Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

สตรีตั้งครรภ์ G3P1A1 GA 30 wks. ให้ประวัติว่า มีอาการเจ็บครรภ์ละมีน้ำใสๆ…

- - - - การติดเชื้อในโพรงมดลูก (Chorioamnionitis)
      - ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด (Abruptioplacenta)
      - ภาวะสายสะดือโผล่ย้อย (Prolap cord)
      - ทารกในครรภ์เสียชีวิตจากหลอดเลือดสายสะดือฉีกขาด
        
        มารดาเสียเลือดในการคลอดมากขึ้นรวมทั้งการเสียเลือดมากขึ้นของทารก
      - ทารกคลอดก่อนกำหนด
        
        มารดามีปัญหาด้านจิตใจ
        
        กลัวทารกไม่แข็งแรงสมบูรณ์
        
        มีความเครียดสูง
        
        ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
        
        รับประทานอาหารได้น้อยลง
        
        ไม่ดูแลตัวเอง
        
        กลัวเลี้ยงทารกไม่รอด
        
        กังวลว่าทารกต้องรักษาตัวใน รพ. นาน
        
        กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา
        
        การสร้างน้ำนมของมารดาลดลง
      - ปอดทารกไม่ขยาย
        
        ทารกจึงมีโอกาสมีปัญหาทางการหายใจ และ/หรือปอดติดเชื้อได้ง่าย ภายหลังคลอด (Atelectasis)
      - มารดามีโอกาสถูกผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องเพิ่มมากขึ้น
  - - - เนื่องจากการขาดสาร surfactant ปกติสารนี้จะสร้างได้ครบเมื่ออายุครรภ์ 36 สัปดาห์
    - - เกิดจากกระบวนคลอด จากการที่กระโหลกศีรษะของทารกไม่แข็งแรงและมีการกดช่องทางคลอด
    - - เนื่องจากกลไกการป้องกันการติดเชื้อยังทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์
    - - ทำให้มารดาไม่สามารถให้นมบุตรได้เอง
    - - เนื่องจากความไม่สมบูรณ์ของเส้นเลือดจอประสาทตา
        
        ทำให้มีความเปราะบางและแตกง่าย
        
        ทำให้มีเลือดออกและเกิดแผลเป็นในจอประสาทตา
        
        เกิดการดึงรังหรือจอประสาทตาหลุด
        
        เกิดความบกพร่องในการมองเห็น
    - - เนื่องจากความไม่สมบูรณ์ของอวัยวะต่างๆ
- - - - ออกฤทธิ์โดย Beta 2 agonists จับกับ receptors ท่ีมดลูก
        
        เพิ่มcyclic adenosine monophosphate ในเซลล์กล้ามเนื้อ
        
        มีการปลดปล่อยแคลเซียมออกจากเซลล์
        
        กล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวลดลง
    - - เพราะจะไม่ให้ยา Terbutaline ในหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เพราะยาจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูง
    - - BP
      - PR ต้อง <120 bpm
      - Lung sound : เพื่อประเมินภาวะ pulmonary edema
      - ประเมินอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ใจส่ัน
      - Monitor Hyperglycemia, Hypokalemia
  - - - ต่อมารดา
        
