Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ฉาก ขั้นกว่า ของเกร็น, (ท่านภูมิใจกับอะไรมากกว่ากันครับ, ระหว่าง...,…
ฉาก ขั้นกว่า ของเกร็น
ท่านภูมิใจกับอะไรมากกว่ากันครับ
ระหว่าง...
1)การเป็น "ผู้เลือก" เพราะเรามีอำนาจการเลือกสูงสุดในการเลือกนั้น
2)การเป็น "ผู้ถูกเลือก" เพราะเราน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ถึงได้ถูกเลือก
นายอยากจะเป็น คนที่อยู่อย่างปิดตา หรืออยู่อย่างเปิดตา กันละ ผู้คนจะเรียกร้องแต่สีขาว จนหารู้ไม่ว่า การปกครองมนุษย์หลายพันคนมันไม่อาจเป็นสีขาวบริสุทธิใด้ การปกครองนั้นเหมือนกับระเบิดเวลา เมื่อพวกต่อต้านใด้เป็นชนชั้นปกครอง นั้นคือระเบิดเวลาลูกใหม่ เพราะมนุษย์ทุกคนนั้นตแตกต่างกันและไม่เคยพอใจเท่ากัน พวกเขาฆ่าผู้คนใด้แต่ก็ต้องฆ่าทีละน้อย ไม่เช่นนั้นแล้วจะกลายเป็นสงครามกลางเมือง
ต่างจากการปกครองของพวกมังกร พวกมันมีเป้าหมายเดียวกันคือเพื่อราชีนี และยอมตายแทนราชีนี แต่ในรุ่นลูกรุ่นหลาน ความจงรักพักดีนั้นหายไป กลายเป็นมีความต้องการแบบมนุษย์แทน (ทำทุกอย่างเพื่อความสุขตัวเองโดยไม่ถูกควบคุม) พวกมังกรทำทุกอย่างเพื่อความสุขราชีนี
เมื่อมนุษยืไร้ศัตรู พวกมันก็จะหันมาสุ้กันเองทันที แต่ไม่ใช่การฆ่ากัน แต่เป็นการแก่งแย่งกดขี่กันและกัน พวกเราเปลี่ยนจากการสู้กันในรูปธรรมวิ่งเอาไม้ฟาดกัน ไปเป็นการสู้กันในนามธรรม การตักตวงทรัพยากรและอำนาจ
ตอนโลกก่อน
อัลบอกว่า ฉันเคยบอกว่า คนที่พยายามจะทำความเข้าใจนายเนี่ยมันน่าสงสารสุดๆไปเลย เพราะงั้นนะ เกร็น ฉันจะไม่ยอมให้นายไปทำร้ายใครเค้าอีก ทุกสิ่งที่นายคิด ทุกสิ่งที่นายอยากพูด เอาสิ่งเหล่านั้นมาลงที่ฉันสิ
น่าสงสารตัวเองชะมัด
อัลฉันไม่เคยให้ใครมาเอาเปรียบด้วยการกระทำอยู่แล้ว หากแต่นามธรรมคำพูด นินทาว่าร้าย ฉันไม่อาจห้ามหรือหยุดมันใด้
มีฉากเกร็นโดนพวก ผชที่หาเรื่องในห้องน้ำ เกร็นเลยบอกว่า นี่ๆ หากพวกนายเป็นฉัน ฉันจะหลีกหนีการเจ็บเนื้อเจ็บตัวจากพวกนายใด้อย่างไร เกร็นบอกงั้นฉันจะทำให้พวกนายดูละกัน การหลีกหนีการเจ็บเนื้อเจ็บตัวแบบยั่งยืนน่ะ
เกร็นบอกว่า อัลนะไม่เข้าใจความทุกข์ เธอเหมือนผ้าขาวไร้สิ่งเจือปน ทำเพื่อคนอื่นจนหลงทาง โลกมันกว้างใหญ่เกินกว่าที่เธอจะทำให้ทุกคนมีความสุขใด้ ฉันอยากให้อัลเข้าใจ หากแต่รังเกลียดความทุกข์ก็ไม่อาจจะมีความสุขใด้ เพราะทั้งสองสิ่งเป็นต้นกำเนิดของกันและกัน เมื่อไม่รู้จักความทุกข์แล้วจะมีความสุขใด้อย่างไร ฉันต้องการอัลที่เป็นสีเทา เพราะตัวฉันไม่อาจจะกลายเป็นสีขาวใด้
มนุษย์เราทุกคนควรจะกลายเป็นสีเทาก่อน แล้วจึงเริ่มแต่งแต้มสีสันในแบบของตนเอง
เกร็นบอกคนที่ชอบสอนคนอื่นเรื่องเหรียน2ด้าน ว่า อย่าคิดว่าตัวเองน่ะขั้นกว่าแล้ว เหรียนนะมันยังมีด้านที่ 3 (เหรียนทั้ง2ด้านไม่อาจทำให้ปรากฏความจริงที่แท้จริงใด้ ไม่ว่าด้านใหนก็มีผลกระทบ ความจริงที่แท้จริงจึงจะปรากฏในเหรี้ยนด้านที่ 3 แตกต่างกันไปซึ่งเป็นความจริงที่รับรู้ใด้เฉพาะตน แล้ว เหรัยนด้านที่ 3 ของนายละ คืออะไร (ชายรองสักที่อยากวางมือจากงานของพวกโจร เลยยอมสละชีวิตเพราะตัวเองทำชั่วมามากแล้ว) เกร็นเลยบอกว่าหากนายกลับไปหาลูกนายใด้ ลูกนายจะดีใจหรอไงที่มีพ่อเป็นโจร ภรรยาและลูกนายจะพัวพันไปใด้ นายไม่มีทางลงจากเสือตัวนี้ใด้หรอก (ด้านที่3ของเหรียนก็ความ ความจริงที่แต่ละคนมีแตกต่างกันไป)
เกร็นวางแผนสร้างบิทคอยในโลกจริงขึ้น จากเหรียนจากโลหะผสม 2ชนิดที่ต้องผสม ในเปอเซน ที่สตอยโชเมตริก เท่านั้น เช่น 63 + 37 พอดี จึงเป็นเหรียนนี้ ทุกเหรียนมีเลขอยู่ด้านหลัง(ตอนหลังมีคนมาถามว่าหากพวกแกสร้างขึ้นมาใด้รัวๆก็คุมการผลิตอยู่คนเดียวนะสิ เกร็นบอก ป่าว มันจะมีแค่ 500เหรียน) สร้างเสร็จไปให้ยัยหมาที่รับภารกิจเอาคนมาลงดัน เพื่อเอาแร่มากิน เอามาสะสมตามภาษามังกรที่ชอบสะสมแร่ ให้แจกเหรียนให้คนที่ทำภารกิจสำเร็จ
เกร็นซ้อนแผนแล้วบอกว่า อาวุธของเกร็นทุกอย่างจะซื้อขายด้วยเหรียน ที่พระเอกทำขึ้นเท่านั้น ทำให้มูลค่าของเหรียนพระเอกพุ่งสูงขึ้นสุดๆ เพราะคนที่ต้องการเอามาแลกอาวุธพระเอก และคนที่ต้องการเก็งราคา(อาวุธพระเอกมีชิ้นเดียว ขยะโง่ๆ) พอขายใด้แล้วก็หยุดขาย แต่ราคาเหรียนก็ยังพุ่งขึ้นอยู่ดี
พวกdelver พบว่ามีคนป่วนระบบเงินตราและจ้องทำลายละบบเงิน
ตอนหลังพี่พระเอกโดนจับ และถูกถามว่า นี่คือเหรียนของนายใช่ใหม และบอกรหัส ธาตุ 24 +63 อัตราส่วน 63 37 เกร็นถึงกับงง
เกรํนพูดถึงความสุขระหว่างคู่รัก จับมือ 1แต้ม จูบ 10 แต้ม sex 100 แต้ม ฉันถึงบอกไงว่ามันเป็นเรื่องปกติ ที่ฉันต้องการนะ ขั้นกว่าของความรัก เริ่มที่ 10000 แต้ม ต่างหาก
เกร็นบอกว่าฉันนะไม่สัญญาหรอกนะว่าจะมีคนอื่นหรือไม่ มันขึนอยู่กับคะแนนความสัมพัน หากฉันรู้สึกว่าคนอื่นมีความสัมพันมากกว่าฉันก็จะเลือกคนอื่น
ทำปืนใหญ่จากปล้่องต้นไม้ ยิงใส่....
ทำสารเคมีที่เหม็นที่สุดในโลก โยนเข้าไปในevent ใหญ่ๆ เช่นสภามังกร
เด็กโง่ นั่นน่ะไม่ใช่ความรักหรอก มันเรียกว่าสัญชาติญาณ
ว่าไงเจ้านอก นั้นคือความรัก หรือ สันดาน กันน่ะ การที่สัตว์ผสมพันกัน คือความรักรึเปล่า
เผาคนด้วยก๊าซพิษในเหมืองโดยตัวเองและเพื่อน อินดี้ ไม่หนีไปด้านบน แต่หนีลงล่าง (Gelpinier)
ทำเชฟชาร์ด ใว้ระเบิดมอน
เกร็นบอกว่า มนุษย์เรา ใช้ปรัญชาเพื่อแสวงหาความจริงขั้นกว่า ความจริงขั้นสุดท้าย แต่ที่พวกเราทำใด้ มันยังไม่ใช่ความจริงขั้นสุดท้าย แต่เป็น ขั้นเกือบกว่า ที่พร้อมจะถูกทำลายลงหากมีความจริงขั้นกว่ามาแทนที่
เกร็นประมูลตู้เหล็กแบบในหนังฝรั่ง ประมูลตู้คอนเทนเนอร์ แค่เปิดให้ดู ไม่ให้เห็นของทั้งหมด
ขุดหาวุ้นไม้ไผ่(เกิดจากการผิดปกติของไผ่ที่ไม่สร้างเยื่อข้างใน ปล้องจะสั้น) หนอนหน่อไม้
เกร็นปล่อยยุง คนอื่นมองว่าต้องการกำจัดยุง เกร็นบอกว่า ปล่อยยุงที่เป็นหมัน เพื่อฆ่ายุง
หมอที่แอบปลอมฉีกเฃแบคทีเรียที่ตายแล้วให้ทหาร เพื่อให้ผลตรวจออกมาว่าติดเชื้อ
ทำรางน้ำจับปลาทั้งแม่น้ำ
ฉากเกร็นจับผู้หญิงที่คิดจะฆ่าตัวตายเอาใว้ใด้(โบรคเคนเบรด) และพยายามคุยกับเธอ เกร็นบอกเธอว่า อะไรสำคัญที่สุดในชีวิตเธอ เธอบอกว่า เกียติ เกร็นบอกว่า ต้องมีชีวิตอยู่ เกียติจึงจะสำคัญ ถ้าหากไม่มีชีวิตแล้ว เกียติก็ไม่มีความหมาย เกร็นยังบอกอีกว่า สงคราม ความต้องการมีชีวิต ทำให้มนุษย์นั้นกระทำเพื่อตนเองโดยอ้างการกระทำเพื่อผู้อื่น หากตายไปแล้วเธอก็ไม่อาจรู้ใด้ว่าการกระทำของเธอมันคือเกียติหรือไม่ หากตายไปแล้วเธอก็จะไม่รู้อะไรเลย สิ่งที่เธอสามารถรับรู้ก่อนตายน่ะมันก็คือสิ่งที่เธอคิดว่ามันคือเกียติ เธอไม่อยากรู้หรอว่าสิ่งนั้นคือเกียติจริงๆหรือไม่ ฉันใด้สลับศพเธอกับอีกคน
เกร็นบอกว่าเฮ้ อย่างยิงฉันดีกว่าน่ะ ถ้าฉันตายละก็ทั้งนาย โลกนี้ และจักรวาล จะหายไปนะเฟ้ย
