Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
มนุษยสัมพันธ์ (Human Relationship) และ การสื่อสารภายในองค์การ(Communicatio…
มนุษยสัมพันธ์ (Human Relationship) และ การสื่อสารภายในองค์การ(Communication in Organization )
ความหมายและความสำคัญของมนุษยสัมพันธ์
2 ลักษณะด้วยกันคือ มนุษยสัมพันธ์ อันดี และ มนุษยสัมพันธ์ ไม่ดี ถ้ามี มนุษยสัมพันธ์ อันดี บุคคลใน องค์การ หรือสังคมดังกล่าวก็จะมีความรู้สึกพึงพอใจ ต่อกัน และกันมี ความเข้าใจอันดีต่อกัน ร่วมมือกันประสานงาน ช่วยเหลือ แบ่งปัน และให้อภัยต่อกัน
องค์ประกอบของ มนุษยสัมพันธ์
การสร้างมนุษยสัมพันธ์ให้เกิดขึ้น ในกลุ่มคนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใด จะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบของ มนุษยสัมพันธ์ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนหรือเป็นอุปสรรคของความสัมพันธ์ของกลุ่มแล้วดำเนินการสร้างเสริม พัฒนา และปรับปรุงปัจจัยต่างๆ
ลักษณะของกลุ่มทำงานที่มีความสัมพันธ์อันดี
1. มีการทำงานร่วมกันแบบประชาธิปไตย
บุคคลส่วนใหญ่มักต้องการมีส่วนร่วมในกลุ่มที่ตนเป็นสมาชิกซึ่ง การทำงานร่วมกัน แบบประชาธิปไตย จะสนองความต้องการ
2. มีความไว้วางใจ และเชื่อในความสามารถซึ่งกัน และกัน
บุคคลทั่วไปมักต้องการความเชื่อถือไว้วางใจ จากผู้อื่น
3. มีการติดต่อสื่อสารที่ดีในหน่วยงาน
มนุษย์ทุกคนมักต้องการความชัดเจนในงาน และต้องการความสบายใจในการอยู่ร่วมกันด้วย
4. มีการช่วยเหลือกันในขอบเขตที่เหมาะสม
ในการทำงาน และอยู่ร่วมกันในกลุ่ม ถ้าทุกคนพร้อมต่อ การเป็นผู้ให้ ย่อมทำให้เกิด ความสุขใน กลุ่มได
5. มีการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ
การทำงานร่วมกันโดยหลายคนนั้น ถ้ามีทีมงาน (team work) ที่เหมาะสม คือ มีระบบงานที่ดี มีสายงานบังคับบัญชาที่ชัดเจน ทุกคน รู้บทบาทหน้าที่
6. มีการร่วมมือที่ดี
การร่วมมือเป็นพฤติกรรมของกลุ่มที่มีลักษณะไปในทางเดียวกันของสมาชิกกลุ่ม
7. ผู้มาร่วมกลุ่มทำงานมีลักษณะที่เอื้อต่อการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
ในการทำงานร่วมกัน ถ้าผู้มาร่วมกลุ่มทำงานมีลักษณะบางประการ ที่เอื้อต่อการมีมนุษย สัมพันธ์ที่ดี
การพัฒนาตนเพื่อเสริมสร้างสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมงาน
การพัฒนาการวางตนตามสถานะ และบทบาทในองค์การ
1. การสร้างอัตตมโนทัศน์ ที่ตรงตามความเป็นจริง
เป็นผลิตผลจากประสบการณ์ในชีวิต ที่ได้มีการปฏิสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้าง อัตตมโน ทัศน์เป็นภาพทั้งหมดของบุคคล ในความคิดคำนึง ซึ่งมิได้เจาะจงที่จุดใด จุดหนึ่งโดยเฉพาะ
2. การมองตนเอง และผู้อื่นในทางที่ดี
การมุ่งให้ความสนใจกับจุดดีของตนเอง การคิดถึงตนเองในจุดที่ดีงาน เช่น มีน้ำใจ รับผิดชอบ ตรงเวลา รัก ความยุติธรรม ฯลฯ
3. การปฏิบัติต่อผู้อื่นในทางที่ดี
