Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพครู - Coggle Diagram
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพครู
พรบ.สภาครูและ บุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546
เกิดจากจากพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 จากมาตรา 53
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2546 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่12 มิถุนายน 2546
ผู้รับสนองพระบรมราช โองการ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี)
มีทั้งหมด 4 หมวด 1 บท เฉพาะกาล จานวน 90 มาตรา
คานิยาม
วิชาชีพ
วิชาชีพทางการศึกษาที่ทาหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริม
การเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่าง ๆ รวมทั้งการรับผิดชอบการบริหารสถานศึกษา
ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ซึ่ง
ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้ประกอบวิชาชีพ
ทางการศึกษา
ครู
ผู้บริหารการศึกษา
ผู้บริหารสถานศึกษา
บุคลากรทางการศึกษาอื่น
หน่วยงานการศึกษา
สถานศึกษาหรือหน่วยงานอื่นที่มีหน้าที่กากับดูแล สนับสนุน ส่งเสริมให้บริการ
เกี่ยวกับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานและอุดมศึกษาต่ากว่าปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน
สถานศึกษา
สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โรงเรียน วิทยาลัย สถาบัน มหาวิทยาลัย หน่วยงาน การศึกษาหรือหน่วยงานอื่นของรัฐหรือของเอกชนที่มีอานาจหน้าที่ หรือมีวัตถุประสงค์ในการ จัดการศึกษา
ใบอนุญาต
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพซึ่งออกให้ผู้ปฏิบัติงานในตาแหน่งครู ผู้บริหาร
สถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามพระราชบัญญัตินี้
หมวด 1
สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
บททั่วไป
สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา เรียกว่า คุรุสภา
วัตถุประสงค์ของคุรุสภา (มาตรา 8 )
(1) กาหนดมาตรฐานวิชาชีพ ออกและเพิกถอนใบอนุญาต กากับดูแลการปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณ ของวิชาชีพ รวมทั้งการพัฒนาวิชาชีพ
(2) กาหนดนโยบายและแผนพัฒนาวิชาชีพ
(3) ประสานส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยเกี่ยวกับ
การประกอบวิชาชีพ
อานาจหน้าที่ของคุรุสภา (มาตรา9)
1) กาหนดมาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
2) ควบคุมความประพฤติของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
3) ออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอประกอบวิชาชีพ
4) พักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
5) สนับสนุนและพัฒนาวิชาชีพ
6) ยกย่อง และผดุงเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
7) รับรองปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรของสถาบันต่าง ๆ ตามมาตรฐานวิชาชีพ
8) รับรองความรู้ประสบการณ์ ในการประกอบวิชาชีพ
9) ส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพ
10) เป็นตัวแทนผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาของประเทศไทย
11) ออกข้อบังคับคุรุสภา
12) ให้คาปรึกษาหรือเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบายการพัฒนาวิชาชีพ
13) ให้คาแนะนาหรือเสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพ หรือ การออก
กฎกระทรวงระเบียบ
14) กาหนดให้มีคณะกรรมการเพื่อกระทาการใด ๆ อันอยู่ในอานาจหน้าที่ของคุรุสภา
15) ดาเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของคุรุสภา
รายได้ของคุรุสภา (มาตรา9)
1) ค่าธรรมเนียมตามพระราชบัญญัตินี้
2) เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน
3) ผลประโยชน์จากการจัดการทรัพย์สินและการดาเนินกิจการของคุรุสภา
4) เงินและทรัพย์สินซึ่งมีผู้อุทิศให้แก่คุรุสภา
(5) ดอกผลของเงินและทรัพย์สินตามข้อ (1) ถึง (4) รายได้ของคุรุสภา ไม่เป็นรายได้ที่ต้อง
นาส่งกระทรวงการคลัง รวมทั้งไม่อยู่ในข่ายการบังคับตามกฎหมายภาษีอากร
อัตราค่าธรรมเนียมการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