เกร็นบอกให้ผู้หญิงคนนั้น งั้นเธอลองซิมูเลชั้นดูสิ ลองจิตนาการดูว่า เธอนั้นตายแล้วโดยการยิงตัวเองตายเมื่อตอนนี้ แล้วตอนนี้เธอที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่อยากรู้หรอว่า ชีวิตของเธอที่แลกกับเกียติไปนั้น มันคุ้มค่าแล้วหรือเปล่า (เกร็นเอาศพ ญ ไปเปลี่ยนแทน ศพ เธอใว้ก่อนแล้ว) แล้วเธอก็สนใจสิ่งที่เกร็นบอกให้ซิมูเลชั้นดู แล้วเธอจึงออกตามหาว่า การที่เธอใดยิงตัวตายไป มันคุ้มค่ากับเกียติของเธอใหม .......................... เกร็นโยนปืนให้เธอ และเธอเลือกที่จะไม่ยิงเกร็น และออกตามหาเกียติของเธอ ตอนหลังเธอบอกกับเกร็นจนเกร็นตกใจว่า หากมันไม่ใช่อย่างที่นายบอก ฉันจะมาฆ่านาย เกร็นบอก ถึงตอนนั้นฉันคงหนีไปไกลแล้ว เธอบอกว่า ไม่...นายจะหนีไม่ใด้ เพราะตอนที่นายส่งปืนให้ฉัน ฉันใด้ตัดสินใจยิงนาย จนตัวจริงของนายใด้ตายไปแล้ว เพราะงั้นตัวนายที่ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อรอให้ฉันทำหลายสิ่งเสร็จแล้วไปตัดสินใจว่าจะยิงนายจริงๆหรือไม่ (แต่จริงๆแล้วตอนนั้นปืนที่เกร็นให้เธอถือ ไม่มีหัวกระสุน)
ลัทธิที่หนุยบอกว่า หากทำร้ายตัวเองแล้ว สิ่งที่ร้ายๆของตัวเองจะหายไป จุดสูงสุดของลัทธินี้คือการ บริจากอวัยวะไปให้พวกแก็งโจร
เกร็นเข้าไปช่วยผายปอดคนที่หัวใจหยุดเต้นเพราะโดนเฟียโจมตีและเธออ้างว่าฆ่าตัวนากของเฟียไปแล้ว เจ้าของประโยคที่ว่า ฉันไม่ใด้ช่วยมัน ฉันช่วยเธอ เฟีย
สีตาของผู้เสพยาเศพติดจะเปลี่ยนไป ม่านตาเปลี่ยนสีไป
ฉากเกร็นบอกว่า แหม่ เข้าโรงเตี้ยม ไม่เห็นมีใครมาหาเรื่อง แล้วเฟียก็โดนจับก้น แต่เธอปัดมือออก และเริ่มทะเลาะกับพวกนักผจญภัย เกร็นเดินไปจับก้นเฟีย เลยโดนต่อยลอยออกมานอกร้าน พวกนักผจญภัยเห็นท่าไม่ดีเลยหนีไป ไม่เกิดเรื่องขึ้น
ฉากยัยหมาเห็นเกร็นครั้งแรกแล้วบอกเกร็นว่า ฉันสัมผัสถึงความมั่นใจในตัวนายใด้ ความมั่นใจที่มากจนมองผู้คนรอบๆเป็นเพียงขยะ ฉันอยากรู้จริงๆ อะไรทำให้เกิดความมั่นใจนั้นของนาย
เอาเกร็นยัยหมามาเช็คน้ำหนัก แล้วพบว่ามวลเท่ากันแต่หนักไม่เท่ากัน เกร็นส่งผลต่อเร้าต่อแรงโน้มถ่วงต่างกันตามระดับความเก่ง
เกร็นค้นพบว่าแบคทีเรียและจุรินทรีเล็กๆเวอชั่นอบิส เป็นผู้ผลิตออกซิเจน 80เปอเซนของทั้งโลก 20เปอคือต้นไม้
ขุดบ่อน้ำใต้ดินโดยหาจากความสัมพันของปลวกที่กินน้ำและต้นไม้เขียวชะอุ่ม
เฟียที่กำลังบอกตัวเองว่า ฉันจะเลือกสิ่งนี้ เจอเกร็นขัดว่า สิ่งที่เธอเลือก่น่ะคือสิ่งที่เธออยากจะเลือกจริงๆ หรือมันถูกกำหนดอยู่แล้วกันล่ะ
สร้างสะพาน ดักปลาที่หมู่บ้านเหมือง หลังจากโดนดูถูกว่าตกปลาไม่ใด้
เกร็นไปเจอ ยายกับหลาน 9 คน ยายเย็บผ้าขายขนม ชีวิตไม่เคยรู้จักคำว่าสะบายมาก่อน เกร็นเลือกที่จะช่วยเหลือ เด็กทั้งหมดและยาย(หลังจากเกร็นไปตีธุรกิจที่เมืองเก็บเกี่ยว) เฟียก็ใด้ยายคนนั้นฝึกสอนให้เย็บผ้า ทำให้ใจสงบ(ฝึกใจ) สุดท้ายเด็กคนโตสุดใน 9 คน มาขอบคุณเกร็น และบอกว่าเกร็นเป็นคนดี เกร็นบอกว่า ป่าวเลยตัวเองไม่ใช่คนดีอะไร ยังมีคนอื่นที่ลำบากอีกมากมายที่ฉันไม่ใด้รู้จักและพบเจอ การช่วยพวกเธอคือเรื่องบังเอิญ ฉันบังเอิญมาเมืองนี้ และเจอพวกเธอ ฉันจึงรู้สึกว่าต้องช่วย เป็นการช่วยที่เห็นแก่ตัวของฉัน แม้จะช่วยไปแล้วโลกนี้ก็ยังมีคนลำบากอยู่มากมายโดยไม่อาจห้ามใด้เวียนวนกันไปไม่จบสิ้น การใส่พริกเม็ดเดียวลงในลำธาร มันทำให้ธารน้ำเผ็ดไม่ใด้ สิ่งที่ฉันทำไป...มันไร้ความหมาย (เกร็นทำหน้าเศร้า) เด็กผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่า มันไม่ใด้ไร้ความหมายหรอกน่ะคะ สิ่งที่คุณให้มา แม้จะเป็นแค่พริกเม็ดเดียว มันจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นใด้น่ค่ะ (เธอเอาพริกเม็ดนั่นไปปลูกและแบ่งปัญผู้อื่น จนขยายเป็นวงกว้าง หลังจากยายเธอเสียไปแล้ว)
https://www.youtube.com/watch?v=7_nQpdwg938&feature=youtu.be&fbclid=IwAR33dKosLHiyJ0_kk6mEho4b26hpOOPWMtczaUUpd33O2F_iZWhhhz3Rysc
เกร็นรู้ว่าพวกมังกรนั้น คลอดลูกไม่เหมือนมนุษย์ เด็กของมังกรนั้นใช้เลือดหมุนเวียนเดียวกับแม่ โดยแอนตี้บอดี้ไม่ไปทำร้าย และเด็กที่เกิดออกมาทั้งหมดจะหน้าเหมือนตนเองจนราวกับการโคลนนิ่งตนเอง ต่างจากมนุษย์ที่ เด็กราวกับเป็นอีกสิ่งนึงไม่ใช่แม่ของตัวเอง
เกร็นโชว์พวกทุนนิยมและนักธุรกิจให้ดูว่า กำลังซื้อนั่น ไม่ใด้มาจาก สินค้าและความพอใจแรกเห็นของผู้ซื้อเพียงอย่างเดียว เพราะนักธุรกิจจะมองว่า ผู้คนนั่นซื้อของเพราะพวกความต้องการพื้นฐาน เกร็นแสดงให้เห็นหลังเล่าเรื่องราวของคุณยายที่ลำบากและเลี้ยงหลานหลายคนให้คนอื่นฟัง ทำให้ผู้อื่น มาซื้อของจากร้านยายอย่างมากมาย ไม่ใช่เพราะความต้องการพื้นฐาน แต่เป็นเพราะความรู้สึกอยากช่วยเหลือ น้ำใจ และจริยธรรม ทำให้อีกร้านที่แข่งขันกับเกร็น แทบไม่มีคนซื้อเลยเพราะคนรู้ว่า ทำเพื่อเงินทำเพื่อธุรกิจ
เมืองที่มีธุรกิจขนาดใหญ่ เกร็นต้องการโค่นร้านนั้นลง เลยใช้ร้านยายเล่า story ลงไปเพื่อโค่น (
พวกนักธุรกิจเหล่านั้นถามเกร็นว่าทำไมร้านตนเองถึงแพ้ ทั้งๆที่มีดีกว่าทุกอย่าง เกร็นบอกว่า เพราะร้านของพวกนาย ขายสิ่งของเหล่านั้นเพื่อทำธุรกิจและพวกของตน(ใช้ทฤษฏีการตลาดปกติ ดีมานซับพลาย การแต่งเติมคุณค่าให้สินค้าตัวเอง) ส่วนร้านของยายน่ะขายเพื่อประทังชีวิต ผู้คนที่เห็นคุณค่าของชีวิตผู้อื่น จึงพยายามช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันที่ลำบาก
จุดไฟจนติด แต่เป็นลมแล้วไฟดับ (ไม่ก็ไฟใหม้ป่า)
ขุดด้วยจากรูดินใต้ต้นไม้ที่ด้วงชอบ
กล้วยป่าที่เมล้ดเยอะมาก
ปูกับกุ้งจับใด้โดยการพลิกหิน
ยัยหมาให้เกร็นกินหางตัวเอง เพื่อช่วยเกร็นที่จะตายเพราะรังศี (มันก้เหมือนขนนายนั่นแหละย่ะ)
ทอดไข่ไม่ใช้น้ำมัน
กินต้นไม้ เนื้อไม้กินใด้
ใช้ตังอันน้อยนิดเพื่อไปถามข้อมูลฟรีและซื้อของ จนใด้ข้อมูลที่สำคัญและเอาไปต่อยอด
หาเกลือสินเทาจากในดินเอาดินมาละลายน้ำ โดยไม่ต้องใช้เกลือสมุทธ
บ่อเกลือจากน้ำบาดาลใต้ดินที่เป็นเกลือโดยอัตโนมัตรหายากมาก
การทำแป้งหมัก และทำเป็นเส้นก๊วยเตี๋ยว
https://www.youtube.com/watch?v=XDsQDbCpKLA
เกร็นบอกว่า ชีวิตคนๆนึงต้องเรียนรู้ ความขมขื่น อุปสรรค์ ความสำเร็จ ความสุข ด้วยตัวเอง
แม้เราจะรู้สึกใด้ว่ารอบตัวเรามีผู้คนมากมาย แต่ผู้คนเหล่านั้นราวกับมีชีวิตกันอยู่คนละช่วงเวลา เพราะพวกเขาไม่อาจจะเข้าใจพวกเราใด้ มีแค่เธอที่เข้าใจฉันจริงๆ
อะไรมันมีค่ากับเรากัน สิ่งที่เราทำอยู่เป็นประจำหรือเปล่า หรือสิ่งที่เรายังไม่เคยทำ หรือว่าสิ่งที่เราไม่เคยคิดจะทำ
ถอดรหัสลับของ delverใด้และส่งกลับไป
มีเนื้องอกในสมองเลยฉลาดกว่าคนปกติ ทำให้บางครั้งเกิดอาการผิดปกติ เป็นล้ม สุดท้ายอาจอยู่ใด้อีกกี่วันไม่รู้ (เกร็นบอกให้ยัยหมารู้)
ฉากที่เฟย์พูดบอกว่า ช่วยเปลี่ยนแปลงยูฟินน่าที เกร็นเลยถามกลับว่าเปลี่ยนแปลงยังไง เธอบอกเปลี่ยนให้ดีขึ้น เกร็นถามเปลี่ยนให้ดีขึ้นในมุมมองของใคร มุมมองของเธอ งั้นหรือ ให้เธอรู้สึกว่ายุฟินน่าดีขึ้น ? เฟีย์บอกมุมมองของคุณก็ใด้ เพราะฉํนเชื่อในมมุมองของคุณ ่ว่าจะทำให้ยูฟินน่าเปลี่ยนไป (เกร็นแปลกใจที่ เฟย์เชื่อใจเกร็น และบอกว่า ความเชื่อนั้นเป็นสีเทา มนุษยืไม่อาจก้าวเดินต่อไปข้างหน้าหรือตัดสินใจอะไรใด้ หากปราศจากความเชื่อ เพราะเรารู้ว่า ธรรมชาตินั้นไม่แน่นอนและอาจจะยังหาคำตอบไม่ใด้ในตอนนี้ แต่เราจำเป็นที่จะต้องก้าวเดินไปตอนนี้)
มังกรก็เหมือนมนุษย์ที่เกิดมาพร้อมกับไขควง ที่เอาใว้ไขสิ่งต่างๆ แต่มนุษย์ กลับเกิดมาพร้อมกับมือเปล่า
เกร็นเคยทะเลาะกับอัลเละเป็นผลให้อัลงอลเกร็น แล้วเธอต้องจากไปหาครอบครัวของเธอที่หายตัวไป(และโดนฆ่าตาย) เกร็นกับอัลทะเลาะกันเพราะว่า เกร็นชอบบอกว่าคนอื่นโง่ คนโง่นะชอบทำอะไรโดยไม่คิดถึงผลลัพท์ พอทำแล้วก็จะเอาแต่บอกตัวเองว่า หากย้อนเวลาไปใด้จะไม่ทำ ฉันนะ จะทำตามความต้องการของตัวเองที่ไม้จะย้อนเวลาใด้ก็จะทำแบบเดิม
