Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทามไลน์การปกครองของ ทวีปอวาลอน (ชื่อชั่วคราว), Quote ของยูฟินน่า,…
-
Quote ของยูฟินน่า
เราจะเลือกพลเมืองของเราเอง เราจะช่วยเหลืองเพียงผู้คนที่เราอยากจะช่วย ผู้ใดก็ตามที่มีสติปัญญาอยู่เหนือสัญชาติยาณ ผู้นั้นคือพี่น้องของพวกเรา
พลัง อำนาจ และความแข็งแกร่ง ที่เกินกว่าจินตนาการของมนุษย์ ไม่เคยมีวันใหนเลย ที่พลังเหล่านั้นจะสามารถปกครองสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์ ใด้อย่างสมบูณแบบ การใช้พลัง และความกลัว ในการปกครอง นั่นไม่ต่างไปจาก ......การเล็งใช้ไฟ แต่ลืมนึกถึงควัน..
แม้จะเป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่พวกมันกลับมีความต้องการที่หลากหลายและแตกต่างกัน ไม่ว่าจะใช้สิ่งใดมาปกครองก็ไม่เคยทำให้พวกมันมีซึ่งความสุขสงบ
ความอยากรู้ของสิ่งมีชีวิตนั้นไม่สิ้นสุด แม้มนุษย์หรือมังกร ปล่อยให้พวกมันใด้เพลิดเพลินไปกับรูเล็กๆของพวกมันนั่นแหละ(หมายถึงเธอแทรกแซงสมาคมให้เปิด นักผจยภัยใต้ดินขึ้น
พวกมันมาจากที่ใด เต็มไปหมด ฆ่าเท่าไรก็ไม่หมด ที่เบืองล่าง นั้นอาจจะมีคำตอบของที่มาของพวกเรา (เธอใส่เขามังกรปลอม หลังจากประกาศเสร็จก็ถอดออกไปวางเอาใว้)
ส่วนพวกมนุษย์ด้านบน
มังกรแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายที่เลือกที่จะสู้กับมนุษย์ควบคุมพวกมันกักกันพวกมัน ใช้พลังของเหล่ามังกรทำให้พวกมนุษย์ต้องยำเกรง
กับอีกฝ่ายคือ มองว่า สิ่งที่ดีที่สุดคือ เรื่องของมนุษย์ มนุษย์ก็ต้องเป็นคนแก้ไขเองและปกครองกันเอง อย่าดูถูกมนุษย์ แล้วเมื่อแผนการแบ่งแยกของฟินน่าเริ่มขึ้น ฝ่ายมนุษย์ดันเข้าใจว่า มังกรจะใช้พลังของตัวเองมาทำลายล้างมนุษย์และทำให้มนุษย์ไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ เลยรวมตัวกันก่อสงครามขึ้น เลยเกิดเป็นสงครามครั้งแรกระหว่างมนุษย์และมังกร มังกรนั้นมีพลังมากมายที่เกินกว่ามนุษย์จะสู้ได้ เพียงแค่มังกรตนเดียว ก็สามารถทำลายมนุษย์ได้ทั้งเมือง แต่ทว่า ฝ่ายมนุษย์กลับใช้มังกรที่ทำสัญญากับตัวเองให้เข้าห้ำหั่นกันกับเผ่ามังกรด้วยกันเอง
สงครามและความเกลียดชังแผ่ขยายไปทั่ว ฟินน่าจึงสั่งให้มังกรตนนึงให้ไปสำแดงพลังใส่มนุษย์ โดยการทำลายล้างเมืองหลวงของมนุษย์ เช้าวันรุ่นขึ้นเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงดังไกลไปหลายสิบกิโลเมตร (ราวกับระเบิดนิวเครีย) และฟินน่าก็ใช้ สัตย์สัญญาของตัวเองที่เป็นราชีนีมังกร เรียกมังกรทุกตัวที่สัญญากับมนุษย์ กลับมาเป็นบริวาณของตัวเอง แต่มีมังกรหลายตนที่ได้หลงรักมนุษย์ไปแล้วพยายามขัดยืนสัตย์สัญญาของฟินน่า พวกเธอจึงฆ่าตัวตาย
-
มนุษย์เริ่มฟื้นฟูอารยธรรมขึ้นมาใหม่โดยไม่มีมังกรคอยปกป้องจากเหล่ามอนสเตอร์ที่ผุดขึ้นมาจากดินราวกับดอกเห็ด มนุษย์จึงใช้ร่างกายของมังกรที่ตายในสงครามมาแยกส่วนและทำเป็นแก่นของเมือง เพื่อที่จะขับไล่มอนสเตอร์ไม่ให้เข้ามาในเมืองได้
-
ยูฟินน่าเริ่มแผนการปฏิวัติประเทศ เธอมองว่าพวกมนุษย์นั้นถึงจะน่าสนใจแต่ก็ปนไปด้วยความโง่เขลา หากพวกมันใด้สิ่งที่ต้องการมากเท่าไร พวกมันก็จะวิ่งตามแต่ความต้องการของตัวเองอย่างไม่สิ้นสุด โดยไม่ยั้งคิดถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆ และผลกระทบของการกระทำตัวเอง แม้พวกที่มีความเป็นอยู่อย่างลำบาก จะพยายามใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในแต่ละวันและมีความสุขจากสิ่งที่น้อยนิด พวกที่เป็นอยู่อย่างสุขสะบายก็คอยแต่เรียกร้องสิทธิและผลประโยชน์อย่างไม่สิ้นสุด
หนึ่งในสภามังกรนาม ยูฟินน่า ผู้เป็นลูก ค้นพบร่องรอยของโลกเบืองล่างที่ๆแม่ของเธอ ฟินน่า หายตัวไป และทรัพยากรมากมายที่ไม่เหมือนบนโลก เธอนั้นเห็นต่างจากแม่ของเธอ ฟินน่า เรื่องการปกครองมนุษย์ เธอคิดว่าสิ่งที่แม่เธอทำมากว่า 700 ปี การปกครองนั้น มันใช้ไม่ใด้ผลกับมนุษย์