3.1 ให้ความสนใจเพื่อร่วมงาน
คือบุคคลส่วนใหญ่ชอบให้ผู้อื่นสนใจ
3.2 ยิ้มแย้ม
คือการยิ้มของบุคคลที่ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่ง มักแสดงให้เห็นถึงความนิยมชมชื่น ชอบพอ รักใคร่ จึงเห็นได้ว่า การยิ้มเป็นหัวใจ ส าคัญของการสร้างสัมพันธภาพ
3.3 แสดงการจำได้
วิธีการแสดงการจ าได
3.4 เป็นคู่สนทนาที่ดี
การแสดงตนเป็นคู่สนทนาที่ดีของเพื่อนร่วมงาน
3.5 รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
คือไม่ผูกขาดอยู่กับความคิดของตนเองข้างเดียว
3.6 แสดงการยอมรับนับถือผู้อื่นตามสถานภาพ
3.7 แสดงความมีน้ าใจ
ซึ่งการมีน้ำใจต่อผู้อื่น อาจแสดงออกได้หลายแนวทาง เช่นการเป็นผู้ให้ ให้ความรัก ให้ความห่วงใย แบ่งปัน ช่วยเหลือ ให้อภัย ให้กำลังใจ คุณลักษณะต่างๆ
3.8 แสดงความชื่นชมยินดี
เนื่องจากเพื่อนร่วมงานแต่ละคนในหน่วยงาน มักมีวันพิเศษหรือ เหตุการณ์ส าคัญของชีวิตด้วยกันทั้งนั้น เช่น อาจจะเป็นวันรับรางวัลพิเศษ
4. การพัฒนาการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น
4.1 สนใจ เอาใจใส่ ให้ความสำคัญกับผู้ที่ติดต่อสื่อสาร
4.2 หลีกเลี่ยงการพูดพิงถึง “คน” เมื่อสนทนาเรื่องภายนอกตัว
4.3 ตั้งคำถามไม่เจาะจง
4.4 ใช้คำถามเชิงอธิบายแทนการสั่งสอนหรือแนะนำ
4.5 ใช้ประโยคที่เริ่มต้นด้วยสรรพนามบุรุษที่สองเมื่อพูดถึงสิ่งด
4.6 ใช้คำว่า “เรา” เมื่อต้องการให้เกิดความรู้สึกเป็นกลุ่มเป็นพวก
4.7 ใช้ประโยคที่เริ่มต้นด้วยสรรพนามบุรุษที่หนึ่ง
4.8 ใช้สรรพนามบุรุษที่สอง-บุรุษที่หนึ่ง หรือ คุณ-ฉัน เมื่อต้องการแสดงความใกล้ชิด
4.9 ใช้คำว่า อย่างไร เมื่อต้องการข้อเท็จจริง
4.10 ใช้คำว่า ทำไม ให้เหมาะสมตามจุดประสงค์
4.11 ใช้วิธีสะท้อนความรู้สึกสะท้อนเนื้อหาคำพูดของคู่สนทนาเพื่อแสดงความเข้าใจ
4.12 ใช้คำพูดเปิดเผยตนเองเพื่อแสดงความจริงใจ และพร้อมเป็นมิตร
การพัฒนาการวางตนตามสถานะ และบทบาทในองค์การ
5.1 การวางตนในการทำงานร่วมกับผู้บังคับบัญชาโดยผู้บังคับบัญชา ไม่ว่าจะอยู่ในระดับใด ต้องถือว่าเป็นผู้นำในการปฏิบัติงาน และเป็นผู้ต้องรับผิดชอบงานในที่ทำงาน
ยกย่องผู้บังคับบัญชาตามควรแก่ฐานะ
รับคำวิพากษ์วิจารณ์จากผู้บังคับบัญชา ความสงบ หลีกเลี่ยงการแสดงอารมณ์ หรือ โต้เถียง
ปฏิบัติงานด้วยความตั้งใจ และเต็มความสามารถ
5.2 การวางตนในการทำงานร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชา โดยการคำนึงอยู่เสมอว่า ผู้ใต้บังคับบัญชาคือ ฝ่ายปฏิบัติงาน ในหน่วยงาน เปรียบเสมือนมือ และเท้าของผู้บริหาร
เปิดโอกาสให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเจริญก้าวหน้าในอาชีพ โดยอาจส่งไปอบรม สัมมนา ค้นคว้าวิจัย
สนับสนุนให้ผู้ใต้บังคับบัญชาแต่ละคนได้ทำงานที่เหมาะสมแก่ตนทั้งด้านความสามารถ และบุคลิกภาพ เพื่อให้ทำงานได้ด้วยดี และมีความสุขในงาน