ฉากเกร็นมโนกับอัลบนเตียงว่า ตัวเองในอีกยูนิเวิสใด้ปล้ำอัลไปแล้ว อัลก็เลยสวนว่า มันไม่มีตัวนายในยูนิเวิสอื่นหรอกย่ะ เพราะฉันยิงนายตายแน่ๆ
เกร็นอยากจะนอนกลางอากาศ(นอนหลับคนเครื่องร่อน)
ให้อีกาเก็บเศษเหรี้ยนที่พื้นมาหยอดถังขยะ แล้วจะใด้อาหาร แล้วอีกาก็ไม่ทำไร ขโมยเหรียนคนอื่นมาหยอด
บีบลูกชิด+เอายางมาคันๆมาแกล้งคน
เห็นสาวโดนลวนลามตอนต่อแถวเลยลวนลามคนที่ลวนลามสาวอีกที จนมันไปต่อยกับอีกคนและเรียกร้องสิทธิธิการไม่โดนลวนลาม
โดนยัยหมาจูบ ทั้งคู่กะวางยาพิษอีกฝ่ายให้สลบเหมือนกัน เกร็นกับยัยหมาสลบทั้งคู่
เกร็นบอกว่า ผู้ชำนาญ เมื่อใช้ดาบ ฆ่าคนใด้ 1 คน ใช้ความเชื่อใจ ฆ่าคนใด้ 10 คน ใช้คำโกหกและใส่ร้าย ฆ่าคนใด้ 100 คน แต่ใช้ความเชื่อ ฆ่าคนใด้ ล้านคน
แก็งวิ่งตบตัง วิ่งให้คนตื่นคิดว่าหนีอะไรมาเลยหนีด้วยแล้วข้าวของตก
หญิงสาวอัธยาสัยดีที่เป็นทหาร พยายามพัฒนาเมืองให้ผู้คนอยู่กันอย่างเป็นสุข และทำเพื่อส่วนรวม แล้วก็บอกพระเอกว่า เมืองนี้เปลี่ยนไปในด้านที่ดีแล้ว ส่วนเพราะเอกก็บอกว่า จะจรึงรึ แล้ว พวกขุนนางและบริษัทพอเห็นผู้คนอยู่กันอย่างดีเป็นสุข ก็เข้ามาดูดน้ำเลี้ยง
กิ้งกือปล่อยสารสีเหลืองใด้เมื่อมันตื่นตกใจ
มูลกิ้งกือมีประโยชน์มาก
เกร็นที่มาจากอนาจักรนึง กับสาว(หรือบอกกับเฟีย เรื่องที่ตัวเฟียเป็นปีศาจ เข้ากับพวกมังกรไม่ใด้) ที่มาจากอีกอนาจักรนึงบอกว่า พวกเราเข้ากันไม่ใด้หรอกเพราะอุดมการคนละอนาจักรไม่เหมือนกัน เกร็นเลยบอกว่า หากมีพวกเราแค่สองคนบนโลก เราจะสามารถเข้ากันใด้ใหมน่ะ เราถูกยัดเยียดความเข้ากันไม่ใด้และชุดความคิดเหล่านี้ เพียงเพราะแค่มีคนอื่นมากมายอาศัยอยู่บนโลกนี้
ในdawn of war กระจอกบอก อีซี่ ต้องรอให้ชนะก่อนถึงจะบด่าคนอื่นว่ากระจอก ดันด่าตอนเหลือ 1 เปอ แล้วแพ้เอง
เข้าไปแกล้งเป้าหมายและหาconnection แบบคลิปแกล้งให้ใช้พลังพิเศษ
https://www.facebook.com/watch/?v=188634936252980
ฉากเกร็นบอกว่า เราจะรู้ใด้อย่างไรว่า เราไม่ใช่หมาที่กำลังกัดลุกบอลที่โดนเตะใส่อยู่ (หมายถึง คนที่เตะลูกบอลใส่หมาแต่หมาไม่ไปกัดแต่ดันกัดลูกบอลแทนแล้วรู้สึกว่าใด้แก้แค้นแล้ว แล้วจึงพอใจ) เกร็นบอกว่าไม่ชอบที่จะถูกพวกมันจ้องมองลงมาจากต้นมะม่วง (ลงจากต้นมาม่วงมาซะ ฉันจะสอยแก)
ฉากเกร็นดีดนิ้วแล้วถามยัยหมาว่าเธอใด้ยินเสียงนี้ใหม ยัยหมาใด้ยินแล้วเกร็นก็บอกว่า แม้เราจะอยู่บนโลกใบเดียวกัน รับรู้ในสิ่งที่รับรู้บนโลกใด้เหมือนๆกัน แต่พวกเรากลับแตกต่างกัน
เกร็นบอกเฟียว่า หากเธอฆ่าคนบริสุทธ ทุกคนจะมองเธอเป็นสีดำ หากเธอฆ่าโจรทุกคนจะมองเธอเป็นสีเทา หากเธอฆ่าศัตรู ทุกคนจะมองเธอเป็นสีขาว
ฉากเกร็นเจอปูเสฉวน เลยเอาหอยที่ใหญ่กว่าวางเอาใว้และบอกมันว่า บ้านแกเล็กไปหน่อยนะ
ฉากเกร็นหนีมอน แล้วหาทางหนีไม่ใด้เลยมุดถ้ำหนีแต่ดันกลายเป็นถ้ำตัน แล้วมอนตัวนั้นเข้าไม่ใด้ มันก็ป้วนเปี้ยนอยู่หน้าถ้ำ มีลูกของมันตัวเล็กสามารถเข้าใด้ เข้ามาหาเกร็น แล้วอ้อนเกร็น พยายามหาที่ดูดนมเหมือนที่ดูดนมแม่มัน(เกร็นบอกน่ารักชะมัด) แล้วก็มีนักผจญภัยผ่านมา มันเลยหนีแล้วทิ้งรัง แล้วจะเอามอนลูกที่มาอ้อนเกร็นไป
ความโง่ของคนเหมือนพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตก
เกร็นบอกยัยหมาว่า หมุดอะไรมันยึดติดความคิดและความต้องการต่างๆของเธอใว้แบบนั้นกันนะ ยัยหมาก็เล่าให้ฟังว่าเจอกับอะไรมาบ้าง เกร็นเลยบอก งี้นี่เอง ฉันพอจะเข้าใจละ หมุดตัวใหญ่ที่สุดของเธอมันหน้าตาเป็นแบบนี้นี่เอง
สิ่งมีชีวิตล้วนเกิดมาโดยถูกหมุดปักเอาใว้ หมุดสองตัวแรกที่ปักเราใว้ตั้งแต่เกิดมา 1.อาหาร 2.ที่อยู่ 3.การสืบพันธุ์ มันทำให้สิ่งมีชีวิต มีชีวิตอยู่ด้วยความต้องการหลักเหล่านี้ สำหรับสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาและมีภาษา อย่างมนุษย์ เมื่อความต้องการเหล่านี้มีอย่างเพียงพอแล้ว สิ่งมีชีวิตจึงต้องการความต้องการอื่นมากขึ้น เราอยากใด้ อยากมี อยากเป็น อยากให้บางสิ่งเกิดขึ้น
เกร็นค้นพบว่าภาษาของโลกนั้น คำว่า ความรัก(รักของพ่อแม่) ประกอบมาจาก 3อย่าง (การหลอมรวม,ความเป็นเจ้าของ,การกอด) ส่วนความรัก(แบบหนุ่มสาว) การหลอมรวม,ความเป็นเจ้าของ,การจูบ
เพราะมนุษย์เรานั้นมีปัญญา พวกเราจึงอยากใด้และต้องการในสิ่งต่างๆเยอะขึ้นไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เราต้องการนั้นไม่ใด้มาจากตัวตนของเรา แต่มันมาจากสัญชาติยานดิบ
บางทีสัญชาติยาน มันก็ ฉลาดกว่าปัญญาของเรา จนทำให้เรามองไม่เห็นมัน
ที่ศาสนาเป็นใด้เพียงศาสนา เพราะมันมีเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของปรัญชา แต่ส่วนที่เหลือนั้นเป็นเพียงมายา
คุณสมบัติของความแค้นที่ทำให้มันทรงพลัง เพราะมันสามารถส่งต่อความแค้นไปใด้อย่างชอบธรรม (กุฆ่ามืงใด้เพราะมืงฆ่าแม่กุ)
ฉากเกร็นฝึกเฟียไปเล่นไพ่ไปโกยเงินพวกมันออกมา
https://www.facebook.com/YouLike285TH/videos/221836825904877
เพราะเฟียตาไวมาก เกร็นเลยสอนเฟียเล่นไพ่ เกร็นไปเจอคนที่หมดตัวเพราะการพนันมา เลยสอนให้ดูเป็นวิทยาทานว่าไพ่มันเปลี่ยนคาตา
หลังจากนั้นเกร็นเลยจะไปโกยตังมันเพื่อปิดบ่อนซะ โดยเอาเฟียไปด้วย เฟียที่ฝึกมาแล้วไปดูไพ่เพราะเกร็นไม่อาจมองทัน (เกร็นฝึกยิงกระสุนปืนที่แต้มสี แล้วให้เฟียระบุสี ตอนหลังระบุตัวเลข)
ไปเจอยัยหมาที่ใช้วิธีดมกลิ่นไพ่เอา
เฟียบอกว่าถ้าหากจำไพ่ใด้ สุดท้ายยังไงก็ชนะนิ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ ไพ่ไม่ใช่ sample spcae มันคือ deterministic สามารถคาดเดาใด้ ด้วยคนแจก
เกร็นสอนเฟียว่า การจำไพ่มันใช้ใด้ใน sample spcace เท่านั้นแหละ เกร็นให้เฟียจำไพ่แต่ละใบแล้วบอกว่า 10ใบสุดท้ายคือใบอะไร แล้วเฟียบอกผิด เฟียเลยบอกว่าไม่จริงนายโกง แล้วไปเปิดดูไพ่ใบอื่นในกอง กลายเป็นว่า ในกองไพ่ถูกสลับกันกับใบที่เกร็นเอามาให้ดู เกร็นบอกว่า ตอนแรกฉันก็ไม่มั่นใจเพราะสายตาเธอมันไวมากไม่มั่นใจว่าจะหลอกเธอใด้ยังไง เลยเอาชาโม่มาใว้บนหัวเพื่อหันเหความสนใจของเฟีย จนเฟียทายผิด
เกร็นบอกว่า ฉันน่ะยังกากนัก มีคนเก่งกว่าฉันพวกนั้นสลับไพ่ใด้ไวกว่าฉันเป็น10เท่า จนมองไม่เห็น เธอต้องใช้สายตาและสติในการมอง
เกร็นฝึกเฟียเพื่อไปเข้าบ่อน
หลายอย่างในชีวิตอาจไม่ต่างอะไรกับสีของท้องฟ้า
เพราะมันเป็นเรื่องที่เราชาชินและก้มหน้าก้มตายอมรับโดยไม่คิดจะถามหาเหตุผลจากมัน ทั้งที่จริงๆ แล้ว สิ่งที่ดูเป็นเรื่องปกติมากๆ อาจซุกซ่อนอะไรไว้ไม่แพ้ท้องฟ้าที่สดใสก็ได้
https://www.blockdit.com/articles/5faba354307c820718f1ec94?fbclid=IwAR2Ndj-r1FeXJ1tAVF62QTv_vtTw3rJA-iX-e8c65Ely8rBjQ3g7ki4go4I
เกร็นค้นพบเหมืองโบรอน จากแร่โบไรท์ ด้วยการตรวจสอบ
http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/2040/borax-%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B9%8C
แม้จะระวังอย่างดี แต่สุดท้ายก็ลื่นล้มอยู่ดี แล้วจะเครียดกับมันไปทำไมเล่า
https://interestingengineering.com/welding-flux-a-shielding-agent-between-two-materials
ฟลัค 4 ชนิด ที่ใช้แทนบอแรค
เกร็นโดนกระบองเพรชกลมๆแทง แล้วให้เฟียดึงออก เจ็บจนต้องกลับบ้าน