ยูฟินน่า ใช้ความอัจริยะภาพของเธอด้าน วิทยาศาสตร์ พยายามสร้างเทคโนโลยีเพื่อสกัดทรัพยากร และนำพาเผ่ามังกร ลงสู่เบืองล่าง เธอเล็งเห็น ผลประโยชน์ชนิดใหม่ เบืองล้างที่มีทรัพยากรแทบทุกแบบทุกชนิด ที่จะทำให้เผ่ามังกรเป็นอิสระจากวัฤจักรของพวกมนุษย์ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรที่หาใด้จากการปกครองพวกมนุษย์ การปกครองมนุษย์ของฟินน่าที่พยายามทำเพื่อมนุษย์ ให้เท่าเทียม และพยายามให้พวกมันมีอิสระเสรีภาพและอยู่อย่างสงบสุขกว่า 700 ปี นั่นเป็นระยะเวลาที่เพียงพอแล้วที่จะบอกว่ามันคือ ความล้มเหลว เผ่ามังกรผู้มีเพียงหยิบมือ ผู้ที่ครั้งนึงเคยรักและให้ความสำคัญกับเผ่ามนุษย์ยิ่งกว่าเผ่ามนุษย์เสียเอง ผู้ที่ปกครองมนุษย์มาอย่างยาวนาน จนรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของพวกมนุษย์ที่เกิดขึ้นไปตามกาลเวลา ทำให้พวกมนุษย์ค่อยๆลืมเลือนตัวตนของตัวเองและความรู้สึกที่มีต่อเผ่ามังกรไป จนกลายเป็นปีศาจร้าย ปีศาจอันหิวโหยซึ่งสิงสถิตย์อยู่ภายในตัว และจะนำพามาซึ่งวัฤจักรแห่งการล่มสลายแก่ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับพวกมัน บัดนี้เผ่ามังกรจะแยกตัวออกมาและทำเพื่อตนเอง ไม่ใช่เพื่อมนุษย์
สภามังกร ก่อตั้ง Delver กลุ่มนักสำรวจขึ้น พวกเขาเต็มไปด้วย เครื่องจักร และเทคโนโลยี เพื่อเอามนุษย์ที่คัดเลือดและมีความสามารถ เตรียมลงสำรวจสู่ใต้ดิน เพื่อสำรวจทรัพยากร ปล่อยทิ้งมนุษย์ใว้ให้สิ้นหวังภายนอกของกำแพงนั้น เพียงไม่กี่ปี เมืองหลวงใต้ดินก็ถือกำเนิดขึ้น (ตามแผนของยูฟินน่าที่จะค้นหาทรัพยากรเองจากใต้ดิน)
สภามังกร สั่งให้สร้างกำแพงขนาดใหญ่หลายชั้นล้อมรอบเมืองหลวงของตัว โดยแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นนอกสุดของพวกมนุษย์ที่ถูกเลือก ชั้นกลาง และชั้นในสุดของเหล่ามังกร และขับไล่มนุษย์ที่ไม่ใด้ถูกเลือกออกไป
ทันทีที่ปฏิวัติ แต่ละเมืองที่เคยปกครอง ยกเว้นเมืองหลวง ถูกทอดทิ้ง เกิดการจราจล และชุลมุลการปกครองกลายเป็น ศูนย์ยากาศ เมืองที่ถูกหมายปองจากพวกที่หวังอำนาจ ราวกับก้อนทองที่ไร้เจ้าของ ผู้รวมอำนาจใด้และมีกองกำลัง พยายามแก่งแย่งกันเพื่อที่จะใด้ปกครองเมืองที่ไร้ซึ่งผู้ปกครอง โลกกลายเป็นยุคมืด ที่ไร้กฏหมาย
เมื่อเมืองหลายเมืองที่ปกครองจากตระกูลเริ่มยืนหยัดใด้ด้วยตัวเองและอยู่ตัว จึงเกิดกลุ่มต่อต้านขึ้น พวกเขาต่อต้านเผ่ามังกร ที่ฉีกสัญญา ของ ราชีนีมังกร ฟินน่า ที่ใด้ทำใว้กับ เลโอ ชายผู้เป็นที่รักของเธอ และเป็น ราชาที่แท้จริงของเหล่ามนุษย์ ทิ้ง (สัญญา ที่จะปกครองให้ทุกคนมีความสุข ก่อนที่เลโอ และฟินน่า จะครองราชด้วยกัน จนเลโอตายไปด้วยอายุขัยเสียก่อน) และลอยลำพวกมนุษย์ พวกเขาพยายามทวงสิ่งต่างๆที่มนุษย์ทำให้กับพวกมังกรมากว่า 700 ปีคืน พวกเขาต้องใด้บางส่วนคืนจากพวกมังกร ไม่ใช่การยึดสิ่งเหล่านั้นไป และขับไล่มนุษย์ออกมาเช่นนี้ พวกเขาปุกระดมผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ ให้เกลีดยชังเผ่ามังกร และตั้งเป็นกองกำลังทหาร เพื่อรอวันโจมตีพวกมังกร
ที่ด้านนอก ที่ห่างไกล เมืองหลายเมืองที่บัดนี้ไร้ซึ่งผู้ปกครอง สงครามจากกองกำลังหลายฝ่ายของมนุษย์ใด้จบลง เมืองใด้ถูกยึดครองโดยผู้ที่ยืดหยัดอยู่เป็นคนสุดท้าย หลายเมืองถูกยึดครองโดยตระกูลที่มีชื่อเสียง อำนาจ และมีกองกำลังเป็นของตัวเองมาก่อน บนกองซากศพของตระกูลอื่น ภายใต้การเฝ้ามองของพวกมังกร ที่เอ่ยวาจาอยู่ในใจว่า พวกมนุษย์มันก็เป็นเช่นนี้
เกิดสงครามขึ้นระหว่างกลุ่มต่อต้านและเผ่ามังกร ยืดเยื้อเกือบเดือน กว่าสงครามจะจบลง กองทหารของกลุ่มต่อต้านที่บุกเข้ามา ตายจนหมดสิ้น