สื่อสารกับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างชัดเจน เมื่อต้องการให้ทำงานใด หรือปฏิบัติอย่างไร และหลีกเลี่ยงการสื่อสาร ทางเดียวให้มากที่สุด
การสื่อสารภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์ของการสื่อสาร
1. เพื่อแจ้งให้ทราบ
คือ การรับและส่งข่าวสารด้านต่างๆ การนำเสนอเรื่องราว ความรู้สึกนึกคิด ความรู้ หรือสิ่งอื่นใด ที่ต้องการให้ผู้รับสารรู้และเข้าใจข้อมูลนั้นๆ โดยมุ่งให้ความรู้และสร้างความ เข้าใจที่ถูกต้อง
2. เพื่อความบันเทิงใจ
คือ การรับส่งความรู้สึกที่ดี และมุ่งรักษามิตรภาพต่อกัน เป็นการ นำเสนอเรื่องราวหรือสิ่งอื่นใดที่จะทำให้ผู้รับสารเกิดความพึงพอใจ
3. เพื่อชักจูงใจ
คือ การน าเสนอเรื่องราวหรือสิ่งอื่นใดเพื่อจูงใจให้เกิดความร่วมมือ สร้าง กำลังใจ เพื่อให้ผู้รับสารเกิดความคิดคล้อยตาม หรือปฏิบัติตามที่ผู้ส่งสารต้องการ และนำไปสู่การปรับปรุง แก้ไข
ความสำคัญของการสื่อสารภายในองค์กร
เป็นเครื่องมือของผู้บริหารในการบริหารงาน เพราะการสื่อสารภายในองค์กรจะช่วยทำให้ สามารถทำงานได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารกับบุคลากรต่างๆ ภายในองค์กรเดียวกัน เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน และสร้างความไว้วางใจต่อกัน
การช่วยกันปฏิบัติภารกิจขององค์กรและมีการประสานงานระหว่างกัน พร้อมทั้งทำงาน สอดคล้องกัน
การช่วยให้เกิดการพัฒนาและการทำงานที่มีประสิทธิภาพ จากปัจจัยต่างๆ
กระบวนการสื่อสารภายในองค์กรที่มีประสิทธิภาพ
การติดต่อสื่อสารจากบนลงล่าง (Downward Communication) ซึ่งเป็นการติดต่อจาก ผู้บังคับบัญชาไปยังผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นลักษณะของการสั่งงาน บอกเป้าหมายวัตถุประสงค์ การมอบหมายงาน การให้ข้อมูลย้อนกลับในการทำงาน (Performance Feedback) รวมทั้งการประชุม (Meeting)
การติดต่อสื่อสารจากล่างขึ้นบน (Upward Communication) เป็นการสื่อสารจากบุคลากรไป ยังผู้บริหาร เช่น การขอคำแนะนำ การรายงานผลการปฏิบัติงานให้ผู้บริหารได้ทราบ ซึ่งการสื่อสารแบบนี้ มักจะสั้นและไม่ค่อยเกิดขึ้น
การสื่อสารในแนวนอน (Later หรือHorizontal Communication) เป็นการสื่อสารในแนวทาง เดียวกัน กลุ่มงานเดียวกัน หรือในระดับเดียวกันจะมีความเป็นมิตร เป็นกันเอง จะช่วยให้การประสานงาน ได้ดีขึ้น
การติดต่อสื่อสารในแนวทแยง (Diagonal Communication) มักเป็นการสื่อสารข้ามแผนก และข้ามระดับ โดยปกติมักจะเป็นการสื่อสารของฝ่ายให้คำแนะนำ (Staff) กับฝ่ายปฏิบัติการ (Line)
การสร้างเครือข่ายการติดต่อสื่อสารภายในองค์กร
สรุปการสื่อสารภายในองค์กรจะประสบผลสำเร็จและประสิทธิภาพได้นั้นจะต้องอยู่กับ การมีส่วนร่วมของผู้บริหารและบุคลากรในทุกระดับ ตลอดจนบุคคลภายนอกองค์ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการติดต่อสื่อสารที่จะทำให้สมาชิกทุกคนร่วมมือกัน เพื่อให้องค์กรบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายของ องค์กร