Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เด็กหญิงอายุ 2 ปี 6 เดือน, ศุภกานต์ สีสันงาม 61108585 Section 1 กลุ่มที่ 2…
เด็กหญิงอายุ 2 ปี 6 เดือน
ถูกผึ้งต่อย (antigen จะเข้าสู่ร่างกาย)
ร่างกายสร้าง antibody (IgE) ที่ mast cell
หลั่ง chemical mediator
(histamine)
จับกับ H2 Receptor ที่ chemoreceptor triggor zone
Vomiting center ที่ medulla
( อาเจียน 2-3 ครั้ง )
ผู้ป่วยมีภาวะ Electrolyte imbalance เนื่องจากอาเจียนและรับประทานอาหารได้น้อย
เป้าหมายทางการพยาบาล
ผู้ป่วยได้ได้รับสารน้ำแบะสารอาหารเพียงพอต่อความร้องการของร่างกาย
เกณฑ์การประเมิน
ไม่มีอาการอาเจียน รับประทานอาหารได้ 3 มื้อต่อวัน
ข้อมูลสนับสนุน
O: น้ำหนัก 12 kg
S: มารดาให้ประวัติว่า 15 นาทีก่อนมา รพ.เด็กอาเจียน 2-3 ครั้ง เป็นน้ำปนเศษอาหาร
กิจกรรมการพยาบาล
2.ดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ 0.9% NSS 150 ml in 20 min then rate 50 ml/hr
ตามแผนการรักษาเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด เพื่อทดแทนสารน้ำในร่างกายที่สูญเสียไป
4.ติดตามการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักของผู้ป่วย โดยการชั่งน้ำหนักทุกวันในเวลาเช้าก่อนรับประทานอาหาร และบันทึกไว้เพื่อติดตามผลการเจริญเติบโต
1.ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะ Electrolyte imbalance เช่น กล้ามเนื้อออ่อนแรง สับสน เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
3.ดูแลให้ได้รับอาหารอ่อนย่อยง่าย อาจจัดเป็นช่วงเวลาให้เด็กได้พักหรือรับประทานครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง ในขณะรับประทานและระวังการสำลัก
จัดอาหารเสริมให้ได้คุณค่าสารอาหารครบ 5 หมู่ ครบ 3 มื้อ พร้อมกับให้ความรู้เกี่ยวกับคุณค่าอาหารครบ 5 หมู่แก่บิดามารดา เพื่อนำไปปฏิบัติต่อที่บ้าน
ระบบผิวหนัง
ผื่นลมพิษ คัน หน้าแดง
มีผื่นขึ้นทั่วร่างกาย เนื่องจากได้รับพิษจากผึ้งต่อย
ข้อมูลสนับสนุน
O : RR 52 bpm
BP 50/30 mmHg
S: มารดาบอกว่าถูกผึ้งต่อยบริเวณใบหน้าและแขน มีรอยแผลบวมแดง มีผื่นทั่วตัว หายใจเหนื่อย มีเสียงหวีดและอาเจียน 2-3 ครั้งเป็นน้ำปนเศษอาหาร
กิจกรรมการพยาบาล
แนะนำให้ผู้ป่วยและญาติทำความสะอาดร่างกาย เพื่อให้ผิวหนังสะอาด เช็ดให้แห้งและใส่เสื้อผ้าที่อ่อนนุ่ม เพื่อลดการระคายเคือง
แนะนำให้ตัดเล็บสั้นๆ เพื่อป้องกันการเกิดแผลจากการเกาบริเวณที่คัน
ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา เพื่อยับยั้งการทำงานของ histamine และลดปฏิกิริยาของภูมิแพ้ และสังเกตอาการข้างเคียงของยา ได้แก่ ง่วงนอน ปากแห้ง คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ
ประเมินลักษณะจำนวนผื่น อาการคัน ถ้าเพิ่มมากขึ้นรายงานให้แพทย์ทราบ เพื่อให้แพทย์ประเมินผลการรักษาและเพื่อติดตามอาการของผู้ป่วยต่อไป
เป้าหมายการพยาบาล
ไม่มีผื่นขึ้น หรือ ลดลง
Bronchospasm
( ฟังได้ Wheezing sound )
Permeability เพิ่มขึ้น
จับกับ H1 Receptor
Peripheral vasodilation
Venous return ลดลง
Preload ลดลง
1 more item...
Hydrostatic > Oncotic
สารน้ำ leak เข้าสู่ช่องว่างระหว่างเซลล์
กระตุ้น mucous gland
หลั่งเมือก
1 more item...
