง
ปัสสาวะยาก แสบขัด
การรักษา
ให้ดื่มน้ำมาก ๆ แล้วส่งโรงพยาบาลหากมีอาการรุนเเรง
นางสาวศุภิสรา หงษ์ทอง เลขที่ 84 ปี2 รุ่น37