การช่วยฟื้นคืนชีพในทารกและเด็ก

การทำ External Chest Compressions

เด็กโต

ผู้ทำการช่วยเหลือวางสันมือลงบนส่วนกลางค่อนไปข้างล่างของกระดูกหน้าอก หรือ ประมาณ 2 นิ้วมือเหนือ Xyphoid Process และวางสันมืออีกข้างหนึ่งทับบนมือแรก ให้แขนทั้งสองข้างเหยียดตรง โดยผู้ทาต้องอยู่ในระดับที่สูงกว่าตัวผู้ป่วยแล้วโน้มตัวไปข้างหน้า เริ่มนวดหัวใจโดยออกแรง จากไหล่และลำตัวในท่าที่ข้อศอกเหยียดตรงตลอดเวลา ให้แรงที่ออกลงมาบนสันมือแรงพอสมควรและเร็ว โดยกดให้หน้าอกยุบลงประมาณ 1ใน 3 ของความหนาของทรวงอกและด้วยอัตราเร็วอย่างน้อย 100 ครั้งต่อ

เด็กเล็ก

ถ้าจับชีพจรไม่ได้หรือในเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 1 ปี ชีพจรจะเต้นช้ามาก (น้อยกว่า 60 คร้ังต่อนาที) ให้กดหน้าอกโดยผู้ทพใช้มือทั้งสองข้างอ้อมไปทางด้านหลังของผู้ป่วยในลักษณะมือทั้งสองข้างประสานกันเพื่อรองหลังให้เกิดแรงต้านแทนกระดานรองหลังและขณะนวดหัวใจ และอ้อมนิ้วหัวแม่มือมาด้านหน้าของผู้ป่วย กดหัวแม่มือทั้งสองลงบริเวณส่วนกลางของกระดูกหน้าอก และในกรณีที่เด็กตัวโตไม่สามารถอ้อมนิ้วมือดังกล่าวได้ให้ใช้สองนิ้วมือวางลงท่ีกระดูกหน้าอกท่ีตาแหน่งใต้ราวนมประมาณ 1 นิ้วมือ แล้วกดลงด้วยความลึกและความเร็วดังกล่าวก็ได้ กรณีท่ีไม่มีชีพจร การกด หน้าอกต้องทาร่วมกับการช่วยหายใจ

คนเดียวให้ทำ 30: 2

ผู้ช่วย2คนทำ 15:2

click to edit

สิ่งที่ควรประเมินเมื่อทำ CPR ว่าได้ผลดีหรือไม่

การกดหน้าอก 3 คร้ังต่อ การช่วยหายใจ 1 ครั้ง หรือ 3:1 จำนวน 30 รอบ

click to edit

คลำชีพจรและวัดความดันได้

ผู้ป่วยตอบสนองต่อการกระตุ้น

อาการเขียวลดลง

รูม่านตาเล็กลงและมีปฏิกิริยาต่อแสง

ผู้ป่วยเริ่มหายใจเองได้

ผู้ป่วยตื่นและกลับรู้สึกตัวดีเหมือนเดิม

ควรหยุดทำ CPR

Irreversible brain damaged, brain death

กรณีที่ CPR แล้วไม่ตอบสนองต่อCPR

CPR นานกว่า1 hr. และมี sign of Cardiac Death

คือไม่มีElectricity ของหัวใจ

อาการดีขึ้น

การช่วยเหลือทารกที่สำคัญ

click to edit

click to edit

click to edit

click to edit

click to edit

ทารกแรกเกิดใช้ ABC

การแก้ไขการตายอย่างกะทันหันที่เกิดจากภาวะหยุดหายใจหรือจากภาวะหัวใจหยุดทำงานโดยผู้ปฏิบัติการกู้การทำงานของหัวใจและปอดให้เริ่มทำหน้าที่ได้ต่อไปหลังจากหัวใจหยุดทำงานภายในระยะเวลาอันจำกัด

A=Airway
ขั้นตอนการทำทางเดินหายใจให้โล่ง

Assessment หรือการประเมินความรู้สึกตัวของผู้ป่วย คือบุคคลแรกที่พบผู้ป่วยหมดสติหยุดหายใจหรือมี Cardiac Arrest

Call for help หรือการเรียกขอความช่วยเหลือคือเมื่อแน่ใจว่าผู้ป่วยมีอาการของ Cardiac Arrest ก็ให้ร้องขอความช่วยเหลือ

Position the victim หรือการจัดท่าผู้ป่วยระหว่างรอแพทย์พยาบาลควรจัดท่าผู้ป่วยให้นอนหงายราบไม่หนุนหมอน

Open the airway หรือเปิดทางเดินหายใจคือทำการเปิดทางเดินหายใจโดยถ้าไม่มีการอุดกั้นของทางเดินหายใจให้ใช้นิ้วล้วงเอาสิ่งแปลกปลอม

click to edit

click to edit

click to edit

B = Breathing ขั้นตอนการช่วยหายใจ

ในเด็กเล็กบีบลมเข้าประมาณ 20 ครั้งต่อนาที เด็กโตประมาณ 15 ครั้งต่อนาทีหรือเป่าปาก 2 ครั้งในช่วงแรกโดยพยายามให้หน้าอกขยายถ้าไม่มีการเคลื่อนไหวของหน้าอกให้ทำต่อในอัตรา 20 ครั้งต่อนาที

C = Circulation
ขั้นตอนการช่วยให้โลหิตไหลเวียน

Assessment: Determine Pulselessness หรือ การประเมินการทำงานของหัวใจโดยการคลำชีพจรที่ซอกคอ (Carotid Pulse) ที่ข้อพับแขน (Brachial Pulse) หรือทารกจะคลำที่ขาหนีบ (Femoral Pulse) ในเวลา 5-10 วินาทีว่ามีหรือไม่ถ้าไม่มีแสดงว่าหัวใจหยุดเต้น

Perform Chest Compression คือขั้นตอนการนวดหัวใจแพทย์หรือพยาบาลเตรียมทำการนวดหัวใจจากภายนอก (External Chest Compressions)

click to edit

พิจารณาใส่ท่อหลอดลมคอโดยมีข้อบ่งชี้ในการใส่ท่อหลอดลมคอ endotracheal tube (ET tube)

  1. ทารกที่มีหน้าคร่ำและขี้เทาใน trachea และต้องดูดออก
  1. ทารกได้ทำ PPV ด้วย bag และ mask แล้วแต่อาการไม่ดีขึ้น
  1. ทารกที่ต้องช่วยเหลือโดยการทำ Chest compression
  1. ทารกที่สงสัยว่ามี Diaphragmatic hernia

ภาวะแทรกซ้อนของการทำ CPR

  1. อาเจียนและ Regurgitation
  1. กระดูกหน้าอกหัก
  1. กระดูกซี่โครงหัก
  1. มีลมในช่องเยื่อหุ้มปอด
  1. มีเลือดออกในช่องเยื่อหุ้มปอด
  1. อวัยวะภายในฉีกขาด
  1. มีเลือดออกภายใน
  1. ปอดช้ำ

เกิด Aspirated Pneumonia

การช่วยฟื้นชีวิตทารกและทารกแรกเกิดการช่วยฟื้นชีวิตในทารกและทารกแรกเกิด

มีความแตกต่างจากเด็กโตและผู้ใหญ่ทั้งนี้เนื่องจากทารกมีสรีระวิทยาที่แตกต่างจากเด็กโตและผู้ใหญ่โดยโอกาสในการรอดชีวิตภายหลังจากการช่วยฟื้นชีวิตก็มีโอกาสแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย

click to edit

click to edit

click to edit

click to edit