การที่เผ่ามังกรจะเลือกมนุษย์บางคนเท่านั้น เพื่อเข้าไปอาศัยอยู่ในเมืองของตนเอง สร้างความไมพอใจให้มนุษย์ที่ไม่ถูกเลือกหลายคนเป็นอย่างมาก แต่ส่วนมากก็เป็นมนุษย์ที่อ่อนแอ ที่ต้องอบพยบกลับไปตั้งถิ่นฐาน ใกล้ๆ หรอ ในป่า หรือในเมืองที่เดิมซึ่งเกิดการจราจลและไร้ผู้ปกครอง
เกิดการอบพยบของผู้คนจำนวณมากเพื่อเข้าสู่เมืองหลวง จากการจราจล อันมีเผ่ามังกรปกครอง แต่เผ่ามังกรจะคัดเลือกเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะใด้เข้าไปอยู่อาศัยในเมืองมังกร โดยไม่แยแส และที่นั้นมีทั้งทรัพยากรและความเป็นอยู่อย่างสุขสะบาย(ยูฟินน่าปกครองหลุมแต่เพียงผู้เดียว)
เกิดการจราจลขึ้นที่หน้ากำแพงเมืองมังกร มังกรที่สนใจในตัวมนุษย์ถูกมนุษย์ฆ่า จากการปลุกระดมของกลุ่มต่อต้าน เกิดการต่อสู้ของมนุษย์และเผ่ามังกรครั้งใหญ่ขึ้น มีการล้มตายของมนุษย์จำนวณมาก แต่นั่นเป็นแผนของกลุ่มต่อต้าน ก่อนที่พวกเขาจะนำกองกำลังทหารจากทั่วทุกสารทิศ มาทำสงครามซ้ำที่หน้าประตูเมืองที่เรียกว่าสลัมอีกที มนุษย์บางกลุ่มบุกเข้าไปในเมืองชั้นในของพวกมังกร พวกมันสังหารทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่ว่าจะเป็นลูกครึ่งมังกร หรือมนุษย์ด้วยกันเองที่ถูกมังกรเลือกและพวกที่เข้าข้างพวกมังกรทิ้ง กองทหารอันมหาศาล เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง จนสงครามนั้นถูกเรียกว่า สงครามแดง
ผ่านไปหลายเดือน การจราจลและการนองเลือดหายไป ตระกูลที่เข้ายึดเมืองใด้สำเร็จ ทำการปกครองผู้คน ออกกฏเกณและกฏหมาย พวกเขามีกำลังทหาร และผู้สบันสนุนมากมาย จนเกิดเป็นเมืองที่ปกครองใด้ด้วยตนเองในที่สุด
มนุษย์ที่ไม่ใด้รับเลือกให้เข้าไปอาศัยในเมืองหลวงของมังกร ใด้ปักหลักตั้งถื่นฐานหน้าเมืองหลวงมังกร เป็นจำนวณมาก นานวันเข้า จนกลายเป็นสลัม เกิดผู้เห็นต่างและเห็นด้วยกับเผ่ามังกรมากมายแฝงตัวอยู่ในนี้ จนเหล่ามังกรต้องเข้ามาควบคุมดูแลความสงบ ของพวกที่ไม่ใด้ถูกเลือก เหล่านี้ หลายคนต่างรอด้วยความหวังว่าตัวเองจะถูกเลือกให้เข้าไปในอาศัยอยู่ในเมืองมังกร
ณ ที่สลัมหน้าเมืองมังกร ความต่างของวัฒนะธรรม และภูมิปัญญาดึงดูด เผ่ามังกรชั้นราชวง ที่หลายคนเกิดมาไม่เคยเจอมนุษย์ ให้รวมตัวกันอยู่ที่นี่ หลายตนสนใจในภูมิปัญญาและความรู้ของมนุษย์ พวกมังกรต่างกระหายในความรู้และอยากรู้อยากเห็นเป็นที่สุด อีกทั้งพวกเขายังช่วยเหลือพวกมนุษย์เหล่านี้เล็กๆน้อยๆ เท่าที่จะแอบช่วยใด้
สลัมหน้าประตูเมืองนั่น ง่ายต่อการที่กลุ่มต่อต้านจะแทรกแซงเข้าไปหาข้อมูลในการบุกโจมตีและประเมินพวกมังกร
ฝ่ายมังกรใด้ทำการเอาคืน โดยมุ่งเป้าหมายไปที่ เมืองเทรซี่ ซึ่งเป็นเหมือนหัวหอกของเหล่ามนุษย์ปลุกระดมให้เกิดสงครามและการบุกโจมตีเหล่ามังกร ซึ่งมันถูกยึดครองโดยตระกูลเทรซี่ ตระกูลที่ใหญ่ที่สุดที่สนับสนุนฝ่ายต่อต้าน และเกลียดชังการปกครองของพวกมังกร ซึ่งเป็นศูนรวมของฝ่ายต่อต้านและกำลังทหารที่ใหญ่ที่สุด
ในคืนที่เงียบสงัด ณ ฝากฟ้าเมืองเทรซี่ แสงสว่างเล็กๆราวกับดาวตกใด้พุ่งตกลงมาจากฟ้า และตรงมายังเมืองเทรซี่ แรงกระแทกก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ไกลจนถึงเมืองข้างๆ ก่อนที่แรงกระแทกนั้นจะก่อให้เกิดแสงสว่างสวัยขึ้น และกลายเป็นลูกไฟขนาดยักษ์ จนทำให้กลางวัน กลายเป็นเหมือนกลางคืนในทันที ลูกไฟยักษ์ใด้ขยายตัวและระเบิดออก แผดเผ่าทุกสิ่งมีชีวิตที่ขวางหน้ามันให้กลายสลายหายไปจนหาไม่เจอแม้แต่เถ้าถ่าน หินและดินที่ไร้ชีวิต ถูกหลอมละลายจนกลายเป็นเพียงควันที่พวกพุ่งขึ้นไปในอากาศหลายกิโลเมตร การระเบิดกินวงกว้างออกไป ด้วยความเร็วมหาศาล ภายในเวลาไม่ถึงกระพริบตา เมืองเทรซี่ ก็ใด้ถูกทำให้หายไปจากแผนที่ เสียงกรีดร้องของผู้คนที่ถูกความร้อนแผดเผา ซึ่งอยู่หางออกไปไปไกลหลายกิโลเมตร ดังโหยหวน หลังจากสิ้นสุดการระเบิด มีเพียงบางสิ่งที่ดำมืดเหมือนเงาที่ใหวไปมา รูปร่างคล้ายมนุษย์ ร่างเพรียวบางแม้จะห่อหุ้มด้วยเกราะสีดำทมิฬไร้แสงสะท้อน และปีกที่ราวกับยมทูตซึ่งประทานความตายมาให้กับผู้คน ยืนอยู่ ณ ใจกลางของการระเบิด ก่อนที่จะหายตัวไปราวกลับการย้อนกลับของดาวตก และทิ้งใว้เพียง ผู้ไร้ชีวิตที่หลอมรวมกลายเปนเถ้าถ่านไปกับผืนดินซึ่งไร้ซึ่งเสียงตอบโต้ และผู้รอดชีวิดที่ถูกสาปให้ต้องตายตกในเวลาไม่กี่วันจากคำสาปร้ายของยมทูต เหตุการทั้งหมดนั้น ทำให้เผ่าพันมนุษย์ รู้ซึ้งถึงพลังที่แท้จริงของเผ่ามังกรที่พวกเขากำลังทำสงครามด้วย และพลังอันเหนือจินตนาการที่พวกมนุษย์ไม่เคยเจอมาก่อน เพราะสัญญากว่า 700 ปี กลุ่มต่อต้าน แตกสลายจากความกลัว ความหวังศูนย์เสีย เป้าหมายศูนย์สลาย จิตใจเคว้งคว้างและล่องลอย เหม่อมองไปยังท้องฟ้าที่ไกลแสนไกล และถามถึงสิ่งที่ตนเองกำลังทำอยู่ พวกเขาเลิกที่จะทำสงครามกับมังกร และขอยอมแพ้ พวกเขาเหม่อมองออกไปยังทั้งฟ้าที่ไกลแสนไกล น้ำตาที่ไม่อาจไหลออก ภายในสายตาเฝ้าหวังเพียง ความสุขเล็กๆรอบตัวจากอากาศและพื้นดิน
-
-
-
-
เลโอ นักสำรวจจากทวีป เอเดน เดินทางสำรวจหาทวีปมืดในตำนาน ซึ่งว่ากันว่าเป็นที่อยู่ของมนุษย์โบราณที่ครั้งนึงเคยอาศัยอยู่บนผืนดิน ก่อนที่จะเกิด สงครามสามอำตะ จนทำให้พวกเขาต้องไปอาศัยอยุ่ ณ ใจกลางโลก และพวกเขาเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ทั้งปวง
เดินทางไปผิดทวีป ค้นพบทวีปอวาลอน ที่อุดมสมบูณ ที่นั้นมีแต่ชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ใต้ดิน และใด้พบกับหญิงสาวปริศนา เธอไม่มีความทรงจำใดๆ เลโอ ตั้งชื่อให้เธอว่า ฟินน่า (การพานพบ)
พบว่าฟินน่าเธอคือมังกรในร่างของหญิงสาว มังกรผุู้เป็นบริวาณของมนุษย์โบราณ ทั้งเลโอและฟินน่า ใด้พบรักกันและสร้างหมู่บ้าน ขึ้นโดยรวบรวมชนพื้นเมืองและสอนวิชาการและภูมิปัญญาจาก เอเดนให้พวกเขา จนพวกเขาค้นพบวิธีที่จะขึ้นมาอาศัยอยู่บนดิน นานวันเข้าหมู่บ้านกลายเป็นเมือง และสุดท้ายก็กลายเป็นประเทศที่รุ่งเรือง
หลังจากการเสียชีวิตของเลโอ ฟินน่าทำตามคำขอสุดท้ายของเลโอ ที่ให้คอยชี้นำมนุษย์และปกครองพวกเขา ฟินน่ามีชีวิตอยู่อย่างโศกเศร้า ราวกับหัวใจของเธอนั้นหายไป และทำตามคำขอของเลโอมากว่า 700 ปี จนเธอใด้พบกับ เคอาน ชายผู้หน้าตาเหมือนกับเลโอ และใด้มีลูกด้วยกันคือ ยูฟินน่า เธอมีความอัจริยะภาพตั้งแต่เด็กๆ ทั้งยังเป็นคนฉลาด เธอชอบหาคำตอบของสิ่งต่างๆและช่างสังเกตุ(มีความสามารถด้านวิทยาศาสตร์)
-
ชนชั้นมังกร มีเลโอเป็นราชา หลังจากราชาเลโอตาย ฟินน่าที่โศรกเศ้าเสียใจละทิ้งตัวตนไป เธอใว้ใจให้มนุษย์ปกครองประเทศ ฯลฯ แทนตัวเธอ ชายผู้หน้าเหมือนเลโอ นามเคอาน ในนามของ ตระกูลทั้ง 4 เขา เกล็ด ปีก หาง ซึ่งมีตระกูลปีกยิ่งใหญ่ที่สุดประเทศจึงถูกปกครองโดยมนุษย์ที่มีเชื้อสายมังกร และมีพวกมังกรระดับสูงเป็นอาวุธ
ตระกูลทั้ง 4 ที่มี ตระกูลปีกซึ่งมีอำนาจมากที่สุด และมีหัวหน้าตระกูลคือ เคอาน ชายผู้หน้าเหมือนเลโอ และเป็นลูกหลานของฟินน่า ซึ่งส่วนใหญ่พวกที่มีอำนาจนั้น พวกเขาไม่ใด้มีพลังใดๆ ต้องการปฏิรูปการปกครองและขยับขยายอนาเขต ให้มี ตำรวจ ทหาร ค่ายกักกัน พวกเขาขยายอำนาจและเข้ายึดครองเมืองที่ตั้งตนเป็นอิสระ และประเทศรอบๆเพื่อขยายอนาเขต และรวมผู้คนเข้าด้วยกันเพื่อสร้างประเทศ อวาลอน ประเทศที่มีแต่สวรรค์(ของยาเสพติด)
ผู้ต่อต้านถูกนำเข้าค่ายกักกัน ไปใช้แรงงาน สร้างโน่นสร้างนี่จนตาย ฯลฯ พวกมีหู มีเขา ฯลฯ ที่เป็นสัญลักษ์เดียวของ มนุษย์ผู้สูงส่ง ถูกฆ่าอย่างโหดร้ายหลายล้านคน เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดเพื่อให้เหลือเพียงแค่ สัญลักของมังกรเท่านั้น คือเขา อันสง่างาม มังกรคือ อารยันเพียงหนึ่งเดียว ไม่ใช่หูหมาหรือหูกระต่าย