        การติดเชื้อ
        
        ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
        
        pulmonary edema
        
        กดการทำงานของต่อมหมวกไต
      - ต่อทารก
        
        การใช้ยาครั้งเดียวไม่มีผลการเจริญเติบต่อและพัฒนาการของทารก และไม่กดการ ทำงานของต่อมหมวกไตทารก
- - - - 1.ตรวจ UA พบ WBC 200-300 cell/ml (ปกติจะไม่พบWBCในปัสสาวะ)
      - 2.มีอาการใจสั่น
      - 3.BP 110/72 mmHg
      - BT 38 องศาเซลเซียส
      - PR 100. bpm
      - RR 22 bpm
    - - 1.ประเมินอาการและอาการแสดงของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ได้แก่ มีไข้สูง หัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็ว ปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะแสบขัด เป็นต้น
      - 2.ดูแลให้มารดาได้รับยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษาของแพทย์เพื่อรักษาอาการติดเชื้อ
      - 3.ประเมินสัญญาณชีพทุก4ชม. โดยเฉพาะอุณหภูมิร่างกาย
      - 4.สังเกตลักษณะ ปริมาณและสีของน้ำปัสสาวะ
      - 5.ดูแลให้ผู้ป่วยดื่มน้ำ อย่างน้อยวันละ 8-10แก้ว เมื่อไม่มีโรคต้องจากัดน้าดื่ม เพื่อขับเชื้อออกจากร่างกาย
      - 6.ติดตามและประเมิน UA
      - แนะนำไม่กลั้นปัสสาวะนาน
      - 8.แนะนำให้ ล้างบริเวณอวัยวะเพศและปากท่อปัสสาวะจากด้านหน้าไปด้านหลังเสมอ เพื่อลดการปนเปื้อนแบคทีเรียจากปากทวารหนัก
  - - - O:GA 30 wks ตรวจ vaginal speculum : Cx.dlate 1cm effacement 25% ML AF: clear
      - S: มีอาการเจ็บครรภ์และมีน้ำใสๆออกจากช่องคลอด ก่อนมารพ.10ชม.
    - - 1.ดูแลให้มารดาได้รับยา Terbutaline เพื่อยับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก
      - 2.จัดท่าให้มารดานอนราบหัวสูง ไม่เคลื่อนไหวหรือเดินเพื่อป้องกันสายสะดือพลัดต่ำ
      - 3.ตรวจภายในใช้ sterile vaginal speculum
      - 4.แนะนำให้มารดาใส่ผ้าอนามัยและเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 2-3 hr. หรือเมื่อเปียกชุ่ม เพื่อลดการติดเชื้อ
      - แนะนำให้ความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ทุกครังหลังขับถ่ายหรือหลังเปลี่ยนผ้าอนามัย
      - ประเมิน FHS
      - 7.ประเมินและบันทึกความก้าวหน้าของการคลอดเป็นระยะ
  - - - S: มีอาการเจ็บครรภ์
    - - จัดท่าให้มารดาอยู่ในท่าที่สบายและเหมาะสม
      - จัดการกับความเจ็บปวดของสตรีตั้ง ครรภ์โดยการกระตุ้นทางผิวหนัง
        
        การลูบหน้าท้อง (effleurage)
        
        การสัมผัสและการนวด
        
        การประคบด้วยความร้อนและความเย็น
      - ประเมินpain score
      - 4.แนะนำให้สตรีตั้งครรภ์เพ่งจุดสนใจ จ้องมองรูปภาพหรือวัตถุที่ไม่มีการเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสายตาในขณะที่มีการหดรัดตัวของมดลูก ซึ่งจะช่วยลดการรับรู้ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น
      - สอนสตรีตั้งครรภ์ใช้เทคนิคการหายใจ เพื่อช่วยลดความเจ็บปวด
        
        การหายใจช้าโดยใช้ทรวงอก(Slow chest breathing)
        
        ขณะมดลูกเริ่มหดรัดตัว หายใจเข้าและออกยาวๆ (cleansing breath) 1 ครั้ง
        
        หายใจเข้าทางจมูกช้าๆ และผ่อนลมออกทางปากช้าๆ หายใจประมาณ 6-9 ครั้ง
        
        มดลูกคลายตัว หายใจเข้าและออกยาวๆ (cleansing breath) 1 ครั้ง ขณะที่มดลูกหดรัดตัว การหายใจจะต้องช้า จังหวะสม่ำเสมอ เงียบและเบา มีการผ่อนคลายเต็มที่
      - จัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะแก่การพักผ่อนของสตรีตั้งครรภ์