Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หญิงตั้งครรภ์
G3P1A1 30 wks, Terbutaline 5 mg
in 5% D/W 500 ml
vein…
-
-
-
-
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลข้อที่ 1 เสี่ยงต่อภาวะ preterm labor เนื่องจากถุงน้ำคร่ำรั่ว
ก่อนกำหนดคลอด
ข้อมูลสนับสนุน
objective data :-สตรีตั้งครรภ์ G3PIA1 GA 30 wk มีอาการเจ็บครรภ์และมีน้ำใสๆ
ออกช่องคลอด ก่อนมา รพ 10 ชม.
เป้าหมายการพยาบาล: ไม่มีภาวะน้ำคร่ำรั่ว
เกณฑ์ประเมิน: ยับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก และไม่มีภาวะน้ำคร่ำรั่วกิจกรรม
การพยาบาล:
- แนะนำการพักผ่อน (bed rest) ช่วยเพิ่ม placental blood flow ทำให้น้ำหนัก
ของทารกในครรภ์ เพิ่มขึ้น แต่ไม่ช่วยลดภาวะเจ็บครรค์คลอดก่อนกำหนด
- ดูแลให้ยาป้องกันการหดรัดตัวของมดลูก ดูแลให้ terbutaline 5 mg. in 5%
D/W 500 ml. vein drip 30 cc/hr ตามแผนการรักษา แต่ไม่สามารถให้ยา
ยับยั้งการบีบรัดตัวของมดลูกเกิน 7 วัน เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่ออาการ
ข้างเคียง
- ดูแลให้ Progesterone ช่วยลดการคลอดก่อนกำหนดโดย The American
College of Obstetricians and Gynecologists (ACOG) แนะนำให้ใช้
progesteroneในมารดาที่มีความเสี่ยง สูงต่อการคลอดก่อนกำหนด เช่น เคยมี
ประวัติคลอดก่อนอายุครรภ์ 32 สัปดาห์
- หยุดสูบบุหรี่ จะช่วยลดภาวะเกาะต่ำ รกลอกตัวก่อนกำหนด และภาวะทารก
เจริญเติบโตช้าใน ครรภ์ ซึ่งเป็นสาเหตุของการคลอดก่อนกำหนด
5 . หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติด และแอลกอฮอล์
6.ดูแล ประเมิน รายงายแพทย์หากจำเป็นต้องเย็บผูกปากมดลูกจะลดโอกาส
เสี่ยงต่อการเจ็บครรภ์ คลอดก่อนกำหนดในช่วงอายุครรภ์ 33 สัปดาห์ลง
ประมาณร้อยละ 25
- หลีกเลี่ยงการทำงานหนักมากเกินไป
- แนะนำให้ประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะทุพโภชนาการ
(malnutrition) ซึ่งเป็น สาเหตุของการคลอดก่อนกำหนด แนะนำทานเกลือแร่
วิตามิน ธาตุเหล็ก เช่น ตับ ไข่ ผักใบเขียว เครื่องในสัตว์ หรือสารโปรตีน เช่น ไข่
นม เต้าหู้ เนื้อสัตว์ ซึ่งสามารถป้องกันภาวะคลอดก่อนกำหนด ได้แนะนำให้
มารดาดื่มน้ำมากขึ้น 8-10วันต่อวัน เนื่องจากมีน้ำคร่ำรั่ว
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลข้อที่ 2 เสี่ยงต่อภาวะติดเชื้อในโพรงมดลูก(Chorioamnionitis) เนื่องจากถุงน้ำคร่ำรั่วก่อนกำหนดและพบปากมดลูก
เปิดคลอด
ข้อมูลสนับสนุน
objective data :-สตรีตั้งครรภ์ G3PIA1 GA 30 wk มีอาการเจ็บครรภ์และมีน้ำ
ใสๆ ออกช่องคลอด ก่อนมา รพ 10 ชม. BT 38 PR 100 bpm RR 22 bpm WBC
200-300 cell/ml.