-
-
อนาเขต ชายแดน ทางน้ำ ทางทะเล และอากาศ พวกเราจะปกครองมันให้พวกเจ้า ข้าจะไม่ให้ความเลวทรามของพวกเจ้ามันเล็ดลอดออกไปจากกรงใบนี้
ยูฟินน่า ลูกสาวของเคอาน ไม่พอใจและเล็งเห็นถึงผลกระทบของการกระทำพ่อตัวเอง จึงเอาไปบอกแม่ตัวเอง ฟินน่า
ฟินน่าที่แตกหักกับเคอาน(มีชู้ สารพัด ฯลฯ) หลังจากการทะเลาะกันอย่างแรง เธอทำใจและกลับมาหาเลโอที่เป็นโรงศพ
ยูฟินน่ามาหาเธอและพูดกล่อมเธอให้จัดการกับเคอานและยึดอำนาจคืนและปกครองประเทศนี้เสียใหม ฟินน่าบอกว่า เธอเบื่อแล้ว กว่า 700 ปี มันไม่ใด้มีอะไรดีขึ้นเลย เลโอก็ยังหลับไหลอยู่ดี และฟินน่าบอกกับยูฟินน่าว่า ตัวเองอยากตาย เพื่อจะใด้ไปพบกับเลโอที่เธอเพิ่งเข้าใจว่าตายไปแล้วก็กว่า 700 ปี (เลโอเล่นบอกว่า หากเธอเจอเจตนารมของฉันที่อยู่ในประชาชน นั้นก็คือตัวฉัน เจตนารมแห่งความอยากเอาชนะธรรมชาติ)
ยูฟินน่า เธอตัดสินใจ ให้เฟย์ฆ่า ฟินน่าทิ้งซะ เพราะเธอนั้นดูท่าจะหมดทางเยียวยาแล้ว โดยการควักหักใจเธออกมา และเอาหัวใจของเธอไปโคลนนิ่งเป็นตัวฟินน่าขึ้นมาเพื่อที่เธอจะปกครองเอง
ระหว่างการดำเนินการ แผนของเคอานก็ไปไกลแล้ว ยึดครองเมืองใด้หลายเมืองเหลือแค่เมือง นาเบีย ซึ่งเป็นทะเลทรายล้อมรอบ
เคอานล่วงรู้ถึงแผนการของยูฟินน่า ที่จะยึดอำนาจตัวเอง เพราะฤิดของยาเสพติดทำให้ เคอาน จับ ยูฟินน่าขังใว้แล้วข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ระหว่างที่เธอคิดจะฆ่าตัวตายสารพัดด้วยยาพิษ หรือแม้แต่ผูกคอตาย ตัวเธอก็ไม่ตายเสียที จนตัวเธอพบว่าเธอตั้งท้องกับพ่อของตัวเอง
ระหว่างที่จิตใจของยูฟินน่ากำลังแตกสลาย ก็มีมังกรตัวใหญ่ยักษ์ มาช่วยเธอและจัดการเผาเมืองทิ้งจนลาบเป็นหน้ากลอง มังกรใด้ฆ่าเคอาน และมังกรใด้ทำลายตระกูลปีกทิ้งจนหมดสิ้น เหลือแค่ยูฟินน่าเพียงคนเดียว และมังกรยังทำให้หัวใจของร่างโคลนทดลอง ฟินน่า เต้นขึ้นมา จนให้กำเนิดร่างโคลนของฟินน่าขึ้น แล้วมังกรก็บอกว่า ข้าขอมอบอำนาจทั้งหมดให้แก่เธอ(หมายถึง ยอมให้ยูฟินน่าใช้ร่างโคลนแทนตัวเธอเอง) และมังกรตัวนั้นก็บินหายไปพร้อมกับคาบโรงศพเลโอเอาใว้ ไม่มีใครรู้ ว่ามังกรเป็นใครนอกจากยูฟินน่า มังกรใด้เข้าใจถึงเจตนารม ที่จะเอาชนะธรรมชาติของโลเอใด้ในตัวของ ยูฟินน่า)
ต่อมามังกรตัวนั้นก็ใด้หายไปอย่างไร้ร่องรอย(ฟินน่าใด้ความทรงจำคืนตอนเป็นมังกรและ ลงไปใต้โลก) ที่ฆ่าเท่าไรก็ไม่ตายนั้น ถูกเรียกว่า Heartless dragon และว่ากันว่า หัวใจของมันนั่น อยู่ในโรงศพ
-
-
พวกมนุษย์นั้นโง่เขลา พวกมันมีสิ่งที่พวกเราไม่มี ความเชื่อ ความหวัง และการหลอกลวงและยัดเยียดทางความคิด พวกมันถูกหลอกโดยการถูกปลูกฝังความคิดอันโหยร้าย และไม่อาจจะมีตัวตนเป็นของตนเองใด้ พวกมนุษย์นั้นเป็นปัจเจก ต่างคนต่างมีความคิดและความต้องการที่แท้จริงไม่ซ้ำกัน พวกเราควรจะเลือกที่จะปกครองมันแต่ส่วนน้อย ไม่ใช่ทั้งหมด (หัวหน้ามีเขาแย้งยูฟินน่า) พวกเราควรจะปกครองมันด้วยความกลัว ยูฟินน่าบอกว่า นั่นจะส่งผลร้ายกับพวกเรา ในยามที่พวกเราอ่อนแอ พวกมันสามารถทำลายพวกเราใด้ดีกว่าการที่พวกเราทำลายพวกเราเองเสียอีก มังกรและมนุษย์นั้นมีสิ่งที่แตกต่างกันมาก ความสุขของพวกมันนั่นขึ้นอยู่กับผู้อื่น และใช้การทำลายเพื่อแสวงหาความสุข ต่างจากพวกเราที่ความสุขนั่น เพียงแค่หลับตาลงมันก็พุ่งเข้ามา พวกเรากินไอโซโถบของโลหะ แล้วสนุกไปกับจิตนาการและความทรงจำของผู้อื่นที่แล่นในหัว
-
-
-
ความดีและความชั่วมันคือสิ่งเดียวกัน ความสมดุลของความดีและความชั่วที่เข้ากัน จะนำพาให้ผู้คนรู้จักความสุขและความสงบ