ใบหน้าและแขนขาบวม
Load NSS 150 ml in 20 min then rate 50 ml/hr
ข้องบ่งชี้ : ปรับอัตราความเร็วของการให้สารน้ำตามความดันโลหิตของผู้ป่วย ซึ่ง Systolic BP ในเด็กอายุ 1-10 ปี ควร > 70 mmHg + (2 *อายุ(ปี))
ขนาดที่ใช้ : 10-20 ml/kg IV loading ภายใน 5-10 นาที ( น้ำหนัก 12 Kg > 12
10-12
20= 120-240 ml ภายใน 20 นาทีตามแผนการรักษา
กลุ่มยา Crystalloid
อุดกั้นทางเดินหายใจ
O2 ลดลง
(O2 sat 91% )
มีภาวะพร่องออกซิเจน เนื่องจากทางเดินหายใจตีบตัน
On O2 mask 4 LPM
เกณฑ์การประเมิน
O2 sat > 95%
PR 80-100 bpm
RR 15-30 bpm
ไม่มีเสียง wheezing
เป้าหมายการพยาบาล
ไม่มีภาวะพร่องออกซิเจน
ข้อมูลสนับสนุน
S: มารดาบอกหายใจเหนื่อย มีเสียงหวีด
O: O2 sat 91%
RR 52 bpm
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมิน Vital sign เพื่อประมินอาการเปลี่ยนแปลงการเกิดภาวะพร่องออกซิเจน โดยประเมินระดับความรู้สึกตัว กระสับกระส่าย เหงื่อออก ตัวเย็น ระดับความรู้สึกตัวลดลง
สังเกตอัตราความลึกของการหายใจ สังเกตการขยายของทรวงอกเพื่อช่วยในการวางแผนการรักษา
ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษาและสังเกตอาการข้างเคียงจากการให้ยา
Salbutamol 1.2 + NSS up to 4 ml NB stat then q 4 hr
ข้อบ่งชี้
ขยายหลอดลมการอุดกั้นของทางเดินหายใจ
ขนาดที่ใช้ในเด็ก
Salbutamol Nebule (2.1/2.5ml) 1-2 NB พ่นผ่าย Nebulizer ไม่เกิน 2 NB
กลไกการออกฤทธิ์
จับกับ 2 adrenergic receptor ไปกระตุ้น adenyl cyclase เพิ่มการหลั่ง cyclic AMP ทำให้กล้ามเนื้อเรียบคลายตัวทำให้หลอดลมขยาย
ปากแห้ง คอแห้ง
ใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ
กลุ่ม Beta-2 adrenergic agonist
Chlorpheniramine 3 mg IV q 6 hr
อาการข้างเคียง
ความดันโลหิตต่ำ
มีผื่นแพ้คัน
มึนศรีษะ ง่วงซึม
ขนาดที่ใช้ในเด็ก
0.25/mg/kg/dose สูงสุดไม่เกิร 2.5-5 mg ทุก 6 hr
คำนวณ ( 0.25*12 = 3 mg )
ซักประวัติเพิ่มเติม
ประวัติการรักษาก่อนมาโรงพยาบาล
ประวัติที่ใช้ อาจทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น เช่น ยากลุ่ม Beta blocker
ประวัติโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคทางเดินหายใจ
ความรู้ของผู้ดูแลในการช่วยเหลือเบื้องต้น
ประวัติสัตว์กัดต่อย อาการเป็นอย่างไร
การตรวจร่างกาย
ตรวจลักษณะบาดแผลที่ถูกต่อย
ส่งตรวจห้องปฏิบัติการ > CBC,electrolyte,Renal function
ควรตรวจร่างกายอย่างละเอียด หาร่องรอยการถูกต่อยให้ครบทั่วร่างกาย
คำแนะนำสำหรับครอบครัวในการดูแลต่อเนื่องเมื่อกลับบ้าน
ไม่ให้เด็กเล่นของเล่นที่เป็นรูปสัตว์พลาสติกที่เป็นอันตราย เช่น งู ตะขาบ เพราะจะทำให้เด็กเล่นกับสัตว์จริงจนอาจถูกสัตว์กัดต่อยได้
ให้ผู้ดูแลพกบัตรประจำตัวผู้ป่วยที่บอกถึงโรคและการรักษาเบื้องต้น
จัดย้านให้เป็นระเบียบป้องกันสัตว์มีพิษมาอาศัยอยู่ ไม่ให้ไปเล่นใต้ต้นไม้ที่สงสัยว่ามีผึ้งอยู่
ให้ผู้ดูแลพกยาฉีด epinephrine ติดตัวตลอดเวลาและได้รับการสอนวิธีใช้ที่ถูกต้องโดยพิจารณาให้ในผู้ป่วยที่มีภาวะ anaphylaxis
สอนเด็กให้หลีกเลี่ยงการเล่นกับสัตว์ที่ไม่ได้เลี้ยงไว้ สัตว์ที่พึ่งเกิดลูก และไม่รังแกสัตว์
ให้ผู้ดูแลพกยาใช้ฉุกเฉินกรณีเกิด anaphylaxis เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยได้ทัน
ให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะ anaphylaxis การหลีกเลี่ยงสิ่งที่ผู้ป่วยแพ้และสอนการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดอาการแก่ผู้ดูแล
ผู้ป่วยที่เกิดภาวะ anaphylaxis จากการแพ้พิษแมลงตระกูล Hymenoptera ได้แก่ ผึ้ง ต่อ แตนและมด ควรแนะนำให้ไปพบแพทย์เฉพาะทางและพิจารณาการฉีดวัคซีนภูมิแพ้ เพื่อป้องกันภาวะ anaphylaxis ซ้ำหลังถูกแมลงต่อยครั้งต่อไป
ศุภกานต์ สีสันงาม 61108585 Section 1 กลุ่มที่ 2