จาน่าที่ชอบน้ำผึ้งมากไม่อาจไปเก็บน้ำผึ้งใด้ เกร็นก็เลย หาชันโรงมาให้จาน่าเลี้ยง ควบคุ๋กับปลูกต้นไม้ให้มันผสมเกษร (ผึ้งไร้เหล็กใน)
คำถามแรกที่เปลี่ยนชีวิตตัวเอง คืออะไร
(เกร็นพูดกับเฟียว่ามากับฉันสิ ฉันจะพาไปหา ไอ้สิ่งที่เรียกว่าปรัญชาน่ะ มาดูกันซิว่า ในต่างโลกนี้ ปรัญชามันจะยังคงเป็นปรัชญาใหม)
เกร็นบอกเฟียว่า ฉันเกลียดธุรกิจน่ะ เพราะธุรกิจนั้นให้คุณค่ากับสิ่งที่แตกต่างสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำ ที่ไม่มีสิ่งใดถูกใด้ในทุกสถานที่หรือผิดในทุกสถานที่ แต่วิทยาศาสตร์นั้น เราค้นหาคุณค่าของความจริงด้วยการทดลองและการลองผิดลองถูกในแบบที่แตกต่างมากเท่าที่จะมากใด้ เพื่อค้นหาสิ่งที่เป็นจริงในทุกสถานที่
ฉันเกลียดสิ่งที่เป็นจริงแค่เพียงบางที่
ธุรกิจ = การแสวงหาคุณค่าในสิ่งที่แตกต่างเพื่อให้เกิดความเป็นจริงอันนำมาซึ่งรูปธรรมกำไล โดยที่ความเป็นจริงเหล่านั้นไม่ใช่ความเป็นจริงที่คงอยู่ไปตามกาลเวลาและเป็นจริงใด้ในทุกที่
วิทยาศาสตร์ = การแสวงหาคุณค่าในความเป็นจริงด้วยวิธีที่แตกต่างกัน อันนำมาซึ่งนามธรรมความรู้ และคำตอบของธรรมชาติ โดยที่ความเป็นจริงเหล่านั้นจะเป็นจริงในทุกๆที่แม้การเวลาจะผ่านไป หรือเรียกอีกอย่างนึงว่า ความเป็นจริงที่แท้จริง
ค้นหา ความเป็นจริงของการตัดสินใจของมนุษย์
เกร็นเล่าว่า ชีวิตนั้นเหมือนกับป๊อบคอน พวกเราเกิดมาด้วยกลไกลอะไรบางอย่าง ทุกคนล้วนเติบโตและเปอร์เปือนไปด้วยคาราเมล มากน้อยแตกต่างกันไป แต่ไม่มีใครเลยที่ไม่เปราะคาราเมล
เกร็นบอกเฟียว่า พระเจ้าของฉัน คือเหล็ก เฟียถามว่าทำไมละ เนื้อหนังของเรา เกิดขึ้นมาเมื่อ1360ล้านปีก่อน เกร็นบอกว่าพวกเราเกิดมาจากฝุ่นของดวงดาว จากการระเบิดซุบเปอร์โนว่า เพราะโลหะหนักเช่นเหล็ก เพราะมันมีคุณสมบัติพิเศษ พวกเรานั้นเกิดมาจากจุดจบ จุดเริ่มต้นของบางสิ่งก็เกิดมาจากจุดจบของบางสิ่งเรื่อยมา
สารคดีท่องดาราจักร ตอน 2
มนุษย์เราเลือกจุดยืนของตัวเองมาจากอารมในอดีต จุดยืนของเหตุผลมาจากอารมในอดีต
ดดดดดดด
การโต้วาทีของคนสองคน ที่ปราศจากเครื่องวัด เรื่องเหตุผลและอารม หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ ฝ่ายนั้นจะกลายเป็น อารม และอีกฝ่ายจะกลายเป็น เหตุผล
หากปราศจากเครื่องมือวัด อารมและเหตุผลล้วนเป็นหนึ่งเดียวกันโดยปราศจากต้นตอ
หากสิ่งที่เราต้องการไม่มากนักในระบบนั้นจะเพิ่มมากขึ้น เท่ากับว่า ความต้องการทั้งหมดของเราในระบบก็เพิ่มมากขึ้นตาม = ระบบนั้นดีขึ้น ในมุมมองของตัวเอง
เขียนออกมาโดยยึดถือในตรรกะเหตุผล
เขียนออกมาโดยยึดถือตัวเองเป็นหลัก
ถ้าภาพมันจะช่วยเพิ่มอัดรสในการเล่าเรื่อง มันก็ควรจะมี
ไล่ฆ่ายุง โดนพิศูจน์ทฤษฏี กำหมัดห่างจากยุง 2 นิ้วแล้วต่อยสุดแรง ยุงจะหนีไม่ทัน แต่ยุงหนีทัน
ทำมุ้งใว้แต่ไม่ใด้เอาใว้กันยุง แต่เป็นมุ้งล่อยุงให้เข้ามาเยอะๆแล้วฆ่าทีละตัวแบบสังหารหมู่
ปืนจุกน้ำปลาแช่เยี่ยว ที่เกร็นถือไปช่วยน้องหมาสีขาว(เจ้าดำ) คนร้ายบอกว่า ถ้าไม่หยุดจะทำไม เกร็นบอกฉันจะยิง เกร็นยกปืนออกมาขู่ คนร้ายหัวเราะก๊าก เม่งจะเอาปืนจุกน้ำปลามายิงกุหวะ 5555+ แล้วขณะที่หัวเราะ ก็โดนปืนจุกน้ำปลายิงเข้าปาก แล้วเกร็นก็บัฟว่า สารพิษxxxxxxx เริ่มแรกจะออกริดทำให้หน้ามืดหายใจติดคัด แต่จะออกริดจริงๆเมื่อเข้าสู่ระบบย่อยอาหารและถูกดูดซับที่ลำใส้ มันอันตรายกว่าxxxx 200 เท่า หากไม่ใด้รับยาแก้พิษ นายจะค่อยๆพิการ ยาแก้พิษต้องให้เป็นระยะเวลา ติดต่อกัน 7 วัน โจรไม่เชื่อ ลูกน้องโจร2คนเลยเข้ามาจะต่อยเกร็น ส่วนไอ้โจรคนนั้นที่กินเข้าไปเริ่มหายใจติดขัด จริงๆแล้วโดนยา K เข้าไป
ในวันหนึ่งเกร็นค้นพบว่าตุ๊กแกมันมาร้องไกล้ๆรถตัวเอง เลยค้นหาว่าแกร้องเพราะอะไรในเนต แล้วค้นพบว่า ในเนตรับซื้อตุ๊กแกตัวใหญ่ ให้ 6ล้านดอลล่า เลยออกไปจับดู ฉันมันใจมากว่าเสียงดังแบบนี้ตัวใหญ่แน่ วะห๊าา เกร็นตั้งใจขุนให้มันตัวใหญ่ๆ เกร็นเชื่อว่าหากมันใด้รับสารอาหารที่ดีพอ ตุ๊กแกที่ตัวใหญ่เองโดยธรรมชาติ มันต้องพิเศษแน่ๆ (รออัลมาเจอ)
ยุงเยอะจัดเลยเอาจิ๊กจกมาปล่อยใว้เต็มบ้าน แล้วหัดเดาะลิ้นเลียนเสียงจิ้งจก (รออัลมาเจอ)
เปิดเรื่องมาเริ่มที่วีรกรรมแปลกๆของเกร็น ช่วยเจ้าขาว ช่วยคนร้านสะดวกซื้อ ฯลฯ
มีสนุน 3 คน จับเสี้ยมสอนให้ไม่ไปรังแกคนที่อ่อนแอกว่า จนเชื่องแล้วปล่อยไป
ออกไปหน้ามหาลัยเปิดรนขายทุกอย่างที่อยากรู้ จะเป็นข้อสอบ ฯลฯ มนุษย์ต่างดาว ขายหมด
เกร็นเอาคอมพิวเตอร์ของพ่อและที่ทำงานของตนเอง มาใว้ใต้บ้านของอัลที่มีเครื่องปั่นไฟและไฟสำรอง
เปิดเรื่องว่าอัลที่อยู่อเมริกา ถูกมอบหมายงานให้ไปจับตาดูเกร็นโดยที่เธอไม่แกะซองประวัติของเป้าหมายเลยแม้แต่น้อย เพราะเธอรู้อยู่แล้ว
กลับมาบ้านตัวเองก็คิดถึงเกร็นก่อนเลย พอเข้าบ้านพบว่าบ้านถูกบุกรุก
เกร็นก็พบว่ามีคนบุกรุกบ้านตัวเอง อัลก็พบว่ามีคนบุกรุกบ้านตัวเอง
สู้กันในที่มืด อัลทำให้เกร็นตกใจหลายช๊อต
เกร็นพลาดท่า
อัลเห็นหน้าเกร็นว่าคือเกร็น อัลตกใจ
เกร็นใช้จังหวะนั้นช๊อตไฟฟ้าใส่จนอัลสลบ แล้วพบว่า อ้าวนี่คืออัล
อัลตื่นมาถามเกร็นว่า นายทำอะไรฉัน
เกร็นบอกว่าฉันปล้ำเธอ
อัลโมโหแล้วบอกว่า ห๊าาา ฉันไม่เชื่อว่านายจะเป็นคนแบบนี้ แล้วอัลก็พยายามสำรวจตัวเอง
เกร็นบอกว่า ฉันก็ไม่รู้หรอกน่ะว่าเธอคิดว่าฉันเป็นคนแบบใหน แต่ต่อให้ฉันบอกไปว่าไม่ใด้ทำอะไร เธอก็คงไม่เชื่อฉันจนต้องสำรวจตัวเองอยู่ดี
เกร็นยังบอกต่ออีกว่า ที่ทำแบบนี้ก็เพราะว่า 5ปีแล้วนะที่เราไม่ใด้เจอกัน ฉันอยากรู้ว่าเธอเปลี่ยนไปแค่ใหน และฉันก็รู้ว่าการใช้อารมของเธอมันไม่เปลี่ยนไปเลย
อัลก็วีนใส่ ไอ้บ้านายก็พอกัล ชอบทำอะไรเข้าใจยากไม่เป็นรูปธรรมเหมือนเดิม วนเวียนอยู๋กับนามธรรมบ๊องๆของนายนั่นแหละ นายคิดว่าคนที่เค้าพยายามจะทำความเข้าใจนายมาตลอด จนคิดว่าเข้าใจนายใด้ดีในระดับนึงแล้ว แต่กลับพบว่า การที่คิดว่าเข้าใจนายดีแล้ว มันกลับกลายเป็็นยิ่งไม่เข้าใจนายขึ้นกว่าเดิม มันรู้สึกแย่และน่าสงสารแค่ใหน
เกร็นบอก หนึ่งในนั้นก็คือเธอสิน่ะ คนที่พยามทำความเข้าใจฉัน
ฉันเองก็เหมือนกัน ในตอนนั้นน่ะ ตอนที่คิดว่าเธอนี่แหละคือคนที่เข้าใจฉันที่สุด แล้วกลับพบว่าเธอไม่ใด้เข้าใจฉันจากตัวตนจริงๆของเธอ แต่มันเป็นตัวตนที่เธอสร้างขึ้นมามาจากความพยายาม ฉันถึงกับรู้สึกแย่เลยล่ะ รู้สึกแย่ที่ทำให้เธอต้องเป็นแบบนั้นโดยที่ฉันไม่รู้ตัว
ฉากคุยกับอัล 2 คนตอนกลางคืน
เกร็นบอกอัลว่า อัลฉันดีใจนะที่ใด้เจอกับเธออีกแล้วยิ้ม
อัลบอกว่า ว่ามาสิ เกร็นบอกว่า มนุษย์ก็เหมือนป๊อปคอนในโรงหนัง แล้วหลังจากนั้นฉันก็ไม่ใด้ดูหนังเลย เอาแต่เถียงกับนาย
เกร็นก็บอกว่า เห้อ ฉันไม่น่าบอกความฝันฉันให้เธอฟังเลย
อัลบอกก็ดีแล้วนินั้นเป็นสิ่งแรกที่ทำให้ฉันเข้าใจตัวนายใด้ง่ายขึ้นละน๊ะ หรือจริงๆแล้ว บางที คงมีแค่สิ่งเดียวก็ใด้ที่ฉันเข้าใจ นั้นก็คือฝันของนาย
ความฝันของเกร็นคือ อยากมีเซ็กกับสมองครับ แต่ไม่ใช่เซ็กที่เป็นรูปธรรมหรอกน่ะ เป็นเซ็กในนามธรรม สภาวะที่จินตนาการของคนสองคนสามารถสอดคล้องและเข้าใจกันใด้ราวกับเกี่ยวรัดกันเป็นเกลี้ยวราวแน่นเสมือนเป็นสิ่งเดียวกัน และการที่คนสองคนจะเข้าสู่สภาวะนั้นใด้ มันไม่ใด้เกิดขึ้นกับใครก็ใด้ มันยากยิ่งกว่าเซ็กในนามธรรม
ที่ร้านสะดวกซื้อ เกร็นเคยเมินเฉยคนที่ขโมยสินค้า และทำให้ลูกจ้างที่ทำงานโดนดุและโดนหักเงินเดือน