มังกรอย่างพวกเรานั้นเป็นผู้สร้าง หลายคนเชื่อเช่นนั้น แต่ฉันไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น หากเราเป็นผู้สร้าง แล้วใครสร้างเรากันละ เฟย์บอกว่า ฉันเชื่อว่า พวกเราสร้างตัวเองมาจากสิ่งที่ยิ่งใหญ่ค่ะ เฟย์บอกกับยูฟินน่า
สิ่งเดียวที่เมืองหลวงต้องการก็คือ คน แต่ไม่ใช่คนทุกคน แต่เป็นคนที่มีคุณสมบัติทางความคิด หรือไม่ก็พลัง
ที่ใต้โลกจะมีโรงเรียนอีกแห่งหนึ่ง ที่ดูแลพวกชนเผ่า และจะให้ความรู้ความหลากหลายกับชนเผ่า เพื่อเอามาให้ทำภารกิจ และชนเผ่าเหล่านี้สามารถขออะไรต่างๆก็ใด้หนึ่้งอย่าง แลกกับชีวิตตัวเอง บางคนก็ขอเวลาชีวิตให้เพื่อนตัวเองและยอมตาย (ยูฟินน่าใช้ความทรงจำของพวกชนเผ่าพวกนี้ ทำให้กลายเป็น ทรัพยากร proto mine protoplant พืชที่ออกผลใด้เรื่อยๆ ฯลฯ ยูฟินน่าพบว่า ผู้ที่สมัคใจตายอย่างแน่วแน่ จะกำเนิดพืชใด้มากกว่า (ข้างล่างมีนักวิทย์ด้วย ยูฟินน่าไม่ใด้ลงมาดูนาน พวกนักวิทย์เลยทดลองพวกชนเผ่าอย่างผิดมนุษย์ยธรรม)
เมื่อชนเผ่ากลายเป็นต้นไม้ (รรของพวกเขา มีระบบแต้มคะแนนฯลฯ) ที่ออกผลใด้ไม่มีวันหมด ก็ส่งไปใช้ที่เมืองท่า ซุึ่งเป็นเมืองที่กองเรือของตัวเองแทรกแทรงและมีฐานทัพอยู่
เมืองนี้จะผลิตอาหารสีดำออกมามากมายให้มนุษย์กิน กินไม่หวาดไม่ใหวจนต้องจ้างกันกินเลยทีเดียว เนื่องจากมีกฏห้ามทำลายห้ามทิ้งอาหารเหล่านี้ ต้นไม้มันงอกผลออกมาจนเต็มโกดังไปหมดไม่มีคนกิน หากไม่มีคนกินมันจะเริ่มกลายเป็นต้นไม้ และออกผลอีกมหาศาล สัตว์มากินสัตว์ก็จะคลุ้มคลั่ง ต้องไล่เผาทำลาย ใครกินแล้วก็ส่วนน้อยอาจจะมีพลังพิเศษตื่นขึ้นมา(พลังตามเจตจำนงของตัวเอง) ซึ่งตรงต่อความต้องการของเมืองหลวงที่ต้องการทรัพยากรคน
-
อาหารสีดำเหล่านี้ ถูกใช้อยู่เพียงที่เมืองท่าเท่านั้น สำหลับเมืองอื่นจะราคาแพงมากเพราะคนอยากเอามากินเพื่อให้ใด้พลังพิเสษ
ซุึ่งพลังพิเศษส่วนใหญ่ที่ใด้จะเป็นพลังพิเศษกากๆ เช่นสั่งให้ขนลุกใด้ กินมะนาวแล้วใช้พลังแล้วมะนาวหวานใด้ หรือ ซินนิสเทอเซียต่างๆ
ที่เมืองท่า อาหารสีดำพวกนี้ เมื่อปล่อยทิ้งใว้จะเจริญเติบโตเป็นต้นไม้เอง และหากเผาทิ้งด้วยไฟธรรมดา จะยิ่งงอกโตและอันตราย ต้องให้พวกมังกรมาเผา
เมืองย่อยๆทุกเมืองจะมี delver ที่เป็นคนปกติ คอยส่งรายงานข้อมูลว่า ใครมีมูลค่าในเมืองนี้ หรือมีพลัง และจะถูกเอาตัวไป
มนุษย์ที่ดี ฉันไม่ใด้หมายถึง มนุษย์ที่ทำความดีเพียงเพราะถูกสอนว่ามันไม่ขัดต่อหลักจริยะธรรม แต่เป็นผู้ที่เลือกที่จะทำความดีและความชั่วด้วยจุดยืนที่บริสุทธสากล อันเข้าใจว่าทุกสิ่งล้วนว่างเปล่า
มนุษย์บริสทุธิที่ฉันต้องการ ไม่ใด้หมายถึง มนุษย์แรกเริ่มซึ่งมีสีขาวและไม่ใด้ถูกแต่งแต้มสีสันใดๆลงไป แต่หมายถึงมนุษย์ที่ถูกแต่งแต้มสีสันทุกสีบนโลกลงไปในทุกพื้นที่แต่ยังคงงดงาม และยังสามารถคงความเป็นสีขาวใว้ใด้ มนุษย์ที่มีกลไกลของความบริสุทธิอยู่ภายในตนเอง
-
-
ยูฟินน่าบอกว่า เพราะความเค่งในจริยธรรม ทำให้ฉัรไท้อ่าจยอมรับลูกของตัวเองที่มาจากพ่อตัวเองใด้ จึงทำให้ การมีเพศสัมพันแบบผู้หญิงสำหรับฉัย มันคือการตกยนกทั้งเป็น
ยูฟินน่าบอกว่าอยากคุยกับกร็นต่อมากๆ และถามเกณ้นว่า หากนายเชื่อในจริยธรรม นายจะปล่่อยให้เกิดสิ่งที่ผิดต่อจริยธรรมขึ้นมาหรือไม่
ยูฟินน่ามีแนวคิดว่า เซ็นน่ะคือความสุขที่ต่ำที่สุด เพราะงั้นการคบกันต้องเริ่มจากความสุขที่ต่ำที่สุดก่อน ยังมีความสุขที่สูงกว่าเซ็กอีกมากมายเลยนะ ยูฟินน่าบอกเกร็น
เกร็นบอกกลับว่า สำหรับฉันเซ็กมันคือความสุขขั้นก่อนสุดท้ายเลยน่ะ ไม่ใช่หมายถึงความสุขจากเซ็กนะ แต่เป็นความสุขจากคุณค่าของการที่คนสองคนยอมรับและเชื่อใจกัน ไม่ใช่ตัวเซ็กเอง