1) ค่าขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพครู ฉบับละ 500 บาท
2) ค่าขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา ฉบับละ 500 บาท
3) ค่าขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา ฉบับละ 500 บาท
4) ค่าขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบวิชาชีพควบคุมอื่น ฉบับละ 500
บาท
5) ค่าต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ครั้งละ 200 บาท
6) ค่าหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ฉบับละ 300 บาท
7) ค่าหนังสืออนุมัติ หรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ ความชานาญในการประกอบวิชาชีพทางการ
ศึกษา ฉบับละ 400 บาท
8) ค่าใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 200 บาท
สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา มีฐานะเป็น นิติบุคคล ในกากับของ
กระทรวงศึกษาธิการ
คณะกรรมการคุรุสภา
1.ประธานกรรมการซึ่งแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มี ความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูงด้าน การศึกษา มนุษย์ศาสตร์ สังคมศาสตร์ หรือกฎหมาย
2.กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จานวน 7 คน แต่งตั้งจากผู้เชี่ยวชาญ 7 สาขาและต้อง เคยเป็นครู ผู้บริหารสถานศึกษาหรือ ผู้บริหารการศึกษา อย่างน้อย 3 คน
3.กรรมการจากผู้ประกอบวิชาชีพ ทางการศึกษาจานวน 19 คน
4.กรรมการคุรุสภามีวาระการดารงตาแหน่ง 4 ปีและไม่เกิน 2 วาระติดต่อกันและพ้น จากตาแหน่งในกรณีตาย ลาออก รัฐมนตรี ให้ออกเพราะบกพร่องหรือขาคุณสมบัติ
คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
ประธานกรรมการ ซึ่งรัฐมนตรี แต่งตั้งจากจากกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิในกรรมการคุรุสภา
กรรมการโดยตาแหน่ง 3 คน คือ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐาน เลขาธิการคณะกรรมการ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้าน การศึกษา การบริหารและกฎหมาย
กรรมการจากคณาจารย์ใน คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์หรือ การศึกษา
กรรมการจากผู้ประกอบ วิชาชีพทางการศึกษา ประสบการณ์ไม่น้อยกว่า 10 ปี
การดาเนินงานของคุรุสภา
ให้คณะกรรมการคุรุสภามีการประชุมอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง
ให้มีสานักงานเลขานุการคุรุสภามีหน้าที่ (1) รับผิดชอบเกี่ยวกับการดาเนินงานของ คุรุสภา (2) ประสานและดาเนินการเกี่ยวกับกิจการ อื่นที่คุรุสภามอบหมาย (3) จัดทารายงานประจาปีเกี่ยวกับการ ดาเนินงานเสนอต่อคุรุสภา
ให้สานักงานเลขาธิการคุรุสภามีเลขาธิการ คุรุสภาคนหนึ่งบริหารกิจการของสานักงาน เลขาธิการคุรุสภา และคณะกรรมการคุรุสภา เป็นผู้มีอานาจสรรหา แต่งตั้ง และถอดถอน เลขาธิการคุรุสภา
การประกอบวิชาชีพควบคุม
ผู้ที่ไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
วิทยากรพิเศษ (เข้ามาให้ความรู้เป็น ครั้งคราว)
ผู้ที่ไม่ได้ประกอบวิชาชีพหลัก ทางด้านการเรียนการสอน แต่ บางครั้งต้องทาหน้าที่การสอนด้วย
นักเรียน นักศึกษา ผู้รับการฝึกอบรม หรือผู้ฝึกปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา
ผู้ที่จัดการศึกษาตามอัธยาศัย
ผู้ที่ทาหน้าที่สอนในศูนย์การเรียนตาม กฏหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
คณาจารย์/ผู้บริหาร ใน ระดับอุดมศึกษาของรัฐและเอกชน
ผู้บริหารการศึกษาระดับเหนือเขตพื้นที่การศึกษา
อื่นๆ ได้แก่ พระภิกษุ/ผู้สอนศาสนา/ผู้สอนตาม โครงการ ฯลฯ
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพควบคุม
คุณสมบัติ
1) มีอายุไม่ต่ากว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
2) มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือ
เทียบเท่า หรือมีคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง
3) ผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา ตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาเป็น เวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปีและผ่านเกณฑ์การ ประเมินปฏิบัติการสอนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการคุรุสภา กาหนด