เธอรักหมาเลยเลี้ยงน้องหมาใว้หน้าร้าน เอาเศษขยะที่คนทิ้งให้มันกิน
ฉากเกร็นโยนลูกชิ้นให้หมาตัวแรก และมันมองหมาอีกตัว เกร็นเลยโยนลูกชิ้นให้หมาอีกตัว แต่ดันไปโดนกางเกงของคนอื่น
เกร็นโดนซ้อมข้างร้านแต่ทันทีที่กำลังจะโดนถีบเกร็นก็กระเด็นเองซะก่อน เกร็นบอกว่า การโดนซ้อมยังไงไม่ให้เจ็บตัวเนี่ย ทำยากกว่า
เกร็นขโมยเงินของหัวหน้ามันมา และส่วนนึงเอาไปใส่ให้ลูกน้อง
สาวที่ร้านสะดวกซื้อมาช่วยโทรแจ้งตำรวจ พวกนั้นก็หนีไป เป็นพวกที่มาขอซื้อที่ เลยส่งคนมาขโมยของให้อยู่ไม่ใด้จะใด้ขายที่ เพื่อใช้หนี้
หัวหน้าที่ควักเงินจ่ายค่าบาร์ พอควักแล้วไม่มีเงิน เลยไปตามลูกน้องอีกคนและสงสัยว่าเงินหายไปใหน ไปพบลูกน้องคนนั้นกำลังใช้เงินตัวเองอยู่
เข้าใจว่าลูกน้องขโมยไป
เกร็นเอาเงินทั้งหมดมอบแบบใส่ซองให้เจ้าของร้าน โดยบอกว่าให้เธอเลี้ยงน้องหมาใว้ต่อไป และให้เงินเธอเอาไปใช้หนี้จะใด้มีร้านเป็นของตัวเอง (ใช้หนี้แบบผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม)
วันรุ่งขึ้นมากล่องใส่อาหารหมา ฯลฯ มาหน้าร้าน บอกว่าให้เธอดูแลพวกมัน
เกร็นบอกว่า มนุษย์เราเมื่อต้องเล่าตัวตนของตัวเองให้คนอื่นฟังพวกเขาเลือกที่จะเล่าเรื่องที่ทำให้เราดูดี แม้ว่าเรื่องนั้นจะมีมุมมองที่มันดูไม่ดีอยู่ก็ตาม
สุดท้ายหนี้สิ้นที่เกร็นจ่ายไปให้ร้านสะดวกซื้อ ทำให้เหลือเงินที่ปล้นมา แค่ 100 บาท เกร็นเลยพูดกับตัวเองว่า 100 เดียวจะซื้อความสุขให้กับมนุษย์ใด้ยังไงน่ะ ความสุขสำหลับมนุษย์แล้ว 100 เดียวมันจะซื้อใด้แค่ใหนกันเชียว ก็คงไม่มากมายนัก เกร็นเลยเอา 100 นึงซื้ออาหารที่เจ้าขาวอยากกินที่สุดให้เจ้าขาว
สิ่งที่มนุษย์เรามองเห็นต้นไม้ในอันดับแรก ก็คือ เปลือกของมัน เราเห็นใบของมัน เห็นกิ้งก้านแผไกลกว้างใหญ่ เปรียบเหมือน สิ่งที่เขาสร้างขึ้นมา นอกจากสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมาและเปลือกแล้ว เราไม่อาจจะมองเห็นแก่นข้างในของเค้าใด้ แต่หากเราพิจรณา กลไกล ฯลฯ อย่างละเอียดถี่ท้วน เราก็อาจจะ แอสซูมใด้ว่าแก่นของเค้าเป็นเช่นไร มนุษย์เราไม่เหมือนต้นไม้ ที่แค่อยากรู้แก่นของมันก็ผ่าดูเอง หากแต่ไม่มีใครผ่าออกมาดูใด้
ฉากเกร็นใช้สลีฟเปอโฮล็อคคอคนหัวหน้าให้หลับ ลูกน้องที่โดนมัดอยู่เลยคลานมากัดก้นเกร็นว่าใครจะยอมก่อนกัน หัวหน้าหลับก่อนแล้วไปเล่นงานลูกน้องหรือ เกร็นจะยอมก่อน(ฉากตีกับโจรที่เมืองแรก)
ความบริสุทธิคือความงดงามในความตั้งใจที่ออกมาจากใจ
เกร็นไขความลับของลาวาสีฟ้าซึ่งเกิดจากก๊าซกำมะธัน และสีของลาวายังบ่งบอกพลังงานของภูเขาไฟนี้อีก หากเป็นสีส้ม = แรงดันและพลังงานของภูเขาไฟต่ำมาก จนไม่พ่นกำมะธันออกมา หากเป็นสีเขียว แรงดันปานกลาง หากเป็นสีฟ้า แรงดันสูง
https://www.facebook.com/watch/?v=739229543345485
ฉากเกร็นไปทำข้อตกลงเรื่องงานกับพวกนักฆ่า แล้วนักฆ่าอยากดูใจของเกร็นเลยเอาปืนจ่อหัว
เกร็นบอกว่า อย่าเอาสิ่งที่ไม่อยากใด้รับจากผู้อื่น ไปมอบให้กับผู้อื่น หากใครมอบสิ่งใดให้กับเรา เราจงมอบสิ่งที่มากกว่านั้น 3.14 เท่าให้กับเขา
triboluminiscent เกร็นค้นพบแร่ที่จะปล่อยคลื่นอบิสออกมาจากการทุบมันแรงๆ
https://www.facebook.com/watch/?v=420575275793095
ที่ใต้อบิสเกร็นพบว่าผู้คนชอบมาเล่นเกมแปลกๆกัน แต่มันกลับเป็นเรื่องจริงขึ้นมา
หากต้องการสนิดกับเพื่อนเรามากกว่าเพื่อนเท่าไร หมุดของเราก็จะสร้างความขัดแย้งกับเพื่อนคนสำคัญของเราขึ้น เพราะเราไม่อาจจะเข้าใจและสื่อสารกันใด้อย่าง 100 เปอ
ยิ่งอยากเข้าใกล้ยิ่งขัดแย้งและถอยห่าง เพราะมนุษย์ไม่อาจจะเข้าใจกันใด้อย่าง 100เปอ
ยิ่งรู้มากเท่าไร คุณก็ยิ่งไม่รู้มากเท่านั้น
เกร็นเป้ฯคนที่จะหาความรู้สึกของตัวเองโดยใช้ความรู้สึกของคนอื่น
เกร็นบอกว่าหากอยากจะเข้าถึงปรัญชาน่ะหรอ อย่างแรกที่ต้องทำเลยก็คือ มองความชั่วให้เป็น 0
คนเราสร้างการ์ดขึ้นมาก็เพื่อต้องการคนที่จะเข้าใจการ์ดเหล่านั้นใด้โดยที่ไม่ต้องเปิดมัน และนำทางตัวตนของเขาไปสู่โลกนามธรรมอีกใบของตัวเอง เพื่อที่ตัวของเราเองจะใด้ไม่รู้สึกว่าอยู่คนเดียวอย่างว่างเปล่า อันนำไปสู่การกำเนิดของความสุขที่แท้จรึงขึ้นมาจากภายในตัวตนของเราที่อู๋ในนามธรรม และความสุขนั้นส่งผลไปถึงตัวตนแห่งรูปธรรมของเรา
ผู้คนแม้จะใกล้กันแต่ก็ล้วนแต่โดดเดี่ยว เพราะโลกนี้มันกว้างใหญ่เกินไป
เกร็นบอกว่า ชายคนนึงพูดกับหญิงสาวว่า หากเรารู้ว่าปลายทางพวกเราจะมาบรรจบกันอย่างแน่นอน สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือระหว่างทาง ฉันจะทำทุกวิธีทางเพื่อทำให้ระหว่างทางมันมีคุณค่ามากที่สุด เพื่อที่ปลายทางจะใด้สำคัญที่สุด ผู้หญิงก็บอกว่า ในโลกของความจริง่น่ะมันเป็นไปใด้ใด้หรอกน่ะ ที่คนเราจะอยู่ด้วยกันด้วยความเชื่อแบบนั้น ฝ่ายชายก็บอก มันไม่ใด้เกี่ยวกับโลกของเราเลยว่ามันจะเป็นอย่างไร ทำใด้หรือไม่ดี มันเกี่ยวกับเธอที่ว่า เธอจะสามารถทำให้ฉันเชื่อในปลายทางว่าท้ายที่สุดแล้วเราก็จะมาบรรจบกันใด้ใหม แล้วเราก็จะไม่ต้องสนใจปลายทางของกันและกัน และใช้ชีวิตระหว่างทางไปด้วยกันอย่างมีคุณค่าเพื่อปลายทางที่มีคุณค่ายิ่งกว่า แล้วเธอละ หากฉันพูดถึงขนาดนี้แล้ว เธอสามารถเชื่อในปลายทางของพวกเราใด้หรือไม่
ฉากเกร็นบอกว่า มีที่ๆ หรือบ้านหรือเรือนหอที่ ช และ หญิง จะไม่ใด้ มีรูปธรรมร่วมกัน และมีกำแพงที่เอาใว้กั้นนามธรรมเพื่ออาศัยอยู่ด้วยกัน ห้องนอน ห้องครัว ห้องนั่งเล่น เราจะมองเห็นกันใด้ และคุยกันใด้แค่นั้น และส่งของให้กันใด้หรือปิดม่านของเราใด้
https://daisukijdramaplus.com/dramas/sensei-wo-kesu-houteishiki-thaisub/
ฉากตอนเข้าเรียนของเกร็นและใด้เป็นครู ไม่ใด้เป็นนักเรียน เกร็นบอกว่าไอ้คนที่คิดว่าตัวเองฉลาดจึงตัดสินใจทำอะไรบางอย่างน่ะมันโง่ การตัดสินใจในการทำอะไรบางอย่างน่ะมันต้องไม่ใด้มาจากการที่คิดว่าเราฉลาด แต่มันต้องมาจากความโง่เขลาที่เรารู้จักและเข้าถึงใด้อย่างแท้จริงใด้เพียงแค่ตัวตนของตัวเอง จึงจะเรียกว่าฉลาดใด้ (การตัดสินใจทำอะไรไปโดยที่ไม่รู้จักว่าตนเองต้องการอะไรอย่างแท้จริงน่ะ มันคือความโง่) เธอลองคิดดูสิ เธอทำสิ่งที่คิดว่ามันดูฉลาดไปเพื่ออะไร มันคือสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆงั้นหรือ การทำร้ายผู้อื่น เพื่อหรือผู้ที่หวังดีกับเธอ หรือผู้ที่ไม่เคยทำร้ายเธอมาก่อน แล้วเธอกลับรู้สึกดีขึ้นมาใด้ เธอไม่คิดบ้างหรอว่ากลไกลที่ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาใด้นั้นน่ะ มันเกิดขึ้นอย่างน่าสงสัย แล้วเธอจะยังปล่อยให้กลไกลที่น่าสงสัยเหล่านั้น มันมาชักจูงเธอโดยที่เธอไม่ลองขบคิคดเพื่อหาคำตอบของกลไกลเหล่านั้นดู ว่าสิ่งนั้นจริงๆแล้วเธอต้องการหรือไม่ หากเธอไม่เคยิคดถึงจุดนั้นเลยแล้วยังปล่อยให้กลไกลมันชักนำเธอไปเรื่อยๆ เธอคือคนโง่
เรื่องของคนชื่อเปาที่ชอบขิง ขิง core 18 ขิง ของแรร์แล้วไปลบตัว พี่วิน บอกว่า ช่วยสตรีมให้กุดูหน่อยครับ
หากเราต้องขอบคุณในสิ่งไม่สำคัญเพราะมันทำให้เราใด้ค้นพบสิ่งสำคัญ สิ่งใดคือสิ่งสำคัญกันแน่ ระหว่าง สิ่งไม่สำคัญกับสิ่งสำคัญ
ความรู้สึกที่ใด้มาจากความคิด กับ ความรู้สึกที่ใด้มาจากการรับรู้การกระทำของผู้อื่น สิ่งใดสำคัญกว่ากัน และเราให้น้ำหนักสิ่งใดเท่าไร หากเต็ม 100 คะแนน