ยูฟินน่าบอกว่าเป็นงั้นหรอ ความสุขจากคุณค่าของการยอมรับและเชื่อใจกัน (การที่ยูฟินน่า เป็นเชี่นนี้เพราะยูฟินน่า ไม่ยอมรับเพศหญิงของตัวเอง โดยที่ลึกๆแล้วยอมรับว่าตัวเองเป็นเพศชายก็ไม่ใด้ จึงแต่งตัวเป็นหญิง และมีเซ็กกับใครก็ใด้หากใช้ด้านของเพศชาย) ในวันนึงที่ยูฟินน่ายอมรับเกร็น และจะทำให้การมีเซ็กเป็นความสุขขั้นสูงสุดของเธอ ก็ต่อเมื่อยูฟินน่ายอมมีเซ็กกับเกร็นด้วยเพศหญิงของตนเอง
ยูฟินน่าขอมีอะไรกับเกร็น ในฐานะความสุขขั้นต่ำสุด เกร็นบอกว่าโอเค งั้นฉันก็จะมีอะไรกับเธอในฐานะความสุขขั้นต่ำสุดด้วย เพราะงั้น duel เลยแล้วกัน และเมื่อduel แล้วฉันต้องทำให้ดีที่สุด ให้ผู้ดีลประทับใจมากที่สุด และใส่ใจรายละเอียด จะทำให้ยูฟินน่ามีความสุขมากที่สุด(ความสุขขั้นต่ำสุด)
เข้าหัวข้อการดีล จะทำยังไงให้เธอประทับใจและมีความสุข ยูฟินน่าถามเกร็น ฉันจะทำยังไงให้นายประทับใจและมีความสุข เกร็นบอกว่า ความสุขขั้นกลางๆของฉันคือการใด้กอดละมั้ง แล้วความสุขขั้นต่ำสุดของฉันคือ การใด้ขืนใจพวกเธอละมั้ง
เกร็นถามยูฟินน่ากลับ แล้วยูฟินน่าละ ความประทับใจในความสุขขั้นต่ำสุดของเธอมันคืออะไร ยูฟินน่าบอก นายก็แค่ทำๆไปให้เสร็จๆนั้นแหละโดยไม่ล่วงเกินเพศหญิงของฉัน เกร็นบอกงั้นฉันกอดเธอใด้ใหม ยูฟินน่าบอก ใด้สิแต่จะดีหรอ มาให้ความสุขที่ไม่ใช่ขั้นต่ำสุดกับฉัน มันไม่แฟร์เลย
ความไม่เท่าเทียมต่างหากที่มีตัวตน ความเท่าเที่ยมนั้นเป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งไม่มีอยู่จริง (โลกนี้ไม่สามารถดำเนินไปใด้ด้วยความเท่าเทียม) โลกนี้สามารถดำเดินไปใด้ด้วยความไม่เท่าเท่าเที่ยมที่ทำให้รู้สึกว่าเท่าเทียม แต่ความไม่เท่าเที่ยมที่ทำให้รู้สึกว่าเท่าเทียม ก็ไม่ใช่คำตอบอยู่ดีเพราะมันไม่มีวันที่จะทำใด้ เนื่องจากความต้องการของมนุษยืแต่ละคนเป็นปัจเจก เช่นนั้นแล้วเราจะแก้ปัญหานี้อย่างไรดี เราควรจะหนีออกมาและให้พวกมนุษย์ปกครองกันเอง ปัญหาไม่ใช่ระบบ แต่ปัญหาคือความคิดของผู้คน เมื่อใหล่ที่ไม่มีคนโง่ เมื่อนั้นเราก็จะยอมรับในความไม่เท่าเทียม ว่ามันเท่าเทียม และเราก็จะสร้างโลกที่เราปกครองกันเองในโลกที่ไม่มีคนโง่
-
ความอยากจะใด้อยากจะมีต่างๆเท่าที่มนุษย์จะจินตนาการใด้ ที่มีมากจนเกินไป ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น จนกลายเป็นความขัดแย้ง
ยูฟินน่าพยายามจะสร้างยูโทเปีย ขึ้นมาในอุดมคติ ที่ๆไม่มีความขัดแย้ง แต่ไม่ใช่ ที่ๆมนุษยืเท่าเทียมกันทุกอย่าง เมืองที่มนุษย์ทุกคนพึงพอใจที่จะอยู่ พอเพียงและไม่ต้องการสิ่งใดอีก และหากอยากจะออกไปก็พึงพอใจที่จะออกไป
วีรกรรมการแกปัญหาความไม่เท่าเทียมของมนุษย์สอนให้เราเข้าใจว่า หากอยากจะหาความเท่าเทียม จงเอาความไม่เท่าเที่ยมที่มากกว่ามาแก้ไข
-
ยูโทเปียของยูฟินน่า คือดินแดนแห่งนามธรรม ดินแดนที่ดูว่างเปล่าไร้กลไกลใดๆ แต่ผู้คนกลับพึงพอใจไปกับมัน เพราะมันเต็มไปด้วยนามธรรม ปรัชญา การให้คุณค่า ศิลปะ การแสวงหาความรู้และคำตอบของธรรมชาติ เมืองที่ไม่ต้องใช้เงิน
-
ออกไปใด้ 2รอบ แล้วไม่อาจกลับเข้ามาอีกใด้ ก่อนออกจะมีการสอบถ้าสอบผ่านจะใด้ออก หากสอบไม่ผ่านแล้วตั้งใจแน่ลแน่ว่าจะออกอย่างจริงจัง ก็จะใด้ออก การสอบเป็นเพียงการปกป้องพวกเขาขั้นต้นก่อนที่จะออกไปเผชิญโลกภายนอก
-
-
-
-
-
มีการตรวจวัด ระดับ รูปธรรม และ นามธรรมตลอด ว่าคนๆนี้ให้ค่ากับสิ่งใด เป็นเปอเซน หาก รูปธรรมของใครเกิดจำนวรเยอะๆก็จะถูกเฝ้าสังเกตุ
-
-
-
-
-
ยูฟินน่าใหเ้กร็นหาจุดอ่อนของการปกครองนี้ให้กับเธอ เกร็นพยายามหาแต่ก็ไม่เจอ จนสุดท้ายก็หาเจอและบอกกับยูฟินน่าว่า ยูฟินน่า จุดอ่อนเดียวของมันเลยก็คือ เธอพยายามจะสอนให้มนุษย์ กลายเป็น มังกร
