Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 6 ภาษาต่างประเทศกับ การพัฒนาวิชาชีพครู, การบริหารจัดการด้วยระบบคุณ…
บทที่ 6
ภาษาต่างประเทศกับ
การพัฒนาวิชาชีพครู
ความสำคัญของภาษาต่างประเทศกับการพัฒนาวิชาชีพครู
ทักษะภาษาอังกฤษ : ความจำเป็นพื้นฐานในวิชาชีพครู
ครูกับการพัฒนาตนเองด้านภาษาอังกฤษ ทั้งด้านการฟัง พูด อ่าน และเขียน
ในระดับที่สามารถสื่อสารและสอนผู้เรียน
นำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้
ซึ่งไม่เพียงแต่กลุ่มครูที่สอนภาษาอังกฤษเท่านั้น
แนวทางการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของครู
หมั่นเข้าหาแหล่งข้อมูลทางวิชาการที่เป็นภาษาอังกฤษ
สอดแทรกสอนภาษาอังกฤษในวิชาที่รับผิดชอบ ครูควรนำเอาภาษาอังกฤษไปบูรณาการกับงานสอน
ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน เพื่อสร้างความมั่นใจ ความกล้าและความคุ้นเคยในการใช้
จัดตารางและมีวินัยฝึกฝนต่อเนื่อง
สร้างแรงจูงใจพัฒนาภาษาอังกฤษให้ตนเอง
รวมตัวพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ
การพัฒนาวิชาชีพครูสู่สมรรถนะมาตรฐานสากล
กรอบสมรรถนะวิชาชีพครูในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
วิจัยพบว่าสมรรถนะหลัก (Competency) ของครูในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วย 11 ด้าน และภาระงาน / ความสามารถเฉพาะ ดังนี้
การเตรียมแผนการสอนที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของโรงเรียน
การสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้
การพัฒนาและการใช้ทรัพยากรสำหรับการเรียนการสอน
การพัฒนาทักษะการจัดลำดับความคิดในระดับสูง
การอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้
การส่งเสริมค่านิยมด้านศีลธรรมและจริยธรรม
ส่งเสริมการพัฒนาชีวิต และทักษะวิชาชีพแก่ผู้เรียน
การวัดและประเมินพฤติกรรมของผู้เรียน
การพัฒนาด้านวิชาชีพ
การสร้างเครือข่ายกับผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้ปกครองนักเรียน
การจัดสวัสดิการและภารกิจแก่นักเรียน
ได้ประกาศกรอบสมรรถนะวิชาชีพครูในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการประชุม World Teachers’ Day Forum 2018
2561 โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ เพื่อให้ผู้เรียน มีความสุข (Joyful Learner)
รู้และเข้าใจในสิ่งที่สอน (Know and understand what I teach)
ช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้ (Help my students learn)
ให้ชุมชนมีส่วนร่วม (Engage the community)
เป็นครูที่ดีขึ้นในทุกวัน (Become a better teacher everyday)
สมรรถนะครูไทยที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กำหนดไว้ จำนวน 5 สมรรถนะหลัก และสมรรถนะประจำสายงาน จำนวน 6 สมรรถนะ ได้แก่
สมรรถนะหลัก (Core Competency) ประกอบด้วย 5 สมรรถนะ
การพัฒนาตนเอง
การทำงานเป็นทีม
การบริการที่ดี
จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพครู
การมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงาน
สมรรถนะประจำสายงาน (Functional Competency) ประกอบด้วย 6 สมรรถนะ
การพัฒนาผู้เรียน
การบริหารจัดการชั้นเรียน
การบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้
การวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียน
ภาวะผู้นำครู
การสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือกับชุมชนเพื่อการจัดการเรียนรู้
สมรรถนะของครูผู้สอนในศตวรรษที่ 21 ที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด
สมรรถนะหลัก (Core Competency) 5 ประการ ได้แก่
การพัฒนาตนเอง
การทำงานเป็นทีม
การบริการที่ดี
จริยธรรมและจรรยาบรรณครู
การมุ่งผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงาน
2.สมรรถนะตามสายปฏิบัติงาน (Functional Competency) 6 ประการ ได้แก่
การบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้
การพัฒนาผู้เรียน
การบริหารจัดการชั้นเรียน
การวิเคราะห์ สังเคราะห์และวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียน
การสร้างความสัมพันธ์ และความร่วมมือกับชุมชน
ภาวะผู้นำ