ตัวเราให้ 20รูปธรรม 80นามธรรม
เกิดคำถามต่อ สิ่งใดสำคัญกับเราที่สุดกันแน่ ระหว่าง 20 กับ 80
คำตอบของเราคือ บางที่ไอ้สิ่งที่ไม่สำคัญเนี่ยแหละ อาจจะสำคัญที่สุด เพราะมันทำให้เราใด้ค้นพบสิ่งสำคัญ
ระหว่าง เพราะเราเจอสิ่งสำคัญ เราจึงค้นพบสิ่งไม่สำคัญ
หรือ เพราะเราค้นหาในสิ่งไม่สำคัญ เราจึงเจอสิ่งสำคัญ
บางครั้งการทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยคิดจะทำมาก่อน มันก็สามารถทำให้เรารู้สึกดีกับและไม่ดีกับตัวเองไปใด้ในเวลาเดียวกัน
ความที่มองเห็นทั้งสองด้านและรู้สึกมีความสุขไปกับมันใด้ทั้ง 80 20 และ 20 80 ต่างหากละ มันคือการค้นพบสิ่งสำคัญที่แท้จริง ควอนตั้มยังไงละ น้องเฟี้ยวเจอควอนตั้มอีกแล้ว
เกร็นให้เฟียไปขายปลาหมึก เฟียบอกว่าเธอให้หมาหมดเลยไม่ใด้กำไล เกร็นบอกว่าไม่เป็นไร เพราะฉันไม่ใด้ต้องการให้เธอไปขายเพื่อให้ใด้กำไลอยู่แล้ว กำไลที่ใด้มันไม่ใช่กำไลจากการขายปลาหมึก แต่เป็นการทำให้คนอื่นรู้จักต่างหากคือกำไลที่แท้จริง ณ ตอนนี้คนอื่นก็น่าจะรู้จักเธอกันหมดแล้ว
การที่มีคนรู้จักและเข้าถึงใด้ มันคือกำไลของเราต่างหาก และตัวเธอที่มีคนรู้จักมากเท่าไร ตัวเธอก็ยิ่งมีมูลค่าราคา เพิ่งขึ้นมากเท่านั้น และมูลค่าราคานี้ มันสามารถเปลี่ยนเป็นอำนาจการต่อรองใด้อีกด้วย เกร็นบอกว่า แต่มันก็มีข้อเสียที่ย้อนแย้งอยู่ ตราบใดที่มูลค่าของเธอเพิ่มมากขึ้น คุณค่าของตัวตนที่ตัวเองให้กับตัวเองก็จะยิ่งลดลง เพราะมูลค่าของเธอจะถูกกำหนดโดย ราคาของผู้อื่น เสียงส่วนมากของผู้อื่นจึงเป็นมูลค่าหลักของตัวเธอ โดยที่เธอไม่สามารถให้ค่ากับตัวเองใด้อย่างเท่าเดิม จนตัวเธอต้องติดอยู่ใน กระแสน้ำวนของสังคม เธอจะไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองใด้เช่นก่อน การทำผิดพลาด แม้เพียงเล็กน้อย ก็จะสร้างผลกระทบกับเธอต่างๆนาๆ
เกร็นเสนอให้เฟีย ทำทุกอย่างโดยไม่สนสังคม เป็นตัวของตัวเอง ดึงแค่ลูกค้า underrate ไม่ใช่ average
เกร็นบอกเฟียว่า เธอควรทำอะไรก็ใด้ที่..ในอนาคตเธอจะสะบายใจที่สุดให้มากกว่าที่เธอจะสะบายใจในตอนนี้
เกร็นบอกกับอารัคเน่ในเรื่อง(หมอมอนสเตอร์ว่า) เธอเคยโดนคนอื่นหาว่าเป็นคนไร้หัวใจใหม อารัคเน่ตอบว่าใช่ เกร็นบอกว่า เธอน่ะไม่ใช่คนไร้หัวใจหรอก (เธอแค่ใช้หัวใจของเธอมอบให้เพียงแค่สิ่งที่เธอรักจนไม่เหลือให้สิ่งอื่น) แค่หัวใจของเธอมันถูกมอบให้สิ่งที่เธอรักจนไม่เหลือที่ว่างให้กับสิ่งอื่นใด(งานอดิเรกของเธอ) เธอรู้ใหมว่า สิ่งที่มีค่าที่สุดของเธอคืออะไร เกร็นบอกว่า น้ำตาของเธอไงละ น้ำตาที่ร้ำไห้ออกมาเพราะใด้พบกับสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าน้ำหนักของหัวใจเธอ สิ่งมีค่าของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละคนมันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่มีทางให้ใครใด้ง่ายๆ มันจะมีสิ่งใดมีค่ามากไปกว่า น้ำตาของคนไร้หัวใจ น้ำใจของคนตะหนี่
มนุษย์เรานั้นแม้ว่าจะดูว่างเปล่าแต่ภายในจิตใจก็เต็มไปด้วยตัวตนแห่งความปรารถนามากมาย
ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันเคยรักใครหรือไม่ หากแต่ฉันไม่เคยมีความรัก ก็คงเป็นเพราะว่ายังไม่มีสิ่งใดสำคัญพอจะให้ฉันรัก
เกร็นบอกต่ออีกว่า พวกมันมองเราเหมือนกับหมา
หากเราเป็นสุนัขที่เดินเข้าไปในงานเลี้ยงรื่นเริง เพื่อต้องการความเอ็นดูและเอาใจใส่ เราจะรู้ใด้อย่างไรว่ามือของพวกมันที่ลูบไร้ไปมาบนตัวเราด้วยความเอ็นดู ไม่ใด้ถูกกระทำเพียงเพราะหาที่เช็ดนิ้วมือที่เปื้อนเค้กของพวกมัน (แล้วเกร็นก็คุยกับเฟีย เกร็นบอกเฟียว่า ผิด เรามาเป็นหมาที่รู้ว่าตนเองจะเปื้อนเค้กของพวกมันกันเถอะ
ใช้ชีวิตให้สมกับเป็นสิ่งมีชีวิตหน่อยเซ๊ะ
ครึ่งนึงของมนุษย์พวกเขาชอบที่จะลิ้มรสความทุกข์ของผู้อื่นน่ะ หากภาพที่อยู่ตรงหน้ามันไม่เป็นเรื่องที่ทำให้พวกเขาสะเทือนใจใด้ พวกเขาจะไม่อาจลุกออกจากเก้าอี้ผู้ชม นักจิตวิทยากล่าวใว้ว่า มนุษย์เราเฝ้าสังเกตุความทุกข์ของผู้อื่นก็เพื่อการป้องกันและหลีกหนีตัวเองจากความทุกข์ พวกเขาสร้างภูมิต้านทานให้กับตัวเองในการเจอกับความทุกข์ของผู้อื่น และพวกเขายังทำให้ตัวเองเชื่อว่า เรื่องร้ายๆที่เกิดจะขึ้นมันจะไม่เกิดกับพวกเขา จะต้องไม่ใช่ตัวเขา ที่ถูกผู้คนมุงดูเช่นนั้น
แต่จริงๆแล้วเธออย่าไปเชื่อจิตวิทยามากนัก เพราะมนุษย์นั้น ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ มีเหตุผลตายตัว หรือไร้เหตุผลตายตัว หากมีเหตุผลในทุกอย่างก็ไม่ใช่มนุษย์ หากไร้เหตุผลในทุกอย่างก็ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต มนุษย์ฺเราอยู่ตรงกลางระหว่างเหตุและผล เช่นเดียวกับความจริง และมายา เฟียที่ฉันพูดให้เธอฟังก็เพราะ บางทีมันอาจจะทำให้เธอเข้าใจเหตุผล และเข้าใจความไร้เหตุผลของตัวเองขึ้นมาบ้างก็ใด้ ว่าชีวิตนะบางครั้งมันถ้ามันจะถูกใช้อย่างไร้เหตุผลบ้าง มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดหากเธอมีความสุขกับมัน ฉันกลัวว่าเธอจะเป็นแบบฉัน โยนความรู้สึกของตัวเองทิ้งไป และทำทุกอย่างด้วยเหตุผล กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็สายไปแล้วว่าความสุขของความรู้สึกตัวเองมันคืออะไร เพราะงั้นความรู้สึกของเธอนั้นสำคัญกว่า เหตุผล นึกถึงความรู้สึกของเธอ แล้วค่อยสร้างเหตุผลให้กับมันก็ใด้
เฟียเธอคิดว่า มนุษย์เรานั้น เหตุผลกับความรู้สึกอะไรมาก่อนกัน เราสร้างเหตุผลก่อน แล้วจึงหาความรู้สึกมาแทน หรือสร้างความรู้สึกก่อนแล้วจึงหาเหตุผลมาแทนกันละ
เฟียบอกว่า อารมน่ะ มาก่อนเหตุผล เกร็นบอกว่าใช่แล้วละเฟีย ในการคิดสิ่งต่างๆที่ซับซ้อน เรามักละเลยเหตุผลของมันเสมอ แต่นั้นไม่ใช่เพราะเราเลือกอารมเป็ฯที่ตั้งแต่เป็นเพราะ ในขั้นตอนแรกเราไม่อาจจะไปถึงเหตุผลเหล่านั้นใด้ นักคณิตศาสตร์ใด้คำนวณสมการของเค้าอย่างถูกต้องแม่นยำ และเค้าเชื่อว่า นี่คือความจริงและเหตุผลของเค้า แต่เมื่อมอบมันให้กับคนอื่นดู เขากลับบอกว่ามันผิด คำถาม ใครคือคนที่ถูก
โลกนี้จะไม่อาจเข้าถึงความจริง หากไร้ซึ่งเครื่องมือที่ใช้วัดความจริงของธรรมชาติ
อะไรเอ่ย ลบ1 แล้วปล่อยให้เวลาผ่านไป แล้ว บวก1 ผลลัพท์กลับไม่เท่าเดิม ความสุขของมนุษย์ยังไงละ (ขโมยบางสิ่งไปจากพวกมัน และทำให้พวกมันต้องการสิ่งที่หายไป และเมื่อมันต้องการสิ่งที่หายไปนั้นเป็นอย่างมาก เมื่อมันเจอ สิ่งนั้นคือ ความสุข) ความรู้สึกของมนุษย์นั้นแปลก เราอาจจะคาดคะแนนความรู้สึกของมันใด้ แต่เราไม่อาจคำนวณใด้ ความร้สึกของมนุษย์ทั้งโลเล และเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาราวสิ่งแตกหักที่กำลังซ่อมตัวเองเมื่อมันแตก แต่เพราะความที่ไม่อาจคำนวณใด้แต่รับรู้ใด้นี่แหละ จึงทำให้เรื่องราวของมันนั้น งดงาม แม้มนุษย์ที่เย็นชาที่สุดพวกนั้นยังชอบมองดูเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม เพราะพวกเขาต้องการใครซักคนที่มาทำให้หัวใจอันอ่อนนิ่มของพวกเขาใด้หัวเราะบ้าง
เห้อ ถึงนายจะเป็นลูกศิษ ก็ไม่ใด้หมายความว่านายจะกลายเป็นฉันหรอกนะ ลูกศิษนะมีใว้ใช้ความรู้ของอาจาร์ยเพื่อแสวงหาเส้นทางของตัวเอง (เกร็นก็เคยบอกเฟียเรื่องนี้ว่า ที่สอนไปไม่ใด้ต้องการให้เธอเป็นแบบฉัน แต่ต้องการให้เธอค้นหาทางออก)
คนดีทุกด้าน=โกรธไม่เป็น.