97เปอเซนของมนุษย์คือพวกที่แสวงหารูปธรรมไม่รู้จบ และ3เปอเซนของมนุษย์คือพวกที่แสวงหานามธรรมไม่รู้จบ ต่างจากมังกรที่ 97เปอแสวงหานามธรรมไม่รู้จบ เพราะในสัญชาติยานถูกฝังมาให้ค้นหาว่าตัวเองคืออะไร มาจากใหน เพราะบางครัง มังกรก็สับสนในความทรงจำที่กลืนกินอบิสมา จนราวกับไม่มีตัวตนของตนเอง แถมยังไม่ต้องกินอาหารใด้เป็นเวลานานกินแร่ก้อนเดียว ทั้งยังจำศีลใด้ แถมยัง ลอกชีพใหม่ใด้เรื่อยๆราวกับเป็นอำตะทำให้สับสนกับความทรงจำ
-
ยูฟินน่าบอกกัน สภา 4 ตระกูล บอกกับคนที่เป็นพ่อค้าว่า (นายกำลังทำให้สัตว์ทั้งป่าต้องมาปีนต้นไม้แข่งกันเพื่อหาอาหาร เพียงเพราะนายคือลิงที่ปืนต้นไม้ใด้เก่งที่สุด) คนนั้นก็สวนมาว่า (ถ้าปลามันแปลงร่างเป็นสิ่งที่ปีนต้นไม้ไม่ใด้ละก็ตายไปซ๊ะ) ยูฟินน่าบอกว่า ฉันรู้สึกเสียดาย ปลาพวกนั้น แทนที่จะใด้แหวกว่ายอย่างอิสระในธาราแห่งนามธรรมไปสู่สัจจะแห่งธรรมชาติ กลับต้องทำลายตัวเองเพื่อไปปีนต้นไม้งี่เง่านั่นเพื่อเอาชีวิตรอด
ญ มังกรสายทัพเรือ 2คน คนนึงเกลียดความโสมมของมนุษย์ อีกคนนึง กับมนุษยืผู้หญิงจะทำดีด้วยอุ้มมาเล่นด้วย ทั้ง 2 เข้าเมืองของยูฟินน่ามา คนแรกสัมผัสใด้ถึงความแปลกของคนในเมืองด้วยสายตาและ ฯลฯ อีกคนเลยบอกว่า เป็นไง สายตาของพวกเขาดูบริสุทธิใช่ใหมละ แล้วก็อุ้มขึ้นมา หญิงคนแรกก็เลยบอกว่า สายตานั้นน่ะ มันคือความว่างเปล่าต่างหากละ
พวกมนุษย์ที่ปกครองพวกมันละเลยความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ด้วยกันเอง ก่อนที่จะพัฒนาประเทศใด้ เราต้องไม่ละเลยความต้องการพื้นฐานของมนุษย์เสียก่อน เมื่อมนุษย์มีมันครบ มนุษย์จึงสามารถต้องการความต้องการขั้นถัดไปใด้ จึงเป็นหัวใจของเมืองนี้
หากอยากจะยึดอีกฝ่าย ก็จงโยน ความอิสระ ความเท่าเทียม และความเชื่อ เข้าไปให้พวกมันวิ่งไล่กัดกันเสียก่อน
ยูฟินน่าเชื่อว่า เพราะมนุษยืเรานั้นใช้ชีวิตอยู่บนเปลือก ความต่างของการรับรู้ ทำฝให้จุดยืนแตกต่าง จุดยืนที่แตกต่าง ทำให้มนุษย์จึงมีแต่ความขัดแย้งแตกแยก หากเราสามารถเจาะลงไปยังเบืองล่างเพื่อเข้าถึงแก่นและใช้ชีวิตอยู่กับมันใด้มากเท่าไร มนุษย์ทุกคนจะหลอมรวมเป็นนึง ภายใต้ความพึงพอใจอันสงบ
-
-
-
เราใด้ทดลองกับสิ่งที่มีความเท่ากัน ไม่ว่าจะข้างบนหรือข้างล่าง พวกมันมองไม่เห็นความเท่ากันที่ล้วนมีอยู่ในพวกมัน ราวกับสิ่งนั้นเป็นมายา และมันใด้เป็นรากที่เน่าเฟะที่นำพามาซึ่งความขัดแย้งและสงคราม
-
ยูฟินน่าตัดสินใจระเบิดเมืองของพวกมนุษย์ที่ปลุกปั่นมนุษย์ด้วยกันเองด้วย อิสระภาพ เสรีภาพ และความเป็นเจ้าของ
การเมืองและความเท่าเทียมของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ยอมรับความไม่เท่าเทียม คือเรื่องของฝีมือในการนำขยะอันมืดมิดโสมม ไร้ค่าน่ารังเกลียดจนสิ่งเดียวที่มันมีคือความหวานหอมเมื่ออยู่ใต้ลิ้น มาเคลือบด้วยคุณค่าและความแวววาวให้หนาที่สุด และใช้ความแวววาวที่กินไม่ใด้นั้น ปลูกฝังและชักจูงคุณค่าของผู้อื่น เพื่อที่ตนเองจะใด้เป็นพระเจ้าแห่งกองขยะที่ไม่มีผู้ใดลิ้มรสมันใด้นอกจากพวกพ้องของตน
-
เมืองที่สุขสงบราวกับสวรรค์ ทั้งยังมีอาหาร ที่อยู่ และสิ่งต่างๆคอยเติมเต็มความต้องการทุกอย่างของผู้คนไม่ให้ทุกข์ยาก หากมีเมืองแบบนั้นอยู่จริงๆ ฉันขอเรียกมันว่าเมืองที่ผลิตขยะมนุษย์
ความทุกข์ทรมาณที่สั้นที่สุดคือการบังคับและกดขี่ ส่วนความอิสระสร้างความทุกข์ทรมาณให้กับมนุษย์ในแบบที่ไม่มีใครมองเห็นไปใด้ตลอดกาล (หมายถึงเรื่องความทุกข์เฉลี่ยมวลรวม)
-
-
มีคนใน 4 บ้านใหญ่ ด่ายูฟินน่าว่า ราชสีที่ไม่อาจคำรามแบบราชสีใด้ มันไม่ใช่ราชสี แถมยังรับลูกลิงมาเลี้ยง เพื่อทวงคืนความยิ่งใหญ่ให้กับราชีนีของเรา น่าตลกสิ้นดี (หมายถึงตระกูลของยูฟินน่าที่รับคนอื่นที่ไม่ใช่สายเลือดมาเลี้ยง)
ไม่มีผู้ใดที่เข้าถึงความจริงของธรรมชาติทั้งหมดใด้โดยตรง แม้สิ่งที่พวกเราคิดว่าเรารู้นั้นก็หาใช่ความจริงทั้งหมดของมัน พวกเรารับรู้ความจริงผ่าน มือคลำ ตาเห็น และการขบคิดว่าสิ่งนั้นเป็นจริงหรือไม่
-