เป้าหมายการพยาบาล: ไม่เกิดภาวะติดเชื้อ
เกณฑ์การประเมิน:
ตามหลัก SIRS Temp >38 or <36 c Heart rate >90/min
Respiratory rate >20/min
PaCO2 <32 mmHg
WBC >1200 cell/mm3 or<4000 cell/mm3
กิจกรรมการพยาบาล
- ดูแลให้ bed rest แนะนำหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุต่างๆ เช่น การเดินทางที่ไม่จำเป็น
หรือการถูก กระทบกระแทกโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง แนะนำหลีกเลี่ยงการทำงาน
หนักเกินไปหรือการเดิน บ่อยๆ
- ประเมิน vital signs q. 4hr. เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณชีพและ
ป้องกันภาวะ แทรกซ้อน และประเมิน FHS ทุก 30 นาที เพื่อเฝ้าระวัง fetal
distress
- แนะนำให้ผู้ป่วยดื่มน้ำ 3,000 ml/day เมื่อไม่มีข้อจำกัด เพื่อเพิ่ม blood
circulation
- แนะนำทำความสะอาดร่างกายลดการติดเชื้อ หมั่นดูแลรักษาฟันไม่ให้ผุ เพราะ
การมีฟันผุ ทำให้เกิดการติดเชื้อที่มีความสัมพันธ์กับการที่ถุงน้ำคร่ำแตกก่อน
กำหนด
- จัดท่าให้นอนราบศีรษะสูง ไม่เคลื่อนไหวหรือเดิน เพื่อป้องกันสายสะดือพลัดต่ำ
กรณีถ้า ทารกยังไม่ครบกำหนดงดการสวนภายในหากจำเป็นควรใช้ sterile
vaginal speculum
- ขณะนอนโรงพยาบาลแนะนำให้มารดาใส่ผ้าอนามัย และเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก
2- 3 ชั่วโมง หรือเมื่อชุ่ม เพื่อลดการติดเชื้อและไม่กลั้นปัสสาวะ รวมถึงแนะนำการ
ทำความสะอาดอวัยวะ สืบพันธุ์ทุกครั้งหลังขับถ่ายหรือเปลี่ยนผ้าอนามัยหลังถ่าย
โดยทำความสะอาดจากข้างหน้าไป ข้างหลังและไม่เช็ดย้อนกลับ
- แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสมครบถ้วน
ในทุกวัน โดยเฉพาะอาหารจำพวกโปรตีน วิตามินซี และธาตุเหล็ก
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลข้อที่ 3 ทารกเสี่ยงต่อภาวะ Respiratory distress syndrome เนื่องจาก การขาดสาร surfactant
ข้อมูลสนับสนุน
objective data :-สตรีตั้งครรภ์ G3PIA1 GA 30 wk มีอาการเจ็บครรภ์และมี
น้ำใสๆ ออกช่องคลอด ก่อนมา รพ 10 ชม
Subjective data :สตรีมีตั้งครรภ์แจ้งพยาบาลว่า มีน้ำใสๆ ไหลออกทางช่อง
คลอดตลอดเวลา
เป้าหมายการพยาบาล: ไม่เกิดภาวะ Respiratory distress syndrome
เกณฑ์การประเมิน: ยับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก และไม่มีภาวะน้ำคร่ำรั่ว กิจกรรมการพยาบาล:
- ดูแลให้ bed rest แนะนำหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุต่างๆ เช่น การเดินทางที่ไม่
จำเป็น หรือการถูก กระทบกระแทกโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง แนะนำหลีก
เลี่ยงการทำงานหนักเกินไปหรือการเดิน บ่อยๆ
- ประเมิน vital signs q. 4hr. เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณชีพ
และป้องกันภาวะ แทรกซ้อน และประเมิน FHS ทุก 30 นาที เพื่อเฝ้าระวัง fetal
distress
- จัดท่าให้นอนราบศีรษะสูง ไม่เคลื่อนไหวหรือเดิน เพื่อป้องกันสายสะดือพลัด
ต่ำ
- ดูแลให้ Dexamethasone 6 mg IM q 12 hr X 4 dose ตามแผนการรักษา
เพื่อกระตุ้น การเจริญของปอดของทารกในครรภ์
.ACOG 2016 แนะนำให้ Single course of corticosteroid ในสตรีตั้งครรภ์ที่
อายุ24-34 สัปดาห์ แต่อาจจะพิจารณาให้สตรีตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุ 23 สัปดาห์ที่
มีความเสี่ยงจะคลอดวัน และแนะนำให้ซ้ำหรือ Single repeat course ในสตรี
ตั้งครรภ์ที่เคย corticosteroid นานอย่างต่อเนื่อง 7 วันและมีความเสี่ยงที่จะ
คลอดก่อนอายุ 34 สัปดาห์ การให้ซ้ำอย่างต่อเนื่อง multiple course
(มากกว่า2ครั้ง)