เจ็บปวยไม่เป็น.ร้องให้ไม่เป็น....ฯลฯ"
ฉากเกร็นพนันกับคนๆนึง ที่ไม่เชื่อว่าเกร็นจะมีความสามารถหรือไม่เชื่อในอะไรบางอย่าง เกร็นเลยสอนบทเรียนให้คนๆนั้น(เช่นเธอบอกว่าถ้านายถูกฉันจะยอมเปิดกระโปรง) แล้วบอกว่า สิ่งแรกที่มนุษย์ถูกหลอกตั้งแต่เกิดมานั้นก็คือ ความจริง มนุษย์เราต่างอุทิตตนเพื่อความจริงของตน และเชื่อว่ามันถูกต้องเสมอ และในท้ายที่สุดแล้วเราก็โดนมันหลอกไปตลอด จนกว่าเราจะรู้ว่าความไม่จริงก็เป็นส่วนนึงของความจริงในธรรมชาติ
ฉากเกร็นกัดหูผู้หญิงคนนึงที่เธอไม่อาจขัดขืนใด้เพราะแพ้อะไรบางอย่างเกร็น และเพื่อแกล้งเธอจนกว่าเพื่อนชายเค้าจะมา
เกร็นบอกว่าฉันไม่ชอบพวกเงินมาผ้าหลุด
เกร็นพูดถึงการฝอกเงิน ฝอกเงินด้วยตลาด ฟอกเงินผ่านล๊อตเตอรี่ โดยจะทำให้เงินกลายเป็นเงินบริสุทธิโดยการ ทำเหมือนแจกจ่ายเงิน ฯลฯ โดยเข้าเนื้อตัวเองบางส่วน
https://www.facebook.com/watch/?v=2905728883036797
ฉากเกร็นจับอุปกรสายลับ ของพวกโจร
https://www.facebook.com/watch/?v=302808927882263
ไม่ก็ใช้เสียเอง
วิทยาศาสตร์ คือการศึกษาอารมที่แน่นอนของธรรมชาติ
ศิลปะคือสิ่งที่ถ่ายทอดคุณค่าของอารมที่มีอยู่ในธรรมชาติ (มนุษยือยู่ภายใต้ธรรมชาติด้วยเช่นกัน) สิ่งที่มีคุณค่า มักมาพร้อมความงดงาม สำหรับเรื่องการเมืองการปกครองแล้ว ศิลปะในทางการเมืองแล้วมันมีใว้สร้างการขับเคลื่อนทางอารมแก่ผู้คน
ฉากเกร็นบอกเฟียว่า เฟียฉันไม่อยากให้เธอไปยุ่งเรื่องการเมืองเลย การไปยืนตรงกลางในสนามรบน่ะ มันมีแต่เสียกับเสีย แล้วแต่ละฝ่ายล้วนมีคำโกหกครึ่งเดียวเป็นของตนเอง พวกเขาจะล่อหลอกอารมของเธอ และจะทำให้เธอไปพัวพันเข้ากับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยไม่รู้ตัว
ฉากเกร็นบอกคนที่ใหว้วานให้เกร็นไปฆ่า(มอน/คนกลายเป็นมอน/พวกขุนนาง) เกร็นบอกว่าฉันทำไม่ใด้หรอก อีกฝ่ายถามว่าทำไม เกร็นบอก เพราะฉันยังเป็นมนุษย์ (เกร็นบอกเฟียว่า ถ้าเธอคิดว่าเธอเป็นสัตว์ประหลาดละก็ ฉันจะสอนให้เธอเป็นมนุษยืเอง) เฟียสงสัยความคิดของเกร็นที่ไม่เคยแคร์ใคร เป็นความคิดที่เลือดเย็น(ฆ่ามันสิ บลาๆ) แต่สุดท้ายเกร็นก็ไม่สามารถทำตามความคิดนั้นใด้ เพราะมนุษย์นั้นปากแข็งยังไงละ จิตใจนายมันอ่อนนิ่มจนต้องพูดอะไรแข็งๆออกมาใช่ใหม เฟียบอกเกร็น เกร็นบอกว่า ฉันให้ค่ากับผลประโยชน์ที่สูงที่สุดเสมอ แต่ก็คิดว่าตนเองจะทำใด้ พอเอาเข้าใจก็กลับทำไม่ใด้ ฉันไม่รู้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ บางทีสิ่งที่ฉันทำ ฉันอาจจะแค่ต้องการคนแบบเธอให้มาเข้าใจก็เป็นใด้
ฉากเกร็นให้เอาแพะลงไปล่อปลายักษในถ้ำ
ฉากเกร็นเล่นมายากลเกลือไม่มีวันหมด แบบในเฟสบุค
เมื่อไรก็ตามที่เราคิดว่าโลกนี้ควรมีแต่สีขาว เมื่อนั้นคุณคือความชั่วร้ายที่ยิ่งกว่าสีดำ (สีดำนั้นตรงไปตรงมา สกปรกเปรอะเปื้อน ในขณะที่สีขาวต้องซ่อนสีดำของตนเองเอาใว้)
การเมืองมันก็เหมือนกับระเบิดเวลา
บริหารด้วยสีขาวสนิด จะเกิดสีดำขึ้นในทุกหย่อมหญ้า เพราะ มนุษย์ไม่สามารถฉลาดพร้อมกันใด้ทั้งหมด ทุกคนล้วนมีความจริงและความต้องการเป็นของตัวเอง
หากบริหารด้วยสีดำ สีขาวจุดเล็กๆจะใช้เวลารวมตัวกันเพื่อทำลายสีดำ
หากบริหารด้วยสีเทา คุณจะใด้สีเทาขนาดใหญ่หลายสี ที่กลืนกินสีขาวและสีเทาที่เล็กกว่า รอวันที่สีเทาขนาดใหญ่ทั้งสอง จะกลืนกินกันเอง ราวกับระเบิดเวลา
ความรักมันไม่ผิด มันผิดคนคนใช้มัน
เธอจะยังมองไม่เห็นคุณค่ารอบตัว จนกว่าเธาจะเสียมันไปบางส่วนละนะ
ศิลปะที่ไม่อยู่ภายใต้อารมและกรอบของมนุษย์ แต่เป็นอารมของธรรมชาติ
หากมนุษย์คนนึงจะ0เสียสิ่งสำคัญของเขาไปโดยที่ไม่รู้สึกอะไรมันเป็นเพราะสิ่งสำคัญที่เสียไปนั้น มันแค่ยังสำคัญไม่พอ
มีแค่รอยยิ้มเท่านั้นแหละที่ฟรี!!! เสียงกรีดร้องในใจของทำคนอาชีพ
https://www.facebook.com/watch/?v=195873958623093
ฉากผัวเมียทะเลาะกันและไม่เข้าใจกัน เกร็นเลยให้ยัยหมาแต่งหน้าให้ เมียของเขาและเอาเมียเขาไปนั่งคุยกับผัวโดยที่ผัวไม่รู้ตัวและระบายความในใจออกมา
ฮ่าๆๆ แบบนั้นมันไม่มีใครทำกันหรอก พ่อเกร็นพูด
เกร็นพูดสวนพ่อว่า พ่อคิดว่า มนุษย์เราจะประสพความสเร็จใด้จากสิ่งใดมากกว่ากัน สิ่งที่ไม่มีคนทำ หรือ สิ่งที่มีแต่คนทำ
คนที่ยอมแพ้ไม่เป็นน่ะบางทีก็ฉลาดน้อยกว่าคนโง่ เฟียเธอจงแพ้ยังไงโดยที่ชนะซะ
ในการวางแผนน่ะ การเป็นคนโง่ที่ชาลฉลาด มักใด้ผลดีกว่า คนที่ฉลาดจนโง่
เกร็นขุดคอรันดั้มแล้วบอกว่า al o นั้น ทั้งๆที่มันมีอยู่เกลือนกลาด แต่กลับหายาก ความพิเสษนั้นซ่อนอยู่ในความธรรมดา
เกร็นบอกว่า นักปรัชญา คือผู้สร้างมุมมองที่มีสีสันในการมองความธรรมดาในธรรมชาติ
ฉากเกร็นโดนทิ้งใว้ใต้ดินคนเดียว โดยเป็นแผนของคนๆนึงที่มีอำนาจใน delver วางแผนปล่อยเกร็นทิ้งใว้ให้ตายเพราะต้องการแก้แค้น (terran สตาคราฟ)
การฆ่าคนมันง่ายกว่าการทำคนให้เป็นคน
ในพาท 2 โลกถูกรวมให้เป็นประเทศเดียวโดยไม่มีกำลังทหารและทุกอย่างถูกควบคุมโดย ควอนตั้มคอม เวอชั้น AI (ตอนหลังมีเหรียนบิทคอยของทุกคนที่มูลค่าของทุกคนจะขึ้นอยู่กับบิทคอยของตัวเอง)
มีผู้ที่ไม่ชอบมันอยู่ด้วยเพราะมันตีค่าของมนุษย์ เป็นตัวเลข ซึ่งถูกต้องสุดๆซะด้วย
หากจะสู้กับอำนาจ ก็ต้องใช้อำนาจที่ใกล้เคียงและแผนการทีดี
คนที่รังเกลีบดความทุกข์และสาปแช่งธรรมชาติ ไม่มีวันที่จะใด้พบกับความอบอุ่นที่ห่อหุ้มไปด้วยความงดงามอันแท้จริงของธรรมชาติ
สิ่งที่ฉันเกลียดมี 3 อย่าง ธุรกิจที่เป็นทาสของกำไล การปกครองที่มูมมาม และการต้องหลอกคนอื่นเพื่อหลอกคนอื่น
เกร็นพูดปั่นให้ ชายคนนึงที่เป็นตัวตั้นตัวตีของ ขุนนาง ที่ชอบใช้คำว่าลูกผู้ชาย ความกล้า ฯลฯ ไปท้าต่อยกับ ราชาของประเทศ แล้วพวก ขุนนางอีกหลายคน โดนตกเบ็ด และจัดงานประลองขึ้น จนแพ้ในที่สุด
ฉากตอนเด็กของเกร็นกับอัล ที่ไปติดในป่าด้วยกัน
พวกเกร็นและอัลพยายามหาที่พักในป่าและหาอาหาร ฯลฯ
เกร็นไปเอาลุกเสือมาเพื่อทดลองว่าแม่มันจะมาใหม ทำให้อัลโกรธมาก
พ่อแม่มันก็มาจริงด้วย เกร็นปล่อยมันไป อัลพบว่าเกร็นไปพบลูกเสือในป่ากำลังบาดเจ็บเลยเอามารักษา
ผจญภัยกันไปเกือบเดือน ไร้วี่แวว
อัลป่วยเป็นโรค
เกร็นเผาป่า จนไฟลามไปใกลหลายเอเคอร์
ทั้งคู่ถูกช่วย ทั้งคู่โดนโทษว่า ความสับเพล่า ทำให้เกิดไฟป่าในสถานอนุรัก เลยทั้งให้ทั้งคู่รอด เกร็นปฏิเสธบอกว่า เปล่า เกร็นนี่แหละเผาเองกับมือ (เพื่อช่วยอัล)
เกร็นโดนเอาเรื่องทางกฏหมายและโดนบลูลี่ ออกจาก โรงเรียน
ฉากเกร็นเดินผ่านไปเจอหมาเห่าแล้วเกร็นบอกให้มันหยุดเห่ามันก็ไม่ยอมหยุดเลยบอกหมาว่า เอาละตอนนี้ฉันใด้เตะแกกลิ้งไปแล้วในโลกซิมูเลชั่น แกมีโอากาศ 30เปอเซนที่จะหลบใด้ แล้วก็วิเคราะขาหมาและการเคลื่อนใหว จนเอาละ ในอนาคตที่ฉันเลือกจะเตะแก แกมีโอกาศจะโดนฉันเตะกลิ้งกว่า 95เปอเซน เพราะงั้นเลิกเห่าฉันใด้แล้ว ต่อให้แกตัวโตแค่ใหนกว่านี้ก็โดนฉันเตะอยู่ดี เพราะยังไงแกก็เป็นแค่หมา แล้วหมาก็ร้องหงิงหนีไป เพราะหมาตัวใหญ่ออกมาข้างหลังเกร็น เกร็นหันไปเห็นก็พบว่านี่ไม่ใช่หมาแล้ว โอกาศที่จะเตะมันใด้ = 0เปอ
เกร็นกับอัลหาไรทำกันในวันคริสมัส เกร็นบอก ฉันอยากให้คนบนโลกนี้หายไปซัก 3วัน แล้วทั้งคู่ก็ใช้จินตนาการ ซิมูเลชั่นกันว่า หากออกไปข้างนอกวันคริสมัส โดยที่มงไปทางใหนก็ไม่มีผู้คนเลย มันจะสวยแค่ใหน (ถ้าไม่มีไอ้หัวฟูยืนตรงนั้น วิวนี้คงจะสวยกว่านี้ ไปเจอคนทิ้งขยะ คนทำอะไรแย่ๆ ฯลฯ)