C-Teacher
Connectivity : ผู้สอนต้องสามารถจัดกิจกรรมให้เชื่อมโยงระหว่างผู้เรียนด้วยกัน
Communication : ผู้สอนมีทักษะการสื่อสาร ทั้งการบรรยาย การยกตัวอย่าง การเลือกใช้สื่อ การนำเสนอสื่อ รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้
Constructionist : ผู้สอนต้องเข้าใจแนวคิดที่ว่า ผู้เรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ขึ้นได้เองจากการเชื่อมโยงความรู้เดิมที่มีอยู่เข้ากับความรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ได้รับ
Creativity : ผู้สอนในศตวรรษที่ 21 จำเป็นต้องสร้างสรรค์กิจกรรรมการเรียนการสอนที่หลากหลาย
Computer (ICT) Integration : ผู้สอนต้องมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการจัดการเรียนการสอน
Caring : ผู้สอนต้องมีมุทิตาจิตต่อผู้เรียน
Content : ผู้สอนต้องมีความรู้และทักษะในเรื่องที่สอนเป็นอย่างดี
การจัดโรงเรียนมาตรฐานสากล แนวทางการพัฒนาหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล (World- Class Standard School) และการจัดการเรียนการสอนเทียบเคียงมาตรฐานสากล (World – Class Standard)
ได้ผลักดันให้มีการปรับเปลี่ยนหลักสูตรและกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดการศึกษาไทยให้พร้อมสำหรับการแข่งขันในเวทีโลกในยุคศตวรรษที่ 21 สรุปได้ดังนี้
1) โรงเรียนต้องเป็นหน่วยบริการทางการศึกษาในมิติที่กว้างขึ้น
2) หลักสูตรการเรียนการสอนต้องมีความเป็นสากลมากขึ้น
3) ต้องมีการพัฒนาทักษะการคิดมากขึ้น
4) ต้องมีการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมมากขึ้น
5) การสอนภาษาต่างประเทศต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ลักษณะของโรงเรียนมาตรฐานสากล
โรงเรียนมาตรฐานสากล หมายถึง โรงเรียนที่มีการพัฒนาหลักสูตรการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และการบริหารจัดการด้วยระบบคุณภาพที่มุ่งเน้นการพัฒนาผู้เรียนให้มีศักยภาพเป็นพลโลก มีทักษะ ความรู้ความสามารถ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับเดียวกับมาตรฐานสากลหรือมาตรฐานของประเทศชั้นนำที่มีคุณภาพการศึกษาสูง
การดำเนินงานของโรงเรียนมาตรฐานสากล จะต้องมีจุดมุ่งหมายและทิศทางที่ชัดเจน ดังนี้
เพื่อยกระดับการจัดการเรียนการสอนให้เทียบเคียงมาตรฐานสากลหรือมาตรฐานของประเทศชั้นนำที่มีคุณภาพการศึกษาสูง
เพื่อยกระดับการบริหารจัดการของโรงเรียนให้มีการบริหารด้วยระบบคุณภาพตามเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award : TQA)
เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีศักยภาพเป็นพลโลก โดยเน้นความเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์และร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก
ความสำเร็จของการดำเนินงานโรงเรียนมาตรฐานสากล
เป้าหมายความสำเร็จในการดำเนินงานด้านผู้เรียนเป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จในการดำเนินงานด้านผู้เรียนของโรงเรียนมาตรฐานสากล มี 5 เป้าหมาย แต่ละเป้าหมายจะมีตัวชี้วัดความสำเร็จที่แตกต่างกันไป ในแต่ละปีการศึกษาโรงเรียนหรือผู้ดำเนินการอาจพิจารณาปรับ ลด เพิ่ม ตัวชี้วัดให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพการณ์ต่าง ๆ ของปีนั้น ๆ
โรงเรียนมาตรฐานสากล (World-Class Standard School)
คือ โรงเรียนที่เกิดขึ้นจากนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
หากผู้เรียนได้ผ่านเข้าสู่ระบบของโรงเรียนมาตรฐานสากลทั้ง 2 ประการแล้ว ผลที่ได้คือ ผู้เรียนจะมีศักยภาพเป็นพลโลก (World Citizen) ที่อยู่ภายใต้บริบท ยอดเยี่ยมวิชาการ สื่อสารอย่างน้อย 2 ภาษา ล้ำหน้าทางความคิดผลิตงานอย่างสร้างสรรค์
การบริหารจัดการด้วยระบบคุณภาพเป็น 3 ระดับ คือ
ระดับที่ 1 การบริหารจัดการระบบคุณภาพ ระดับโรงเรียน (School Quality Award : SCQA)
ระดับที่ 2 การบริหารจัดการระบบคุณภาพระดับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
(Office of the Basic Education Commission Quality Award : OBECQA)
ระดับที่ 3 การบริหารจัดการระบบคุณภาพ ระดับชาติ (Thailand Quality Award : TQA)