ลักษณะต้องห้าม
1) เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือ
บกพร่องในศีลธรรมอันดี
2) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้
ความสามารถ
3) เคยต้องโทษจาคุกในคดีที่คุรุสภาเห็นว่า อาจนามาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่ง วิชาชีพ
ผู้ที่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
1.ครูต้องมีใบอนุญาตประกอบ
วิชาชีพครู
2.ผู้บริหารสถานศึกษา ต้องมีใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพครู และใบอนุญาตประกอบ วิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา
3.ผู้บริหารการศึกษา ต้องมีใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพครู และใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา
4.บุคลากรทางการศึกษาอื่น ต้องมี ประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู และ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพควบคุมอื่นตามที่ กาหนดในกฎกระทรวง
การกาหนดอายุและการต่ออายุใบอนุญาต
ผู้ประสงค์ขอต่ออายุใบอนุญาต
ยื่นคาขอต่อเลขาธิการคุรุสภา ก่อนวันที่ใบอนุญาตหมดอายุ ไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อย แปดสิบวัน
ใบอนุญาตสิ้นสุดลงในกรณี
หมดอายุ
ถูกสั่งเพิกถอน
ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต
สมาชิกคุรุสภา
สมาชิกของคุรุสภา
สมาชิกสามัญ
สมาชิกกิตติมศักดิ์
หมวด 2 คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและ สวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
บททั่วไป
ส่งเสริมสวัสดิการ สวัสดิภาพ สิทธิ ประโยชน์เกื้อกูลอื่นของ ผู้ประกอบ วิชาชีพทางการศึกษา
2.ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของ
ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษา ของกระทรวงในเรื่องสื่อการเรียนการสอน และเรื่องอื่นที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษา
ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ การพัฒนา การดาเนินงานด้านสวัสดิการ สวัสดิ ภาพ และผดุงเกียรติของผู้ประกอบวิชาชีพ ทางการศึกษา
สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและ
สวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)
1) ดาเนินงานด้านสวัสดิการ สวัสดิภาพ สิทธิประโยชน์เกื้อกูลอื่นของผู้ประกอบ วิชาชีพทางการศึกษา
2) ผดุงเกียรติของผู้ประกอบวิชาชีพ
ทางการศึกษา
3) ส่งเสริมให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการ
ศึกษาได้รับสวัสดิการต่างๆ
4) ให้คาแนะนาในเรื่องการส่งเสริม สวัสดิการ สิทธิประโยชน์และความมั่นคง ของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาแก่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
5) ดาเนินงานและบริหารจัดการองค์การ
จัดหาผลประโยชน์ของสานักงานฯ
6) ออกข้อบังคับและหลักเกณฑ์ในการ
ดาเนินกิจการ
7) แต่งตั้งคณะกรรมการ หรือ คณะอนุกรรมการ หรือมอบหมายให้ กรรมการส่งเสริมสวัสดิการฯเพื่อกระทา การใด ๆ แทน
8) สรรหาและแต่งตั้งเลขาธิการ คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและ สวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
9) ดาเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ในการบริหารงาน สกสค.
หมวด 3
การกากับดูแล
รัฐมนตรีมีหน้าที่
กากับดูแลการดาเนินงานและจัดสรรงบประมาณของรัฐอุดหนุน
สั่งเป็นหนังสือให้กรรมการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกิจการ
สั่งเป็นหนังสือให้ระงับหรือแก้ไขการกระทาใด ๆ ที่ปรากฏว่าขัดต่อวัตถุประสงค์กฎหมาย หรือ
ข้อบังคับ
ให้คุรุสภาเสนอรายงานประจาปีเกี่ยวกับผลการดาเนินงานด้านต่างๆ ต่อ ครม.
ให้สานักงานตรวจเงินแผนดินตรวจสอบด้านการเงินของคุรุสภาทุกปี และรายงานให้รัฐสภาทราบ
หมวด 4
บทกาหนดโทษ
ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 43 จะต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน 1ปี หรือปรับไม่เกิน 20000 บาทหรือทั้งจาทั้งปรับ
ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 46 หรือ 56 ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60000 บาทหรือทั้งจาทั้งปรับ