https://www.youtube.com/watch?v=tZsiggsb-rs
ผู้ชายชอบผู้หญิงแบบใหนกัน ซิกกานีทเอฟเฟค สำคัญ
เวอชั่นใหม่ ###
เกร็นเปิดร้านรับจ้างหาข้อมูลทุกอย่าง
ไปช่วยลูกสาวที่เป็นเจ้าของมินิมาร์ทใว้
พ่อเธอเป็นคนขายของ ลูกสาวก็เรียนศิลปะ มีความสามารถเธอเรียนอยู่และ รับสอนศิลปะ ที่บ้านแฟนของเธอ
เธออยากตอบแทนเกร็นและอยากคุยปรัชญากับเกร็น เลยให้เกร็นไปเรียนด้วย
เกร็นไปเรียนด้วยก็เข้าเรื่องแบบ บลูพิเรียด
เกร็นวาดรูปไม่สวยวาดภาพใด้กากมาก คนก้าง ฯลฯ โดนคนอื่นบลูลี่
เกร็นเลยโชว์ให้ดูว่าศิลปะไม่ใช่ความสวยงามของภาพ แต่เป็น ความต้องการสื่อความหมายของผู้วาดต่างหาก
ในวันที่จะจบคอส เกร็นเลยวาดภาพ ที่เป็นชีวิตของตัวเองลงไป(เผาสมการที่ตัวเองทิ้งมาทั้งหมด แล้วก็ วาดเข้ารหัสใว้ในภาพ) แล้วก็บอกว่า คนทั้งโลกจะต้องตามหาภาพนี้(ภาพกากๆที่อัดใว้ด้วย อัลกอริทึ่มของเกร็น)
เกร็นโดนตามล่าด้วยเรื่องโปรเจคของตนเอง
อัลขอรับงาน fbi มาจับตาดูเกร็นและปกป้องเกร็น
เรื่องราวกลายเป็นใหญ่โต ทุกคนตามหาอัลกอริทึ่มนั้นของเกร็น เพื่อจะเอาไปใช้กับควอนตั้มคอม เกร็นโดนเอาไปสอบสวน เกร็นบอกว่า ภาพนั้นคือกุญแจที่ต้องเอามาถอดรหัสย้อนกลับ (เพื่อหาสมการจากจำนวณจำเพราะ อีคริปเคริฟ) เกร็นบอกว่าตอนวาดเข้าไปมันยากมากๆเลยล่ะใช้สมการกว่า 30กระดาษ A 4 เพื่อยัดมันลงไปในภาพวาด แล้วเกร็นก็ใด้เผามันทิ้งไปหมดแล้ว เหลือแค่ภาพวาดใว้ที่คอสเรียนศิลปะ
นักสืบอัจริยะ นาม.... ออกตามหาภาพนั้น แล้วก็พบกับภาพนั้น ละก็เอามาถอดรหัส้วยตัวเอง เจออีคลิปเคริฟในอีคริปเคริฟ ซ้อนด้วยการถอดรหัสอื่นๆ
ต่อมาพ่อเธอล้มป่วย เธอเลยออกจาก รร แล้วมาแล้วหนีจากบ้านแฟน มาช่วยขายของที่ร้านมินิมาทแทนพ่อเธอ + กับ ปรัญชาของเกร็นทำให้เธอหลุดพ้นจากแฟนเธอที่ชอบทำร้ายร่างกายเธอและใช้กำลัง และขี้หึง
เกร็นย้ายจากอยู่ข้าง รร ไปอยู่ในบ้านเก่าของอัลเพราะคิดถึงและโทษตัวเอง
ไปร้านขายของชำ ดันเจอสาวคนเดิมที่สอนศิลปะ
เธอทำร้านเป็นเกลโลลี่ขายศิลปะไปด้วย
แฟนเก่าเธอตามมารังควานทำลายร้าน เกร็นก็ช่วยใว้
สุดท้ายของท้ายสุดเกร็น แอบถ่ายรูปเป็นรูปถ่าย รูปรอยยิ้มที่ลึกซึ่งของเธอตอนต้อนรับลูกค้า (หลังจากภาพเธอถูกขายไปแล้ว)
เธอติดภาพของเกร็นเอาใว้ที่ผนังตลอด เมื่อใหล่ที่เธอเฝ้ามองเธอก็จะอดหัวเราะออกมาไม่ใด้ ตอนที่เกร็นทำตัวบ้าๆและบอกว่า คนทั้งโลกจะต้องตามหาภาพนี้
หากผู้ใดมองฝั่งใดฝั่งหนึ่งว่าเป็นจริงเพียงฝั่งเดียวจนไม่อาจจะเข้าใจความจริงของอีกฝั่งใด้ ผู้นั้นคือความไม่เป็นจริง
หากเลือกที่จะ เพิ่มความเสี่ยงต่อสิ่งที่สำคัญของตัวเอง เพื่อแลกกับความต้องการหยาบที่สั่นใหวไปมา คนผู้นั้น ไม่ใด้ให้ค่ากับตัวตนและความต้องการของตนเองเลย
สำคัญ ฉากก่อนที่เกร็นจะตกจากเครื่องบิน เกร็นพยายามควบคุมเครื่องบินด้วย(อะไรบางอย่างเหมือนวิทยุหมุนๆ) เกร็นต้องเข้าไปต่อสายไฟและดัดแปลง เสร็จแล้วก็เลยเอามาต่อลองกับคนร้าย เพียงหมุนซ้ายเครื่องบินก็โครงไปทางซ้าย แล้วพลาดเกิดฉากฮาๆ เจ้าวิทยุนั้นตกและสายมันหลุด เครื่องบินโครงขวาจนมีท่าทีว่าเครื่องจะตก ตัวร้ายบอกทำอะไรเข้าเส้ เกร็นก็ต่อรอง คนร้ายก็ยอม เกร็นบอก น้ำลายไงละน้ำลาย พวกเรามาช่วยกันก่อนเด่วตายยกลำ เกร็นบอกว่าต้องการความต้านทาน 12โอม เพื่อทำให้ปีกซ้ายคงที่ แต่สายที่หลุดไปแล้วทำให้ความต้านทานไม่=12โอม เกร็นเลยบอกให้เอากระดาษมาแล้วใช้น้ำลายเลียๆกระดาษ แล้วเอาสายไฟจิ้มไป2ข้างให้น้ำลายเป็นตัวต้านทาน
ฉากเกร็นพูดกับคนร้ายบนเครื่องบินว่า เรื่องความเท่าเทยมกันมันไม่มีอยู่จริง ในขณะที่ มนุษยืทุกคนมี 7รู แต่ผู้หญิงมี 8รู เกร็นยังบอกอีกว่าตัวเองตอนเด็กๆน่ะขับเครื่องบินเก่งมากเลยล่ะ ขับใด้แบบฟิ่วๆ (เพื่อส่งสัญญาณให้อัลปาฬานิกาข้อมือมาให้) เกร็นพูดถึงัลว่า อัลนะคงสืบใด้แค่การเดินของปูว่าไปทางซ้ายหรือขวา่แค่นั้นแหละ อัลเองถอดนาฬิกาข้อมือแล้วปาใส่หัวเกร็น เกร็นเลยเก็บเครื่องมือที่อยู่ในนั้นกลับมา
ในตอนที่เกร็นโดดร่มลงมาแล้วโดนยิง เกร็นแซวอัลที่คอยแต่จะเอากระสนออกจากแผลเกร็นว่ารูฉันยังเวอจิ้นอยู่นะ อัลเลยว่าเกร็นกลับว่า นายก็ใด้8รูเท่าเทียมกับผู้หญิงแล้วไงละ (เกร็นบอกว่า ทำไมเธอถึงทำหน้าเคร่งเครียดแบบนั้นล่ะ กฏของการผ่าตัดน่ะ ห้ามเครียดเกินไปละนะ)
ตอนโลกก่อน เกร็นโดนพวกในห้องดูถูกฯลฯ แต่เกร็นก็ปล่อยให้เป็นแบบนั้น จนอัลทนไม่ใด้ ไปวีนใส่และร้องไห้ใส่เกร็น เกร็นบอกว่า โลกนี้น่ะมีสิ่งที่มองไม่เห็นอยู่มากกว่าสิ่งที่เห็นมากนัก(เกร็นอธิบายว่าสิ่งที่มองไม่เห็นคืออะไร) มนุาย์ธรรมดามเกิดมาและเต้นและพึงพอใจไปตามสิ่งเร้า พวกเขาเชื่อว่าพวกเขามีเจตจำนงอิสระ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกเจตจำนงของพวกเขานั้นมีที่มา (เกร็นอธิบาย) พวกเขาไม่ใด้เป็นอิสระ หากแต่เป็นผลผลิตของสภาพแวดล้อมและสังคม เพียงแค่ร่ำรวย มีครอบครัว มีลูกหลาน แล้วก็ทิ้งชีวิตไปโดยที่ไม่เคยสงสัยในสิ่งที่มองไม่เห็นเลยแม้แต่น้อย อัลฉันน่ะ เกิดมาโดยมีชะตากรรมที่ต้องตามหาสิ่งที่มองไม่เห็นละ
แล้วทำไมนายถึงยอมให้คนอื่นเค้าเอาเปรียบหรือดูถุกละ
มีผช ที่ชอบอัลมาคุยกับเกร็น เขาบอกว่านายย่ะยังไม่รู้ตัวอีกหรอว่าอัลชอบนาย แล้วก็ทะเลาะกับเกร็น เขาบอกว่านายควรไปทำให้มันชัดเจนว่าจะตอบรับเธอยังไง ฉัน..ฉันไม่อยากเห็นเธอต้องแอบร้องไห้คนเดียวอีก
อัลบอกรักเกร็น เกร็นเลยถามอัลว่า ความรักของอัลคืออะไร ฉันอยากรู้ว่ามันมีมากแค่ใหน ช่วยแสดงให้ฉันเห็นทีใด้ใหม ความรักคือความรู้สึกที่ไม่มีวันแปรเปลี่ยน แสดงให้ฉันดูสิอัล ว่าต่อให้ฉันทำให้เธอเกลียดฉันจนอยากจะฆ่าให้ตาย เธอก็ยังอยู่กับฉัน (เกร็นเฉลยให้ฟังว่า อาการของ ผช คนนั้นที่เข้า รพ และอ้างว่าโดนรถชน แต่จริงๆเป็นเพราะเกร็นทำลงไปเอง อัลก็ช็อค)
ผช คนนั้นกระชากคอเสื้อเกร็น เกร็นบอกว่า แววตานายน่ะเหมือนกับคนที่อ้างสิ่งที่ทำเพื่อคนอื่น เพื่อที่จะทำร้ายคนอื่น ใด้เลยนะ แล้วว่า ผช คนัน้นอีก ผช ก็เลยต่อยเกร็น เกร็นบอกนายรู้ใหมทำไมฉันถึงใหนายต่อย ก็เพราะว่าจะใด้มีความชอบธรรมในการเอาคืนแบบ 5 เท่ายังไงละ
ผช คนนั้นก็เฉลยว่า ตัวเองนั้นรักอัล
นายน่ะควรจะก้าวถอยหลัง 2 ก้าวนะ เพราะมิเช่นนั้นแล้ว นายก็ไม่อาจจะเดินหน้า 5 ก้าวใด้
เกร็นรู้สึกว่า หากตนเองใด้คลุกคลีอยู่กับ ผญ คนนี้แล้ว ตัวเกร็นเองจะเป็นคนทำให้เธอเปลี่ยนไป เหมือนการผสมสี แดง(อัล) เข้ากับ สีเทา(เกร็น) เกร็นเลยรักษาระยะห่าง
อัลเธอเป็นแสงหรือเป็นสีกันน่ะ? (ทำไมสีในศิลปะ ถึงเป็น RBY แต่สีทางวิทยาศาสตร์เป็น RGB) การผสมแสงน่ะ ยิ่งผสมก็จะใด้สีขาว แต่การผสมสีน่ะ ยิ่งผสมก็จะใด้สีดำ ยังไงละ
เกร็นวางกับดักจับสัตว์ตัวเล้กๆแต่ลุกเสือดันมาติด เกร็นเลยบอกอัล กินใหม อัลไม่กินและออกไปหาของป่า เกร็นทำกับดักต่อ ใด้กระต่ายมา พอเกร็นจะฆ่ากระต่ายอัลไม่ยอม เลยไปหาของป่าต่อแต่ก็ไม่พอกิน สุดท้ายเกร็นบอกอัลว่านี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆที่จะทำตามความรู้สึกใด้นะ อัลออกไปหาของป่าอีกครั้ง กลับมาเลยเจอกับผิวหนังและขนของกระต่ายเปือนเลือด เกร็นฆ่ามันไปต้มซะแล้ว
เรื่องราวตึกสูงดังที่ย่านใจกลางเมืองก่อสร้างใว้แล้ว บริษัทรอบๆดูดน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ตึกเลยทรุด (เกร็นแก้แค้นบริษัทหนึ่งด้วยการ ตั้งบริษัท(เอาฮาๆแบบดูดขี้ดูดส้วม) เพื่อดูดน้ำใต้ดินออกให้บริษัทมันพัง)